คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter.5
Chapter.5
ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงัดและมืดหม่น มีเพียงแสงจันทร์เสี้ยวที่ส่องมารำไร ดวงตากลมโตสีน้ำตาลของหญิงสาวมองจันทร์เสี้ยวแน่นิ่งด้วยท่าทีเหม่อลอย พร้อมกับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาตามขอบตาสวย
เรานี่บ้าจริง ยังมามัวร้องไห้อยู่ได้
ทั้งที่ควรจะเคยชิน และเฉยชา กับการกระทำอันป่าเถื่อนนี่แล้วแท้ๆ
แต่ทำไม... น้ำตามันถึงไม่ยอมหยุดไหล
เคียวโกะที่นอดขดตัวนิ่งพึมพำในใจพร้อมกับยกมือสวยขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ
เลิกร้องไห้แล้วยอมรับความจริงได้แล้ว
หญิงสาวนึกเตือนใจตัวเองซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลเพราะบัดนี้หยาดน้ำตาได้แห้งเหือดไปแล้วจนหมดสิ้น
‘ก๊อก แก๊ก’ เสียงหมุนลูกบิดประตูดังขึ้นอย่างเงียบเชียบทำเอาเคียวโกะผวากัดฟันพร้อมกำผ้าห่มแน่นเมื่อรู้สึกถึงฝีเท้าของใครบางคนซึ่งรู้อยู่แล้วว่าใครก้าวใกล้เข้ามา เธอรีบหลับตาแน่นด้วยความกลัวแม้เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วก็ตาม เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เธอจะไม่มีวันเคยชินกับมันแน่ๆ
“หลับแล้วหรอ’’ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมุมปากของคนพูดถูกยกขึ้นในความมืด แกล้งถามทั้งๆที่รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้หลับจริง
“ผมคงจะหน้ากลัวมากจริงๆละมั้ง คุณถึงต้องหันหนีผมอยู่เรื่อย’’ ชายหนุ่มค่อยๆนอนลงบนเตียงนุ่มข้างๆหญิงสาว เขามองแผ่นหลังที่หันให้นิ่งอย่างสะท้อนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต...
... อดีตที่ไม่อาจลบล้าง ท่ามกลางสังคมที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดี ทุกคนต่างหันหลังให้แก่เขา เด็กชายตัวเล็กๆที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งๆที่รู้ว่ายังมีเขาคนนี้ที่ยังรอคอยการช่วยเหลือจากใครสักคน แต่สุดท้ายกลับมีเพียงแต่ตัวเองเท่านั้นที่พึ่งได้ ไม่มีแม้ใครสักคนที่ยื่นมือเข้าหายามเขาล้ม ไม่มีแม้อ้อมกอดจากครอบครัวที่อบอุ่นในยามที่เขาไม่เหลือใคร และไม่มีแม้รอยยิ้มที่จริงใจจากใครสักคนที่รักเขาจริงๆ...
