คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2
2
“หา!! เมื่อวานนี้เธอพาคนไม่รู้จักเข้าบ้าน”
“(- -)(_ _)(- -)(_ _)” ถูกแล้ว วาเลน
“ แถม เขายังจูบเธออีกงั้นหรอ”
“(- -)(_ _)(- -)(_ _)” พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ
“หล่อด้วยงั้นสิ” วาเลน เธอจะพูดเสียงดังหา......อะไร?
“(- -)(_ _)(- -)(_ _)” เขาก็หล่ออะนะ
“เฮ้อ~ เพื่อนฉันๆ” เอ่อไง ก็ฉันเนี่ยแหละ เพื่อนเธอ
“(. .)”
“จะไม่พูดอะไรบ้างหรอ จุนซอง”
“ก็...ฉันไม่รู้จะพูดอะไรนิ”
“แต่เธอก็โชคดีนะที่รถไม่ชนเธอน่ะ ขาแค่แพลงเฉยๆนิ” แหม...คำปลอบใจมาช้าจังเลยนะ ไม่รู้รึไง ว่าฉันรออยู่น่ะ - - ถึงจะแค่แพลงของเธอ แต่มันเจ็บโค-ตะ-ระ ของฉันเลยอ่ะ
“อืม”
“เอ่อ!! แล้วเรื่องคู่หมั้นเธอหละ” ใช่สิฉันยังมีเรื่องทำต้องลำบากใจอีก เรื่องหนึ่งรึเนี่ย ฉันยังไม่ได้เคลียร์เรื่อคู่หมั้นของฉันเลยนิ(- -) ลืมซะสนิทเลย
“นั้นสินะ ฉันลืมไปซะสนิทเลย ยังไม่ได้คุยกับพี่ซองกิให้รู้เรื่องเลยด้วย”(- -)
“เอ้อ ฉันเอานิตยาสารเฉพาะวง ซิลเวอร์ ริงค์ มาให้เธอด้วยนะ” เฮ้อ~ (- -) ฉันหยิบนิตยาสารเล่มนั้นจาก วาเลน แล้วก็มองอย่างผ่านๆ
“ตอนนี้ฉันยังไม่มีอารมณ์ดูอ่ะนะ ขอยืมกลับไปดูที่บ้านได้มั้ย”ฉันรู้สึก ไม่อยากจะทำอะไรเลยตอนนี้ อะไรๆก็เข้ามาเร็วมากจนฉันตั้งตัวไม่ทัน
“ได้สิ แล้วอย่าลืมดู คิล ว่าที่คู่หมั้นเธอด้วยนะ”
“อืมมม” ตอนนี้ในหัวฉันมีแต่เรื่อง อีตาบ้านั่น ซึ่งมันไร้สาระสิ้นดี
“จุนซอง ทำไมวันนี้เธอดูไม่ร่าเริงเลย งั้นวันนี้เราไปกิน สตอเบอร์รี่ พาเฟ่ ที่ร้ากาแฟหน้าโรงเรียน เรากันเถอะ”
“อืม ไปสิ”
กริ๊งงงงงงงงงงงงง!!!
