ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    And we were then brought together - [ dramione ]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 : When winter is freezing

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 62


    Chapter 3
    When winter is freezing




         อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันสิ้นปี บรรยากาศหนาวๆและควันหลงวันคริสมัสยังหลงเหลืออยู่เล็กน้อย หิมะยังตกปกคลุมถนนและทางเดินบางส่วนเช่นเดิม ร้านหนังสือโทนสีน้ำตาลอบอุ่นยังคงเปิดให้บริการปกติ แต่ที่ต่างไปจากปกติคือมีลูกค้าเข้ามาซื้อเครื่องดื่มร้อนเยอะเป็นพิเศษ เฮอร์ไมโอนี่คิดเอาเองว่าอาจจะเป็นเพราะว่า วันนี้เป็นวันที่อากาศหนาวที่สุดในรอบปี ทำให้ใครหลายคนต้องเรียกหาเครื่องดื่มอุ่นๆทาน ร่างบางนั่งลงที่พื้น ง่วนอยู่การจัดหนังสือใหม่ที่พึ่งส่งมาถึงร้านเมื่อเช้า มือบางเรียงหนังสือเเต่ละเล่มเข้าชั้นหนังสือตามหมวดหมู่และเป็นระเบียบ ก่อนที่นัยตาสีเฮเซลจะเหลือบไปเห็นลูกค้าประจำสวมสูทสีดำสนิท เดินเข้ามาที่ร้านด้วยอาการเร่งรีบแปลกๆ เขาสั่งเครื่องดื่มกับเอลล่าอย่างคุ้นชินแล้วยืนรอที่เคาท์เตอร์ เฮอร์ไมโอนี่จึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปทักทาย

     

         " สวัสดีค่ะ วันนี้สั่งอะไรหรือคะ " เเขนเรียวเท้าเคาท์เตอร์ก่อนจะเอียงหน้าทักทายลูกค้าประจำของเธอ 

     

         " เหมือนเดิมกับของเจ้านายอีกแก้วนึงน่ะครับ " หนุ่มร่างหนาตอบกับอย่างสุภาพเช่นเคย พลางถูฝ่ามือเล็กน้อยคลายความหนาว ถึงแม้ในร้านจะอบอุ่นอย่างประหลาด แต่อาการชาที่ปลายมือจากอากาศเย็นเยือกข้างนอกร้านก็ไม่หายไปง่ายๆ

     

         " ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ แต่คนอย่างคุณดูไม่ใช่คนที่จะเป็นลูกน้องใครเลยนะคะ " เอลล่าเอ่ยขึ้นจากหลังเคาท์เตอร์ด้วยท่าที่เขินนิดๆ ให้ลูกค้าประจำที่เธอแอบกรี๊ด เฮอร์ไมโอนี่แอบมองเอลล่าอย่างตำหนินิดๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม พลางก้มหัวน้อยๆอย่างขอโทษแทนลูกน้องของเธอ

     

         " ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ หลายคนก็ทักผมแบบนี้ ช่วยไม่ได้ที่ลุคผมมันน่ากลัวไปหน่อยน่ะครับ " ลูกค้าหัวเราะเบาๆอย่างเข้าใจ เอ่ยเสียงนุ่มตอบกลับเอลล่าอย่างสุภาพ ด้วยท่าทีนั้นของลลูกค้าหนุ่ม พนักงานสาวผมสั้นแทบจะกรี๊ดเสียให้รู้เเล้วรู้รอดไป 

     

         " ฉันมีของจะให้คุณค่ะ " เมื่อแก้วกาแฟสองแก้วถูกนำออกมาเสิร์ฟ เฮอร์ไมโอนี่รีบก้าวไปหลังเคาท์เตอร์ แล้วก้มหยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลเล็กๆยื่นให้พร้อมกับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง ร่างหนาหยิบมาเปิดดูก็พบสกอตติชชอตเบรดของโปรดจำนวนสามชิ้นอยู่ในถุง ตาคมเบิกกว้างอย่างดีใจ รีบเงยหน้ามองเจ้าของร้านคนสวยตาเป็นประกาย

     