ดวงตาสีฟ้าครามสั่นระริกอย่างสับสนก่อนที่เขาจะซบหน้าลงกับหลังของหญิงสาวแล้วเอื้อมแขนไปกอดเธอแน่น
“ผมขอกอดคุณได้ไหม...’’ น้ำเสียงของเบียคุรันที่แตกต่างออกไปจากเดิมทำเอาเคียวโกะนิ่งแม้ในใจจะตื่นกลัวอยู่บ้างเพราะไม่รู้ว่าคนๆนี้จะมาไม้ไหน แต่ก็เป็นเธอเองที่ไม่เคยรู้เหมือนกันว่าในอดีตนั้นเขาคนนี้เคยผ่านความเจ็บปวดอะไรมาบ้าง รู้เพียงแต่ว่าแววตาและน้ำเสียงของเขามีบางครั้งมีมันเผลอแสดงออกมาให้เธอได้เห็น... ความเจ็บปวดแสนสาหัสภายในหัวใจที่ปิดกั้นเอาไว้นั่นเอง
เสียงนกขับขานในตอนเช้าแว่วผ่านหน้าต่างบานหนาเข้ามาเบาๆ บ่งบอกว่าเป็นเวลาที่ควรจะตื่นได้แล้ว ขนตาเป็นแพยาวของหญิงสาวกระพริบถี่ๆ ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโพลงเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอรีบหันกลับไปมองข้างหลังแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า หญิงสาวทวนความจำตัวเองอีกครั้งพลางคิดว่าเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ แต่ที่เธอแปลกใจคือเขา... ไม่ใช่แปลกใจที่ไม่เห็นเขาเพราะในความจริงแล้วตั้งแต่เธอมาอยู่ในที่แห่งนี้ไม่มีเช้าไหนเลยที่ตื่นมาแล้วเขาจะยังนอนอยู่ข้างๆสิ่งที่พบในทุกเช้ามีเพียงเธอและร่องรอยความเจ็บปวดของหยาดน้ำตาเท่านั้น แต่สิ่งที่เธอแปลกใจคือ ชามซุปร้อนๆพร้อมขนมปังหน้าตาน่ากินที่วางไว้บนโต๊ะ แล้วยังกระเป๋าเดินทางใบสวยดูดีมีราคานั่นอีก เธอเดินไปดูใกล้ๆถาดซุปมีกระดาษโน้ตแผ่นเล็กเขียนไว้ด้วยลายมืดหวัดๆ ‘เก็บกระเป๋า ผมจะพาคุณไปเที่ยว’ ยิ่งได้อ่านข้อความในกระดาษโน้ตยิ่งทำเอาเคียวโกะขมวดคิ้วแน่น
คิดจะทำอะไรกันแน่...
“ทำไมฉันต้องไปด้วย’’ เคียวโกะพูดเสียงนิ่งพลางมองดูบรรยากาศรอบตัวซึ่งก็คือชั้นกราวน์บนเครื่องบินส่วนตัวสุดหรูของเบียคุรันนั่นเอง
“เพราะผมอยากให้คุณไปด้วย’’ เบียคุรันตอบกลับนิ่งๆเช่นกัน ดวงตาสีฟ้าครามแอบลอบมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวข้างๆก่อนจะรีบหันกลับมาเมื่อคนตรงข้างเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังถูกจ้อง
“แล้วจะพาฉันไปที่ไหน’’ เคียวโกะหันหน้าไปมองเบียคุรันที่กำลังมองตรงไปข้างหน้า เธอพยายามหาคำตอบของเรื่องราวในแววตาสีขุ่นมัวของเขาแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า เธอหันหน้ากลับมาทันทีอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อเขาหันกลับมามองเธอ
“ญี่ปุ่น’’ คำตอบของอักฝ่ายทำเอาดวงตาของเธอเบิกกว้างก่อนจะรีบถามซ้ำอีกครั้ง
“ว่ายังไงนะ?’’
“ญี่ปุ่น แต่คุณอย่าคิดว่ามาที่นี่แล้วผมจะให้คุณหนีไปได้ง่ายๆล่ะ ยังไงซะคุณก็จะต้องอยู่กับผม’’ เบียคุรันพูดดักความคิดของหญิงสาว ใช่แล้ว เขารู้มาว่า ซาซางาวะ เรียวเฮ ผู้พิทักษ์อรุณของวองโกเล่แล้วยังเป็นพี่ชายแท้ๆของเคียวโกะกำลังประจำการอยู่ที่ฐานทัพในญี่ปุ่น ซึ่งนั่นเองก็เป็นสิ่งที่เขาจะต้องระวังตัวด้วยเช่นกัน
“...’’ เคียวโกะเม้มปากนิ่งกับสิ่งที่เบียคุรันพูด นั่นแสดงว่าเขาจะต้องรู้แล้วว่าพี่ชายของเธออยู่ที่นี่ แล้วหนทางที่จะกลับไปมีชีวิตที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้งของเธออยู่ตรงไหนกันนะ...
