ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic : Reborn.} Mix; short fic ll яeborn’

    ลำดับตอนที่ #4 : X S ll Before I die' ก่อนลมหายใจจะพรากเราจากกัน ; xanxus x squalo

    • อัปเดตล่าสุด 23 ธ.ค. 56


     

    ...พิรุณ ไม่สามารถอยู่ได้ หากขาดนภา…






    Before I die ก่อนลมหายใจจะพรากเราจากกัน

     

    บอสผู้ยิ่งใหญ่แห่งวาเรีย

    ยิ่งใหญ่ มีอำนาจ น่าเกรงขาม

    แล้วฉันล่ะ?  คือใคร…?

    สเปลบี สควอโล่ หรือ สวะ กันแน่

    ตอบฉันทีแซนซัสตอบฉันที

     


    “อา อืม… ไอ้สวะ’’ เสียงครางทุ้มต่ำในลำคอของบอสแห่งวาเรียดังขึ้นอย่างพอใจ


    สวะ?

    สวะงั้นเหรอ…?


    “…สเปลบี สควอโล่ อา อ๊ะ’’ เสียงหวานพึมพำเบาๆก่อนจะต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อโดนแรงกระแทกทางด้านหลังจากกิจกรรมบางอย่าง


    “แกว่าอะไรนะ’’ ผู้เป็นบอสเอ่ยถามพลางขมวดคิ้วหม่นแต่ยังคงทำหน้าที่ ผู้นำ ในกิจกรรมรักอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง


    “ฉันชื่อ สเปลบี สควอโล่ เรียกฉัน สเปลบี สควอโล่!’’


    “พูดมากนักไอ้สวะ!!’’


    “อ๊ะ อ๊า อ๊ากกก’’

     

    .

    .

    .

     

    ไอ้สวะ….

    สวะ

    สวะ

     

     

     

    “สควอโล่ สควอโล่’’



    “สควอโล่!’’ เสียงเรียกประสานที่คุ้นเคยเรียกเจ้าของชื่อให้กลับคืนมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันหลังจากตกอยู่ในห้วงความคิดเป็นเวลานาน  ตาสวยคมตวัดมองไปยังเสียงเรียกของลุสซูเรีย เบลเฟกอล และมาม่อน ที่นั่งกันอย่างพร้อมใจบนโต๊ะอาหารของเหล่าวาเรีย


    “บอสเรียกแน่ะ’’ ลุสซูเรียทำปากชี้โบ้ชี้เบ้ไปทางหัวโต๊ะที่แซนซัสนั่งเป็นสง่าอยู่ คนมีตำแหน่งเป็นบอสมองมาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างปกติ


    “มีอะไร’’ สควอโล่ถามเสียงเย็นไม่ใช่โวยวายโผงผางแต่ก็ยังไม่วายที่จะต้องโดนตะคอกกลับมาเฉกเช่นทุกวัน


    “ฉันบอกว่าให้แกไปขนของออกจากห้องฉัน หูหนวกรึไงวะ ไอ้สวะ!!’’


    เก็บของออกจากห้อง


    “หมายความว่ายังไง’’ สควอโล่นึกฉุนกับคนที่พูดด้วยไม่รู้เรื่อง แม้ในใจจะแอบหวั่นกับประโยคที่อีกฝ่ายกล่าวมา


    “ก็ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก มีปัญหาเหรอวะ?!’’ เสียงตะคอกดังพายุโหมของแซนซัสดังขึ้นอีกครั้งทำให้สควอโล่ต้องหลับตานิ่งเพื่อสงบใจ แล้วเลือกที่จะนิ่งเงียบแทนที่จะโวยวายเหมือนในทุกๆครั้งที่ผ่านมา


    “เอ่อ บอสไม่สบายรึเปล่าฮ้า?’’ เสียงทุ้มที่ถูกดัดจนแหลมของลุสซูเรียดังขึ้นอย่างแปลกใจที่บอสของตนจะไล่คนที่ใครๆก็เข้าใจว่าอยู่ในฐานะ คนรัก ออกจากห้อง บวกกับใบหน้าที่ดูซีดเซียวและโทรมกว่าปกติของผู้เป็นบอสแล้วทำให้เขาสรุปความเอาเองว่าบอสของตนจะต้องเป็นไข้ไม่สบายจนเพ้อเจ้อแน่นอน


    ‘’…’’ แซนซัสนิ่งไปเมื่อเจอคำถามของลุสซูเรีย แต่ดวงตาน่ากลัวที่มีสีดั่งทะเลเลือดกลับมองตรงไปยังอีกคน

               
               
    สายตาที่มีความโมโหเจืออยู่ของแซนซัสมองตรงมาที่สควอโล่แล้วหรี่ลงเล็กน้องราวกับกำลังพิจารณานักโทษ ซึ่งนั่นก็เรียกความน้อยใจให้ก่อขึ้นในใจของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว


    สายตานั่นมันคืออะไร?