และแล้วเวลาของวันนี้ก็จบลง เมื่อเสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น ฉันกับวาเลนกำลังจะไปกิน สตอเบอร์รี่ พาเฟ่ ด้วยกัน
“จุนซอง!!!!” เสียงนี้คุ้นๆแฮะ
“รุ่นพี่ ชินโซ” รุ่นพี่ชินโซ เป็นประธานนักเรียนโรงเรียนที่ ที่หล่อ เท่ ฐานะดี เรียนเก่ง และที่สำคัญ เชื้อชาติญี่ปุ่นค่ะ (ฉันน่ะ ช๊อบ ชอบ^^)เป็นที่ชื่นชอบของนักเรียนหญิง ทุกคน (รวมถึงสาวประเภทสองด้วยนะ) ฉันรู้จักกับรุ่นพี่ฉันรู้จักกับรุ่นพี่เค้าตั้งแต่เข้าเรียนที่นี้ ไม่รู้ว่าทำไม รุ่นพี่คอยช่วยเหลือฉันทุกเรื่อง ที่ฉันมีปัญหา
“ได้ข่าวว่าจุนซอง จะหมั้นหรอ”
“รุ่นพี่ รู้ได้ไงคะ”
“ก็เห็นข่าวน่ะสิ”
“ก็แค่เป็นความคิดของผู้ใหญ่ น่ะคะรุ่นพี่ อย่าไปสนใจเลย จุนไม่รู้เรื่องเลยสักนิด”
“จริงหรอ ” รุ่นพี่พูดด้วยสีหน้าที่ดีใจ นิไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ ^^
“อ่ะ แฮ่มๆ”แล้ววาเลนก็ทำเสียงขึ้น
“อ้าว! ไงวาเลน”
“นึกว่าจะไม่ทักซะล่ะ สายตารุ่นพี่ชินโซ คงมีแต่จุนซองแค่นั้นสินะคะ โลกทัศน์แคบจังเลยนะ” แล้ว วาเลน ก็พูดถากถางรุ่นพี่ชินโซ ทำให้รุ่นพี่ชินโซหน้าแดงไปเลย มันทำให้ฉันอดขำไม่ได้
“อะ...เอ่อ แล้วนิพวกเธอจะไปไหนกันเหรอ(.///.)”
“ฉันกับจุนซองจะไปกิน สตอเบอร์รี่ พาเฟ่ ที่ร้านกาแฟ หน้าโรงเรียนน่ะค่ะ ถามทำไมคะ รึว่ารุ่นพี่จะเลี้ยงพวกเรา” วาเลนเริ่มพูดประชด รุ่นพี่ชินโซ
“ก็ได้นะ ไปกันเลยมั้ยล่ะ” กร๊ากกก...รุ่นพี่เขาเล่นด้วย ซะงั้น
“ทั้งหมด 364 บาทค่ะ” หลังจาที่พนักเก็บเงิน พูดจบ พี่ชินโซ ก็หยิบเงินจากกระเป๋าตังค์แล้วก็จ่ายเงินให้พนักคนนั้น ว้าว(O o) สุภาพบุรุษจัง เลี้ยงไอศกรีม ด้วย
“เอ่อ...ขอบคุณนะคะรุ่นพี่ที่เลี้ยงสตอเบอร์รี่ฯ ความจริงรุ่นพี่ไม่น่าลำบากเลยนะคะ” แล้วฉันก็พูดขอบคุณรุ่นพี่เค้าไป (ตามมารยาท) ความจริงแล้วฉันแอบดีใจซะด้วยซ้ำ ที่เงินไม่ต้องออกจากกระเป๋า แถมยังได้กิน ไอศกรีม ฟรีอีกต่างหาก โห...ฉันนี่ Bad Market จริงๆ(Bad = ร้าย Market= ตลาด แต่ทางภาคเหนือ จะเรียกว่า ‘กาด’ ทั้งหมดรวมกันก็คือ ร้ายกาจ )
“ลำบาก อะไรกันครับ....”
“ใช่ๆ จุน รุ่นพี่เขา น่ะเป็นคนอาสาเองเลยนะ จะลำบากได้ไง จริงมั้ยคะ รุ่นพี่ชินโซ” วาเลนพูดขึ้นแทรกทันที ทั้งๆ ที่รุ่นพี่ชินโซ ยังพุดไม่จบ
“คะ...ครับ จริงครับ”
“ป่ะ กลับบ้านกันเถอะ จุน”
“อืม”
ฉัน วาเลน และ รุ่นพี่ ชินโซ ออกมาจากร้านกาแฟ ก็ต้องตกใจเพราะ หน้าโรงเรียน มีนักข่าวมาดักรอ หน้าโรงเรียนเต็มเลย แต่ดีที่ตอนนี้ฉันอยู่ตรงข้ามกับ นักข่าวพวกนั้น(O O)(O O)(O O)
“อะไรกันนี่!!” ฉันอุทานด้วยความตกใจ
“ตายแล้วๆ ทำยังไงดีเนี้ย ระ..รุ่นพี่ช่วยคิดหน่อยสิ” วาเลนก็พูดขึ้น ตอนนี้ทุกคนได้แต่ยืนอึ้ง คิดอะไรไม่ออก ฉันว่าถ้าเป็นอย่างนี้ไม่กี่นาทีนักข่าวพวกนั้นต้องเห็นแน่ๆ
“พะ...พี่ก็คิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน” แล้วมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ
“นั่นไง ลี จุนซอง!!” นักข่าวคนหนึ่ง ชี้มาทางฉัน โอ้ยย...ตาดีชะมัด ไอ่นักข่าบ้า!! แล้วนักข่าวกลุ่มใหญ่ก็วิ่งเข้ามาทางฉัน ฉันเลยหันไปมองวาเลน
“แฮ่ๆ งั้นฉันไปก่อนนะ!!” ฉันพูดกับวาเลน แล้วก็ รุ่นพี่ชินโซ แล้วก็วิ่งหนี นักข่าวพวกนั้น
“จะไปไหน จุน!!”
