ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KISS KISS KISS ;; MarkNior ft. 2Jae

    ลำดับตอนที่ #19 : Episode 15 เลิกกันจริงๆ หรือ

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 59


     


    Episode 15 เลิกกันจริงๆ หรือ

     



     

     

    เราเลิกกันเถอะมาร์คจินยองพูดออกไปในที่สุด พูดออกไปทั้งๆ ที่ใจร้องตะโกนก้องว่าไม่อยากเลิก

    มาร์คที่ได้ยินคำบอกเลิกอย่างไม่ทันตั้งตัวตั้งก็ถึงกับหน้าชาหัวใจสั่น แต่เขาก็บอกกับตัวเองในเสี้ยววินาทีต่อมาว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้นเอง อย่างจินยองผู้น่ารักของเขานะหรือจะบอกเลิกเขาได้

                ไม่มีทาง...ไม่มีทางเป็นไปได้!

    มาร์คหัวเราะออกมาราวกับคำบอกเลิกเป็นมุกตลกขบขัน ทว่า...เสียงหัวเราะห้าวๆ นั้นก็ต้องขาดห้วงไปเพราะหยาดน้ำตาของเจ้าร่างบางที่พรั่งพรูออกมาไม่หยุด

    จินยอง นายพูดอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่ามาร์คถามด้วยเสียงสั่นเครือที่พยายามให้ดูหนักแน่น ในวินาทีหัวใจของเขาสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยมีใครทำให้เกิดได้มาก่อน

    จินยองเงียบไปนานกว่าจะทำใจพูดออกมาอีกครั้งได้

    ฉันเบื่อนายแล้วล่ะ”

    ไม่... ไม่ใช่เลย จินยองไม่เคยเบื่อมาร์คเลย ไม่อยากทิ้งผู้ชายคนนี้ ไม่อยากที่จะแยกจากกัน แต่ว่าเมื่อนึกว่ามาร์คจะต้องมาเดือดร้อนเพราะตน มันก็สุดจะกล้าเห็นแก่ตัวได้ลง

    “แล้วที่สำคัญ การคบกันของเรามันก็แค่รักษาโรคจูบเท่านั้นเอง ตอนนี้เมื่อหายกลัวจูบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องคบกันอีก” ทุกคำล้วนสวนทางกับหัวใจทั้งสี่ห้อง ซุ้มเสียงแม้จะดูเย็นชา ปั้นหน้าให้เรียบเฉยเข้าไว้ ทว่า... น้ำตากลับไหลไม่หยุด

    มาร์คเจ็บไปทั้งขั้วหัวใจ ถ้อยคำเหล่านั้นมันยิ่งกว่าเข็มพันเล่มที่พุ่งตรงเข้ามาทิ่มแทงหัวใจ แต่ลึกๆ ก็ยังคิดว่าสิ่งที่ออกมาจากคนตรงหน้ามันแค่เรื่องล้อเล่นแกล้งกัน

    “จินยอง พูดอะไรออกมาแบบนั้นรู้ตัวรึเปล่า ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่านายจะคิดแบบนั้น เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กันไม่ใช่เหรอ” มาร์คขยับเข้าไปหา แต่อีกคนกลับเบือนหน้าหนี

    จินยองปาดน้ำตาที่รินไหล แม้มาร์คจะช่วยเอื้อมมือเข้ามาประครองเช็ดแต่จินยองก็ปัดป้องออกไป ยิ่งทำให้ผู้ชายอีกคนรู้สึกเหมือนเป็นขยะที่กำลังถูกเขี่ยทิ้ง

    “ฉันอยากอยู่คนเดียว นายเลิกมายุ่งกับฉันได้มั้ย ออกไปซะเถอะ” จินยองออกคำสั่งที่เด็ดขาด

    มาร์คถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างสิ้นหวัง ราวกับทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างลงตรงนั้น แววตาของเขาแปรเปลี่ยนไปเหลือแต่ความว่างเปล่าอ่านยาก

