ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KISS KISS KISS ;; MarkNior ft. 2Jae

    ลำดับตอนที่ #24 : Episode 20 ความลับในห้องพยาบาล

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.26K
      21
      28 มี.ค. 59

     


    Episode 20 ความลับในห้องพยาบาล

     






     

    ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อน ภายในห้องพยาบาลซึ่งไร้อาจารย์ประจำห้อง มีเพียงนักเรียนชายสองคนที่อยู่เตียงท้ายสุดมีผ้าม่านครอบคลุม หัวใจของพวกเขากำลังจะสลาย ทั้งคนที่บอกเลิกเพื่อต้องการที่จะปกป้อง กับอีกคนที่ถูกบอกเลิกโดยไม่รู้ซึ่งสาเหตุอะไรเลย

    จินยองเงียบไปนานกว่าจะทำใจพูดออกมาอีกครั้งได้

    ฉันเบื่อนายแล้วล่ะ”

    ไม่... ไม่ใช่เลย จินยองไม่เคยเบื่อมาร์คเลย ไม่อยากทิ้งผู้ชายคนนี้ ไม่อยากที่จะแยกจากกัน แต่ว่าเมื่อนึกว่ามาร์คจะต้องมาเดือดร้อนเพราะตน มันก็สุดจะกล้าเห็นแก่ตัวได้ลง

    “แล้วที่สำคัญ การคบกันของเรามันก็แค่รักษาโรคจูบเท่านั้นเอง ตอนนี้เมื่อหายกลัวจูบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องคบกันอีก” ทุกคำล้วนสวนทางกับหัวใจทั้งสี่ห้อง ซุ้มเสียงแม้จะดูเย็นชา ปั้นหน้าให้เรียบเฉยเข้าไว้ ทว่า... น้ำตากลับไหลไม่หยุด

    มาร์คเจ็บไปทั้งขั้วหัวใจ ถ้อยคำเหล่านั้นมันยิ่งกว่าเข็มพันเล่มที่พุ่งตรงเข้ามาทิ่มแทงหัวใจ แต่ลึกๆ ก็ยังคิดว่าสิ่งที่ออกมาจากคนตรงหน้ามันแค่เรื่องล้อเล่นแกล้งกัน

    “จินยอง พูดอะไรออกมาแบบนั้นรู้ตัวรึเปล่า ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะคิดแบบนั้น เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กันไม่ใช่เหรอ” มาร์คขยับเข้าไปหา แต่อีกคนกลับเบือนหน้าหนี

    จินยองปาดน้ำตาที่รินไหล แม้มาร์คจะช่วยเอื้อมมือเข้ามาประครองเช็ดแต่จินยองก็ปัดป้องออกไป ยิ่งทำให้ผู้ชายอีกคนรู้สึกเหมือนเป็นขยะที่กำลังถูกเขี่ยทิ้ง

    “ฉันอยากอยู่คนเดียว นายเลิกมายุ่งกับฉันได้มั้ย ออกไปซะเถอะ” จินยองออกคำสั่งที่เด็ดขาด

    มาร์คถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างสิ้นหวัง ราวกับทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างลงตรงนั้น แววตาของเขาแปรเปลี่ยนไปเหลือแต่ความว่างเปล่าอ่านยาก

    “ก็ได้ ถ้านายต้องการอย่างนั้น” มาร์คพูดออกมาเรียบๆ พลางพยักหน้าหนักแน่น แล้วแสยะยิ้มเย็นให้กับโลกใบนี้ รวมทั้งคนตรงหน้า

    “ต่อไปนี้ฉันจะไม่มาทำให้นายรำคาญใจอีก ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัว!” มาร์คตัดบทฉับไวอย่างน่าใจหาย

    จินยองปาดน้ำตามองมาร์คเลื่อนผ้าม่านแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้แต่เสียงสะอื้นท่ามกลางความเงียบงันที่แสนปวดร้าวเสียดแทงหัวใจทั้งสองดวงโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

    ทำถูกต้องแล้วเหรอ?

    แน่ใจแล้วจริงๆ เหรอ??

    เสียงหนึ่งในหัวใจของจินยองร้องถามเสียงดังจนสั่นไปทั้งขั้วหัวใจ มาร์คกำลังห่างออกไปจากตรงนั้นเรื่อยๆ หัวใจดวงนี้ยอมได้หรือ?

