คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Episode 18 เปิดใจ...ปิดใจ
Episode 18 เปิดใจ...ปิดใจ
จินยองเปิดใจเล่าให้ยองแจฟังตั้งแต่ว่ามีอะไรกับมาร์คในห้องสมุด แล้วถูกแบลคเมล์ให้เลิกคบกับมาร์ค ไม่อยากนั้นจะประจานรูปพวกนั้นให้มาร์คเดือดร้อน จนในที่สุดก็ต้องยอมเลิกกับมาร์คเพื่อทางออกที่ดีที่สุด พอเล่าถึงตอนนี้ยองแจผู้ซึ่งปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าใจได้โดยทันทีว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมีความเป็นไปได้เกือบจะ 100% ว่าเป็นแบมแบม ที่ตอนนี้หางโผล่เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มผู้ใสซื่อเป็นร้ายกาจไปแล้ว
“แล้วนายจะเอาหลักฐานว่าหมอนั่นเป็นคนแบล็คเมลมาได้ยังไง ดูท่าทางแล้วเจ้าเด็กนี่คงเป็นประเภทเหลี่ยมจัดสุดๆ คงไม่มีทางให้เราเปิดโปงได้ง่ายๆ หรอก” ยองแจแสดงความคิดเห็นด้วยสีหน้าเครียดจัด
แน่นอนว่าจินยองเองก็เครียดไม่แพ้กัน เขารู้ดีว่ามันยากที่จะทำเรื่องนี้ แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากและซุ่มเสี่ยงอย่างมาก แต่จินยองก็คิดว่าดีกว่าจะยอมทนเจ็บแบบฟรีๆ อย่างนี้อยู่เรื่อยไป มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย
“จริงๆ ฉันเองก็มีแผนอยู่แล้วล่ะ”
“แผนว่ายังไงรีบๆ บอกมาเลย”
“ฉันขออุบไว้ก่อนนะ”
“อะไรวะ! เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วยังจะมาปิดกันอีก ไอ้เพื่อนบ้านี่”
“เปล่าเว้ยยองแจ ฉันแค่ไม่อยากให้มันเสียรูปการ”
“รูปการบ้าบออะไรอีกวะ”
“เอาน่า นายมาสนใจงานของนายที่ฉันจะให้นายทำดีว่า” จินยองกระดิกนิ้วเรียกเพื่อนรักให้เข้ามาฟังใกล้ๆ
ยองแจที่แม้จะขัดใจอยู่บ้างแต่ก็ยอมเงี่ยหูเข้าไปฟังแต่โดยดี ขณะที่กำลังตั้งใจฟังเสียงกระซิบนั้น คิ้วก็พลอยขมวดไปพร้อมๆ กับคิดตาม
“เอาจริงเหรอ!!” ยองแจโพล่งขึ้นเสียงดัง ตาเรียวเล็กก็เบิกกว้างเมื่อได้ยินแผนการของเพื่อนรัก “ทำแบบนั้นมันจะไม่แรงไปเหรอ”
จินยองยกยิ้มกริ่ม “เขาเรียกว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง เขาทำเราด้วยวิธีไหน เราก็ต้องใช้วิธีนั้นสนองคืน”
“จริงๆ ฉันก็แอบสงสารเด็กมันอยู่นะ แต่พอคิดๆ ดูแล้วมันก็สมควรโดน” ยองแจพูดลอดไรฟัน นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเที่ยงมันก็ชักทำให้โมโหขึ้นมาอีก “ว่าแล้วก็อยากจะเริ่มเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะเห็นหนังหน้ามันเวลาโดนแฉบ้างจะรู้สึกยังไง ว่าแต่ตัวช่วยของนายอีกคนนี่ใครวะ ที่จะทำให้เราได้หลักฐานชิ้นสำคัญ”
จินยองขยับยิ้มก่อนจะตอบ “จองกุก เพื่อนร่วมชั้นของแบมแบม น้องกำลังช่วยหาหลักฐานอยู่ลับๆ ส่งข้อความมาบอกว่าใกล้ได้มาแล้ว”