    “ก็ได้ ถ้านายต้องการอย่างนั้น” มาร์คพูดออกมาเรียบๆ พลางพยักหน้าหนักแน่น แล้วแสยะยิ้มเย็นให้กับโลกใบนี้ รวมทั้งคนตรงหน้า

    “ต่อไปนี้ฉันจะไม่มาทำให้นายรำคาญใจอีก ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัว!” มาร์คตัดบทฉับไวอย่างน่าใจหาย

    จินยองปาดน้ำตามองมาร์คเลื่อนผ้าม่านแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้แต่เสียงสะอื้นท่ามกลางความเงียบงันที่แสนปวดร้าวเสียดแทงหัวใจทั้งสองดวงโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

     

     
























     

    กริ้งงงงงงงง กริ้งงงงงงงงงงงงง

    เวลาเลิกเรียน เสียงระฆังทองดังก้องไปทั่วทั้งมุมสถานศึกษา สรรพชีวิตนักเรียนไหลหลั่งกันกลับบ้าน บ้างก็อยู่ทำกิจกรรมชมรม บ้างก็ยังขลุกอยู่ในห้องสมุด ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องพยาบาลในยามสายของวันนี้ ทุกอย่างดำเนินไปโดยปกติ ยกเว้น... มาร์คและปาร์คจินยอง

    จินยองกลับบ้านพร้อมกับยองแจและมีแจ็คสันพ่วงไปด้วย ทั้งๆ ที่ที่ตรงนั้น ที่ที่อยู่ข้างๆ จินยองมันเคยเป็นของมาร์ค ในขณะที่จินยองกำลังเดินห่างออกไปจากสายตาของมาร์คที่เฝ้าดูอยู่หน้าประตูเรื่อยๆ แบมแบมก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

    “ยืนรอพี่จินยองเหรอครับ” แบมแบมถามเสียงใส

    มาร์คหน้านิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะขยับยิ้มนิดๆ “เปล่าหรอก จินยองเค้ากลับไปแล้ว ว่าแต่เราล่ะ เลิกเรียนแล้วไปไหนต่อมั้ย”

    “ผมเหรอ... เอ่อ ผมมีเรียนพิเศษอ่ะ” แบมแบมตอบ

    “วันนี้ไม่เรียนสักวันได้มั้ย” มาร์คถามต่อ

    “ห๊ะ?”

    มาร์คถามต่อทันควัน “วันนี้ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย”

    “ครับ??” ดวงกลมๆ ของแบมแบมโตกว่าเดิมเพราะความประหลาดใจที่จู่ๆ รุ่นพี่สุดฮอตในโรงเรียนก็มาชวนไปเที่ยว

    “แต่ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ” มาร์คตัดบททำท่าจะจากไป แต่มือน้อยๆ ของเด็กหนุ่มก็พลันคว้าเอาไว้ ดวงแก้มสองข้างอย่างเห็นได้ชัด

    “อยากไปครับ อยากไปเที่ยวกับพี่มาร์ค” แบมแบมตอบอย่างประหม่า มาร์คยิ้มอย่างพึงใจก่อนจะถือวิสาสะจับมือแบมแบมเอาไว้แน่น

    “ไปกันเถอะ” มาร์คกระชับมือแน่นราวกับจะปกป้อง ทั้งแววตาอ่านยากแต่ก็แฝงเร้นไว้ด้วยความจริงจังที่จ้องมองมายังเด็กหนุ่มตัวน้อยก็ยิ่งทำให้ความเขินอายปรากฏบนใบหน้า ฝ่ามือที่แสนแข็งแรงของมาร์คทำให้หัวใจของแบมแบมเต้นแรงแทบจะหลุดออกมาจากอก

    ทั้งสองคนเดินออกไปจากโรงเรียนด้วยกัน ไปทางตรงกันข้ามที่จินยองเดินไปกับยองแจ ราวกับบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเปลี่ยนไประหว่างความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เป็นได้

     

     














     

    ยองแจแยกกับจินยองที่ป้ายรถเมล์ และขึ้นรถเมล์กลับบ้านไปพร้อมกับแจ็คสัน วันนี้ก็อีกเช่นเคย ตามคำสัญญาที่ให้ไว้ ยองแจจะช่วยติวหนังสือให้แจ็คสัน ทำให้วันนี้เป็นอีกวันที่แจ็คสันได้มาเยี่ยมบ้านชเว ซึ่งยังไม่มีใครกลับบ้านมาสักคน ทั้งบ้านจึงมีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น

