ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn ; Worthless Tear หยาดน้ำตาในสายหมอก ;1009527

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter.4

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 53


    Chapter.4



    แม้
    เจ็บเจียนตาย แต่ชีวิตต้องดำเนินต่อไป...

    แม้อยากจะโผสู่อ้อมกอดของใครสักคน แต่กลับต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง...

    แม้อยากจะให้ถึงจุดจบของความเจ็บปวด แต่ต้องทนต่อไปเพื่อคนที่รักยิ่งดั่งลมหายใจ...



    “ตื่นแล้วหรอครับลูกแมวน้อยของผม
    ’’ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผู้เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเคลือบยาพิษจงใจพูดคำว่า ของผมอย่างเน้นความหมาย ทำให้หญิงสาวที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงต้องกัดฟันจนเป็นสันนูน


    “ทำไมคุณถึงไม่ยอมรับความจริงซะบ้างล่ะ ยังไงซะ คุณก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้อยู่แล้ว สู้ทำตัวน่ารักๆให้ผมคิดอยากเก็บคุณไว้นานๆไม่ดีกว่าหรอ
    ’’ เบียคุรันเอื้อมมือหนาไปลูบหัวเคียวโกะเบาๆก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามเส้นผมสลวยอน่างทะนุถนอม


    “ฮึก ฮึก
    ’’ เสียงสะอื้นดังขึ้นเบาๆพร้อมกับดวงตาที่เคยหวานฉ่ำแต่ตอนนี้กลับแดงช้ำตวัดขึ้นมามอง


    “ร้องไห้อีกแล้ว ไม่เอาน่า ผมไม่ชอบผู้หญิงขี้แยนะ มันน่ารำคาญ
    ’’ เบียคุรันกดหางเสียงลงต่ำเพื่อรอดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ก่อนจะต้องฉีกยิ้มสะใจอีกครั้งเมื่อเห็นดวงตาสวยหญิงสาวมีน้ำตารื้นขึ้นมาอีก


    “ยังไม่พอใจอีกรึไง ฮึก แกก็ได้ทำอย่างที่ต้องการไปแล้ว ฮึก ฮึก แล้วทำไม ทำไมไม่ให้ฉัน ฮึก กลับไปหาซือคุง
    ’’


    “ผมไม่ชอบให้คุณพูดถึงผู้ชายคนอื่นเวลาที่อยู่กับผม
    ’’ ชายหนุ่มผละมือจากผมนุ่มอย่างหมดอารมณ์ก่อนจะมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก


    “คนอื่นหรอ แกต่างหากที่เป็นคนอื่น
    ! ฉันกับซือคุงน่ะ โอ๊ย!’’ เคียวโกะถึงกับร้องเสียงสูงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายจับข้อมือเธอมาบีบแน่น


    “ซาวาดะ สึนะโยชิไม่ใช่ผู้ชายของคุณ แต่ผมคือผู้ชายของคุณ และเป็นเจ้าของชีวิตคุณด้วย จำเอาไว้
    !’’


    “...
    ’’ ฝ่ายเคียวโกะเองก็ถึงกับนิ่งเงียบเมื่อเห็นอารมณ์รุนแรงของอีกฝ่าย ซึ่งเบียคุรันก็มองปฏิกิริยาของเธอนิ่งๆก่อนจะทิ้งคำพูดไว้ด้วยเสียงที่นุ่มลงกว่าเดิม


    “เดี๋ยวผมจะเอาข้าวเช้าขึ้นมาให้
    ’’ ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปเงียบๆทำให้เคียวโกะได้แต่มองตามไปสุดสายตาด้วยไม่เข้าใจอารมณ์ที่ไม่คงที่ของชายหนุ่ม ก่อนมือบอบบางจะหยิบบางสิ่งออกจากเสื้อนอกของตน


    บางสิ่งที่ระยิมระยับและแวววาว...

    หวังว่าซือคุงจะกลับไปถึงอย่างปลอดภัย... รอฉันด้วยนะซือคุง

    ช่วยรอ... วันที่ฉันจะกลับไป แล้วซือคุง... จะต้องยิ้มให้ฉันนะ


    หญิงสาวใช้นิ้วลูบกิ๊บติดผมรูปผีเสื้อที่ระดับด้วยเพชรพลอยสวยงามไปมา เพราะมันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเธอ ของขวัญชิ้นแรกที่สึนะซื้อให้เธอ ซึ่งแม้ว่าเธอจะไมได้ติดมันมาเป็นเวลานานมากแล้วเพราะผมที่ยาวขึ้น แต่เธอก็พกมันติดตัวไว้ตลอดเวลา


    อย่าทิ้งฉันนะซือคุง เมื่อฉันกลับไป...

    ฉันขอโทษที่ฉัน...


    หญิงสาวกัดปากแน่นเพื่อกั้นเสียงสะอื้น เพราะเธอรู้ว่าสถานะของเธอในตอนนี้เป็นเช่นไร ดวงตากลมโตก้มลงมองร่างกายของตัวเองแล้วก็ต้องหลั่งน้ำตาอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่ต้องยอมรับความจริง


    ซือคุงจะรังเกียจฉันไหม...

    ฉันรู้ว่าซือคุงไม่ใช่คนแบบนั้น...

    แต่ฉันเองต่างหาก ที่ไม่มีค่าคู่ควรสำหรับซือคุง...

    สำหรับ วองโกเล่รุ่นที่สิบ...