“จะอยู่ทำไมล่ะ ก็หนีน่ะสิ”
“เฮ้ย! ฉันไปด้วย รอด้วยสิจุน” ฉันยิ้มแล้วหยุดรอ วาเลนเพื่อนเลิฟ ของฉัน แล้วฉันก็หันไปบอกรุ่นพี่ ชินโซ
“พวกเราไปก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ”
“คะ...ครับ”(^^)//
“หยุดก่อนสิครับคุณลี!!!!” พวกนักข่าววิ่งตามมา จะหยุดให้โง่หรอ ถ้าฉันหยุดนะ ฉันต้องตายเพราะโดนฝูงนักข่าวทับตายแน่ๆเลย
“จุน เธอจะวิ่งไปไหนน่ะ แฮ่กๆๆ” วาเลนถามฉันเพราะตอนนี้เราวิ่งมาไกลพอสมควร
“ฉะ.....ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แฮ่กๆๆ” และคำตอบของฉันทำให้ วาเลน ตาโต(O O)
“คุณลี หยุดก่อนสิครับ!!” นักข่าวพวกนี้วิ่งเร็วชะมัด
“ตามไปเร็วสิพวกเรา” จะตามมาทำไมเนี้ย! ฉันวิ่งนิฉันก็เหนื่อยนะ แฮ่กๆ
“เธอจะทำยังไงต่อไปล่ะจุน แฮ่กๆ”
“นั่นสินะ แฮ่ก ๆ เอาวะ....แฮ่กๆ”แล้วฉันก็หยุดวิ่ง วาเลนมองหน้าฉัน ประมาณว่าเธอจะทำอะไรน่ะ
“พวกคุณ.......”
ปี๊นนนนนน!!! ปี๊นนนนนนน!!!
“พวกเธอ!! ขึ้นมาสิ เร็ว!!” ว้าว!! อัศวินม้าขาว ชัดๆ รถสุดหรู อย่าง บีเอมเอกซ์ (^^) เอ๋!! หน้าอีตานี่คุ้นๆนะเนี่ย แต่เขาใส่ แว่นดำอ่ะ เลยมองเห็นหน้าไม่ค่อยชัด แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ หนีนักข่าวบ้าๆนี่ก่อนดีกว่า ฉันกับ วาเลนก็รีบวิ่งขึ้นรถผู้ชายที่มาช่วยฉันจากนักข่าว วาเลนนั่งข้างหลัง ส่วนฉันก็นั่งข้างหน้า หลังจากที่ฉันขึ้นรถเสร็จ เขาก็รีบออกรถอย่างเร็ว
ตอนนี้ฉันขอเวลาหายใจก่อนนะ รู้สึกจะวิ่งมาจนหายใจไม่ทัน เหนื่อยชะมัด!!
(- -)^ ตอนนี้ไอ้พวกนักข่าวบ้านั่นก็ตามไม่ทันแล้ว ฉันหนีรอดมาได้แล้วรึเนี่ย
“ขอบใจนายมากเลยนะ แฮ่กๆ”
“ไม่เป็นไร.....มิได้” เอ๊ะ!! รู้สึกว่าเสียงนี้ จะคุ้นๆนะ นายคนนั้นหันหน้ามาแล้วถอดแว่นดำนั่นออก
“ไง สาวน้อย(^^)” ใช่เสียงคนที่ฉันไม่อยากจะเจอ.....
