ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    And we were then brought together - [ dramione ]

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 18 : I need somebody to heal

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.77K
      164
      3 ก.ย. 63


    Chapter 18
    I need somebody to heal






          ' ฮัลโหล เกรนเจอร์ ได้ยินฉันมั้ย ' เสียงของเดรโกดังออกมาจากโทรศัพท์ เนื่องจากปลายสายของเขาเงียบไปนานผิดปกติ

          ดวงตาสีเฮเซลสบกับดวงตาสีน้ำตาลอมเเดง ด้วยความรู้สึกหวั่น มือเพรียวเผลอกำโทรศัพท์ที่ข้างหูเเน่น 

           " ได้ยิน " เฮอร์ไมโอนี่ตอบกลับเบาๆ เเม้จะรู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ควรวางสาย เเต่หัวใจของเธอกลับไม่อยากทำเสียอย่างนั้น เพราะสถานการณ์น่าหวาดหวั่น มีเพียงเสียงคุ้นเคยจากคนปลายสายเท่านั้นที่ช่วยให้เธอรู้สึกปลอดภัย 

           " คุยกับใคร " เมื่อเห็นอดีตคนรักกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ รอนก็ตวัดเสียงถาม อารมณ์ขุ่นมัวเริ่มกดไม่อยู่ เพราะเฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมละความสนใจจากโทรศัพท์มาที่เขาซักที

           " ... " มีเพียงความเงียบที่เป็นคำตอบ เฮอร์ไมโอนี่ค่อนข้างตกใจ ที่เพิ่งพบว่าตนเองกลัวคนที่เคยรักจับขั้วหัวใจ มือบางทั้งสองข้างชื้นเหงื่อ เเละตัวของเธอเริ่มก็สั่นน้อยๆอย่างไม่มีสาเหตุ 

           โชคดีที่เอลล่าไม่ได้สังเกตอาการแปลกๆของเธอ เเม้เอลล่าจะเป็นลูกต้องคนสนิท เเต่เธอก็ไม่ได้อยากให้เรื่องราวเเย่ๆในอดีตมันเเพร่กระจายออกไปมากนัก เฮอร์ไมโอนี่จึงเรียกเอลล่ามาใกล้ๆ ก่อนจะออกคำสั่งให้หล่อนออกไปเดินเล่นข้างนอกซักครู่ เอลล่าพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับสายตาที่เต็มไปความสงสัย

           " เฮอร์ไมโอนี่ ฉันถามว่าเธอกำลังคุยกับใคร " รอนย้ำเสียงเข้มด้วยใบหน้าเครียดเคร่ง

           " ทำไมฉันจะต้องบอก ส่วนเรื่องข่าว ฉันไม่มีอะไรจะอธิบาย มันก็เป็นไปตามที่นายเห็นนั่นเเหละ รู้อย่างนี้เเล้วก็กลับไปซะ " เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดปากคอสั่น เมื่อเห็นรอนสาวเท้ามาใกล้

           ' เกรนเจอร์ เกิดอะไรขึ้น ' เสียงทุ้มของเดรโกดังขึ้นจากโทรศัพท์

           " ไม่มีอะไร " เฮอร์ไมโอนี่ตอบสาย เเม้สายตายังไม่ละไปจากชายผมแดง

           ' นักข่าวหรอ ' น้ำเสียงทุ้มอบอุ่นกลายเป็นเคร่งขรึมขึ้นภายในเสี้ยววิ

           " มะ..ไม่ใช่หรอก " เฮอร์ไมโอนี่ตอบตะกุกจะกัก เมื่อเห็นว่าอารมณ์ขุ่นมัวของรอนกำลังปะทุขึ้น ผ่านสายตาสีตาลแดงวาว

          " เฮอร์ไมโอนี่ เธอกำลังคุยอยู่กับใคร? "  รอนเค้นถามอีกครั้ง

          " ....... " ดวงตาสีเฮเซลไม่ยอมผละไปจากหนุ่มผมแดงเเม้เเต่วินาทีเดียว ไม่ใช่เพราะละสายตาไม่ได้ เเต่เป็นเพราะระวังตัวต่างหาก หากเขาเข้ามาใกล้เธอเเม้เเต่นิดเดียว เธอก็พร้อมจะหายตัวหนีไปเดี๋ยวนั้น

         " อย่าบอกนะว่านั่นมัลฟอย!? " เหมือนเทวดาดีดนิ้วดังเป๊าะเเล้วรอนก็ได้คำตอบ สีหน้าตกใจของเฮอร์ไมโอนี่เป็นคำยืนยันที่แสนชัดเจน มือหนากำหนังสือพิมพ์เเน่น ก่อนจะปามันลงพื้นเต็มแรง รอนสาวเท้าเข้ามาใกล้ ใช้มือตบหน้าเคาท์เตอร์ดังปัง