    สายตาของแกที่ไม่เคยบ่งบอกความรู้สึกที่มีให้ฉัน

    ทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งห่วง

    แกเคยรู้สึกสักอย่างบ้างไหม

    หรือมีแค่ฉัน ที่รู้สึกไปเองคนเดียว

     

    “เป็นอะไรของแก ไอ้สวะ’’ เสียงตวาดพร้องรอยยกยิ้มที่มุมปากของผู้เป็นบอสเรียกรอยยิ้มบางๆของสควอโล่ให้เผยออกมาได้    หากแต่มันไม่ใช่รอยยิ้มด้วยความยินดีเท่านั้นเอง


     
    “สวะ! สวะ! สวะ! อะไรๆก็สวะ ฉันมีค่าแค่นั้นใช่ไหม!?’’ เมื่อถึงจุดเดือดร่างโปร่งของสควอโล่จึงลุกขึ้นทุบโต๊ะอย่างแรงมือสวยภายใต้ถุงมือสีดำยามนี้สั่นเทาไปหมด ทุกชีวิตบนโต๊ะจ้องมองมายังคนยืนด้วยความเป็นห่วง จะมีก็แต่คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะที่ยังไม่เลิกขมวดคิ้วหม่น


    อยากให้มาก็สั่งให้มา อยากให้ไปก็ขับไล่ไสส่ง

    แกเห็นฉันเป็นอะไรกันแน่แซนซัส

    คนรัก หรือ ทาส ของนาย


    “รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ ไอ้สวะ’’ แซนซัสพูดเสียงดังฟังชัดอย่างเน้นความหมาย ประโยคสั้นๆแต่กลับทำร้ายจิตใจได้อย่างแสนสาหัสของคนตอบทำเอาคนถามไปไม่เป็น ร่างโปร่งยืนนิ่งอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก่อนดวงตาสวยจะมีน้ำรื้นขึ้นมา แต่เจ้าตัวกลับรีบหันหลังกลับแล้วเช็ดมันออก


    “เอ่อ สควอโล่จ้ะ นั่งลงใจเย็นๆก่อนนะจ้ะ บอสก็เหมือนกัน น่าจะคุยกันดีๆ…’’ ลุสซูเรียจับแขนของสควอโล่ไว้คล้ายจะปลอบโยน แต่สายตากลับส่งแววขอร้องไปยังแซนซัส


    “ถ้าฉันมีค่าแค่นั้น ต่อจากนี้แกก็ไม่ต้องมายุ่งกับคนอย่างฉันอีก!’’ เสียงก้องกังวานของสควอโล่ดังลั่น ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเดินออกมาให้พ้นจากรัศมีของโต๊ะอาหาร แล้วรีบวิ่งออกไปจากกปราสาทวาเรียอย่างหัวเสียและไม่มีจุดหมาย


    “บอสทำอะไรลงไปนะฮ้า!? สควอโล่ร้องไห้แล้วเห็นไหม’’ ลุสซูเรียรีบโวยวายกรี๊ดกร๊าด เช่นเดียวกับ เบลเฟกอล และ มาม่อน พากันพยักหน้าเห็นด้วย จะมีก็แต่เลวี่ที่นั่งเงียบไม่กล้าขัดใจบอส


    “…’’ แซนซัสนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา แววตาคมเข้มฉายแววกังวลเล็กน้อยก่อนที่มันจะโดนกลืนหายไป


    “บอสฮ้า! ทำไมยังไม่รีบตามสควอโล่ไปอีกละฮ้า!?’’ ลุสซูเรียทำท่าคะยั้นคะยอ ซึ่งก็มี เบลเฟกอล กับ มาม่อนพยักหน้ารับเป็นลูกคู่อีกตามเคย


    ''พวกแกมีสิทธิ์สั่งฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?’’ แซนซัสกล่าวเสียงเรียบก่อนจะวางมีดส้อมในมือสองข้างเสียงดังแล้วเดินกลับห้องตัวเองไปเงียบ ทิ้งให้บุคคลที่นั่งอยู่บนโต๊ะทั้งหลายพากันมองตามด้วยความไม่เข้าใจ

     

     

     




    “โว้ยยยยยยยยยยยย!! ไอ้บอสบ้า!’’ เสียงดังแสบแก้วหูคล้ายจะกรีดร้องของใครบางคนดังขึ้นในผืนป่าทึบ เจ้าของเสียงใช้ดาบคู่กายฟาดไปที่ต้นไม้สูงใหญ่นับครั้งไม่ถ้วนเพื่อระบายอารมณ์ที่มันอัดอั้นตันใจอยู่ภายในมาเนิ่นนาน

     

    ไร้ค่า ใช่! ฉันมันไร้ค่า!

    แล้วแกมายุ่งกับคนไร้ค่าอย่างฉันทำไม!?