“นะ.....นาย(O o)” ก็อีตาบ้าหน้าหล่อ ที่ขโมยจูบฉันเมื่อวานนี้ไง
“ไง ถึงกับอึ้งเลยหรอ” อึ้งสิ อึ้งมากๆเลยด้วย ก็ฉันไม่อยากให้อัศวินม้าขาวของฉันเป็น อีตาบ้านี่ ไงล่ะ อยากจะร้องไห้จริงๆเลย (T T)
“เธอรู้จักเขา ด้วยเหรอจุน” หลังจากที่วาเลนเงียบมานาน วาเลนก็เริ่มเขยิบมานั่งตรงกลางข้างหลังระหว่างฉันกับอีตาบ้านี่
“สวัสดี สาวน้อย” พอ วาเลน เห็นหน้าเขาก็ต้องตกใจ
“(O o)”
“ก็ อีตาบ้า เนี่ยแหละคนที่ฉันเจอเมื่อวาน ที่ฉันเล่าให้เธอฟังไง”
“หา!! (O o)” นั่นทำให้วาเลน ตกใจยิ่งกว่าเก่าซะอีก
“เธอเอาฉันไปนินทาอะไร ยัยโก๊ะ” หนอย......นายมีสิทธิอะไรมาว่าฉันห๊า!!
“นายมีสิทธิอะไรมาว่าฉันกันหา ตาบ้า”
“จะ......จุนซอง” ตอนนี้ วาเลนยังตาค้าง
“มีอะไรเหรอ วาเลน”
“กะ.....ก็คนนี้ไง คิล น่ะ คู่หมั้นเธอ อ่ะ” พอวาเลนพูดเสร็จ ฉันหันขวับไปทางอีตาบ้านี่
“ไม่จริงน่า!! (O o)” ตอนนี้ฉันถึงกับ อึ้ง อึ้ง แล้วก็ อึ้ง
“ไม่เชื่อเธอลองเอา นิตยาสารของวง ซิลเวอร์ ริงค์ ที่ฉันให้เธอไป เอาขึ้นมาดูสิ” วาเลนพูดจบ ฉันก็รีบหานิตยาสาร ที่วาเลนเอาให้ ในกระเป๋า อ๊ะ! เจอแล้ว ฉันรีบเปิดหาหาของ คิล อยู่ไหนน๊า อยู่ไหนเนี่ย อ๊ะ! เจอแล้ว ฉันเห็นหน้าในนิตยาสาร แล้วฉันก็รีบ หันมามองหน้าเขา แล้วเขาก็หันมาฉีกยิ้มให้ฉัน
“ไง หน้าเหมือนฉันมั้ย” ขอบอกว่า เด๊ะ เด๊ะ (O o)
“หยุด! หยุดรถเลยฉันจะลง” ฉันเริ่มโวยวาย ตอนนี้หน้าฉันเริ่มแดง เพราะความอาย และ ความโกรธ อาจเพราะว่าฉันมัน โก๊ะ จริงๆนั่นแหละ ฉันไม่รู้ว่าคู่หมั้นของฉันเป็นใคร หน้าตายังไง แล้ว ผู้ชายที่ขโมยเฟิร์สคิสฉันไป ก็คือ คู่หมั้นของฉันเอง
“เธอจะลงไปไหน ต้องกลับบ้านแล้วไม่ใช่หรอ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”
“ไม่ๆ ฉันจะลงตรงนี้ หยุดรถนะ หยุดรถเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“ฉันรู้นะว่าเธอกำลังโมโห แต่เธอควรจะฟังเหตุผลก่อนสิ แล้วเพื่อนเธอล่ะ”
“ใช่ๆ สงบสติอารมณ์ก่อนนะ จุน” วาเลนพูดขึ้นบ้าง
“........” ตอนนี้บอกตามตรงฉันพูดะไรไม่ออก ได้แต่นั่งเงียบ ทำหน้าบึ้ง น้ำตาซึม แล้วตอนนี้ใน รถเงียบสงัด คิล กำลังจะไปส่ง วาเลน ที่บ้าน
ตอนนี้ คิล ขับรถมาเรื่อยๆ
“ตะ ..... ตรงนี้แหละค่ะ” วาเลนบอก คิล เมื่อใกล้จะถึงบ้านตัวเอง
“ครับ”