ยองแจประหลาดใจที่ได้ยินสิ่งนี้ จินยองรีบเล่าต่อให้กระจ่าง “ฉันกับจองกุกเราเป็นสายรหัสเดียวกัน ฉันเองก็มารู้เอาตอนที่ได้คุยกับน้องตอนงานกีฬาสี ก็เลยได้ติดต่อคุยกันอยู่เรื่อยๆ แล้วช่วงก่อนหน้านี้จองกุกก็แอบเตือนฉันมาว่าเหมือนแบมแบมจะชอบมาร์ค และทำตัวเหมือนมีแผนการบางอย่างไม่น่าไว้วางใจ ตอนนั้นฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อนะ จนถึงขั้นมองจองกุกไม่ดีไปเลย แต่พอทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนั้น ฉันก็รู้แล้วว่าฉันมันโง่เองที่ไม่ฟังคำเตือนของจองกุกตั้งแต่แรก”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง เฮ้อ...” ยองแจถอนหายใจเฮือกใหญ่ นึกถึงสิ่งที่เพื่อนรักเจอมาก็เหนื่อยใจแทน “คิดซะว่าอย่างน้อยๆ เราก็มีหนทางที่จะเอาคืน”
“มันก็จริงของนาย... เอ้อ ว่าแต่ช่วงนี้แจบอมเป็นยังไงบ้าง” คำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาอย่างกะทันหันทำเอาหัวใจอีกดวงเหมือนโดนเข็มเล็กๆ ทิ่มแทง
“ตอนนี้คงหายไข้แล้วมั้ง” ยองแจตอบแบบไม่ใส่ใจ
“ไม่ใช่เรื่องป่วย แต่หมายถึงว่าแจบอมมีท่าทีอะไรบ้างมั้ย”
“ถ้านายจะหมายถึงว่ามีท่าทีจะชอบฉันได้มั้ยละก็...บอกได้เลยว่าไม่มี หมอนั่นย้ำอยู่ตลอดว่าฉันเป็นเพื่อน เพื่อน เพื่อนรัก แค่เพื่อน!” ยองแจกระแทกน้ำเสียงส่งท้ายพลางส่ายหน้าแล้วถอนหายใจเบาๆ ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ
มือขาวเนียนของจินยองเอื้อมเข้ามาแตะที่ไหล่เพื่อนเบาๆ เป็นเชิงปลอบ “แล้วนายคิดจะคบกับแจ็คสันจริงๆ เหรอ”
แม้จินยองจะแอบเชียร์ให้ยองแจลงเอยกับแจบอมเพราะอยากให้เพื่อนมีความสุข แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแจ็คสันเองก็ดีต่อยองแจมากเหลือเกิน
“ก็ไม่รู้สิ” ยองแจตอบอย่างหลบเสียง “ช่วงที่อยู่กับแจ็คสันก็สบายใจดีนะ ตอนที่ติวหนังสือด้วยกันก็ทำให้ฉันลืมคิดเรื่องแจบอมได้บ้าง แต่...”
“แต่สุดท้ายนายก็ยังคิดถึงแต่แจบอมอยู่ดี” จินยองตอบแทนอย่างเข้าใจหัวใจของเพื่อนรัก มันยากมากที่จะลบคนที่รักอย่างฝังใจออกไปได้
“เฮ้อ...ฉันอยากจะบ้าตาย ฉันรู้ว่าแจ็คสันต้องการอะไร แต่ฉันก็ไม่อยากที่จะคบกับเค้าเพื่อลืมแจบอมนายเข้าใจใช่มั้ย”
“เข้าใจสิ ฉันต้องเข้าใจนายที่สุด เพราะนายเป็นเพื่อนของฉัน นายจิตใจดี ไม่อยากให้ใครมาเจ็บ เลยเลือกที่จะเจ็บเองคนเดียว” จินยองเอ่ยทั้งรอยยิ้มน้อยๆ รอยยิ้มแสนละมุม มือนุ่มๆ พลางลูบปลอบประโลม
ขณะที่ยองแจกำลังดีขึ้นและมีรอยยิ้ม จินยองเสริมไปด้วยเสียงละมุน “ถึงฉันจะอยากให้นายสมหวังกับแจบอมนะ และถึงนายจะบอกว่าสุดท้ายแล้วในใจก็ยังคงมีแต่แจบอม แต่การที่นายอยู่กับแจ็คสันแล้วสบายใจ มีความสุข และยิ้มได้ มันก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีนะ ที่จะลองเปิดใจ ไม่แน่ว่าแจ็คสันอาจเป็นคนที่ใช่ก็ได้นะ”
คำแนะนำของจินยองแผ่ซ่านไปทั้งสี่ห้องหัวใจของยองแจ ลึกๆ ก็รู้สึกคล้อยตามอยู่ไม่น้อย “ไว้ฉันจะลองเก็บไปคิดดูนะเพื่อน”
“ดีแล้ว คิดให้ดี จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง...”