         " ถือว่าเป็นของขวัญเล็กน้อยๆจากพวกเราแล้วกันนะคะ ฉันต้องขอบคุณจริงๆที่คุณอุดหนุนฉันมาตลอด ไม่มีใครมาอุดหนุนร้านฉันบ่อยเท่าคุณเลยค่ะ " เฮอร์ไมโอนี่ดึงมือเอลล่า ผู้ช่วยสาวตัวเล็กผมสั้นมายืนข้างๆเธอ ก่อนที่ทั้งสองสาวจะยิ้มให้ลูกค้าประจำอย่างขอบคุณ

     

         " ขอบคุณจริงๆนะครับ ไว้ผมจะมาบ่อยขึ้นอีกนะครับ " ลูกค้าสวมสูทดำระบายยิ้มกว้าง รู้สึกดีในอกอย่างบอกไม่พูด เขาพยักหน้าให้พวกเธอเล็กน้อย ก่อนจะยกมือบ๊ายบายและหันหลังเดินออกจากร้านไป

     

         เฮอร์ไมโอนี่ถองศอกใส่เอลล่าที่มองตามลูกค้าหนุ่มไปจนสุดสายตาอย่างหยอกล้อ ก่อนที่ผู้ช่วยสาวจะเเอบหยิกเจ้านายเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวที่หยอกล้อเธอ สองสาวหัวเราะให้กันเบาๆ แล้วแยกย้ายออกไปทำงานที่ค้างไว้ของตน

    .

    .

    .

    .

     

         ขายาวของเดเมียนรีบจ้ำไปที่รถคันหรูให้เร็วที่สุด ถึงแม้อากาศจะหนาวจับขั้วหัวใจแต่เขาก็ยังเดินฝ่าลมไปด้วยความเร็ว เขายกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูขึ้นดูก่อนจะถอนหายใจแรง เพราะพวกเขากำลังจะสาย! วันนี้คุณมัลฟอยมีนัดประชุมกับลูกค้ามักเกิ้ลรายใหญ่ หากไปไม่มันเวลาจะเป็นภาพลักษณ์ของบริษัทก็อาจจะเสียหายเล็กน้อย

     

         เช้าวันนี้เกิดความผิดพลาดขึ้นหลายประการ เมื่อคืนเดรโกต้องนอนพักที่อพาร์ทเมนต์หรู ที่เขาซื้อเก็บไว้ในโลกมักเกิ้ล เพื่อความสะดวกเวลาที่ต้องมาติดต่อทำธุระในโลกมักเกิ้ล แต่เมื่อคืนเจ้านายของเขาดันน็อคหลับไป เพราะทำงานดึกติดต่อกันหลายคืน ทำให้ต้องเดือดร้อนเดเมียนขึ้นมาปลุกถึงบนห้อง ทั้งๆที่นัดกันไว้ว่าจะมาเจอกันที่รถ และในที่สุดพวกเขาก็ออกเดินทางสายกว่ากำหนดไปถึงยี่สิบนาที แต่ถึงแม้จะสายแล้ว เดรโกก็ยังร้องเรียกหากาแฟ โดยให้เหตุผลว่าถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟตอนเช้าหัวของเขาจะไม่แล่น และคงทำงานร่วมกับลูกค้ามักเกิ้ลเจ้าปัญหานั่นได้ไม่ดีนัก

     

         เดือดร้อนเดเมียนอีกรอบ ต้องเเวะจอดซื้อกาแฟให้เจ้านายผู้มากความ โชคดีที่ร้านกาแฟร้านโปรดอยู่ไม่ห่างจากคอนโดมากนักและเป็นทางผ่านพอดี เดเมียนจึงได้โอกาสแวะจอดร้านประจำ ถือซะว่าเป็นโชคดีของเขาที่ทำให้เจ้านายชิมกาแฟร้านโปรดที่เขามักจะคะยั้นคะยอให้ลองชิมได้ซักที แถมยังโชคดีเหมือนเมอลินมาโปรดซ้ำสอง เขาได้ของขวัญล่วงหน้าวันปีใหม่จากเจ้าของร้านคนสวย เธอให้สกอตติชชอตเบรดของโปรดกับเขา สารภาพเลยว่าเขาดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ขนมโปรดมาทานเป็นมื้อเช้า แต่ยังไงซะ เขาจะยอมสละของขวัญชิ้นนี้ให้เจ้านายก็ได้ วันนี้แหละที่เจ้านายของเขา จะได้ชิมขนมและกาแฟแสนอร่อยนี่เสียที

     