    “ไม่! มาร์คอย่าไป!!

    เหนือเกินกว่าสิ่งที่สมองจะห้ามได้ จินยองละทิ้งความสับสนทุกอย่างเอาไว้ที่ปลายเตียง ร่างกาย หัวใจ สิ่งที่ปรารถนาเดินทางไปพร้อมกัน มันวิ่งทะยานไปหาคนที่มันอยากอยู่ด้วย คนที่ไม่อยากสูญเสียไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

    “มาร์ค...” จินยองโอบกอดมาร์คจากด้านหลังแน่นก่อนที่มาร์คจะเอื้อมมือไปที่ลูกบิด “ขอโทษนะ อย่าไปเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว”

    มาร์คยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา เสียงถอนหายใจน้อยๆ ที่ระบายออกมานั้นเต็มไปด้วยความโล่งอก “นึกว่าจินยองจะไม่วิ่งมากอดฉันไว้ซะแล้ว”

    ยิ่งได้สดับฟังสิ่งที่มาร์คเอ่ย จินยองก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาโอบกอดร่างแกร่งไว้แน่นเท่าที่จะแนบแน่นได้เพื่อทดแทนถ้อยคำที่เขาเอ่ยลาไป

    มาร์คค่อยๆ แกะเรียวแขนที่โอบเขาไว้อย่างระมัดระวังเพื่อที่จะได้หันกลับไปเพื่อมองสิ่งมีชีวิตที่เขารัก น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าพรั่งพรูออกมาจากดวงตาที่จ้องมองมายังเขาด้วยความรักเช่นกัน มาร์คใช้สองมือประคองเช็ดหยาดน้ำตาอย่างอ่อนโยน ไม่เลย... ไม่มีสิ่งใดที่แสดงให้เห็นว่าโกรธหรือน้อยใจ มันมีแต่ความเข้าใจ และให้อภัย

    แต่ยิ่งจินยองได้รับมัน สิ่งเหล่านี้ที่มาร์คถ่ายทอดมาให้ผ่านแววตาและสัมผัสจากปลายนิ้ว มันก็ยิ่งสะท้อนมาที่หัวใจให้เจ็บปวดด้วยความรู้สึกผิด แต่ในความรู้สึกผิดนี้ สิ่งที่ก่อตัวขึ้นจนท่วมทับก็คือความซาบซึ้งใจ

    “หยุดร้องซะนะ แล้วมาคุยกันดีๆ โอเคมั้ย หื้ม?” มาร์คถามด้วยรอยยิ้มน้ำเสียงแกมหยอกเพื่อให้เจ้าร่างบางได้ผ่อนคลาย

    จินยองพยักหน้าซ้ำๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล สักพักใหญ่กว่าจะทำจิตใจให้สงบลงได้ สงบลงพร้อมๆ น้ำตาเริ่มแห้งไปจากใบหน้า

    “ไหนว่ามาซิเรื่องมันเป็นยังไง มีใครบังคับขู่เข็นให้มาบอกเลิกกันใช่มั้ย?” คำถามนี้ของมาร์คราวกับลูกปืนสั้นยิงตรงมากลางใจของคนถูกถามเลยก็ว่าได้ ความเงียบชั่วประเดี๋ยวของจินยองนั้นก็พอจะทำให้มาร์คอนุมานได้เองว่าเป็นอย่างที่ตนคิดจริงๆ

    แต่คำถามว่า...ใคร ทำไม ทำได้อย่างไร?

    “คือ....” จินยองอ้อยอิ่ง ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี มาร์คเฝ้ารอที่จะฟังอย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งอีกฝ่ายพร้อม

    “มาร์ครู้มั้ย วันที่เรา... เอ่อ ที่เราอยู่ในห้องสมุดวันงานกีฬาสี มีคนแอบเห็น แล้วก็ถ่ายรูปเอาไว้” จินยองบอกออกไปจนได้ “รูปพวกนั้นไม่ค่อยเห็นหน้าฉันหรอก แต่มันเห็นหน้าของนายชัดเจน ชัดมาก”