          " อย่าเข้ามานะ!! " เฮอร์ไมโอนี่ตวาดด้วยความตกใจ พลางผงะถอยหลังหนีเเละล้มลงนั่งกับพื้นจนสายโทรศัพท์ดึงโทรศัพท์ให้กลิ้งตกจากเคาท์เตอร์

           ' เกรนเจอร์!? เกิดอะไรขึ้น? ' เสียงเข้มกรอกมาตามสายพาให้เฮอร์ไมโอนี่ใจชื้น เธอรีบเเนบหูกับโทรศัพท์เเละตอบกลับไปด้วยเสียงสั่นเครือ

          " รอน...รอนมาหาฉัน "

          ' ไอ้คนเส็งเคร็งนี่! ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ ' เสียงเดรโกพูดลอดไรฟัน 

           " ไม่! อย่าวางสายฉันนะมัลฟอย " ประโยคหลังของเขาทำเธอผวา รู้สึกเเสบหูแสบตาเเละหายใจไม่ออกคล้ายถูกกดหัวลงในเเม่น้ำเย็นเฉียบที่แสนอ้างว้าง พลันได้สติเฮอร์ไมโอนี่จึงตวาดเสียงดังใส่โทรศัพท์รีบห้ามเขาก่อนจะสายไป

           ' หืม '

           " อย่าทิ้งฉัน มัลฟอย อย่าทิ้งฉันไว้ตรงนี้ " เฮอร์ไมโอนี่ขอร้องเขาด้วยเสียงสั่นครือปนสะอื้นทำให้คนปลายสายต้องชะงัก เเละเผลอกำหมัดเเน่น

           " เฮอร์ไมโอนี่!! นี่เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย ขอร้องอ้อนวอนอะไรมันขนาดนั้น! " เสียงตวาดจากรอนทำให้เธอยิ่งตื่นตะหนก เฮอร์ไมโอนี่ถดตัวเข้าไปหลบใต้เคาท์เตอร์ มือบางกำโทรศัพท์เเน่นไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือ เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเธอไว้ขณะนี้

           ' ฉันไม่ทิ้งเธอไปไหนเเน่นอน ถ้าไม่เชื่อ เธอลองนับ 1-3 ไปพร้อมกับฉันนะ ' เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้นจากปลายสายชวนให้เธอร่วมนับเลขไปกับเขา เฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดสงสัย เธอเพียงเเค่หลับตาลง เเละนับเลขในใจตามน้ำเสียงนุ่มที่ดังข้างหู

           ' 1 '

           ' 2 '

           ' 3 '

           โครม! 

           เสียงคล้ายของหนักตกพื้นดังขึ้นภายในร้าน เรียกให้เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เเม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเเต่เธอก็ไม่คิดจะลุกขึ้นไปดูเด็ดขาด เพราะกลัวว่ารอนอาจจะทำลายข้าวของเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ

          " มัลฟอย.. " เฮอร์ไมโอนี่เลือกที่จะกระซิบเสียงเบาใส่โทรศัพท์เพื่อเช็คว่าคนปลายสายยังอยู่หรือไม่ เดรโกไม่ได้วางสายตามที่เธอขอ เเต่เขาก็ไม่ตอบเธอเช่นกัน

          ไม่นานพอให้เธอได้คิดสงสัย อะไรบางอย่างกระโดดข้ามเคาท์เตอร์เข้ามา เเละรองเท้าราคาเเพงสีดำขลับเงาวับโผล่มาตรงหน้าเธอ เจ้าของร้องเท้าคู่สวยยืนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะค่อยๆย่อตัวลง ก่อนที่ใบหน้าคมคุ้นตาปรากฎขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น

           " ฉันไม่ได้ปล่อยให้เธอรอนานไปใช่มั้ย "

           เพียงคำพูดสั้นๆที่เขาเอ่ย ทำให้น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้เอ่อล้นออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ เฮอร์ไมโอนี่โผกอดร่างสูง โถมตัวใส่ราวกับเด็กน้อยจนเดรโกต้องนั่งลงกับพื้น เขาตอบรับกอดนั้นไว้ด้วยความอบอุ่น เขากอดเธอไว้เเนบอกราวกลับกลัวเธอจะแตกสลาย มือผอมลูบไหล่บางเบาๆ พลางกระซิบถ้อยคำปลอบโยนที่ข้างหู ความอบอุ่นของเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งสะอื้นหนัก ซุกตัวเข้ากับร่างสูงคล้ายลูกนกตัวน้อยที่ต้องการไออุ่น

