ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    And we were then brought together - [ dramione ]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 0.2 : Problems ( Draco & Astoria )

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 62


    0.2 . Problems 
    ( Draco & Astoria )



         " เเม่ครับ เห็นธีโอบ้างมั้ย " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นไม่เบานัก พอจะเรียกให้ผู้เป็นเเม่ได้ยิน


         " ไม่ล่ะเดรโก เเม่ไม่เห็นเลยจริงๆ เเละเผื่อว่าลูกลืม เเม่ตอบลูกเป็นรอบที่สิบเเล้ว " นาซิสซ่า มัลฟอย วางแก้วน้ำลงกับโต๊ะรับเเขกดังกริ๊ง ก่อนจะเอ่ยตอบลูกชายไปเท่าที่ตนรู้ ใบหน้าเย่อหยิ่งหันมองลูกชายที่ดูร้อนใจอย่างประหลาด ริ้วรอยจางๆที่ปรากฎขึ้นบนใบหน้าไม่สามารถลดความงามของเธอลงได้เลย เธอยังดูสวยสง่าเหมือนเคย ร่างสูงก้าวมาที่โถงรับเเขก ใบหน้าได้รูปที่มักจะนิ่งตึงอยู่ตลอด ในเวลานี้ไม่สามารถซ่อนความกระวนกระวายใจได้มิด 

     

         สายตาคมของ เดรโก มัลฟอย พยายามสอดส่ายหา ' ธีโอ ' ลูกชายพันธุ์เกรทเดนสีดำสนิท เดรโกรักมันมาก เเละมากพอที่เค้าจะยอมลางานเพื่อตามหามัน หากว่าเช้านี้เค้าหามันไม่เจอ ปกติทุกเช้าเมื่อถึงเวลาที่ควรตื่น ธีโอมักจะเลียมือเพื่อปลุกเขา เเต่ในเช้านี้ไม่มีเเรงกดที่หน้าอกหรือลิ้นยาวๆเปียกๆมาเลียที่มือเหมือนเคย เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้รู้ตัวว่าธีโอหายไป ไม่เคยมีใครมาเปิดประตูให้มันออกไปก่อนที่เขาจะตื่น ธีโอเข้านอนพร้อมเขาเเละจะออกจากห้องตอนเช้าพร้อมกับเค้าเสมอ เพราะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นนั่นล่ะ เค้าถึงได้ตื่นสายโด่ง เเล้วนั่งกระวนกระวายใจอยู่ที่โซฟานุ่มเเบบนี้

     

         " มันจะไปไหนได้ล่ะครับเเม่ มันหายไปจากห้องของผม เเล้วในบ้านของเราก็ไม่มี ผมเรียกมันตลอดเช้า มันก็ไม่ส่งเสียงตอบผมเลย " เดรโกยกมือขึ้นกุมหัว เขาหายตัวไปนู่นไปนี่ในบ้านตั้งเเต่เช้า ทั้งออกไปดูที่สวน หรือเเม้เเต่ห้องใต้ดินของคฤหาสน์ที่ต้องร่ายคาถาโบราณก่อนถึงจะปรากฎประตูขึ้น เเต่ใครจะรู้ล่ะ บางทีธีโออาจจะเป็นหมาวิเศษสามารถร่ายมนต์ได้ก็ได้ เเล้วเขาก็ยังสั่งให้เอลฟ์ทั้งบ้านหามันซ้ำอีกรอบ จนเเม่ของเขาต้องเดินไปรินน้ำในครัวเอง


     

         ฟุ่บ

     

         ลูเซียส มัลฟอย โผล่ออกมาจากเตาผิงพร้อมกับไม้เท้าคู่ใจของเขา ทันทีที่เห็นลูกชายนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟา ทั้งยังอยู่ในชุดนอนสีดำก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที

     

