ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    And we were then brought together - [ dramione ]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 : It begins on Christmas day

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 62


    Chapter 1 
    It begins on Christmas day



         ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขของเทศกาลคริสมัสช่วยทำให้เธอรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นบ้างเล็กน้อย หญิงสาวผมลอนเดินทอดน่องออกจากอพาร์ตเมนต์ที่เธอแอบรอนซื้อเก็บไว้ เฮอร์ไมโอนี่ยังรู้สึกโหวงคล้ายกับมีรูใหญ่ๆอยู่บนร่างของเธอ เผลอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอกับรอนมีปากเสียงกันเล็กน้อยจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เมื่อสี่วันก่อนเราทะเลาะกันเรื่องที่เธอกลับบ้านช้า เพราะมัวแต่อบขนมอยู่ที่ร้านเพื่อเตรียมขายในวันรุ่งขึ้น รอนหายตัวไปโดยไม่เเม้แต่จะลองแก้ปัญหาหรือคุยกันด้วยคำพูดดีๆเสียด้วยซ้ำ เเละในสามวันต่อมา รอนกลับมาที่บ้านด้วยอารมณ์บูดนิดๆ ในคืนคริสมัสอีฟที่ควรจะมีความสุข เราเริ่มมีปากเสียงกันอีกครั้งเพราะรอนต้องการที่จะคืนดีเเละให้เธอง้อเขา แต่เธอก็ไม่ยอม นั่นเลยทำให้รอนหายไปจากบ้านอีกเหมือนเคย

     

         เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเสียใจกับทุกๆอย่าง เธอเก็บหลายสิ่งหลายอย่างมาคิดอย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับปัญหาของทั้งคู่ หรือการที่รอนเป็นปรึกษาที่ให้เธอได้ไม่ดีพอ เพราะเขาเอาแต่ใจตนเองเกินไป รู้อะไรมั้ย ในตอนที่สร้างร้านหนังสือ รอนต้องการให้ร้านของเธออยู่ใกล้กับกระทรวงให้มากที่สุด แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอยากตั้งร้านอยู่ที่โลกมักเกิ้ล เพราะต้องการใช้ชีวิตให้อยู่ใกล้กับพ่อแม่ของเธอมากขึ้นอีกซักหน่อย แต่รอนโมโหมากเเละค้านหัวชนฝา 

         

         เราทะเลาะกันเรื่องเดิมๆอยู่เกือบเดือน มีครั้งหนึ่งที่รอนเข้าไปอาละวาดเเละพังสิ่งก่อสร้างในร้าน ในขณะที่ร้านเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างเเล้ว เดือดร้อนเธอต้องแก้ต่างกับผู้รับเหมามักเกิ้ล ว่าคงเป็นพายุทั้งๆที่ฟ้าใสแจ๋ว เเถมยังต้องควักเงินเพิ่มเพื่อที่จะซ่อมมันอีกครั้ง จนในที่สุดร้านก็เสร็จสมบูรณ์ตามที่เธอต้องการ รอนจึงต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ไปโดยปริยาย เเต่เขาก็ยังยกเรื่องนี้มาเเขวะเธอได้เรื่อย

     

         เมื่อคืนหลังจากที่รอนหายไปในเตาผิง เธอค่อนข้างที่จะเสียศูนย์นิดหน่อยกับพฤติกรรมแย่ๆของเขา อาจจะเพราะว่าความอดทนของเธอหมดลงอย่างสิ้นเชิง ทำให้เธอพร้อมที่จะก้าวออกจากปัญหามากกว่าครั้งไหนๆ เธอใช้เวลาทั้งคืนเก็บสัมภาระที่จำเป็น ใส่ลงในกระเป๋าเดินทางที่เสกคาถาขยายพื้นที่เอาไว้ บ้านหลังเล็กของเธอกับรอน อ้อ ไม่สิ ต้องเรียกว่าบ้านของรอน บ้านของรอนดูกว้างขึ้นทันตา ไม่มีสิ่งของของเฮอร์ไมโอนี่เหลืออยู่แม้เเต่ชิ้นเดียว เธอเก็บของและทำความสะอาดบ้านหลังเล็กเป็นครั้งสุดท้าย ยืนมองไปรอบๆบ้าน ซึมซับบรรยากาศความคุ้นเคยอยู่ซักพัก ก่อนที่จะหายตัวไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง

     

         ตาโตหวานของเฮอไมโอนี่ย์เหลือบมองบรรยากาศรอบตัว ถึงเเม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี เเต่ในช่วงเทศกาลนี้มักจะอบอวลไปด้วยความสุข ความอบอุ่นเเฝงอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ที่น่าแปลกที่สุดคือ ทุกคนก็สามารถสัมผัสความอบอุ่นนี้ได้ โดยไม่ต้องเอ่ยปากบอกกันให้เสียเวลา เฮอร์ไมโอนี่คิดว่านี่น่าจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของช่วงเวลาเทศกาลที่เราทุกคนต่างมีความรู้สึกลึกๆร่วมกัน

     

         บนทางเท้าเต็มไปด้วยหิมะสีขาวปุย ต้นไม้ต่างๆที่ใบโกร๋นเเต่กลับรู้สึกสวยสง่าอย่างน่าทึ่ง ตึกรามบ้านช่องมีไฟตกเเต่งห้อยระโยงระยาง หรือหลอดไฟขดเป็นรูปต่างๆที่มีความหมายห้อยเเขวนอยู่ทั่วเมือง ถึงเเม้จะดูรกรุงรังเเต่ก็ดูสนุกสนาน เมื่อเดินไปตามทางก็มักจะพบพวงมิสเซิสโทประดับที่ประตูเกือบทุกบาน ราวกับเมืองทั้งเมืองถูกฉาบไปด้วยสีเขียวแดง ทั้งเสื้อผ้า ของประดับตกแต่งในร้านขายของต่างๆ เเถมยังมีเสียงระฆังดังกรุ๊งกริ๊งที่มักจะดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎของซานต้าครอสปลอม เฮอร์ไมโอนี่เเอบยิ้มให้ตัวเองที่ถึงเเม้จะอายุ 23 เเต่เธอก็ยังตื่นเต้นกับวันคริสมัสเหมือนเด็กๆ

     

         แล้วที่พิเศษที่สุด คือ คริสมัสปีนี้เธอรู้ใจตัวเองเเละรู้สึกรักตัวมากขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็น รู้สึกตื่นเต้นจนเออออกับตัวเองไปเเล้วว่าวันนี้คือวันเเห่งการเริ่มต้นใหม่ในชีวิตเธอ

     

         ตาสีเฮเซลเบิกกว้างขึ้นอย่างดีใจ เมื่อเห็นคิวต่อแถวไม่สั้นไม่ยาวนักอยู่ที่หน้าร้านหนังสือของเธอ ขาเรียวรีบจ้ำเข้าไปทักทายลูกค้าที่มารอร้านเปิดด้วยน้ำเสียงแจ่มใส ลืมความเศร้าที่กอบกุมหัวใจเธอไปเสียสนิท เมื่อลูกค้าเห็นเจ้าของร้านแสนสวยเดินมาไขประตูเปิดร้านก็ร้องเฮกันลั่น เพราะไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเท่าไหร่นัก กับการที่พวกเขามายืนตากลมตากหิมะในวันที่อากาศหนาวจับขั้วหัวใจเพียงเพื่อรอซื้อขนม แต่จะให้ทำยังไงได้ ก็ขนมของร้าน Reparo หากใครได้ลองทานซักครั้งก็เหมือนโดนมนต์สะกดต้องกลับมาทานซ้ำอีกรอบ น่าเสียดายที่ร้าน Reparo ขายขนมโฮมเมดแค่ 4 วันต่อเดือนเท่านั้นและเป็นการสุ่มเลือกวันขายเสียด้วย

     