“ฉันไปก่อนนะ จุน เธอพูดกับเขา ดีๆล่ะ แล้วฉันจะโทรหานะ” ตอนนี้ฉันมองแต่ข้างหน้า ด้วยสีหน้าที่เจ็บใจ แต่เสียงวาเลนดูเศร้าชะมัด ฉันก็เข้าใจนะว่าเธอน่ะ เป็นห่วงและ บรรยากาศแบบนี้มันน่าอึดอัด
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไร ครับ” คิล บอกวาเลน ก่อนจะออกรถไป
ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรตั้งแต่ส่งวาเลนเสร็จ ฉันกะเขา ก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย บรรยากาศในรถมันน่าอึดอัน ชะมัด (- -)
แล้วในที่สุดก็ถึงหน้าบ้านฉัน ฉันลงจากรถแล้วก็กำลังเดินเข้าบ้าน
“จุนซอง!!” เขาเรียกฉัน เขาเรียกชื่อฉัน เขารู้มาตลอดว่าฉันเป็นใคร แต่เขาไม่ยอมบอกว่าฉันเป็นใคร แล้วเขาก็จูบฉัน ตอนนี้ฉันรู้สึกแย่ที่สุด!! แล้วฉันก็เงยหน้ามองเขา
“นั่นสินะ ....ขอบใจนะ” ตอนนี้ฉันไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น บอกตามตรง ฉันกำลัง ช็อค!! ทำไม อะไรๆ มันเข้ามาเร็วมากจนฉันรับไม่ทัน
“ฉันขับรถไปรับเธอจากฝูงนักข่าวพวกนั้น เธอดีใจจนพูดไม่ออกเลยรึไง(^^) ” เวลาแบบนี้ยังมีหน้ามาพูดตลกอีกนะ ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะมาด่ามาว่านายหรอกนะ
“ความจริงแล้ว .....เธอหงุดหงิดแล้วดูน่ารักกว่าเศร้าตั้งเยอะแน่ะ”
“งั้นหรอ....” เดี๋ยว ก็บอกว่าฉันน่ารักบ้างล่ะ เดี๋ยวก็จูบฉันบ้างล่ะ ตอนนี้ฉันทำหน้าเศร้าในหัวมันคิดแต่เรื่องของคิล
“.......”
“เธอ อย่าทำแบบนี้กับฉันเลยนะ ฉันขอโทษ จุนซอง” ตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วนะ ฉันอึดอัดที่ต้องเป็นแบบนี้
“หยุดพูดซะทีเถอะ!! ก็เพราะนายนั่นแหละ ก็นายชอบพูดอะไรแปลกๆเดี๋ยว ก็หาว่าฉันน่ารัก อย่างเรื่องจูบมันก็แปลกไม่ใช่หรอ เป็นครั้งแรกของฉันด้วย!!! จุบนั่นนะ” ตอนนี้น้ำตาฉันเริ่มไหลพราก(T////T)
“สำหรับ นายมันคงเป็นเรื่องไม่สำคัญสินะ แต่เพราะมันเป็นครั้งแรกของฉัน แล้วนายก็เอามันไป!! ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี น่าเจ็บใจที่สุด!!!” เพราะคำพูดของฉันทำให้ คิล ถึงกับอึ้ง คิลไม่พูดอะไร
“ลืมมันไปซะเถอะ ลืมที่ฉันพูดเมื่อกี้ไปซะ แล้วไอ้เรื่องหมั้นนั่นด้วย มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด แล้วเรื่องจูบก็เหมือนกัน ฉันก็จะลืมว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แล้วฉันก็จะลืมเรื่องนายให้หมด” (T////T) ฉันพูดเสร็จฉันก็จะเดินเข้าบ้าน
หมับ!!