จินยองต่อท้ายคำว่า “...เหมือนฉัน” ในใจ ทั้งๆ ที่กำลังปลอบเพื่อนแท้ๆ แต่ตัวเองก็มีสภาพจิตใจย่ำแย่พอกัน จินยองเหม่อมองไปยังระเบียงทะลุผ่านไปยังห้องของมาร์คที่ตอนนี้ผ้าม่านปิดสนิท ลมหายใจแผ่วเบาค่อยๆ ถอนอย่างเชื่องช้า หวนนึกถึงวันนี้ที่ได้เจอมาร์คที่โรงเรียน แม้จะนั่งอยู่ด้วยกันแค่เอื้อม แค่เพียงหนึ่งก้าวก็สามารถเข้าไปกอดได้แล้ว แต่ก็ไม่อาจทำได้ดั่งใจปรารถนา
ห้องนอนสวยๆ ของแบมแบมวันนี้มีมาร์คเข้ามาเยือนเป็นครั้งแรกโดยคำขอของมาร์คเองที่อยากมาเที่ยวบ้านของแบมแบมบ้าง ทำเอาเด็กหนุ่มอารมณ์ดีกว่าทุกวัน แม้จะมีคุณแม่บุญธรรมอยู่ในบ้านด้วย แต่ท่านก็ไม่ขึ้นมารบกวนช่วงเวลานี้เลย
แบมแบมจ้องมองชายหนุ่มที่นั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสือการ์ตูนอย่างใจจดใจจ่อก็แอบน้อยใจอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ไม่ทำให้บั่นทอนความสุขในช่วงขณะนี้ แม้มันจะเป็นความสุขที่เหมือนโกงใครมาก็ตาม
“พี่มาร์ค...” เสียงหวานเรียกขณะที่ตัวก็นวยนาดเข้าไปนั่งแนบชิดชายหนุ่ม
“หือ?” มาร์คละสายตาจากการ์ตูนแล้วหันไปส่งตาหวานให้หนุ่มน้อย
“อ่านอะไรอยู่ไม่พูดไม่จา” เด็กหนุ่มถามเสียงอ่อย
“ก็อ่านอะไรไปเรื่อย แล้วนี่เราออกจากห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งนานแล้ว ไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ผมชักจะน้อยใจแล้วนะ” เจ้าตัวเล็กแสร้งทำเป็นเบ้ปากงอน
มาร์คหัวเราะเบาๆ แล้วเอื้อมมือเข้าไปขยี้เรือนผมนุ่มนั้นอย่างเอ็นดู “พี่ขอโทษ การ์ตูนเรื่องนี้มันสนุกไปหน่อยพี่เลยอ่านจนเพลิน อย่างอนพี่เลยนะ”
“ไม่งอนก็ได้ แต่ว่า....” แบมแบมมองมาร์คด้วยแววตาที่เป็นประกาย มือน้อยๆ เลื้อยเข้าไปลูบไล้แผงอกแกร่งนั้น
มาร์คผู้เจนโลกรู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มต้องการอะไร เขายิ้มละมุนพลางเอื้อมมือเข้าลูบไล้แก้มเนียนเบาๆ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เหมือนจะจูบ
แบมแบมหลับตาพริ้มรอรับ ทว่า...
