ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KISS KISS KISS ;; MarkNior ft. 2Jae

    ลำดับตอนที่ #11 : Episode 10.1 ด้วยความยินยอม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.26K
      13
      6 ต.ค. 58



    Episode 10.1 ด้วยความยินยอม

     


     

    ห้องสมุดที่แสนเงียบเชียบและมืดสลัว มุมที่ลึกที่สุดมีสองชีวิตนั่งพิงชั้นวางหนังสือด้วยอาการหอบน้อยๆ กับความเหนื่อยอ่อนที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะจินยองที่เอนศีรษะซบลงหัวไหล่แกร่ง มีวงแขนแข็งแรงโอบกอดไว้อย่างแสนรักและหวงแหน

    มาร์คเอื้อมมืออีกข้างบรรจงปัดปลายผมที่ปรกเปลือกตาคู่สวยอย่างแผ่วเบา พร้อมกับโน้มหน้าเข้าไปหาใกล้ๆ เพื่อจุมพิตที่หน้าผาก ทำเอาร่างบางที่เผลอหลับไปสะดุ้งตื่น  

    “มาร์ค ฉันหลับไปนานแค่ไหน” เสียงหวานที่อ่อนแรงเอ่ยถาม

    มาร์คยิ้มละมุน “นานพอที่จะทำให้ไหล่ฉันชาได้ละมั้ง”

    “ดีสิ!” จินยองผละออกมา ก่อนจะใช้กำปั้นทุบไหล่แกร่งนั้นสามที พร้อมกับส่งสายตาค้อนขวับไปยังเจ้าคนชอบกวน “ให้มันหักๆ ไปเลยยิ่งดี โทษฐานที่ทำอะไรบ้าๆ กับฉัน”

    มาร์คไหวไหล่อย่างยียวน แววตาคมเลื่อนไล้มองร่างสวยด้วยความกรุ้มกริ่ม “ไหล่หักก็ช่างประไร ฉันไม่ได้ใช่ไหล่ทำเรื่องบ้าๆ กับนายซะหน่อย” 

    “มาร์ค!” จินยองกรีดร้องด้วยความอาย

    “เรียกแบบนี้จะเอาอีกรอบมั้ย ทีก่อนหน้านี้ยังครางซะหวานหูอยู่เลย แต่ตอนนี้มาทำเป็นอาย ร้ายเดียงสาจริงเลยนะจินยองงี”

    ร่างบางเงียบกริบไปทันที ทำได้แค่ชักสีหน้าบู้บี้เหมือนเด็กน้อย มาร์คเห็นแล้วทนต่อหัวใจไม่ไหวดึงเข้ามาซบไหล่เหมือนเดิม

    “แค่แหย่เล่นเท่านั้นเอง อย่าหัวเสียเลยนะคนดี” น้ำเสียงนุ่มๆ ของมาร์คทำให้อาการเม้งของร่างบางหายวับไปในบัดดล ใบหน้าสวยคลอเคลียเหมือนลูกแมวทำให้มาร์คเผยยิ้มชอบใจ

    “แล้วต่อไปนี้จะทำยังไงดี ถ้าแจบอมไม่หยุดจะทำยังไง”

    “นายอยู่เฉยๆ ดีกว่านะจินยอง ฉันเป็นคนผูกก็จะเป็นคนแก้เอง นายอย่าเป็นห่วง อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก”

    “จะไม่ทำให้ฉันเป็นห่วงแน่นะ?”

    “แน่สิ”

    “อื้อ” จินยองรับปาก ความเชื่อใจที่มีต่อมาร์คมันยังไหลเวียนในหัวใจดวงนี้ เขาเองก็สบายใจไปหนึ่งเปราะ แต่ก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่แล่นริ้วเข้ามาในสมองจนเผลอขมวดคิ้ว

    “ทำไมยังทำหน้าเครียด มีอะไรรึเปล่า”

    “ฉันแค่คิดไม่ตก ใครกันแน่ที่แกล้งบอกให้ฉันมาเจอแจบอมที่โรงยิมเก่า ดูจากท่าทางของแจบอมแล้วฉันเชื่อนะว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำ”

    มาร์คพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เขาครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะว่า “จริงๆ แล้วฉันก็ไม่เชื่อว่าแจบอมจะเป็นคนทำ หมอนั่นไม่ได้มีสมองที่คิดซับซ้อนขนาดนั้นหรอก มันต้องเป็นคนอื่นทำแน่ๆ หึ... และฉันก็พอจะเดาได้ว่าเป็นใคร”

    “ใครเหรอมาร์ค!?” จินยองโพล่งถามอย่างสนใจ

    “ไม่บอก!” นิ้วของมาร์คดีดเบาๆ ที่คิ้วผูกโบว์ของร่างบาง “เอาไว้ให้แน่ใจกว่านี้ก่อนนะแล้วจะเล่าให้ฟังแน่นอน”

    “แต่ว่าฉันอยากรู้”

    “เอาไว้ก่อนเถอะนะ น่านะ...”