         " นานไปหน่อยนะ เดเมียน " เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทันทีที่ตูดเขาแตะเบาะที่นั่งคนขับ เดเมียนหันไปยิ้มกว้างให้เจ้านาย มือหนารีบยื่นแก้วกาแฟอเมริกาโน่ให้ พร้อมกับถุงสีน้ำตาลเล็กๆที่บรรจุชอตเบรดอยู่ภายใน เพื่อให้เดรโกได้ทานคู่กัน

     

         " ขนมปังนี่อะไร " เดรโกเอ่ยถาม เมื่อลองเปิดถุงสีน้ำตาลใบเล็ก ก็พบขนมปังก้อนเหลี่ยมๆไม่ใหญ่มาก จำนวน 3 ชิ้นนอนเเอ้งแม้งอยู่ก้นถุง ระหว่างรอคำตอบ เดรโกยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนจะแอบชื่นชมในใจกับรสชาติกาแฟที่กำลังพอดี เป็นรสชาติที่เขาชอบ ชักจะหายสงสัยหน่อยๆแล้ว ว่าทำไมเลขาตัวโตถึงเชียร์ให้เขาลองนัก 

     

         " มันคือสกอตติชชอทเบรดครับ อร่อยมากๆ นี่เป็นขนมโปรดของผมเลยล่ะ จริงๆวันนี้ไม่มีขายขนมนะครับ แต่เจ้าของร้านเขาให้มา " เดเมียนตอบเสียงใส พลางแอบมองท่าทางของเดรโกผ่านกระจกมองหลัง เขาแอบดีใจนิดๆที่ดูเจ้านายจะชอบรสชาติกาแฟ เพราะถ้าเจ้านายเรื่องมากคนนี้ไม่เอ่ยติอะไร นั่นก็เท่ากับผ่านฉลุย

     

         " ตกลงนายชอบเจ้าของร้าน หรือเจ้าของร้านชอบนาย " เดรโกเอ่ยหยอกล้อ ก่อนจะหยิบขนมปังออกมากัดคำเล็กๆ เดรโกหมดข้อสงสัยที่ว่าทำไมเดเมียนถึงเป็นแฟนตัวยงของร้านเล็กๆนี่ทันที ขนมปังกรุบกรอบที่หอมเนยและหวานนิดๆในปากของเขา ตอบคำถามที่เค้าสงสัยได้ดีเลยที่เดียว ถึงเเม้ดูรูปร่างควรจะไปอยู่บนเซทน้ำชา แต่เมื่อทานคู่กับกาแฟก็เข้ากันดีไม่ได้ประดักประเดิดอะไร เดรโกนั่งทานเงียบๆอยู่เบาะหลัง

     

         " ในร้านนั่นมีคนชอบผม เเต่เธอไม่ตรงสเปคของผมเลย อ้อ ไม่ใช่เจ้าของร้านหรอกนะที่ชอบผมน่ะ " เดเมียนเอ่ยตอบ เมื่อละสายตาไปมองเจ้านายที่นั่งเคี้ยวขนมตุ้ยๆพลางดื่มกาแฟสลับ เห็นอย่างนี้คำตอบก็ชัดเจน เดรโกติดใจร้านโปรดของเขาน่ะสิ! ปกติแล้วเจ้านายของเขาจะทานกาแฟกับคุกกี้ชิ้นเล็กๆเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ยิ่งตาคมสีดำเห็นเจ้านายหยิบชอตเบรดชิ้นที่สองขึ้นมากัด ก็ฉีกยิ้มกว้างทันที ก่อนจะเอ่ยเเซว

     

         " อร่อยหรอครับ คุณมัลฟอย "

     

         " ธรรมดาหรอก! อุ้ก! แค่ก แค่ก " คำแซวของเดเมียนทำให้เดรโกสะดุ้ง รีบตวาดตอบกลับเดเมียนจนลืมไปว่าตนเคี้ยวขนมอยู่ ปฏิกิริยานั้นทำให้ขนมชิ้นที่ไม่ละเอียดหลุดลงคอไปจนเขาสำลัก

     