    เคียวโกะค่อยๆยกมือที่สั่นระริกของตนเพื่อติดผมยาวสลวยของเธอ แล้วลูบกิ๊บบนหัวของเธอไปมาราวกับกำลังทอดความคิดไปที่ไหนสักแห่ง


    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่ว่าซือคุงจะเป็นเพียงแค่สึนะคุง หรือจะเป็นบอสใหญ่ของวองโกเล่...รอยยิ้มที่มีให้ฉันไม่เคยเปลี่ยนไป มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนเสมอมา ดังนั้น... ได้โปรดยิ้มให้ฉันอีกสักครั้งนะซือคุง

     


    “หึ
    ’’ เสียงหัวเราะดังขึ้นเพียงเบาๆจากชายหนุ่มผู้ยืนพิงประตูอยู่ที่มาพร้อมกับชามซุปในมือ


    ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่สงสารคุณ...

    ความรู้สึกที่ต้องสูญเสีย และไม่อาจอยู่กับคนที่รักได้ ผมเข้าใจดี...

    แต่มันคือสิ่งที่ผมต้องทำ และสิ่งนี้เท่านั้นที่จะทำให้คนข้างบนที่รอผมอยู่ยิ้มได้อย่างมีความสุข...

    คุณจะว่าผมชั่ว ผมเลวแค่ไหน...

    แต่ผมก็ต้องทำมัน ผมยอมเป็นคนเลวขอเพียงแค่ได้แก้แค้นกับสิ่งที่ผมเคยได้รับ...

    ด้วยความเจ็บปวดแบบเดียวกัน ไม่สิ ด้วยความเจ็บปวดที่มากขึ้นอีกหลายร้อยเท่า
    ขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบาก แต่คุณต่างหากที่ผิด... ผิดที่เป็นคนรักที่คอยอยู่เคียงข้างเขา

    และที่สำคัญตอนนี้... ความชั่วมันได้กลืนกินหัวใจผมไปจนหมดสิ้นแล้ว



    “ผมเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ไม่ใช่หรอ ว่าไม่ชอบผู้หญิงขี้แย
    ’’ เบียคุรันก้าวออกมาจากประตูที่ยืนพิงอยู่ ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียงแล้ววางชามซุปไว้บนโต๊ะไม้สีน้ำตาล


    “ฉันไม่อยากกิน
    ’’ เคียวโกะพูดด้วยเสียงนิ่งผิดกับใบหน้าตอนนี้ที่มีแววหดหู่


    “ผมรู้มาว่าเมื่อวานคุณก็ไม่ยอมกินข้าว... ผมไม่ชอบผู้หญิงผอมแห้งหนังติดกระดูก
    ’’ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบกิ๊บแวววาวบนผมสีน้ำตาลอ่อนของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา


    “เอาคืนมานะ
    !’’ เคียวโกะตวาดลั่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายหยิบของสำคัญของเธอไปมองดูอย่างพิจารณา พร้อมทั้งพยายามหยิบแย่งจากคนที่ยืนอยู่


    “ทำไมครับ
    ? หรือว่ามันเป็นของสำคัญ’’ เบียคุรันยิ้มแสยะหวังยั่วโมโหอีกฝ่ายเล่นซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดีเมื่อเคียวโกะถึงกับยืนขึ้นเพื่อเอากิ๊บตัวสวยคืน


    “เอาของฉันคืนมา
    !’’


    “ผมก็ไม่ได้คิดจะเอาของคุณสักหน่อย
    ’’ นิ้วเรียวยาวขอชชายหนุ่มค่อยบรรจงติดกิ๊บเข้าไปที่ผมสีน้ำตาลอ่อนอีกครั้ง ซึ่งการกระทำครั้งนี้ทำให้เคียวโกะที่กำลังสติแตกถึงกับชะงัก ...เพราะความอ่อนโยนจากมือที่ทำร้ายเธอมาตลอด


    “ต่างกันใช่ไหม...
    ’’ คำพูดที่ไม่สามารถจับความได้ของเบียคุรันทำเคียวโกะขวมดคิ้วหม่น


    …’’


    “ไม่มีอะไรหรอก ผมมีงานที่ต้องไปทำต่อ กินข้าวซะด้วย เมื่อผมกลับมาชามใบนี้ต้องว่างเปล่า
    ’’ เสียงนุ่มของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นแข้งกระด้างแต่มันก็ไมได้ทำให้เธอประหลาดใจเท่าไหร่เพราะเริ่มเข้าใจกับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆไม่ค่อยปกติของชายหนุ่ม


    “...
    ’’


    “อ้อ ผมไม่ได้เป็นห่วงคุณรู้ไว้ซะด้วย แค่อยากมั่นใจว่าคุณจะมีแรงสำหรับคืนนี้... หึ
    ’’ เบียคุรันทิ้งคำพูดกำกวมไว้พร้อมกับเสียงหัวเราะชวนขนหัวลุกก่อนจะปิดประตูเสียงดังออกจากห้องไป

     


    อีกแล้วสินะ ค่ำคืนแห่งความทรมาน...

    ไม่มีวันจบสิ้นจริงๆใช่ไหม...

    ชีวิตที่เหลือของฉัน... คงต้องทิ้งไว้ที่นี่จริงๆใช่ไหม...

    ______________________________

    ขอโทษผู้อ่านค่ะ ที่อัพช้าเหลือนเกินสำหรับชาร์ปนี้
    คือเพื่องสอบกลางภาคเสร็จค่ะ เลยมาอัพได้
    แล้วจะอัพบ่อยๆนะคะ 'w'

    ขอแค่คนล่ะ1เม้น ไม่นากใช่ไหมคะ?  อยากได้กำลังใจค่ะ
    เพราะรู้สึกว่าฟิคเรื่องนี้เรตติ้งไม่ดีเท่าไหร่เลยดูจากเม้น กะจะปิดฟิคเร่องนี้แล้วค่ะ ถ้าไม่มีคนอ่าน TT'






    ++ ++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×