    “เฮ้อ ก็ได้ ไหนๆ ก็วางใจให้นายจัดการทุกเรื่องอยู่แล้วนี่” ว่าพลางลูบตรงรอยโดนดีดเบาๆ รู้สึกไม่สบอารมณ์นิดๆ เหมือนกันที่มาร์คไม่ยอมบอก แต่ก็ทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าการรอให้เรื่องราวกระจ่างขึ้นมาเอง

    “เรากลับกันเถอะ ทางบ้านคงเป็นห่วงแย่แล้ว”

    “อื้อ”

    มาร์คช่วยจินยองแต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุด ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงก็ช่วยให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม จินยองเองก็ช่วยมาร์คเหมือนกัน เป็นเวลาสามทุ่มที่ทั้งสองคนออกไปจากโรงเรียนด้วยกัน มือที่กุมกันเดินไปนั้นส่งผ่านความรู้สึกทั้งสองคนมอบกันและกัน เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ที่บางเบาเริ่มก่อตัวแนบแน่นกว่าเดิม

     

     
























     

    นาฬิกาบนฝาผนังเดินไปอย่างต่อเนื่องจนตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่าๆ แจบอมเริ่มรู้สึกตัวตื่น ความรู้สึกแรกก็คือปวดหัวจนแทบจะระเบิด แล้วสายตาก็พลันไปสะดุดเข้ากับสิ่งมีชีวิตหนึ่งนั่งหลับอยู่ข้างเตียง พอใบหน้าด้านข้างที่ฟุบหลับแนบขอบเตียงนั้นก็รู้ได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคือใคร

    “จินยอง...”

    คิ้วเข้มเริ่มขมวดเป็นปมขณะที่ตายังมองร่างบาง และเมื่อมองไปโดยรอบก็จำได้ว่าไม่ใช่ห้องของตัวเอง แต่คำถามต่อมาก็คือเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ตอนรู้ตัวครั้งสุดท้ายก็คือกำลังดื่มเหล้าอยู่แถวๆ โรงเรียน

    “จินยองงี” เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ร่างบางค่อยๆ รู้สึกตัว เปลือกตาบางเบาขยับและลืมตาตื่นขึ้นมา

    “แจบอม นายตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง”

    “จินยองจริงๆ ด้วย!” แจบอมดึงร่างบางเข้ามากอดรัดบนแผ่นอก มันราวกับภาพแห่งความฝันที่เห็นจินยองอยู่ใกล้แค่นี้เอง “จินยอง นายจะไม่ทิ้งฉันไปเหมือนตอนนั้นแล้วใช่มั้ย นายเปิดใจให้ฉันแล้วใช่มั้ย ตอบฉันสิ”

    คนถูกถามอึ้งไปทั้งๆ อย่างนั้น หัวใจเต้นแรงราวกับจะกระดอนออกมาจากอก บอกไม่ถูกด้วยซ้ำว่าความเจ็บนี้มันมาจากการเต้นของหัวใจหรือเพราะคำพูดนั้นทำร้ายจิตใจมากกว่ากัน ทว่า... ก่อนที่ความเงียบจะโรยตัวมากไปกว่านั้น เสียงหวานเอ่ยรับอย่างแผ่วเบา

    “อื้อ”

    แจบอมยิ้มละไม ดวงตาปรือๆ ของเขาจ้องมองสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนอ้อมอกด้วยอาการเคลิบเคลิ้มชวนฝัน วงแขนแกร่งโอบรัดแนบแน่น ด้วยยินดีปรีดาแผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจเมื่อร่างบางไม่ผลักไส ความคิดที่จะครอบครองมันเปี่ยมล้นอยู่ในสมองจนจะเอ่อทะลัก

    “เป็นของฉันนะจินยอง”

    “อือ...” เสียงหวานตอบรับพร้อมกับโอบกอดร่างที่เมามาย

    สองร่างกายกอดกระหวัดเกี่ยวรัดกันเป็นหนึ่งเดียว ริมฝีปากจุมพิตกันอย่างดูดดื่มซาบซ่าน พวกเขาไม่อาจหยุดมันได้และไม่อยากจะหยุดมัน หลงใหลมอมเมาไปกับสิ่งนั้นที่เหมือนกับภาพลวงตา คนหนึ่งกำลังมีความสุขอย่างสุดหยั่ง ตรงกันข้ามกับอีกคนที่ทั้งสุขทั้งทุกข์จนหยาดน้ำตารินไหล ทว่า... แม้จะเจ็บปวดสักแค่ไหน แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาเลือกแล้ว

    แจบอม... ต่อจากนี้ไปเราคงไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้อีกแล้ว แต่ฉันก็พร้อมจะยอมรับมัน 



     




     

    โปรดติดตามต่อใน Episode 10.2 


     

    คู่หนึ่งก็หว๊านหวาน อีกคู่ก็กำลังตกลงไปในบ่อแห่งความทุกข์ คือคงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าคนที่แจบอมกอดนั้นเป็นใคร T___T ตอนนี้ไรท์อัพน้อยมากใช่มั้ยล่ะ จริงๆ มันมีต่อของตอนนี้ แต่ใช้ชื่อตอนเดียวกันแล้วมันไม่เข้าเลยแยกออกไป ซึ่งของ 10.2 ก็ไม่น้อยนะเออ รอติดตามต่อในวันจันทร์ เดี๋ยวมาอัพไม่อู้ (แต่ถ้าไรท์อู้ก็เข้าไปทวงได้ กร๊ากกกกกก)

     
     

    ปล. ไรท์กำลังทำปกอยู่แหละ เดี๋ยวเอามายั่วนะ แต่ยังอ่านเรื่องนี้ไปได้อีกหลายตอนอยู่ ยังไม่จบแค่นี้แน่อน ปมบางอย่างยังไม่กระจ่าง แถมทูแจก็ยังยากจะลงเอย ยังไงก็ฝากอ่าน ฝากเชียร์ โดยเฉพาะฝากเม้นแล้วนะจ๊ะ อิอิ

     
     

    แท็กฟิค #ฟิคตองคิส

    หนึ่งเม้น หนึ่งความรู้สึก หนึ่งกำลังใจ 


     

    อัพเดต 3/10/2558

     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×