         เดเมียนเห็นเจ้านายสำลักก็ตกใจ กระวีกระวาดหาที่จอดรถ เมื่อเห็นที่ว่าง เขาก็รีบทิ่มหัวรถเข้าไปทันที ขณะที่ร่างหนาคว้ามือจับประตู หวังจะลงไปช่วยเจ้านายที่นั่งทุบอกอยู่ที่เบาะหลัง เลขาหนุ่มก็ต้องชะงักเพราะหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตถูกเหวี่ยงมาหาเขาจากคนที่ไอค่อกเเค่กอยู่นั่นล่ะ เลขาหันไปมองเจ้านายของตนอย่างงงงวย 

     

         " จอดรถทำไม! แกลืมไปแล้วรึไงว่าตอนนี้เราสายโด่งแล้ว!! " เดรโกจะพยายามแค่นเสียง ก่อนที่เดรโกจะกลับมาไอค่อกแค่กจนหน้าแดงเพราะสำลักน้ำลายซ้ำเข้าไปอีก เดเมียนไม่รู้จะทำอย่างไร กลัวโดนด่าจนหูขาดก็กลัว แต่ที่กลัวมากกว่าคือเจ้านายตาย ร่างหนาจึงเสกขวดน้ำแล้วรีบยื่นให้คนด้านหลัง เดรโกคว้าน้ำเปล่ามาดื่มพลางส่งสายตาเขียวปั้ดมาให้ มือไม้ก็ชี้โบ้ชี้เบ้ให้รีบออกรถ ไม่ต้องสนใจตนเอง นัยตาสีดำฉายแววลังเล แต่ก็เลือกที่จะออกรถตามคำสั่ง เมื่อเห็นว่าอาการของเจ้านายดีขึ้นหลังจากได้ดื่มน้ำ

     

         " ฉันแค่ลำสัก ไม่จำเป็นจะให้นายมาช่วยลูบหลังเหมือนเด็กห้าขวบหรอกนะ! " เดรโกหันมาเเหวใส่เค้าก่อนจะกระแทกตัวเข้ากับเบาะที่นั่งอย่างเสียอารมณ์ ยังมีอาการไอค่อกเเค่กให้ได้ยินอยู่บ้าง เเต่เมื่อเดเมียนแอบเหลือบมองคนด้านหลัง ก็ต้องสบกับดวงตาค้อนเขียวปั้ด จนเขาต้องรีบหลบสายตา

     

         ผมก็แค่ถามคุณถึงรสชาติเท่านั้นเองคุณมัลฟอย ผมผิดอะไรเล่า?

    .

    .

    .

    .

     

         " เดเมียน แวะร้านกาแฟเมื่อเช้าให้ฉันที "

     

         เดรโกเอ่ยอย่างเหนื่อยล้า ขณะกำลังนั่งรถกลับจากบริษัท เดรโกหลับตาลงเพื่อลดอาการปวดกระบอกตาจากการนั่งเพ่งตัวหนังสือนานๆ การคุยงานเมื่อเช้าผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะไม่สบายใจนิดหน่อยกับการที่ต้องไปอยู่ในดงมักเกิ้ลนับสิบนานๆ แต่ที่ดูดพลังเขามากที่สุดก็คงจะเป็นงานที่บริษัทสาขาโลกมักเกิ้ลนี่แหละ ถึงแม้เขาจะมีพรสวรรค์ด้านการปรุงยาของโลกเวทมนต์ แต่มันไม่มีความหมายกับการผลิตยาของโลกมักเกิ้ล ด้วยกรรมวิธีในการผลิต หรือวัตถุดิบที่ไม่คุ้นเคย ทำให้เขาต้องแสวงหาประสบการณ์และความรู้อยู่ตลอดเวลา และการที่ต้องดูแลสองบริษัทพร้อมกัน และไหนจะงานเบื้องหลังที่ต้องคอยประคับประคองไปอย่างระเเวดระวัง ทั้งหมดนั่นทำให้เขาเหนื่อยสายตัวแทบขาด และคิดจะขายหุ้นสาขาโลกมักเกิ้ลทั้งหมดทิ้งอยู่บ่อยครั้ง

     

         เขาไม่ได้รังเกียจหรือรู้สึกแบ่งชนชั้นกับมักเกิ้ลเหมือนเมื่อก่อน แต่การที่ต้องคลุกคลีอยู่กับมักเกิ้ลนานๆ นั่นล่ะ ที่ทำให้เค้ารู้สึกอึดอัด และไม่เป็นตัวเองอยู่เสมอ