         " ขอบคุณที่มารอกันนะคะ หนาวแย่เลย เข้ามากันก่อนสิคะ คริสมัสทั้งที เราอบขนมเยอะเลยค่ะ " เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเสียงใส ทันทีที่ประตูสีน้ำตาลประดับพวงมิสเซิสโทเปิดกว้าง กลิ่นหอมของขนมนมเนยหลากหลายชนิดโชยออกมาราวกับเปิดก๊อก กวักมือเรียกคนที่เดินผ่านไปมาให้สนใจ บ้างก็หยุดและเดินกลับมาต่อคิวที่หน้าร้านของเธอ ผู้คนที่รอเวลาเปิดร้านก็รีบเดินเรียงแถวเข้าไปเพื่อเลือกซื้อขนมเเละสั่งกาแฟจากร้านโปรด

     

         เปิดร้านได้ไม่ถึง 10 นาทีดี ร้านเล็กๆของเธอก็แน่นถนัดไปด้วยผู้คน ทั้งในโซนคาเฟ่ และโซนขายหนังสือ เฮอร์ไมโอนี่รีบสาวเท้าเข้าไปในโซนเคาท์เตอร์ของร้านเพื่อทำหน้าที่รับออเดอร์และคิดเงิน แถมยังทำหน้าที่แจกรอยยิ้มสวยให้ลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุนได้ชื่นใจ

     

         จริงๆแล้วจะเรียกว่าร้านหนังสือก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะในร้านเล็กๆของเธอมีบริเวณที่ไว้ขายขนมและทำร้านกาแฟเล็กๆ โดยสูตรขนมและสูตรกาแฟล้วนเป็นสูตรของคุณปู่กับคุณย่าของเธอที่เคยเปิดร้านขายเบเกอร์รี่อยู่พักหนึ่ง และเฮอร์ไมโอนี่ได้นำสูตรเหล่านั้นมาปรับให้ลงตัวอีกครั้ง โดยปกติลูกค้าในแต่ละวันไม่ได้มีมากนัก และบรรยากาศมักจะเงียบสงบและผ่อนคลาย แต่หากวันไหนที่ตัดสินใจแอบขายขนมเล็กๆน้อยๆ ร้านของเธอมักจะแน่นไปด้วยผู้แบบนี้จนกว่าขนมจะหมด

     

         " วันนี้ผมไม่ทันสกอตติชชอตเบรดอีกแล้วสินะ " เสียงถอนหายใจอย่างเสียดายดังมาจากชายร่างสูงหนา ที่ก้าวมาหน้าเคาท์เตอร์ ก่อนจะชะเง้อมองถาดขนมด้านหลังของเธอด้วยอาการผิดหวัง เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มขันกับท่าทางเสียดายของเขา

     

         " นั่นเป็นขนมที่ขายดีที่สุดของร้านเราเลยค่ะ วันนี้วันคริสมัส คุณอยากจะลอง พุดดิ้งคริสมัส หรือ บุช เดอ โนเอล แทนมั้ยคะ? รับรองว่าอร่อยถูกปากแน่นอนค่ะ " ใบหน้าสวยยิ้มตอบ ก่อนจะแนะนำขนมประจำเทศกาลที่เพิ่งได้ขายเป็นปีแรกกับชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม ที่มักจะสวมสูทสีดำสนิทเป็นประจำ รวมไปถึง เสื้อเชิ้ต เนกไท กางเกงสเเลค รองเท้าหัวแหลมมันเงา ดวงตาคม เเละผมที่มัดรวบเป็นบันเล็กๆ สิ่งที่ว่ามาล้วนเป็นสีดำทั้งสิ้น นั่นทำให้เธอแอบนึกถึงใครบางคนที่เธอไม่ชอบใจนักอยู่บ่อยๆ

     