     มาร์คตกใจกับสิ่งที่ได้ยินไม่น้อย แต่ก็เข้าใจเรื่องราวต่อจากนั้นได้เองโดยอัตโนมัติ “ให้เดานะ แล้วไอ้คนที่ถ่ายรูปพวกนั้นก็ส่งรูปมาให้นาย มาบังคับข่มขู่ให้นายมาบอกเลิก เพื่อให้เราเลิกกัน ถ้านายไม่ยอมมันก็จะส่งรูปไปประจานให้ฉันเดือดร้อน ใช่มั้ย”

    จินยองพยักหน้าเบาๆ เมื่อเห็นอาการฉุนๆ ของมาร์ค

    “แล้วคุณปาร์คจินยองผู้มีจิตใจแสนงดงามก็ยินยอมเก็บความเจ็บปวดนี้ไว้เพื่อปกป้องฉันไม่ให้เดือดร้อน ถูกต้องมั้ย?”

    จินยองพยักหน้าอีกครั้ง ตาหลุบลงน้อยๆ ไม่กล้าสู้หน้า เพราะรู้สึกผิด

    “เฮ้อ...!” มาร์คถอนหายใจเฮือกใหญ่ ฝ่ามือแกร่งขยี้เรือนผมนุ่มอย่างเหลืออด “รู้มั้ยว่ามันเป็นการกระทำที่โง่มาก โง่ที่สุดเลย”

    “อื้อ... รู้”

    “แล้วรู้มั้ยว่าโกรธ แต่ไม่ได้โกรธเพราะถูกถ่ายรูปนะ แต่โกรธที่จินยองมองความรู้สึกของเราที่มีต่อกันว่ามันเปราะบาง ถึงได้ยอมแพ้ง่ายๆ”

    จินยองเบ้ปากเหมือนจะร้องไห้ที่ถูกโกรธ วิญญาณเจ้าแมวน้อยขี้อ้อนตื่นตัว เจ้าร่างบางขยับเข้าไปใกล้คนหน้าบึ้ง ดวงตาใสแป๋วที่เอ่อคลอน้อยๆ ช้อนมองแสนออดอ้อน

    “รู้ตัวว่าผิดไปแล้ว นายจะให้อภัยให้ฉันมั้ย...”

    มาร์คเก๊กหน้าตายได้ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเอง เพราะสุดท้ายก็ต้องยอมพ่ายแพ้ให้กับเจ้าแมวตัวนี้ที่ชื่อปาร์คจินยอง ความน่ารักน่าชังนี้เขาจะไม่มีวันยอมเสียไปให้ใครอื่นเป็นอันขาด

    “เจ้าแมวบ๊อง!” มาร์คหัวเราะ ทั้งขยี้ผมเจ้าแมวอย่างหมั่นเขี้ยว “ฉันอภัยให้ตั้งแต่นายวิ่งมากอดฉันแล้ว รู้ไว้ด้วย”

    จินยองยิ้มร่า โน้มเข้าไปเอาปลายจมูกถูกับปลายจมูกของอีกคนแล้วขยี้เบาๆ เสียงหวานเอื้อนเอ่ยคำชม “มาร์คน่ารักที่สุดเลย!

    มาร์คเขินจัด! ความน่ารักของสิ่งมีชีวิตตรงหน้ามันทำให้เขาอยากจะจับกดเสียเดี๋ยวนี้เลย อยากจะกลืนกินทั้งตัวไม่ให้เหลือกลิ่น

    “ชมกันซึ่งๆ หน้างี้ รับรองคืนนี้จัดหนักจัดเต็ม” มาร์คลั่นเจตนารมณ์อันสูงสุด

    “ไอ้บ้า!!

    “ไม่บ้าแหละพูดจริง อดมาได้แต่คืนก่อนแล้ว”

    “หยุดเรื่องหื่นเอาไว้ก่อนได้มั้ย” จินยองเขกหัวมาร์คเตือนสติเข้าให้ “อย่าลืมสิว่ามีคนกำลังคิดไม่ดีกับเรา เจ้านั่นอยู่ที่มืด เราอยู่ที่แจ้ง เราก็ยังเสียเปรียบเห็นๆ เลยนะ”

    “แล้วถ้าฉันบอกว่ามีคนที่สงสัยอยู่ในใจล่ะ”