         " ลูเซี... " คุณนายมัลฟอยขยับปากตั้งใจจะทักทายสามีเเละถามไถ่เรื่องงานตามปกติ เเต่เสียงตื่นๆของลูกชายตัวดีก็แทรกขึ้นมาเสียก่อนที่เธอจะเรียกชื่อสามีจบ นาซิสซ่าส่งสายตาตำหนิไปให้ลูกชาย เเต่หนุ่มผมบลอนด์ก็ไม่คิดจะใส่ใจ 

     

         " พ่อเห็นธีโอบ้างมั้ยครับ " เดรโกมองหน้าพ่อของตัวเองอย่างมีความหวัง

     

         " อะไรของเเก เดรโก รักษาอาการหน่อย กระวนกระวายเป็นเด็กไปได้ เรื่องหมาเเกฉันเห็นเเอสโทเรียพาออกไปที่สวนตั้งเเต่เช้าเเล้ว และในเวลานี้แกควรจะนั่งอยู่ที่ทำงานพร้อมกับชุดที่สุภาพ " ลูเซียสปรายตาอย่างตำหนิกับท่าทางเด็กอมมือของลูกชาย ก่อนจะตอบลูกชายตามที่ตนเห็นเมื่อตอนเช้าตรู่ก่อนที่ตนจะเดินทางไปที่กระทรวง

     

         " อะไรนะ!?" น้ำเสียงตกใจหลุดออกจากปากของทั้งสองที่นั่งอยู่บนโซฟาหรู เดรโกมองลูเซียสตาโต ส่วนเเก้วน้ำที่กำลังจะถูกยกดื่มก็เเข็งค้างอยู่ที่มือของนาซิสซ่า เมื่อลูเซียสรู้สึกตัวถึงสายตาประหลาดที่ลูกชายและภรรยามอบให้ ก็นึกอะไรขึ้นได้ พลันหน้าถอดสีหันมองหน้าของทั้งสองคนอย่างตื่นตะหนกเเต่ก็ยังคงรักษาท่าทางจองหองประหลาดๆนั่นไว้


         ลูเซียสจะเเอบยอมรับนิดๆก็ได้ ว่าเขากับภรรยาเองก็มีกะจิตกะใจรักสุนัขตัวเขื่องนั่นอยู่หน่อยๆ เเต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะ เเค่ความรู้สึกกระจิ๊ดริด

     

         " เเอสโทเรียงั้นหรอครับพ่อ! พ่อก็รู้ว่าเเอสโทเรียเป็นคนยังไง! " เดรโกชักสีหน้าไม่พอใจ ปากบางเหยียดยิ้มเมื่อต้องเอ่ยชื่อของภรรยาสาว ก่อนจะทิ้งตัวกระเเทกกับโซฟานุ่มอย่างมีน้ำโห ในหัวพลางคิดเเต่ว่าจะจัดการกับภรรยาที่น่าปวดหัวของเขายังไง

     

         ครั้งนี้เธอล้ำเส้นเกินไป เขาควรที่จะขีดเส้นของเธอเเละเขาให้ชัดเจนมากขึ้น

     

         " เรื่องเด็กสาวคนนั้นน่ะ ฉันชักเหลืออดจริงๆลูเซียส เมื่อวานฉันเเวะไปที่เรือนกระจกช่วงเย็น เพราะฉันเห็นประตูเปิดค้างอยู่ เเต่รู้มั้ยว่าฉันเจออะไร ฉันเจอเด็กคนนั้นกำลังร่ายคาถาหลับไหลใส่พุ่มคามีเลียสีชมพูที่ฉันชอบไปนั่งดื่มชาตอนเช้า " สายตานาซิสซ่าพุ่งตรงที่ไปเเจกันดอกคามีเลียพุ่มใหญ่บนโต๊ะรับเเขก น้ำเสียงของเธอนิ่งขรึมเเสดงถึงอาการไม่พอใจ ' คาถาหลับไหล  ' เป็นศาสตร์มืดมีไว้เพื่อสาปให้ผู้คนตกอยู่ในห้วงนิทรา หากสาปใส่สิ่งของ ผู้ที่เเตะต้องจะโดนสาปโดยทันที พ่อมดเเม่มดทุกคนในโลกเวทมนต์ต่างรู้ดีว่าคาถาหลับไหลไม่ใช่คาถาที่จะใช้อำกันเล่นเเน่ ถ้าเธอไม่เข้าไปเห็นซะก่อนมีหวังคงได้สลบไปเป็นปีๆ