    แจ็คสันตั้งใจจะสอบเข้าวิศวกรรม แต่เพราะมักเอาเวลาส่วนใหญ่ไปทุ่มให้กับการเล่นบาสเกตบอลเลยทำให้ความสนใจในการเรียนกว่าสองปีที่ผ่านมาลดลง แต่ถึงอย่างนั้น แจ็คสันก็ไม่ใช่คนหัวทื่อ เรียกได้ว่าเป็นนักเรียนที่ครูยองแจสอนได้อย่างไม่หนักหนาสาหัสเลยทีเดียว

    ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง บนเตียงเต็มไปด้วยชีทข้อสอบ และหนังสือที่จำเป็นต่อการจดจำอย่างยิ่งยวด แจ็คสันเอนตัวลงเอาหัวหนุนหมอนเพื่อผ่อนคลาย และมองมายังยองแจที่ยังคงนั่งอ่านข้อสอบอย่างเคร่งเครียดอยู่ใกล้ๆ

    แจ็คสันเผยยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ มันเป็นแบบนี้มาตลอด สำหรับคนทั่วไป ยองแจอาจไม่ใช่คนที่เด่นสะดุดตาสักเท่าไหร่ แต่สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าในห้องเรียน หรือในโรงยิมกว้างๆ ที่เต็มไปด้วยนักเรียนนับร้อย ยังไงเขาก็มองเห็นยองแจเป็นคนแรกเสมอ

    “ครูนี่ขยันกว่าศิษย์อีกเนอะ” แจ็คสันพูดเป็นติดตลก แต่ก็นั่นแหละที่ทำให้ยองแจละความสนใจจากกระดาษตรงหน้าแล้วหันไปมองตาขวางใส่คนพูดแทน

    “มัวแต่อู้ เดี๋ยวเถอะจะโดนฤทธิ์ครูโหมดดาร์ค เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน” ยองแจตอกกลับด้วยน้ำเสียงดุ ทว่าสีหน้ากลับออกแนวหยอกกลับเสียมากกว่า

    แจ็คสันยิ่งฉีกยิ้มกว้างก่อนจะคว้าเรียวแขนนุ่มๆ ดึงร่างของยองแจเข้ามาใกล้โดยไม่ทันตั้งตัว ยองแจเสียหลักหน้าคว่ำลงกับแผ่นอกแกร่งนั้น ใบหน้าตกใจที่เงยขึ้นมาทันควันนั้นอยู่ห่างจากแจ็คสันเพียงแค่ไม่กี่นิ้วเท่านั้น

    “แจ็คสัน นายทำอะไร...ของนาย” น้ำเสียงของคำถามเริ่มแผ่วปลายเมื่อยองแจได้สบกับนัยน์ตาที่เปลี่ยนไปของเพื่อนชาย

    หัวใจที่เคยเต้นเป็นระนาบของยองแจเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาเรียวเล็กกระพริบถี่ด้วยความประหม่า ทว่าแจ็คสันกลับนิ่งสุขุมอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วริมฝีปากของคนอยู่เบื้องล่างก็ค่อยๆ ใกล้เข้ามา...

    เหมือนจะจูบ!

    แต่แล้ว...

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    “ยองแจกลับมาแล้วเหรอลูก” เสียงหญิงวัยกลางคนลอยผ่านมาจากหน้าประตูห้องทำเอาสองมีชีวิตบนเตียงต้องผละตัวออกจากกันโดยอัตโนมัติ

    ยองแจรีบเด้งตัวลงมาจากเตียงวิ่งไปที่ประตู ขณะที่แจ็คสันแทบอยากจะเอาหัวโขลกพื้นที่พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

    “กลับมาแล้วแม่” ยองแจตอบทันทีที่เปิดประตูรับ คุณนายชเวเดินเข้ามาก็พบเพื่อนลูกชายนั่งยิ้มหน้าบานลงมาจากบนเตียงและโค้งเคารพ