    “จริง?” ตาแป๋วกระพริบปริบๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามาร์คจะรู้ ตัวเขาคิดหัวแทบแตกก็ยังคิดไม่ตก แต่มาร์คกลับมีคนที่สงสัย

    “ใครเหรอมาร์ค รีบบอกมาเร็วๆ”

    “หึหึ...” มาร์คหัวเราะอย่างมีเลศนัย ดวงตาเป็นประกายด้วยความคิด สมองอันชาญฉลาดรีดเอาแผนการชั้นเลิศออกมาชั่วเสี้ยววินาที “เป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวเรานี่แหละ และเพื่อจะจับมันให้ได้คาหนังคาเขา เราต้องเล่นละครฉากใหญ่เลยล่ะที่รัก”

    ดวงตาสองทั้งสองคู่ส่อประสานกัน เป็นครั้งแรกที่จินยองเห็นในสิ่งที่อีกคนสื่อออกมาจากแววตา คนๆ นั้นที่มาร์คหมายถึง จะใช่จริงๆ หรือ แบบนี้มันต้องพิสูจน์!

     


     

    ในช่วงเวลาที่วิ่งมีชีวิตในโรงเรียนเริ่มบางตาไปพร้อมๆ ท้องฟ้าที่ทาด้วยสีหม่น อากาศเย็นเริ่มปกคลุมขึ้นเรื่อยๆ เฉกเช่นเดียวกับความเงียบที่โรยตัวทั่วทั้งบริเวณนี้เมื่อมาร์คเลือกที่จะเดินกลับไปอยู่เคียงข้างจินยองอีกครั้ง ทิ้งให้แบมแบมยืนตาค้าง ทั้งเจ็บใจ ทั้งอับอายที่โดนหลอกเสียสนิทใจ โดนหลอกจากคนที่เขามอบใจให้

    “เรื่องมันเป็นแบบนี้เองสินะ!” ยองแจโพล่งขึ้นมาทำลายความเงียบ น้ำเสียงทั้งสะใจแต่ก็เจ็บใจนิดๆ ที่โดนหลอกไปด้วย แต่ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่จับคนโกหกได้ เขายอมโดนเพื่อนที่รักเล่นละครหลอก “สรุปก็คือ พวกนายไม่ได้เลิกกันจริงๆ แต่แกล้งทำเป็นเลิกกัน มาร์คนายก็แกล้งคบกับเจ้าหนูจอมวายร้ายเพื่อหาหลักฐานใช่มั้ย แล้วสรุปได้มามั้ย”

    “ระดับนี้ทำไมจะไม่ได้มา” มาร์คกดยิ้มเย็นพลางล้วงเข้าไปในกางเกง สิ่งที่โชว์ให้ทุกคนดูคือเมมโมรี่การ์ด ไฟล์ต้นฉบับที่เขาต้องการมาอยู่ในกำมือนี้แล้ว

     

    ดวงตาของจำเลยก็ลุกวาวด้วยความตื่นตระหนก

    “ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้ พี่ไม่เคยรู้สึกอะไรกับผมเลยเหรอ ทำไมไม่สงสารผมบ้าง” แบมแบมถามอย่างเค้นเสียง ทั้งกลัวทั้งโกรธในเวลาเดียวกัน

    “แบมแบม... ถ้าให้พูดกันตามตรง พี่ก็ถูกใจนายนะ นายเป็นคนน่ารักมากทีเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนพี่อาจจะคบกับนายได้ไม่ยาก แต่ถามว่าจริงจังมั้ยก็ไม่ แต่ในเวลานี้ พี่รู้สึกว่าการมีคนที่รักเพียงคนเดียว คนที่เราอยากจะซื่อสัตย์ด้วย มันรู้สึกดีกว่ากันการใช้ชีวิตรักแบบสิ้นเปลืองเยอะเลย” มาร์คพรั่งพรูความรู้สึกส่วนลึกในหัวใจที่ไม่เคยเอื้อนเอ่ยให้ใครรู้ออกไป เขาไม่อาจวัดได้หรอกว่ามันทำให้หัวใจหนึ่งดวงที่ได้รับความรู้สึกนี้ซาบซึ้งใจมากแค่ไหน

    จินยองยิ้มกับหัวใจตัวเอง ยิ้มกับความคิดที่ว่า เขาเลือกถูกแล้ว...