     

         " ให้ตายสิเมอลิน! มันจะมากไปเเล้วนะ " ใบหน้าคมหันมองผู้เป็นเเม่อย่างตกใจ ก่อนจะกระเเทกเท้าลงกับพื้นด้วยความโมโห ลูเซียสขมวดคิ้วเเน่น ใบหน้าหยิ่งเครียดขึงขึ้นทันตา พลางทิ้งตัวลงที่โซฟาตัวใหญ่อย่างใช้ความคิด

     

         เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจากตระกูล ' กรีนกราส  ' ตระกูลเก่าแก่สืบสายเลือดบริสุทธิ์ที่เขาเลือกมาเพื่อแต่งงานกับลูกชายจะร้ายกาจมากขึ้นทุกวัน หากเเอสโทเรียทำอะไรให้ลูกชายของเขาไม่พอใจ ทุกครั้งเขามักจะเข้าข้างเจ้าหล่อนเสมอ เลือกที่จะปิดตาข้างหนึ่งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและคิดเอาเองว่ามันเป็นการล้อเล่นของหล่อน เพราะกลัวจะเสียหล่อนไปเเละในท้ายที่สุดสายเลือดชั้นสูงของเขาจะไม่มีผู้สืบทอดที่เหมาะสม แต่ครั้งนี้แอสโทเรียชักจะเล่นแรงเกินไป ทั้งไปยุ่งกับสุนัขตัวโปรดของครอบครัว เเล้วไหนจะมายุ่งย่ามกับภรรยาของเขาให้เป็นอันตราย

     

         เรื่องในวันนี้มันอาจจะถึงคราวที่ลูเซียสต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง ครอบครัว หรือ ศักดิ์ศรี อีกครั้ง

     


         ปัง

     

         ในขณะที่ทุกคนในห้องรับแขกนิ่งเงียบเเละจมอยู่กับความคิดของตน เสียงปิดประตูไม้บานใหญ่ก็ดังขึ้นเรียกสติทุกคนให้กลับมา ครอบครัวมัลฟอยมองหน้ากันนิ่ง จะเป็นใครไปได้ ถ้าไม่ใช่ แอสโทเรีย ตัวต้นเรื่องเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหมด เดรโกลุกขึ้นเต็มความสูง มือหนายกขึ้นเสยผมสีสว่างอย่างอารมณ์เสีย พร้อมกับก้าวขายาวออกไปทักทายภรรยาตัวร้ายที่ส่งสายตาตื่นตะหนกมาทันทีที่เห็นหน้าเขา

     

         แอสโทเรียที่พึ่งกลับมาถึง เมื่อปิดประตูบานใหญ่ลงก็บิดเนื้อตัวเล็กน้อย ตั้งใจจะเดินขึ้นไปพักที่ห้องนอน เพราะรู้สึกเหนื่อยล้าจากการแอบทำภารกิจร้ายส่วนตัวตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นสามีของตนยืนรออยู่ที่สุดทางเดิน แอสโทเรียไม่สามารถซ่อนอาการตื่นได้มิด ใบหน้าสวยพยายามยกยิ้มหวานขึ้นเพื่อปกปิดความผิด เธอแสร้งทำตัวปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลางแวะทอดสายตามองแจกันใบโตที่ถูกประดับด้วยดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสันจากฝีมือของนาซิสซ่า มือเรียวเอื้อมมือสัมผัสดอกลิลลี่สีขาวอย่างเบามือก่อนจะละมือจากไป เธอเเสดงท่าทีสง่างามราวกับชนชั้นสูงที่ถูกฝึกสอนมาอย่างดี ขาเรียวก้าวช้าๆภายในโถงทางเดินหรูหราของคฤหาสมัลฟอย ส้นสูงราคาเเพงกระทบพื้นหินอ่อน ส่งเสียงเพราะคล้ายจังหวะดนตรี เเอสโทเรียเดินตรงมาหาเดรโกที่ยืนกอดอกทิ้งตัวพิงหัวบันไดหรูหราด้วยสายตาหวานเชื่อม พลางคิดในใจว่าเธอโชคดีเเค่ไหนที่ได้สามีเป็นคนในตระกูลมัลฟอย เเถมยังเป็นที่หมายปองของผู้หญิงทั่วทั้งโลกเวทมนต์ ผิดกับเดรโก ที่ยืนมองเธอเสแสร้งด้วยสายตาเย็นชาเเละใบหน้าเหยียด ไม่รู้สึกเสน่หาหรือประทับใจอะไรในตัวของแอสโทเรียเลยแม้เเต่อย่างเดียว