         " เห้อ ผมดันมาไม่ทันชั่วโมงวิเศษ น่าเสียดายจัง อดกินชอตเบรดเลยสินะครับ งั้นผมลอง บุช เดอ โนเอล เเล้วก็ขอ ลาเต้เพิ่มช็อต ให้ผมเหมือนเดิมครับ " หน้าเข้มบ่นเสียงเเผ่ว ก่อนจะหันมายิ้มกว้างสั่งกาแฟและขนมด้วยแววเป็นประกาย เฮอร์ไมโอนี่แอบหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยรับออเดอร์ให้ผู้ช่วยของเธอได้ยิน ปฏิเสธไม่ได้เลยชายคนนี้มีเสน่อย่างร้ายกาจ คอนเฟิร์มได้จาก ' เอลล่า ' ผู้ช่วยสาวคนสนิทของเธอที่แอบกรี๊ดหนุ่มคนนี้อยู่เงียบๆ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่แอบทิ้งสายตาไปหาเอลล่า ก็พบกับใบหน้าแดงก่ำเหมือนผลมะเขือเทศที่หันมาค้อนเธอกะหลับกะเหลือก

     

         ชั่วโมงวิเศษ คือช่วงเวลาเช้าตรู่ของวันที่มีการขายขนม จะมีการแบ่งขนมออกมาขายให้กับเหล่าผู้วิเศษก่อนส่วนหนึ่ง จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆตอน 7 ถึง 9 โมงเช้าของทุกวัน เเละจะเปิดให้บริการมักเกิ้ลในเวลา 10 โมง โดยผู้ที่จะรับรู้ถึงการเปิดชั่วโมงวิเศษ คือผู้ที่ลงทะเบียนสมัครสมาชิกกับเธอไว้เท่านั้น เธอจึงจะสามารถส่งจดหมายไปบอกวันที่จะเปิดชั่วโมงวิเศษได้ นอกจากนี้เฮอร์ไมโอนี่ได้สร้างห้องหายตัวเเละเตาผิงที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายผงฟูลไว้ด้านบนของร้าน โดยไม่ลืมร่ายคาถาพลางตาไว้ เวลาที่มีผู้วิเศษลงมาจากชั้นบนหรือใช้บริการในช่วงชั่วโมงวิเศษ

     

         เเละเเน่นอนว่ามีผู้วิเศษหลายคนเลยทีเดียวที่เข้ามาอุดหนุนร้านของเธอในเวลาเปิดทำการปกติ พวกเขามักทำตัวปะปนกับมักเกิ้ลได้อย่างแนบเนียน ทำให้มีหลายครั้งที่เธอพบเห็นมักเกิ้ลยืนพูดคุยกับผู้วิเศษอย่างออกรสออกชาติ โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังสนทนาอยู่กับใคร

     

         " เรียบร้อยค่ะ คุณลูกค้า เมอรี่คริสมัสแอนด์แฮปปี้นิวเยียร์นะคะ " ร่างสูงฉีกยิ้มบาง ยกมือขึ้นส่ายมือเป็นสัญลักษณ์บ๊ายบาย เเละเดินออกจากร้านเล็กๆของเธอไป

    .

    .

    .

    .

         เป็นเวลา 3 ทุ่ม จึงได้เวลาปิดร้านลงเสียที ขาเรียวเดินออกจากร้านโดยไม่ลืมล็อกประตู ขาของเธอสั่นเล็กน้อยจากการทำงาน วันนี้เป็นคริสมัสปีแรกตั้งเเต่ที่เธอเปิดร้านมาได้ราวๆ 10 เดือน กระแสตอบรับของลูกค้าดีอย่างเหลือเชื่อ ถึงแม้ขนมทั้งหมดที่เธอว่าเยอะจะหมดลงภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เเต่ตลอดทั้งวันก็ยังมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้านอย่างต่อเนื่อง เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกล้า เเต่ก็รู้สึกดีที่ร้านของเธอไปได้ดีเกินกว่าที่ฝัน เธอเดินทอดน่องเอื่อยๆซึบซับบรรยากาศชวนฝันไปเรื่อยๆด้วยความอิ่มเอมในหัวใจ ลืมเรื่องปัญหาต่างเเละความรู้เเย่ที่เคยมีไปหมดสิ้น

     