    ขณะเดียวกัน หัวใจอีกดวงกำลังปวดร้าวเกินทน แบมแบมฝืนยิ้มอย่างยากลำบาก “พี่บอกว่าผมน่ารัก แล้วทำไม? เป็นผมไม่ได้เหรอ ผมเองก็จะทำให้รู้ว่าผมไม่แพ้พี่จินยองหรอก จะทำให้พี่มีความสุข เป็นคนเดียวของพี่ได้เหมือนกัน แค่ให้โอกาส...”

    “พอเถอะแบมแบม มันจบแล้ว ใช่... พี่เคยถูกใจนาย เอ็นดูด้วย แต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็กลายเป็นไรฝุ่นไปแล้วเมื่อพี่รู้ว่านายทำเรื่องเลวร้ายแค่ไหน และพี่อยากให้นายถามใจตัวเองอีกสักครั้งว่ารักพี่จริงๆ หรือเปล่า ถ้านายรักพี่จริงๆ นายจะไม่มีทางคิดแม้แต่จะถ่ายรูปพวกนั้น”

    “พี่ก็พูดได้นี่ พี่ไม่ใช่คนที่ต้องมาแอบรักเหมือนผมนี่ พี่ไม่รู้หรอกว่าการแอบรัก ทำได้แค่เฝ้ามองมันเจ็บปวดแค่ไหน ผมต้องการพี่ ผมอยากช่วงชิงมามันผิดเหรอ”

    “ผิดแล้วเจ้าหนู!” ยองแจที่ทนฟังไม่ไหวแทรกขึ้นมาเสียงดัง “พี่ก็เคยแอบชอบคนๆ หนึ่ง ไม่สิ... ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ ชอบมาหลายปีดีดัก แต่พี่ไม่เคยมีความคิดที่จะทำอะไรแบบนายเลย ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสก็ตาม พี่อยากเตือนนายใจฐานะรุ่นพี่คนหนึ่ง ถ้านายต้องการความรัก นายต้องมอบความรักนั้นให้คนอื่นก่อน และมันต้องเป็นความรักที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน และต้องเป็นความรักที่อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจ”

    สิ่งที่ยองแจพูดล้วนถูกต้องทั้งหมดทั้งสิ้น แต่ในเวลานี้ความโกรธมันปิดตาบังใจของเด็กหนุ่มเอาไว้จนไม่สามารถรับเอาความหวังดีนั้นมาตระหนักได้

    “หมาขี้แพ้อย่างพี่จะพูดให้ดูดีแค่ไหนก็ยังเป็นหมาขี้แพ้อยู่ดี ไม่กล้าแม้แต่จะบอกรักคนที่รักก็อย่าสะเออะมาวิจารณ์คนอื่น”

    “ยองแจเขาไม่เคยแพ้ เพราะเค้าไม่เคยลงสนามแข่งกับใคร” จินยองที่ยืนเงียบมานานสวนกลับขึ้นมาเพื่อปกป้องเพื่อน “ความรัก ความจริงใจที่คนที่นายเรียกว่าหมาขี้แพ้มีจะทำให้สักวันหนึ่งเขาได้เจอคนที่คู่ควร”

    “หึ... คิดว่ารุมผมแบบนี้แล้วผมจะหยุดเหรอ ผมไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น” แบมแบมยังดันทุรังสู้ต่อแม้รู้ว่าต้องเจ็บตัวเจ็บใจมากขึ้น “ไอ้การ์ดนั่น อยากเอาไปก็เชิญ คิดเหรอว่าผมไม่มีไฟล์สำรองเอาไว้ ผมจะประจานให้หมดเลย ถ้าพี่มาร์คยังไม่เลิกคบกับมัน!

    “คิดดีแล้วเหรอว่าจะทำแบบนั้น” จินยองลั่นถาม

    “ผมทำแน่!” แบมแบมท้าทายสุดกำลัง

    เงียบไปชั่วครู่เหมือนต่างฝ่ายต่างหยั่งเชิง จินยองถอนหายใจช้าๆ ราวกับปล่อยปลง ก่อนจะร้องเรียกใครอีกคน

    “จองกุก ถ่ายเอาไว้หมดแล้วใช่มั้ย?”