     

         ความสง่างามของเเอสโทเรียที่หลายคนชมชอบนั่น ในสายตาของเขามันออกจะน่าขันและน่ารำคาญไปพร้อมๆกัน

     

         เดรโกไม่ต้องเอ่ยปากพูดหรือถามคำถามอะไร เขาทำเพียงเเค่ส่งสายตาคมกริบมองเธอตาไม่กระพริบ แอสโทเรียรู้ได้ทันทีว่าเดรโกรู้เรื่องการกระทำของเธอแล้ว สายตาน่ากลัวของเดรโกทำให้เธอหวั่น ลมหายใจของเธอติดขัด มือบางเผลอกำมือเเน่นอย่างรู้ความผิดเเละกำลังหวาดกลัว เดรโกตรงหน้าเเทบไม่ใช่ผู้ชายที่เธอรู้จัก ถึงเเม้การใช้ชีวิตคู่ของเขาและเธอจะไม่ได้ราบรื่นเละมีความสุขนัก ออกจะเป็นทุกข์เสียด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่เคยเหลียวมองเธอเลยเเม้เเต่น้อย เธอจึงทำทุกอย่าง เพียงเพื่อเรียกความสนใจจากเดรโกบ้าง ไม่สนว่าสิ่งใดผิดหรือถูก  รู้เพียงแค่อยากให้เขาสนใจ

     

         เเต่นี่อาจจะมากกว่าที่เธอหวังไว้ซักหน่อย สาบานได้ ก่อนหน้านี้เธอกับเขามีปัญหากันมาหมื่นครั้งจะหนักจะเบายังไง อย่างน้อยเดรโกก็ไม่เคยนิ่งเงียบเเละเอาเเต่มองเธอด้วยสายตาดุดันเเบบนี้มาก่อน ราวกับมือที่มองไม่เห็นกดหัวเธอให้ก้มหน้าลงอย่างจำยอม ลาดไหล่บางสั่นด้วยความกลัว ในใจคิดเพียงว่าเดี๋ยวก็ผ่านไป เดี๋ยวคุณพ่อก็เข้ามาช่วย อาจจะน่ากลัวไปซักหน่อยเเต่เดรโกก็สนใจเธอแล้ว

     

         เดรโกเงยหน้ามองนาฬิกาเรือนสวยบนผนังก่อนจะเอ่ยปากพูดเสียงเบา

     

         " อีกห้านาที เดเมียนจะมาถึงที่นี่พร้อมกับใบหย่า หลังจากเซ็นเเล้วก็ไปให้พ้นหน้าฉันซะ "

     

         ราวกับโดนคาถาสะกดนิ่ง เเม้เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาราวกับขนนก เเต่ทุกถ้อยคำในประโยคดันก้องอยู่ในหัวเธอเหมือนมีคนตีระฆังอยู่ข้างหู หัวใจของเธอเต้นเร็วแทบทะลุออกจากอก แอสโทเรียเม้มปากแน่น เมื่อเห็นเอลฟ์ยกกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่มาวางข้างตัวเธอ