         เดรโกทอดสายตาออกนอกหน้าต่าง ตึกรามบ้านช่องที่ไม่คุ้นเคยทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เดรโกปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปในอากาศ บรรยากาศของฤดูหนาว ทำให้เค้ารู้สึกว้าเหว่อย่างประหลาด พลันในหัวก็นึกถึงภาพของธีโอ ในวันที่เขาพามันออกมาเดินเล่นในวันหิมะตกเป็นกองพูนหนาอย่างวันนี้ เขายังจำภาพเจ้าหมาตัวโตนั่นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาพที่มันกระโดดโลดเต้นดีใจที่ได้ออกไปข้างนอก หรือจะเป็นภาพที่มันนอนเกลือกกลิ้งบนหิมะอย่างสนุกสนาน ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นก็ทำให้เดรโกเผลอหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัว 

     

         เดเมียนเหลือบตามองเจ้านาย ตั้งใจจะเอ่ยแซวเพื่อทำลายบรรยากาศอึมครึมที่เกิดขึ้นภายในรถ แต่เมื่อได้เห็นเเววตาเศร้าอย่างน่าใจหายของเดรโก เขาก็เลือกที่เงียบและไม่รบกวนเสียดีกว่า

     

         เมื่อรถคันหรูชะลอตัวลง และจอดที่หน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เดรโกถึงได้รู้สึกตัวว่าถึงที่หมายแล้ว นัยตาสีฟ้าซีดมองผ่านกระจกอย่างประหลาดใจ เดเมียนมักจะพูดพร่ำบอกว่าเป็นร้านกาแฟ เเต่ที่เขาเห็นตรงหน้านี่คือร้านหนังสือขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ส่วนหน้าร้านไม่ได้กว้างขวางนัก แต่เมื่อตั้งใจมองให้ดี จะเห็นว่าตัวร้านมีลักษณะลึกเข้าไปด้านใน ร้านหนังสือนี้ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลให้รู้สึกอบอุ่นสายตา เพียงแค่มองจากภายนอก ก็ทำให้เขานึกถึงห้องสมุดที่ฮอกวอตส์ทันที เมื่อสังเกตดูดีๆตาคมก็ยิ่งประหลาดใจกับนกฮูกตัวหนึ่ง ที่ยืนเกาะอยู่บนขอนหน้าตรงบริเวณกระจกดิสเพลย์

     

         " นายกลับไปได้เลย เสร็จเดี๋ยวฉันจะหาที่หายตัวกลับไปเอง " เดรโกบอกเสียงเรียบ มือขาวคว้ามือจับประตู แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเลขาหันควับมามองอย่างมีอะไรจะพูดกับเขา 

     

         " คุณมัลฟอย เจ้าของร้านเป็นผู้วิเศษครับ ในร้านจะมีห้องหายตัวสำหรับผู้วิเศษอยู่ชั้นบน หากต้องการจะใช้ให้พูดกับเจ้าของร้านว่า อยากกินแอปเปิ้ลเขียว เเล้วเจ้าของร้านจะพาไปครับ " เดเมียนรีบอธิบายให้เจ้านายฟัง และคำอธิบายของเลขาผมดำ ก็ไขข้อสงสัยของเดรโกเกี่ยวกับนกฮูกที่ดูผิดที่ผิดทางในร้านหนังสือได้เป็นอย่างดี คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆอย่างเข้าใจ 

     

         " เดเมียน วันที่ไปคุยกับแอสโทเรีย ฉันอยากจะฝากให้นายเค้นหล่อนเกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่ธีโอหายไปอีกครั้ง ฉันต้องการเบาะแสมากกว่านี้ " เดรโกเอ่ยทิ้งท้ายเป็นเชิงคำสั่งให้กับเลขาคนสนิท เดเมียนพยักหน้ารับและจดคำสั่งของเดรโกลงในสมุดเล่มเล็กเหมือนอย่างเคย 

     

         รถคันหรูของเดเมียนขับออกไปทันทีที่เขาก้าวลงจะรถ มือขาวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเเละกลัดกระดุมสูทเพื่อบุคลิกที่ดี แต่เมื่อตาคมเหลือบไปเห็นชื่อร้านก็ต้องขมวดคิ้วเเน่น

     

         " Reparo? เอาจริงดิ? " เดรโกพึมพัมออกมาเบาๆ อย่างอึ้งๆกับชื่อร้านที่ผู้วิเศษคนนั้นเลือกใช้

     