หนทางที่เธอจะกลับไปยิ้มได้อย่างสดใสอีกครั้ง
รอยยิ้มที่ออกมากจากก้นบึ้งของหัวใจไม่ใช่เพียงการตอกย้ำตัวเอง
หนทางที่เธอจะกลับไปหาใครคนที่รักยิ่งดั่งดวงใจ
แล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาได้อย่างเต็มภาคภูมิ
คงจะได้แค่ฝันไปเท่านั้นเอง...
“ถึงแล้วนะ มานี่สิ’’ เสียงทุ้มกล่าวขึ้นเป็นประโยคแรกหลังจากที่เธอลืมตาตื่นขึ้นจากความเหนื่อยล้า แขนแกร่งของเบียคุรันฉุดให้เธอเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย ก้าวแรกที่เท้าของเธอสัมผัสถึงดินแดนบ้านเกิดที่เธอจากมาแสนนานมันช่างให้ความรู้สึกตื้นตันและเศร้าใจไปพร้อมๆกัน... แผ่นดินญี่ปุ่น
กลับมาแล้วนะ
หญิงสาวบอกกับตัวเองในใจ ก่อนจะต้องยืนนิ่ง เมื่อรับรู้สถานะของตัวเองว่าการกลับมาคราวนี้มันไม่เหมือนเดิม ได้แต่ก้มหน้าให้กับโชคชะตา ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองแผ่นดินผืนนี้อย่างเต็มตา และอายกับชะตากรรมที่ตนแบกรับ ชะตากรรมที่ทำให้แผ่นดินผืนนี้ต้องอับอาย...
“ผมอยากให้คุณไปที่ที่หนึ่ง กับผม...’’ เบีนคุรันเอ่ยถามแล้วปล่อยมือเคียวโกะลงช้าๆ
“ฉันมีสิทธิ์เลือกด้วยหรอ’’ เคียวโกะตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แล้วนั่นทำให้เบียคุรันฉุดลากแขนเธออีกครั้ง แล้วตอบกลับด้วยเสียงที่เย็นชากว่าทุกที
“นั่นสินะ คุณไม่มีสิทธ์เลือก’’ ชายหนุ่มบีบแขนเธอแน่นแล้วหันไปสั่งการกับลูกน้อง ก่อนจะปลีกตัวลากเธอมาเดินด้วยกันสองคน
“จะไปไหน’’ หญิงสาวขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย ในเมื่อที่ที่เขากำลังลากเธอมามีแต่ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมเต็มไปหมดดูแล้วไม่ต่างจากป่าเท่าไหร่นัก
“คุณมีสิทธิ์ถามด้วยหรอ’’ ชายหนุ่มพูดขณะกำลังย่ำฝีเท้าไปตามแผ่นหินที่ปูไว้เป็นทาง หญิงสาวมองดูเส้นทางรอบข้างแล้วนึกคุ้นชอบกล
“คุณรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวผมมา’’ เบียคุรันปล่อยมือหญิงสาวอีกครั้ง แล้วเดินหายไปในผืนป่ามีปกคลุมบางสิ่ง ฝ่ายเคียวโกะเองได้แต่ยืนนิ่งมองสิ่งรอบตัว ทั้งๆที่มันเป็นโอกาสเดียวแท้ๆที่เธอสามารถหนีไปจากเขาได้ แต่ขาของเธอกลับไม่เชื่อฟังก้าวต่อไปในทางที่ชายหนุ่มเพิ่งเดินเข้าไปเหมือนต้องมนต์สะกด
ที่แห่งนี้ ช่างคุ้นตาเหลือเกิน...
เหมือนเคยเห็น แต่ก็เหมือนกับไม่เคยเห็น...
เหมือนเคยมา แต่ก็เหมือนไม่เคยมา...