“พี่หิว ลงไปหาของกินให้พี่ก่อนนะ พี่จะได้มีแรงจัดเต็ม” มาร์คกระซิบบอกที่ข้างหูด้วยเสียงแหบพร่านิดๆ ให้ชวนสยิว
ดวงแก้มอวบนั้นแดงระเรื่อ ทั้งเขินอาย ทั้งตื่นเต้น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพึงพอใจ เด็กหนุ่มตีไหล่แกร่งเบาๆ เป็นเชิงค้อน แล้วว่า “พี่มาร์คนี่ชอบเอาเปรียบผมตลอดเลย นิสัยไม่ดี”
“แล้วจะไปหาอะไรให้พี่กินมั้ยล่ะ” มาร์คจ้องอย่างรู้ทัน
แบมแบมยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะปีนลงจากเตียงด้วยจริตจกร้าน ก่อนจะพ้นจากประตูห้องก็ยังไม่วายสิ่งยิ้มน่ารักๆ มาให้มาร์คบนเตียง
ด้านแจ็คสัน แม้ว่าตัวเองจะบอกกับยองแจว่าวันนี้มีซ้อมใหญ่เลยต้องงดการติวหนังสือ แต่แท้ที่จริงแล้ววันนี้เป็นวันหยุดซ้อมของชมรมด้วยซ้ำไป ซึ่งเหตุผลที่เขาต้องโกหก คำตอบที่มาพร้อมกันก็คือเขามายืนอยู่หน้าบ้านหนึ่งหลัง ที่เจ้าบ้านเพิ่งงัวเงียมาเปิดประตูให้หลังจากกดออดไปกว่าสิบนาที
“แปลกใจที่นายรู้จักบ้านฉัน” แจบอมเอ่ยอย่างสนเท่ห์ก่อนจะเชื้อเชิญแขก “เข้ามาข้างในบ้านก่อนสิ”
“ขอบใจ” แจ็คสันเดินตามเข้าบ้าน ไปหยุดอยู่โซฟาห้องรับแขก เมื่อเจ้าบ้านนั่งลง เขาก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม
“คงไม่ต้องหาน้ำหาขนมมาต้อนรับนะ ฉันว่านายคงมีอะไรอยากจะพูดเต็มแก่แล้ว ไม่งั้นคงไม่บุกมาถึงนี่อย่างกะทันหัน”
“นายเดาใจคนเก่งขนาดนี้ แต่ทำไมกับเพื่อนสนิทของตัวเองกลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย” แจ็คสันถามน้ำเสียงจริงจัง
แจบอมชักงักไปชั่วครู่ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “แล้วมันกงการอะไรของนายด้วย ตกลงที่มาจะพูดเรื่องอะไรกันแน่ อย่างอ้อมค้อมได้มั้ย”
“ยังไม่เข้าใจอีกรึไง ฉันมาเพราะเรื่องของยองแจ!” แจ็คสันทนไม่ไหวเพราะขึ้นเสียง แววตาดุดันของเขาทำเอาอีกคนชักสีหน้าเครียด
“ยองแจ...? ยองแจทำไม” เขายังถามกลับด้วยเสียงราบเรียบ
แจ็คสันแค่นหัวเราะเยาะ “ถ้านายยังไม่รู้ฉันก็จะบอกเอาไว้ตรงนี้ก็ได้ว่ายองแจแอบชอบนายมาตลอด ไม่สิต้องบอกว่ารักเลย รักมากกว่าความเป็นเพื่อน แค่นี้ชัดเจนมั้ย”
ไม่มีอากัปกริยาใดๆ ที่แสดงถึงความตกใจหรือประหลาดใจจากแจบอมเลยสักนิดเดียว นั่นทำให้แจ็คสันเกิดความรู้สึกผิดคาดไปมาก
“นายรู้แล้ว??”