    “ครับพี่” จองกุกปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางการต้อนรับด้วยรอยยิ้มของจินยองและยองแจ และสีหน้ามึนงงของแบมแบม

    “ชัดเลยครับ ตั้งแต่ตอนแบมแบมโผล่มา เอาพวกมารุมทำร้าย ทั้งตอนที่สารภาพว่าทำอะไรกับพี่ไว้บ้าง จนกระทั่งถึงตอนนี้ที่ยังดันทุรัง บันทึกไว้ไม่มีตกสักช็อตเลยครับ” จองกุกอธิบายเสริมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ไปยังแบมแบม

    “แก... แกก็ไปร่วมมือกับมันเหรอ แกเป็นเพื่อนฉันนะ ทำไมทำแบบนี้วะจองกุก”

    “ฉันไม่ได้เลือกข้าง แต่ฉันอยู่เคียงข้างความถูกต้อง นายทำผิดเอง ฉันสงสารพี่จินยอง ไม่อยากให้พี่เค้าต้องเดือดร้อน และไม่อยากให้นายทำผิดอีก ฉันเลยต้องจำใจทำแบบนี้”

    “แก...!!

    “พอเถอะแบมแบม มันจบแล้ว หรือถ้านายอยากจะต่อก็ได้ เอาเลย เอารูปพวกนั้นไปประจาน อย่างมากฉันกับมาร์คก็แค่ยอมรับสภาพ แต่ไม่นานทุกอย่างก็จะดีขึ้น แต่นายล่ะ สิ่งที่นายทำคือผิดกฎหมาย อนาคตนายจบแน่ๆ”

    “หยุดเถอะนะ เพื่อตัวของนายเอง” มาร์คเสริม น้ำเสียงของเขาอ่อนลงชวนให้คล้อยตาม

    แบมแบมนิ่งเงียบไปราวกับคนเป็นใบ้ เหมือนถูกขังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสีดำ มีลางเล็กๆ ที่พอจะสามารถคลานลอดออกไปได้แต่ก็ต้องทำให้เจ็บตัวและเจ็บใจ รู้สึกเหมือนช่างไร้ซึ่งศักดิ์ศรี แต่ก็รู้ดีว่าทำได้เพียงแค่...ยอมจำนน

    “ผมโกหก ผมไม่มีไฟล์สำรองอะไรนั่นหรอก ผมยอมแล้ว ต่อไปนี้ผมจะไม่มายุ่งเกี่ยว ไม่สร้างเรื่องให้พวกพี่อีก...” แบมแบมเอื้อนเอ่ยไปโดยรอบ

    “แต่ผมจะไม่มีวันขอโทษใครทั้งนั้น!” ทิ้งไว้เพียงถ้อยคำที่แสนทรนง ก่อนที่จะก้าวเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงความสายตาที่ยากจะอธิบายของเหล่ารุ่นพี่

    “อ้าว ลูกพี่แกไปแล้วทำไมไม่รีบตามไปเล่า!” ยองแจที่เพิ่งสังเกตเห็นสองถึกก็เตะไล่เข้าสักสองสีระบายอารมณ์ที่แบมแบมทิ้งความอัดอั้นเอาไว้ให้

    สองถึกพากันพยุงตัวกันเองออกไปแล้ว เหลือเพียงสี่ชีวิตที่ได้แต่มองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจเฮือกยาว เรื่องร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้สำหรับมาร์คและจินยองแล้วถือเป็นบททดสอบสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นก้าวไปอีกขึ้น และจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

     

     



     

    โปรดติดตามตอนต่อไป...

     

     

    ตอนแรกว่าจะให้จบที่ตอน 20 แต่ก็อย่างที่บอกว่ามีการแก้ไข มันก็นะ เพิ่มไปอีกหน่อย หวังว่าตอนนี้จะทำให้สนุกสมกับที่รอ นะคะ อ่านแล้วเม้นด้วยน้า จุ๊บๆ 

     ปล. ขอโทษแฟนคลับตะหนูแบมด้วย เรื่องนี้โดนทำร้ายจริงๆ แต่เพื่อสีสันของฟิคชั่น TOT

     

    #ฟิคตองคิส

     

    อัพเดต 27-3-59

     

     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×