         " เฮอร์ไมโอนี่! " เมื่อมือบางกำลังจ่อกุญแจตั้งใจจะไขกลอน ก็ต้องตกใจจนของในมือตก เพราะประตูสีขาวห้องของเธอถูกกระชากเปิดออกอย่างเเรงพร้อมกับเสียงแหลมที่เธอคุ้นเคย ด้วยความตกใจ มือบางเลื่อนขึ้นกุมไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ในเสื้อโค้ทอย่างลืมตัว ทันทีที่เห็นใบหน้าขาวของจินนี่ เธอก็ถูกพุ่งเข้าไปกอดทันที

     

         " ฉันเป็นห่วงเธอมากรู้มั้ย เธอเป็นยังไงบ้าง ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยนะ " จินนี่กอดเฮอร์ไมโอนี่เเน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อยากจะอธิบายว่าตกใจเเค่ไหนตอนเธอไปหาเฮอร์ไมโอนี่ที่บ้านหลังเล็ก เเต่ก็ไม่พบ ข้าวของต่างๆก็น้อยลงอย่างผิดปกติ จินนี่กระวนกระวายว่าเฮอร์ไมโอนี่หายตัวไป หรือเกิดเรื่องอันตรายขึ้น ก่อนที่เธอจะนึกได้ว่าเฮอร์ไมโอนี่แอบซื้อห้องที่อพาร์ทเมนต์ใกล้ๆกับที่ร้านหนังสือไว้ เธอจึงเดินทางโดยใช้ผงฟูลมาถึงที่นี่ เมื่อเห็นสัมภาระต่างๆก็โล่งใจ เเละนั่นคอยเพื่อนรักกลับมา

     

         " ฉันก็มีเรื่องที่จะคุยกับเธอเหมือนกันจินนี่ " เฮอร์ไมโอนี่ว่าเสียงอ่อย ก่อนจะคลายกอดเเละดันจินนี่เข้าไปในห้อง

     

         " เธอจะให้ฉันพูดก่อนหรือเธอพูดก่อน " จินนี่รีบเข้าเรื่องขณะที่ทิ้งตัวลงบนเตียงหลังใหญ่ ตาโตมองเฮอร์ไมโอนี่โดยไม่ละสายตา พยายามเพ่งหาร่อยรอยตำหนิจากน้ำมือของพี่ชายตัวดี เเต่ก็นึกได้ว่าต่อให้มี เฮอร์ไมโอนี่ที่ฉลาดเป็นกรดคงจะกำจัดไปหมดเเล้ว

     

         " ฉันขอพูดก่อน...ฉัน...เอ่อ...ฉันอยากจะขอหย่ากับรอน " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยด้วยเสียงเบาที่แฝงความประหม่าอย่างชัดเจน ตาสีเฮเซลของเธอไม่กล้าเเเม้เเต่จะเงยขึ้นมองหน้าของเพื่อนรัก

     

         " ฉันจะมาคุยกับเธอเรื่อง เธอคิดจะหย่ากับรอนบ้างรึเปล่า " จินนี่พูดต่อทันทีหลังจากเฮอร์ไมโอนี่พูดจบ ก่อนที่จะถอนหายใจเสียงดัง เเละมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความเข้าอกเข้าใจ

     

         " โอ้...ฉัน.... "

     

         " ฉันเข้าใจเธอเฮอร์ไมโอนี่ มันโอเคที่เธอจะมูฟออน ถ้าเธอไม่มีความสุข และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับครอบครัวฉัน พวกเรายังรักเธอเสมอ " จินนี่ยิ้มกว้างให้เฮอร์ไมโอนี่ที่น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะเมื่อจบประโยค

     

         " และเเน่นอนว่าฉันยังไม่บอกเรื่องนี่กับแฮรี่ " จินนี่พูดปิดท้ายด้วยน้ำเสียงเบา เเละยกมือขึ้นปิดปากแน่น เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะทั้งน้ำตา ก่อนจะสวมกอดเพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาอีกครั้ง เธอแกล้งรัดจินนี่แน่นขึ้นคล้ายกับงูเหลือมรัด จนจินนี่ต้องร้องประท้วง

     