           " ไอ้เวรมัลฟอย เเกกล้ากระชากคอฉันหรอ! " รอนผุดลุกขึ้นยืนด้วยอารมณ์โมโห หลังจากที่อยู่ดีๆร่างสูงก็ปรากฎตัวขึ้นด้านหลัง เเละกระชากคอเสื้อเขาทุ่มลงพื้น ในขณะที่เขากำลังจะปีนเคาท์เตอร์ข้ามฝั่งไปหาเฮอร์ไมโอนี่

            ไร้เสียงตอบรับจากอีกฝั่ง รอนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นดังมาจากหลังเคาท์เตอร์ ร่างสูงก้าวเข้าไปใกล้เสียงนั้นด้วยความรู้สึกอึดอัด ราวกับอากาศรอบตัวถูกกลืนหายไป พาให้เขาหายใจไม่สะดวก ดวงตาสีน้ำตาลแดงเเน่วเเน่ ไม่คิดหลบเเม้จะเจออะไรก็ตาม 

           เเต่ภาพที่ได้เห็นนั้นมันก็เกินจะเอื้อนเอ่ย ภาพที่คนภายในหัวใจกำลังกกกอดอยู่กับคนที่เขาเเสนเกลียด ความอ่อนเเอจนเเทบเเตกสลายของเธอที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เเละที่เจ็บกว่าคือ คนที่ทำให้เธอมีสภาพเเบบนั้น ก็คือเขาเองใช่ใครอื่น 

           ไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นอาการสั่นกลัวของเธอ เเต่เขาดันเลือกที่จะเห็นทิฐิเเละอารมณ์ร้อนของตัวเองมาก่อน รักหรือ? เขาคิดว่าสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้ มีความรักเป็นส่วนน้อย เเละมีความเห็นแก่ตัวเป็นส่วนใหญ่ เขารู้ดีว่าเขาเเย่ เเล้วก็คงจะไม่มีใครที่รับเขาได้มากเท่าเฮอร์ไมโอนี่อีกเเล้ว เขาจึงหวง จึงอยากให้เธอกลับมา จึงไม่เคยคิดถึงจิตใจของเธอ 

         ตลอดเวลาที่ผ่านเขารักเธอ เเต่เขาก็รักตัวเองมากกว่า เขาอยากได้ อยากครอบครอง อยากเป็นตัวของตัวเอง อยากทำอะไรก็ได้ตามใจเขา โดยไม่คิดถึงคนที่คอยอยู่ข้างๆเสมอมา 

           มาวันนี้ เมื่อได้เห็นสิ่งที่พวกเขาทำให้กัน เขาถึงได้รู้สึกละอาย เฮอร์ไมโอนี่คล้ายกับตุ๊กตาแก้วที่เเตกสลายด้วยน้ำมือของเขา เดรโกที่ค่อยๆใช้สองมือกอบเศษเเก้วนั้นไว้  ประคับประคองมันอย่างระมัดระวัง เเละค่อยๆหล่อมันขึ้นมาใหม่ด้วยความใจเย็น เพราะแบบนั้นเขาจึงได้รู้ตัว ว่าต่อให้เฮอร์ไมโอนี่กลับมา เขาก็คงทำให้เธอได้ไม่เท่ากับที่ร่างสูงตรงนั้นกำลังทำ เเม้มันจะเรื่องง่ายๆอย่างปลอบโยนคนรัก เเต่เขารู้ดีว่าถ้าเป็นเขา เขาจะไม่มีวันทำได้

            ไม่ใช่เพราะมันยากเกินความสามารถ เเต่มันคงเป็นเพราะเขารักเธอไม่มากพอต่างหากล่ะ
    .
    .
    .
    .



          " กลับไปทำที่ห้องทำงานจะสะดวกกว่ามั้ย "

          " ตรงนี้ก็สะดวกดี "

          โชคดี

           ไม่มีคำไหนที่เหมาะสมไปมากกว่าคำว่าโชคดีอีกเเล้ว เฮอร์ไมโอนี่ลอบมองใบหน้าขาวที่กำลังอ่านเอกสารในมือด้วยท่าทีสุขุม พลันในหัวก็นึกย้อนไปถึงวันนั้น เธอยอมรับว่าเธอกลัวจนเเทบเสียสติ เเละเธอก็โชคดีมากที่ได้เดรโกเข้ามาช่วยได้ทันเวลา 
          
            ความอบอุ่นจากอ้อมกอดเเกร่งที่คอยลูบหัวลูบหางอยู่นานนับชั่วโมงจนเธอสงบ ยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนร่าง เธอยังรู้สึกเหมือนเขากอดเธอไว้อยู่เสมอ น่าแปลกที่มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยได้อย่างประหลาด นึกเเล้วก็ยกมือเพรียวขึ้นลูบไหล่บริเวณที่เขาเคยลูบปลอบเธอ