มือสวยของหญิงสาวแหวกกิ่งไม้ที่ละพุ่มเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ ตามที่เบียคุรันเดินเข้าไป
หนีไปสิเคียวโกะ หนีไป นี่มันเป็นโอกาสเดียวแล้วนะ เธอมัวทำบ้าอะไรอยู่
หญิงสาวพูดเตือนสติตัวเอง หากแต่เท้าของเธอยังคงก้าวต่อไป แล้วก็ถึงแผ่นหินแผ่นสุดท้าย นั่นคือสุดทางที่จะเดินต่อไปได้ สิ่งก่อสร้างเบื้องหน้าพร้อมกับชายหนุ่มผมเงินที่กำลังยืนทำอะไรสักอย่าง ทำเอาเธอนิ่งอึ้งไปราวกับว่าตกอยู่ในโลกของความฝัน
นี่มัน... ไม่จริง...
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดูคุ้นตาในอดีตนำพาเธอก้าวเข้าไปในดินแดนที่เหมือนความฝัน ภาพที่ปรากฎชายหนุ่มผมสีเงินเป็นประกายกำลังยืนกัดฟันนิ่งด้วยสายตาเคียดแค้นให้กับสิ่งปลูกสร้างอันศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาของเขาไม่ได้มีเพียงความเคียดแค้น หากแต่สิ่งที่ปรากฏในเวลาพร้อมกันคือความอ่อนแอ และน้ำตา...
แม้ภาพที่เห็นตรงหน้าคือสิ่งที่เธอควรจะตะลึงที่ได้เห็นน้ำตาและความปวดร้าวของคนที่ทำร้ายเธอมาโดยตลอด แต่สิ่งเหล่านั้นหาได้เข้ามาในหัวสมองของเธอ มันกลับผ่านเข้ามาและผ่านไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เธอสนใจและเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ในใจขณะนี้คือต้นไผ่สูงใหญ่ตรงหน้า ภาพต้นไผ่ต้นเล็กในอดีตทับซ้อนกับสิง่ที่อยู่ตรงหน้าเธอได้พอดี มือบอบบางเอื้อมไปหยิบแผ่นไม้สภาพเก่าโทรมเนื่องจากน้ำฝนและแสงแดดบวกกับระยะเวลาอันยาวนาน นิ้วเรียวลูบไปยังตัวอักษรที่แกะสลักไว้อย่างเชื้องช้า มือของเธอเริ่มที่จะสั่นเทาพร้อมๆกับหยดน้ำตาที่หลั่งรินไปยังพื้นของสถานที่ซึ่งมากไปด้วยความทรงจำของเธอ
’เราสองคนจะรักกันตลอดไป เมื่อพวกเราโตขึ้น พวกเราสัญญาว่าจะแต่งงานกันที่นี่ สึนะ เคียวโกะ’ ลายมือของเด็กวัยรุ่นในอดีตทำให้หญิงสาวกอดแผ่นไม้นั่นไว้แนบอก ก่อนที่หยาดน้ำตาจะรินไหลซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับสถานที่แห่งนี้ สถานที่ที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาของตัวเธอเองและคนที่เธอรักในอดีต...
ศาลเจ้านามิโมริ
___________________________________
มาอัพแล้วค่ะ 'w'
หายไปเนิ่นนาน เนื่องจากคิดพล็อตไม่ออก มันตันๆ 'w'
เม้นน้อยเวยค่ะ รอเมื่อไหร่จะถึง 20
นั่งลุ้น 20 สักทีๆๆ สุดท้ายทนไม่ไหวเช่นเคย มาอัพต่อ 'w'
ช่วยเม้น + โหวต เป็นกำลังใจด้วยนะคะ เนื้อเรื่องไม่ดียังไงจะแก้ไช
อยากรู้จังว่าคุณผู้อ่านเชียร์ให้ใครเป็นพระเอก?
ปล้ำลิง. ตอนนี้ไรท์เตอร์มีคนที่คาดว่าจะให้เป็นพระเอกในใจแล้วค่ะ 'w'
++ ++
ความคิดเห็น