         " แล้วทำไมเธอถึงมาพูดเรื่องนี้กับฉันล่ะ จินนี่ " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย พลางลุกขึ้นไปรื้อเอาเสื้อผ้าในกระเป๋ามาเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ จินนี่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจ ก่อนจะเล่าเรื่องในคืนวันคริสมัสอีฟที่รอนโผล่มาในเตาผิงที่บ้าน เเละมีปากเสียงกับเธอจนถึงตอนที่หายตัวไป

     

         เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง ร่างกายเเข็งเกร็งเหมือนโดนเอาน้ำเย็นสาด สิ่งเดียวที่เธอไม่อยากให้ครอบครัววิสลี่ย์รู้ คือการที่รอนทำร้ายร่างกายของเธอ เพราะนั่นอาจจะทำให้เรื่องทั้งหมดบานปลายเเละรอนอาจจะโดนเกลียดเข้าได้ง่ายๆ แต่ในเมื่อรอนแสดงพฤติกรรมเเบบนั้นใส่ครอบครัวของตน นั่นก็เกือบจะเป็นคำเฉลยที่ชัดเจนพอให้ครอบครัววิสลี่ย์รู้ว่าเธอต้องทนกับอะไร สายตาของจินนี่ที่มองเธอ เต็มไปด้วยคำถามว่าเขาทำร้ายร่างกายของเธอบ้างรึเปล่า เฮอร์ไมโอนี่จุกในลำคอ ก่อนจะเลี่ยงหลบสายตาของจินนี่ไปอีกทาง

     

         จินนี่ถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะเอ่ยขอโทษเธอซ้ำๆ และตวาดด่ารอนด้วยคำพูดร้ายใส่อากาศด้วยน้ำตาที่เอ่อนอง เดือดร้อนเฮอร์ไมโอนี่ต้องลูบหลังปลอบอีกเป็นชั่วโมง กว่าที่พายุอารมณ์ของจินนี่จะสงบลง

    .

    .

    .

    .

         " เฮอร์ไมโอนี่เธอรู้ข่าวเด็ดรึยัง " จินนี่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในขณะที่ช่วยยกสลัดมาวางที่โต๊ะอาหารกลางห้อง หลังจากเหตุการณ์สงบ กระเพาะของเฮอร์ไมโอนี่ก็ร้องโครกครากจนน่าอาย จินนี่เลยชวนทำอาหารง่ายๆทานที่ห้อง จากของทีแอบลงไปซื้อมาตอนนอนรอเธอระหว่างวัน

     

         " ที่ว่าตัวพิกซี่ไปก่อกวนโลกมักเกิ้ลน่ะหรอ " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยตอบอย่างไม่ได้สนใจนัก พร้อมกับยกพาสต้ามาวางที่โต๊ะและเดินกลับไปหยิบช้อนส้อมอีกครั้ง

     

         " โถ่ ไม่ใช่! ข่าวที่ว่า เดรโก มัลฟอย หย่าขาดกับ แอสโทเรีย มัลฟอย มาตั้ง 6 เดือนเเล้วน่ะสิ! " จินนี่ตบโต๊ะเบาๆอย่างถูกใจ เฮอร์ไมโอนี่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มขัน แล้วนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับสาวผมแดง โดนไม่ลืมยื่นช้อนส้อมให้

     

         " หื้ม แล้วมันเด็ดตรงไหน "

     

         " เอ้าา ก็มัลฟอยเชียวนะ! คนที่หล่อเหลือร้ายนั่นน่ะ ฉันได้ยินมาว่าหลังจบสงครามไป มัลฟอยเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ อย่างกับฝ่าเท้าเป็นหน้ามือเลยล่ะ " จินนี่แทบจะตกเก้าอี้เมื่อเห็นท่าทางของเฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่มีอาการสนใจหรือใส่ใจเกี่ยวกับข่าวดังนั่นซักนิด แถมยังตั้งหน้าตั้งตาจิ้มผักสลัดกินหน้าตาเฉย

     

         " หรอ แล้วยังไง "

     