    “ผมแจ็คสันครับ เพื่อนของยองแจ”

    “จ้า แต่แม่ไม่เคยเห็นหน้าเรามาก่อนเลย” คุณนายชเวเอ่ยพลางมองหน้าเด็กหนุ่มแล้วยิ้มอย่างสนเท่ห์

    “คนนี้เพื่อนที่โรงเรียนตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วแม่ แต่เพิ่งเคยมาบ้านเราครั้งแรก วันนี้ก็มาติวหนังสือกัน ไม่มีไรมากหรอก” ยองแจอธิบายพลางกลบเกลื่อนพิรุธ แจ็คสันยิ่งเนียนใหญ่

    “ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ปกติเห็นแต่เจ้าจินยองกับแจบอม เวียนกันมาอยู่แค่สองคนนั้นแหละ แต่แม่ดีใจที่วันนี้ลูกชายพาเพื่อนมาอีกคน ยังไงก็มาบ่อยๆ นะ ยินดีต้อนรับเสมอ”

    “ขอบคุณครับ แล้วผมจะมาบ่อยๆ” แจ็คสันยิ้มร่าชอบใจ ยองแจที่อยู่ใกล้ๆ ส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความขบขัน

    “แล้วแม่ออกไปไหนมาอ่ะครับ” ยองแจถามแม่บ้าง เพราะปกติแล้วกลับบ้านมาทีไรก็เจอแม่อยู่ตลอด

    “พอดีว่าแม่แวะเอาพวกอาหารเสริมไปให้คุณยาย อยู่คุยเป็นเพื่อนกับแกนานไปหน่อยเลยกลับซะเย็นเลย ว่าแต่นี่คงหิวกันแล้วละสิ”

    “ก็เริ่มๆ แล้วล่ะ ฮ่า ฮ่า”

    “แจ็คสันก็หิวแล้วใช่มั้ยลูก อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย”

    “ผมอะไรก็ได้ครับ ขอแค่ได้กินที่นี่”

    “แหม ปากหวานจริงๆ นะเรา โอเค งั้นแม่ไม่กวนแล้ว เดี๋ยวสักพักแม่จะเอาของว่างขึ้นมาให้ใหม่ ติวหนังสือกันไปนะ ตั้งใจๆ”

    คุณนายชเวเดินออกไปแล้ว เหลือสองชีวิตในห้องที่มองหน้ากันแล้วก็อดไม่ได้ที่จะระบายยิ้มออกมาอย่างเคอะเขิน ออกอาการทำตัวไม่ถูก

    “อากาศร้อนๆ เนอะว่ามั้ย” แจ็คสันพูดลอยๆ

    ยองแจหัวเราะขำ “หนาวจะตายไม่เห็นร้อนเลย งั้นเดี๋ยวดูหนังสือรอไปก่อนนะ จะไปช่วยแม่ยกของว่างหน่อย”

    ทว่า...ยังไม่ทันที่จะก้าวออกไปจากตรงนั้นก็มีเสียงเพลงร้องมาจากมือถือยองแจที่อยู่บนเตียง ยองแจรีบเดินไปคว้าขึ้นมาดู ข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เจ้าตัวชะงักไปเล็กน้อย ขนาดแจ็คสันยังสะดุดมองด้วยความใคร่รู้

    “ฮัลโหล...” ยองแจรับสาย แต่ไม่นานคิ้วก็เลิกสูงเหมือนประหลาดใจราวกับผิดคาดเมื่อได้ยินเสียงปลายสายไม่ใช่คนที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ต้น

    ขณะที่ตั้งใจปลายสายพูด สีหน้าประหลาดใจก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็นวิตกกังวลแทน

    “ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยเหรอ” ยองแจเอ่ยถาม และไม่นานก็ได้คำตอบ แจ็คสันที่ยืนมองดูอยู่ก็มองด้วยความสงสัยว่ายองแจกำลังคุยกับใครถึงได้สีหน้าเครียดจัด แถมยังทำสีหน้าท่าทางเหมือนกำลังต่อสู้กับความคิดตัวเองอย่างหนัก