         เดรโกเดินเข้าร้านด้วยท่าทางดูดี ทันทีที่รองเท้าสีดำเงาเเตะกับพื้นไม้สีน้ำตาลของร้านหนังสือ ทั้งร่างกายและความรู้สึกของเขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างประหลาด เดรโกเดาว่าคงเป็นคาถาที่เจ้าของร้านร่ายเอาไว้ เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งที่หน้าประตู เรียกคนในร้านให้หันมองคนที่มาใหม่ราวกับโดนสะกด เดรโกชักสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเดินลึกเข้าไปในร้านสีเฮเซล 


         สายตาคมลอบมองชั้นวางหนังสือภายในร้าน ที่มีหนังสือที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ การจัดวางสิ่งของต่างๆภายในร้าน ทำให้เขารู้สึกสนใจอยากจะลองเข้าไปเลือกซื้อดู ถ้าให้เขาเดาในร้านน่าจะมีหนังสืออยู่ไม่ต่ำว่าพันเล่มแน่นอน แม้ว่าเนื้อที่ภายในร้านจะเล็ก เเต่ก็ยังดูโปร่ดโปร่งโล่งสบาย นับว่าเจ้าของร้านฉลาด ในการนำเสนอสินค้าอย่างหนังสือพวกนี้ มันทั้งเป็นระเบียบ ไม่รกรุงรัง หาหนังสือที่ต้องการได้ง่ายเพราะทางร้านจัดเรียงหมวดหมู่ไว้อย่างดี 


         ถึงเเม้จะเป็นร้านหนังสือ แต่ด้วยการจัดร้านทำให้ร้านหนังสือร้านนี้มีเสน่และไม่ดูเคร่งเครียดจนเกินไป เดรโกรู้สึกชื่นชมและประทับใจร้านหนังสือแห่งนี้อย่างมาก แอบคิดวางแผนหาเวลามาเลือกดูหนังสือที่น่าสนใจ และนั่งทานขนมกับกาแฟในโซนคาเฟ่ของทางร้าน ถัดจากหน้าร้านเพียงไม่กี่ก้าว ก็พบกับโซนคาเฟ่ เดรโกเห็นเคาท์เตอร์ไม้ขนาดไม่ใหญ่นัก เขาสังเกตจากป้ายเมนูกาแฟก็รู้ว่านั่นคงเคาท์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม ขายาวในกางเกงสเเล็คเดินตรงไปอย่างไม่รีบร้อน ด้วยเสียงฝีเท้าที่เงียบกริบอย่างผู้ถูกสั่งสอนมาดี

     

         ระหว่างที่เดรโกก้าวเข้าใกล้เคาท์เตอร์เรื่อยๆ ตาคมสีซีดใสไม่ได้ตั้งใจจะแอบมอง เเต่กระดาษในมือบางๆของพนักงานผมลอนสีน้ำตาลสวย ดึงสายตาเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ เอกสารนั่นเค้าคุ้นเคยดีเลยล่ะ เพราะเขาเองก็พึ่งจะได้เซ็นไปเมื่อหกเดือนก่อน เดรโกคิดว่าพนักงานคนนี้คงกำลังสนใจไอ้เอกสารนั่นมากจนไม่รู้สึกตัวว่ามีลูกค้าเดินมาหยุดรอที่หน้าเคาท์เตอร์แล้ว เขาไม่อยากจะรบกวนเวลาส่วนตัวของหญิงสาวคนนั้นเท่าไหร่นัก แต่เขาก็อยากดื่มกาแฟซักแก้วจนจะแย่ เดรโกเม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจ ก่อนจะเคาะนิ้วเรียวลงบนเคาท์เตอร์เบาๆ เกิดเสียงเคาะเล็กๆ เรียกความสนใจจากพนักงานให้หันมารับออเดอร์อยากตกใจ


         พนักงานสาวสะดุ้งอย่างแรง รีบม้วนเอกสารเก็บใส่กระเป๋าผ้ากันเปื้อน เเละหันมาหาลูกค้าด้วยสีหน้าตื่น พร้อมกับเอ่ยขอโทษที่ทำให้เสียเวลา แต่ทันทีที่เห็นใบหน้าของลูกค้าก็เบิกตากว้าง และร้องออกมาอย่างตกใจ

     

         " ขอโท.... มัลฟอย!?