เขาคว้าแขนฉันเอาไว้
“เดี๋ยว”
และตอนนี้มือที่คว้าแขนของฉันก็ค่อยๆเลื่อนลงมาจับมือของฉันแทน
“ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะ? ” ฉันอึ้ง ที่เขาจับมือฉันเอาไว้ แทนที่ให้ฉันเข้าบ้านเรื่องมันจะได้จบๆ
“ฉันแคร์นะ” ประโยคคำพูดนี้ฉันถึงกับอึ้ง แล้วเขาก็ดึงฉันไปกอด ตอนนี้เสียงหัวใจฉันเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ (.////.)
“เรื่องที่ฉันบอกว่าเธอน่ารัก และเรื่องที่ฉันจูบเธอ ฉันก็คิดอย่างนั้นจริงๆ ถึงเธอจะว่าไม่สำคัญสำหรับฉัน แต่ที่จริงแล้วสำหรับฉันมันสำคัญสำหรับฉันมากเลยนะ” อะไรกัน!! ตอนนี้ฉันแทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ยินแต่เสียงหัวใจ ของ คิล (.///.)
ตอนนี้ทุกคนอยู่ในความเงียบ และฉันกำลังอยู่ในอ้อมกอดเขาอยู่
“ฉัน...... ต้องไปแล้ว” เขาพูดขึ้น
“อ๊ะ” ฉันค่อยๆผลักเขาออก(.///.)
“ฉันรีบต้องไปซ้อมดนตรี”
“ฉันก็ต้องเข้าบ้านแล้วเหมือนกัน”(.///.) พอฉันได้ระบายสิ่งที่มันค้างคาอยู่ในหัวฉัน และได้ฟังที่ คิล พูดทำให้ฉันสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เขินๆ ไงไม่รู้แฮะ (.////.)
“งั้นฉันไปก่อนนะ” ฉันบอกเขาแล้วจะเข้าบ้าน
“จุนซอง!!” คิลเรียกชื่อฉัน และฉันก็หันไปมองเขา
“เธอช่วย.....รับหมั้นฉันได้มั้ย?” หา!! จะให้ฉันรับหมั้นคนที่เพิ่งรู้จักเนี่ยนะ ฉันคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ฉันขอล่ะ ขอแค่ตอนนี้? ฉันสัญญา ถ้าเมื่อถึงเวลาที่ฉันมั่นใจ ว่าเธอไม่ได้รักฉัน ฉันก็จะเป็นคนไปจากเธอเอง ....เธอไม่ต้องให้คำตอบฉันวันนี้ก็ได้” คิล ยิ้มแบบแหย่ๆ ใบหน้าเขาช่างเศร้าเหลือเกิน
“งั้นไว้ค่อยเจอกันใหม่นะ” ตอนนี้ในหัวฉันมีแต่สิ่งไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นฉัน ผู้หญิงที่ต้องการจะแต่งงานกับเขามีเป็นร้อย แต่ทำไม คิลถึงเลือกฉัน แล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะ แล้วทำไม คิล พูดแบบนั้น ล่ะ ทำไม?
“เดี๋ยว!! อย่าเพิ่งไป”ฉันเรียกเขา
“ทำไม นายถึงมายุ่งกับฉัน.....? ทั้งที่พวกเราก็เพิ่งพบกันได้ไม่นาน” ฉันตัดสินใจถามเขาไปในที่สุด
“เราเคยพบกันครั้งหนึ่งแล้ว”(O o) เอ๊ะ!! ไม่จริง ทำไมฉันไม่เคยเห็นเขาเลยล่ะ
“จริงหรอ ที่ไหน? เมื่อไหร่?”
“อยาก รู้หรอ” คิล ส่งยิ้มให้ฉัน
“อือ”(//o//)
“ฮึ ไม่บอกหรอก” อ่าว ไหงเป็นงี้ล่ะ มันคาใจนะเฟ้ยยยย!! (- -)
“คิดให้ดีๆ นะ ไปล่ะ” คิลพูดเสร็จ เขาก็ขับรถออกไป
ความคิดเห็น