    แว๊บหนึ่งที่แจ็คสันคิดว่าปลายสายนั้นคืออิมแจบอม แต่แล้วเขาก็พบว่าไม่ใช่เมื่อยองแจเอ่ยชื่อหนึ่งออกมา

    “ตอนนี้พี่ไม่ว่างเลย เอางี้นะ แจยอนดูแลเค้าไปก่อนนะ หมั่นเช็ดตัวบ่อยๆ ให้ยาทานไปก่อน เค้าแข็งแรงจะตายไป เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเองล่ะ.... นะเชื่อพี่นะ อื้อ สวัสดีครับเด็กดี” ยองแจกดวางสายพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับว่าวินาทีแห่งการเอาตัวรอดได้สิ้นสุดลงแล้ว

    แต่ไม่หรอก เพราะสิ่งที่เด็กสาวชื่อแจยอนบอกกับเขานั้นมันกลับตกค้างอยู่ในส่วนลึกเสียแล้ว

    แจยอนก็คือน้องสาวของแจบอม ซึ่งโทรมาบอกว่าตอนนี้พี่ชายของเธอไม่สบายหนักมาก ที่บ้านไม่มีใครอยู่สักคน ทั้งพ่อและแม่ของแจบอมเดินทางไปทำงานที่เกาะเชจู กว่าจะกลับก็อีกตั้งสองวัน ที่บ้านจึงเหลือแจบอมกับน้องสาวเท่านั้น ตามปกติแล้วต่อให้พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน แจบอมก็สามารถดูแลน้องสาววัย 12 ขวบได้สบายๆ อยู่แล้ว แต่ตอนนี้พี่ชายคนเก่งกลับป่วยซะเอง คิดแล้วมันก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ

    “ยองแจ... ยองแจ.... ยองแจย่า!

    “ห่ะ...ห๊ะ”

    “เป็นไรไปทำไมดูเหม่อๆ ใครโทรมาเหรอ?”

    “อะ...อ๋อ น้องเพื่อนอ่ะ ไม่มีอะไรหรอก เรามาเริ่มติวกันต่อดีกว่านะ” ยองแจตัดบทและรีบกลับไปสนใจที่กองหนังสือเพื่อไม่ให้แจ็คสันถามไปมากกว่านี้ และมันก็ได้ผล

    แจ็คสันกลับมาสู่โหมดอารมณ์ดี และพร้อมที่จะติวหนังสือเหมือนเดิม ขณะเดียวกันยองแจที่เหมือนจะมีสมาธิตั้งใจสอนเพื่อนหนุ่ม แต่ก็ยังมีบ่อยครั้งที่ใจมันวอกแวกไปหาแจบอมที่นอนป่วยอยู่บ้าน จวบจนเวลาพลบค่ำ พระอาทิตย์ลาลับ พ่อของยองแจก็กลับจากที่ทำงาน แจ็คสันก็ได้ฝากท้องที่บ้านหลังนี้ ก่อนจะลากลับบ้านของตัวเอง

     



     

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป....

     

     

     

     

    อัพให้อ่านกันให้ปวดจิตกันแล้ว คือไม่แน่ใจว่าระหว่างไม่ได้อ่าน กับการได้อ่านแล้วมาเจอตอนนี้ ไม่รู้ว่าอย่างไหนเฟลกว่ากัน 5555555

     

    แล้วคือ ไรท์กำลังคิดว่า จะอัพฟิคนี้ต่อจากจัดส่งฟิคแล้ว หรืออัพต่อไปเรื่อยๆ ระหว่างทำเล่มฟิคดี ยังไงก็ ถ้ามีคนอ่านเยอะๆ ก็จะอัพต่อๆ ไปจ้า อ่านแล้วเม้นคือคำตอบที่ดีงามให้ไรท์นะคะ อิอิ

     

    ปล. ฝากอ่านแถลงการณ์ของไรท์ด้วยนะ โดยเฉพาะคนที่สั่งฟิค

     

     

    อัพเดต 29-1-59

     

     

     

     

     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×