     

         คิ้วเรียวของเดรโกขมวดแน่นกว่าเคย ผงะถอยหลังจะเคาท์เตอร์ไม้ไปเล็กน้อย ใบหน้าได้รูปฉายแววตกใจอย่างปิดไม่มิด ปากบางขยับเอ่ยออกมาด้วยเสียงไม่เบานักอย่างคนไม่อยากจะเชื่อ

     

         " เกรนเจอร์? "



    -------------------------------------------

     TALK TALK WITH nanypp_

         สวัสดีค่าาาา เช้าเเล้วนะคะะ ตื่นมาอ่านกันเร๊ววว เเต่เรายังไม่ได้นอนเลยค่ะ//ตาย

         ในที่สุด เดรโกกับเฮอไมโอนี่ ก็ได้เจอกันเเล้วค่าาาาา เฮ้!!!!!!! เจอกันซักทีน้ำตาจะไหล

          ในตอนนี้ เราได้เห็นร้านหนังสือของเฮอร์ไมโอนี่อย่างละเอียดขึ้น ผ่านสายตาของเดรโกค่ะ เราพยายามที่จะใส่ความฉลาดเเละตัวตนของเฮอร์ไมโอนี่ลงไปในร้านหนังสือร้านนี้ให้มากที่สุด เพราะเฮอร์ไมโอนี่ทุ่มเทกับมันมากเเละรักมันมากจริงๆค่ะ เดรโกก็ไม่รู้ตัวชมแล้วชมอีก หากว่าตรงร้านหนังสือทำให้ทุกคนงงๆก็ขอโทษด้วยนะคะะ ยังไม่ได้นอนเลย อาจจะมึนๆเอ๋อๆ 555

         ส่วนในพาร์ทของเดรโก ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ถึงเเม้เดรโกจะเป็นคนเก่งเเละฉลาดคนนึง เเต่ก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์ที่จะนั่นทำนี่ได้ทุกอย่าง บริษัทของเดรโกไปได้ดีก็จริง เเต่มันต้องเเลกกับอะไรหลายๆอย่าง อย่างความเหนื่อยล้า หรือการที่ต้องเสียสละเวลาส่วนตัวมาศึกษาเกี่ยวกับยาของมักเกิ้ลอีก เเทนที่จะเป็นคุณชายนอนสบายๆ และไหนจะธุรกิจเกี่ยวกับศาสตร์มืดของนางอีก เรียกว่าเดรโกต้องกัดฟันสู้กับงานเลยค่ะ

         อีกเหตุผลที่เราตัดสินใจเขียนตรงนั้นออกมาก็เพราะว่า เราคิดว่าเดรโกในตอนนี้คงจะซับซ้อนมากๆเลยค่ะ เราเลยอยากเขียนให้เห็นมิติของเดรโกให้มากที่สุด อายุยังไม่เท่าไหร่ เเต่ก็สามารถที่จะเปิดบริษัทของตัวเองได้เเล้ว ทั้งต้องมีความรับผิดชอบ ไหนจะมีความกดดันจากสายตาคนอื่นจากอดีตที่ผ่านมา ไหนจะการพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ไหนจะเรื่องวุ่นๆตลอดที่คบกับเเอส ไหนจะหมาหาย ไหนจะเหนื่อยจากงาน ไหนจะรู้สึกอยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง โถอยากหอมหัว


         สุดท้ายนี้ เราอยากจะขอขอบคุณทุกคนที่ให้พลังการเรานะคะะ กำลังใจของทุกคนมีค่ามากๆเลยค่ะะะ ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยซัพพอร์ตเรานะคะะ รู้สึกนุ่มฟูจริงๆ 555

         เหมือนเดิมค่ะะ เข้ามาพูดคุยหรือให้กำลังใจเราได้ทางคอมเม้น เเละทาง twitter : nanypp_ หรือทางแท็กฟิค #bringtogetherDMHG นะคะะ สามารถเข้ามาให้กำลังใจ หรือพูดคุยเเละติชมได้ตลอดเลยนะคะะ เราพึ่งมาได้สัมผัสเองจริงๆว่าคอมเม้นและกำลังใจของทุกคนมีความหมายมากๆเลย เราเเคปทุกทวิต ทุกข้อความ ทุกคอมเม้นเก็บไว้เลยยย เลิฟทุกคนมากๆ อยากกระโดดกอด


    ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ :)




          

         



    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×