         " ....ด...เดร " หน้าสวยเงยขึ้นมองร่างสูงด้วยสายตาหวาดหวั่น ปากบางเคลือบด้วยลิปสติกสีสวยขยับเบาๆคล้ายหลุดปาก หัวสมองเเล่นปรื๋อราวกับเครื่องยนต์เพื่อคิดหาข้อแก้ตัวกับสิ่งที่ทำลงไป

     

         เธอไม่คิดว่าเรื่องราวจะรุนเเรงขนาดนี้ มันก็แค่หมาตัวเดียว

     

         เธออยากให้เขาสนใจ เเต่ไม่ใช่เเบบนี้!

     

         " ฉันจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง แอสโทเรีย "

     

         ปากบางสวยของเดรโกเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนที่แอสโทเรียจะเรียกชื่อเขาจบ ราวกับคำประกาศิตให้เธอต้องทำตาม ขายาวก้าวขึ้นบันไดไป ทิ้งให้เธอสั่นงันงกด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แอสโทเรียอ้าปากค้าง คล้ายกับโลกทั้งใบจุกอยู่ที่ลำคอ


         " ....... " น้ำตาเม็ดโตไหลออกจากตาสวย เพียงแค่เธอเห็นแววตารังเกียจของเดรโก ก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีมีดล่องหนนับพันเล่มปักทั่วทั้งร่าง เเม้จะเป็นเพียงเเวบเดียวก็ตาม ทันทีที่เดรโกลับสายตาก็เธอไป แอสโทเรียปล่อยร่างทั้งร่างทิ้งตัวลงกับพื้นเหมือนหุ่นกระบอกที่ไร้ซึ่งคนจับสายพยุง มือบางยกขึ้นปิดปากด้วยอาการไม่อยากเชื่อหูหรือตาตัวเอง เมื่อรู้สึกตัว เธอรีบหันไปมองหน้าของลูเซียสด้วยความหวังว่าเขาจะช่วยเธอ

     

         ลูเซียเพียงสายตาไม่พอใจ ก่อนจะดับความหวังของเเอสโทเรียลงด้วยการหายตัวไปกับความเงียบ ส่วนนาซิสซ่าก็ได้เเต่ส่ายหน้าเบาๆอย่างอ่อนใจ พลางขยับปากสั่งให้เอลฟ์จับตาดูแอสโทเรียไว้ให้ดี ก่อนที่เธอจะเดินออกจากโถงไปทางสวนเรือนกระจกของเธอ



    -------------------------

    TALK TALK WITH nanypp_

    สวัสดีค่าา เจอกันอีกเเล้วนะคะะ วันนี้มาอัพค่อนข้างดึกเลยทีเดียวค่ะ

    ในตอนนี้จะเป็นที่ 0.2 หรือคล้ายๆบทนำของฝั่งเดรโกกับเเอสโทเรียนั่นล่ะค่ะะ

    เป็นการพูดถึงปัญหาในการใช้ชีวิตคู่เเบบคร่าวๆของเดรกับเเอส เหมือนตอน 0.1 นะคะะ

    สุดท้ายนี่ก็ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ เเล้วก็อยากขอบคุณจริงๆสำหรับกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้กับเรา เราปริ่มมากๆเลยค่ะ รู้สึกนุ่มฟู 55555 กำลังใจเล็กๆน้อยของทุกคนทำให้เรามีไฟในการเเต่งมากๆเลยค่ะะ ต้องขอบคุณจริงๆนะคะ ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายเลย เราเป็นเเค่นักเขียนตัวน้อยๆที่เพิ่งเริ่มเดินเองค่ะะ

    ps. เข้ามาพูดคุยเเละให้กำลังใจกันได้ในคอมเม้น หรือจะเป็นช่องทาง twitter : @nanypp_ หรือจะเป็นทางแท็กฟิค #bringtogetherDMHG นะคะะ

    ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ :)



     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×