แจบอมพยักหน้าเนิบๆ ดวงตาหลุบต่ำลงเหมือนครุ่นคิด แต่มันก็ต้องเบิกโพลงเมื่อแจ็คสันยิงคำถามชนิดที่ว่าโคตรตรง
“นายชอบยองแจบ้างมั้ย”
คนถูกถามจุกจนไม่สามารถที่จะตอบออกมาได้โดยทันที แม้มันจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว แต่กลับรู้สึกเหมือนว่าการทำงานที่หนักหน่วงของสมองนั้นทำให้มันสั่งการอะไรที่สวนทางกับหัวใจโดยสิ้นเชิง
“ยองแจเป็นเพื่อนฉัน เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะชอบยองแจในแบบที่นายตั้งคำถาม”
“นายแน่ใจ?” แจ็คสันทวนถาม ดวงตาคมหรี่มองอย่างจับผิด แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนยันกลับมาด้วยการพยักหน้าหนักแน่น เขาก็ยิ้มออก
“นายรู้มั้ยว่าฉันพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้ครอบครองหัวใจของยองแจ แต่ดูเหมือนว่ายังไงซะยองแจก็ไม่มีทางหยุดมองที่นายสักที แต่ฉันดีใจนะที่นายยืนยันว่าไม่ได้ชอบยองแจแบบนั้น เพราะฉันจะได้เดินหน้าจีบยองแจต่อไปแบบไม่ต้องลังเลซะที” คำพูดของแจ็คสันทำเอาหัวใจอีกหนึ่งดวงเจ็บแปลบถึงทรวงใน
แจบอมอยากจะมีรีโมทกดย้อนเวลากลับไปเมื่อหนึ่งนาทีก่อนเพื่อที่จะแก้ไขในคำตอบนั้น และอยากจะบอกกับแจ็คสันตรงนี้ว่าเขาไม่มีทางยอมปล่อยยองแจไป ยองแจเป็นเพื่อนของเขา เป็นหัวใจของเขา แต่ความปรารถนาเหล่านี้มันกลับถูกกดทับด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มันก่อตัวขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
ความกลัว!
กลัวที่จะครอบครอง แล้วก็กลัวที่จะสูญเสีย
ขี้ขลาด... ไม่กล้าที่จะพังตัวเองออกไปจากกรอบที่ตัวเองสร้างขึ้น
“ฉันจะทำให้ยองแจลืมนายให้ได้ ยองแจจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีก นายเป็นเพื่อน ต่อไปนี้ก็อยากให้อยู่แค่เพื่อน หวังว่านายจะเอาใจช่วยฉันนะแจบอม อย่างน้อยๆ ก็ช่วยทำให้ยองแจได้มีความสุขซะที”
คำขอของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ามันราวกับเชือกเส้นใหญ่ที่ผูกมัดแจบอมให้หลุดพ้นไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม ใบหน้านิ่งๆ ของเขานั้นมันช่างสวนทางกับสิ่งที่กู่ก้องร้องดังอยู่ในใจ
“ได้สิ ฉันจะเอาใจช่วยนะ ขอให้นายได้ในสิ่งที่นายต้องการ” แจบอมเอ่ยออกไปด้วยใจที่สั่นสะท้าน เขายิ้มน้อยๆ ทั้งๆ ที่รู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อใบหน้ากำลังจะตาย “ต่อจากนี้ก็ขอฝากยองแจด้วยนะ หมอนั่นเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันรักมากที่สุด หวังว่านายจะทำให้ยองแจมีความสุข”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว” แจ็คสันยิ้มรับด้วยความยินดี เขายื่นมือออกมาตรงหน้า
แจบอมเอื้อมมือออกมาจับกุมกระชับดุจคำมั่นสัญญา ระหว่างหนึ่งคนที่หัวใจกำลังพองโตเปี่ยมด้วยความหวังที่ก่อตัวขึ้นไม่สิ้นสุด กับอีกคนที่หัวใจกำลังห่อเหี่ยว ความปรารถนาค่อยๆ ดิ่งลงสู่เหวลึก แต่ทั้งสองคนต่างก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือความในใจที่มีต่อชเวยองแจ
โปรดติดตามตอนต่อไป...
มาดูกันว่าแผนการเปิดโปงแบมแบมในตอนหน้าจะสำเร็จมั้ย แล้วมาร์คจะอยู่ข้างใคร แล้วแจบอมจะทนโง่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ต้องติดตามมมม ตอนหน้าคือมันส์มากกกบอกเลยยยยย และแอบยาวด้วย!!
สามสี่ตอนสุดท้ายมีการแก้ไขเนื้อหาบ้างไรบ้าง เพื่อให้ซัพพอร์ตกับตอนจบที่แก้ไขใหม่ ไม่รู้ว่าจะโอเคกว่าเดิมมั้ย แต่คิดว่าจบแบบที่วางไว้ใหม่น่าจะลงตัวสุดแล้ว บางทีคู่ที่คิดว่าได้กันแน่ๆ อาจไม่ได้ก็ได้นะ ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านแล้วเม้นคือดีงาม อิอิ
อัพเดต 1-3-59
ความคิดเห็น