         " ก็ข่าวนี้จะไม่ดังเลย ถ้าก่อนหน้านี้แอสโทเรียไม่ได้ออกมาตีข่าวเพ้อๆอย่าง พวกเขายังรักกันดี หรือมัลฟอยซื้อแหวนเพชร 10 กระรัตให้เป็นของขวัญวันเกิด หรือแม้แต่ประโคมข่าวว่าไปเที่ยวต่างประเทศกับมัลฟอยเป็นประจำทุกเดือน " จินนี่ตาวาวอีกรอบ พร้อมกับเล่าข่าวที่เธอนั่งเสียเวลาติดตามมาทั้งวัน พลางคิดว่าคราวนี้เฮอร์ไมโอนี่จะต้องสนใจเรื่องป่วยๆของเเอสโทเรียแน่

     

         " เอ่ออ ฉันไม่เข้าใจว่าแอสโทเรียจะออกมาพูดแบบนั้นทำไม " และก็ได้ผล! เฮอร์ไมโอนี่ชักสีหน้าแหยะ ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจกับพฤติกรรมประหลาดๆของแอสโทเรีย

     

         " ก็นั่นน่ะซี่! ข่าวนี่มันถึงได้บูมเหมือนปล่อยตัวพิกซี่ออกจากกรงน่ะ " จินนี่ยิ้มเยาะในใจ พลางตบเข่าฉาด สะใจปนดีใจที่เพื่อนสาวเริ่มจะสนใจข่าวดังนี่ซักที เสียงเจื้อยแจ้วกับเสียงหัวเราะของสองสาวดังก้องไปทั่วห้องพักขนาดกลาง แสดงถึงความผ่อนคลายและสบายใจของทั้งสอง

     

         ค่ำคืนคริสมัสผ่านไปอย่างละมุนละม่อม แถมยังออกจะอบอุ่นเกินไปเสียหน่อย เพราะเมื่อเข้านอน จินนี่กอดเธอแน่นเป็นหมอนข้างเสียแทบจะหายไปไม่ออก ไม่พอยังนอนดิ้นจนแขนฟาดเข้ากับหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ จนเธอต้องตื่นขึ้นมาหัวเราะเเล้วจัดท่านอนให้จินนี่นอนอย่างถูกที่ถูกทาง


    -----------------------

    TALK TALK WITH nanypp_

         สวัสดีค่าาา กลับมาเจอกันอีกครั้งเเล้วน๊าา 

         วันนี้จะพูดถึงร้านหนังสือของเฮอร์ซะส่วนใหญ่ เพราะเรียกได้ว่าร้านหนังสือเนี้ย เป็นสัญลักษณ์ที่เเทนหลายสิ่งหลายอย่างให้กับเฮอร์เลยค่ะ เเละจะแทนอะไรบ้างนั้นก็ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะคะ เเละสามารถเดากันได้ตามความรู้สึกของแต่ละคนเลยค่ะะ

        ท้ายตอนที่เมนชั่นถึงเดรนิดหน่อยพอเกริ่นๆ อย่าพึ่งรีบเบื่อกันน๊าา แล้วเราจะรีบมาอัพตอนต่อไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะคะะ

         อ้อ เกือบลืมพูดถึงลูกชายของเดรโก ถูกต้องนะค้าบบ ลูกชายของเดรโกเป็นสุนัขพันธุ์เกรทเดนสีดำ 555555 เซอไพรส์ไปหน่อยเเต่ก็ทำให้เห็นอีกมุมในหัวใจของเดรโกเนอะะ 5555

         สุดท้ายก็สามารถเข้ามาร่วมพูดคุยเเละให้กำลังใจกันได้ทางคอมเม้น และ twitter : nanypp_ หรือทางแท็กฟิค #bringtogetherDMHG นะคะะ มาร่วมพูดคุยเเละเป็นกำลังใจเรากันนะคะะ เรามีไฟมากๆๆๆๆๆๆเวลาที่ได้อ่านคอมเม้นของทุกคนเลยค่ะะ 5555

         ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเม้นเลยนะคะะ 

         

         ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ :)    




    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×