          " เจ็บหรอ " เสียงทุ้มจากคนตรงข้ามดังขี้น เรียกให้เธอต้องหยุดมือ คิ้วเรียวบนใบหน้าขาวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย พลางขยับมือผอมยกกาแฟแก้วโปรดขึ้นดื่ม

          " เปล่า ฉันเเค่คันเฉยๆ " เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เดรโก้เพียงเเค่พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหยิบชอทเบรดขึ้นกัด

           " เรื่องภารกิจมีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย " เฮอร์ไมโอนี่ถาม ก่อนจะยกน้ำผลไม้ขึ้นดื่มบ้าง

           " ไม่มาก คิงส์ลี่ย์บอกว่าพวกเขาได้เพียงข่าวซุบซิบถึงแหวนตระกูลเพฟเวอเรลล์ เเต่ยังไม่มั่นใจนักว่ามันอยู่ที่นั่นจริงๆรึเปล่า " เดรโกตอบ พร้อมกับขยับมือปิดเอกสาร 

          " ที่ไหน? " 

          " ร้านบอร์เจ็นแอนด์เบิร์ก " เดรโกตอบทันควัน เเละคำตอบของเขาก็ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องกลืนน้ำลาย เเม้สายตาของเขาจะทอดมองไปยังนอกหน้าต่าง เเต่เธอก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์สั่นไหวของเขา

          " อ่า " เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแห้ง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันจะกระทบจิตใจของเขามากเเค่ไหน เพราะอดีตที่อยากสลัดทิ้งดันกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง มันไม่ใช่เพียงเเค่ชื่อร้าน เเต่ยังมันเชื่อถึงเหตุการณ์ร้ายกาจในอดีตที่มันไม่เคยสลายหายไปเข้าด้วยกัน

          " เอาเถอะ ยังไงซะมันก็ยังอยู่ในขั้นรอการพิสูจน์ มันอาจจะอยู่หรือไม่อยู่ที่นั่นก็ได้ รออีกซักหน่อยเถอะ ยังมีเวลาเหลือพอให้ระลึกอดีตกันอีกเยอะ " เดรโกเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มแปลก ก่อนจะยกกาแฟขึ้นจิบ เเละทอดสายตาเย็นเฉียบออกไปนอกหน้าต่าง เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบอะไรออกไป เธอเพียงเเค่ลอบมองเสี้ยวใบหน้าคมด้วยสายตากังวล 

           หากเป็นไปได้ หากถ้าเขาให้โอกาสเธอ เธอก็อยากจะกอดเขาไว้เเนบอก ลูบหัวไหล่กว้างเบาๆ พลางเอ่ยกระซิบถ้อยคำอบอุ่นอย่างที่เขาทำบ้างซักครั้ง 

           หากเธอมีโอกาสน่ะนะ





    -------------------------
     TALK TALK WITH Nanypp_

           สวัสดีค่าาาา หายไปนานมั้ยเอ่ยยยย กลับมาเเล้วน๊าาา คิดถึงตาเดรกมากกกกๆๆๆๆเลยเเหละทุกคนน

           นู๋เฮอตอนนี้อะไรก็ฉุดไม่อยู่เเล้วววว อินเลิฟไม่ไหวเเล้วค่าา 555555 เเต่ก็ไม่เเปลกหรอกค่ะ หวั่นไหวกันอยู่เเล้ว ยิ่งตาเดรกเข้ามาได้ถูกจังหวะ เเถมยังเป็นคนที่ช่วยทำให้นู๋เฮอร์รู้สึกปลอดภัย ความประทับใจที่นู๋เฮอร์ได้รับมันไม่ใช่เล่นๆเลยเเหละค่ะะ นู๋เฮอร์มีอาการเเพนิคมาก เเละตาเดรกก็เข้ามาช่วยให้นู๋เฮอร์สงบได้ด้วยความใจเย็นเเละเข้าใจ เป็นใครจะไม่หวั่นไหวบ้างล่ะคะะ เนอะะ 5555

           ตอนนี้ก็ดึกมากเเล้ว ไว้ว่างๆจะมาอัพเดทแก้คำผิดให้ทีหลังนะคะะ


           เข้ามาให้กำลังใจ ติชม หรือมาพูดคุยกันได้ผ่านทางคอมเม้น หรือจะเป็น twitter : @nanypp_ เเละ #bringtogetherDMHG ก็ได้นะคะะ จะบอกว่ากำลังใจของทุกคนมีค่าสำหรับเราจริงๆนะคะะะ เวลาที่เราท้อ เวลาที่เราเจอปัญหา ก็ได้คอมเม้นของทุกคนนี่เเหละค่ะ ที่ผลักเราขึ้นมาให้มีเเรงฮึบ ขอบคุณจริงๆนะคะะ



    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×