     

    “โธ่ว้อย!’’ ร่างโปร่งทึ้งผมยาวสลวยสีเงินของตนอย่างแรง         

     

    ท้องฟ้าหม่นๆอย่างแกฉันก็ไม่ต้องการเหมือนกัน!

    ชายหนุ่มกล่าวเสียงก้องในใจตัวเอง แม้จะรู้ดี ว่า พิรุณ ไม่สามารถอยู่ได้ หากขาดนภา

     

    ฉันตัดสินใจแล้ว! ฉันจะไม่ตัดผมจนกว่าแกจะได้เป็นรุ่นที่ 10’

    นับจากนี้ ฉันจะไม่แพ้ใครเด็ดขาด

    แล้วซักวัน แกจะดีใจที่มีฉันเป็นลูกน้อง

     

    “ไอ้บ้าเอ๊ย แกเป็นอะไรของแก!!’’  สควอโล่ตวาดลั่นอย่างหัวเสียและไม่เข้าใจอารมณ์ผีเข้าผีออกของผู้เป็นบอส ทั้งๆที่เมื่อก่อนถึงแม้จะหยาบคาย และแข็งกระด้างแค่ไหน คนๆนี้ก็ไม่เคยมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น
    สายตาเย็นชาที่ทำให้หนาวไปถึงขั้วหัวใจ ยิ่งไม่กี่วันมานี่แล้วก็ยิ่งทำตัวเหินห่าง และพูดจาไม่มีเหตุผลใส่ ยิ่งวันนี้แล้วเมื่ออีกฝ่ายบอกให้เขาเก็บของออกจากห้อง และสิ่งนั้นเองที่แสดงให้เห็นว่าใครคนนั้นคงไม่ต้องการเขาอีกต่อไป

     

    แกคงเบื่อฉันแล้วล่ะสิ

    เฮอะ ก็แน่ล่ะ เวลาตั้งแปดปีที่ฉันคอยเดินตามแกต้อยๆ

     

    เวลาแปดปี

    ที่ฉันอยู่กับแกมา ทำไมมันเร็วอย่างนี้ล่ะวะ

     

    อยากย้อนเวลากลับไป

    ไม่รู้จักคนอย่างแก

     

    อยากย้อนกลับไปในตอนที่ฉัน

    ยังไม่ได้รักแกหมดใจ

     

    “นี่มันไม่ใช่ฉัน ไอ้คนน่าสมเพช ไม่ใช่ตัวฉัน…’’ ฉลามหนุ่มกัดฟันแน่น ดวงตาเรียวสวยบัดนี้ บวมแดงและมีน้ำรื้นอยู่เต็มเบ้า

     

    ในเมื่อแกไม่ต้องการ

    ฉันก็ต้องไปใช่ไหม?...

    เพราะคือคำสั่งของบอส วาเรียผู้ยิ่งใหญ่

     

    ถูกแล้วแซนซัส แกคือบอสผู้ยิ่งใหญ่

    คือว่าที่รุ่นที่สิบของวองโกเล่

    .

    .

    แล้วฉันล่ะ?

    สเปลลบี สควอโล่ คือใครกัน?

    ก็แค่สวะเท่านั้นเอง

     

        

              อาทิตย์อัสดงคล้อยลงต่ำ บรรยากาศในยามเย็นที่จวนจะพลบค่ำนั้นดูสลัวและเย็นเยียบ เสียงกิ่งไม้ดังกรอบแกรบยิ่งเหมือนหลุมดำในใจที่ดูเหมือนจะลึกจนไม่มีที่สิ้นสุดของเขา ร่างสูงโปร่งของคนผมยาว เดินอย่างอ่อนแรงช้าๆจนมาถึงสถานที่ที่คุ้นเคย


    สุดท้ายก็ต้องกลับมา เจอแก


    คนที่เพิ่งสำนึกตัวได้ว่าไม่มีที่จะไปทำสีหน้าหม่นหมองซึ่งก็ไม่แตกต่างกับจิตใจของตัวเองในตอนนี้ที่เหมือนจะมีแต่แผลเหวอะหวะน่ากลัวเต็มไปหมด


    แกจะกลัวอะไรหา สเปลบี สควอโล่ ยังไงซะ มันก็คงจะไม่มีที่ให้เจ็บไปมากกว่านี้แล้ว


    พูดเตือนตัวเองในใจให้ขายาวและใจของตนหยุดสั่น แม้มันจะไม่ได้ผลก็ตาม


    “สควอโล่!’’เสียงคุ้นหูของลุสซูเรียดังขึ้น พร้อมกับร่างบึ้กๆของคนไม่บ่งบอกเพศวิ่งเข้ามา และตามติดมาด้วยเบลเฟกอลพร้อมมาม่อนที่อยู่บนผมยุ่งๆสีทองอร่าม


    “สควอโล่ บอส บอสน่ะ!’’ น้ำเสียงตื่นๆของลุสซูเรียทำเอาสควอโล่หน้าหมองไปพักใหญ่ที่ต้องมาได้ยินข่าวสารข้อมูลของคนที่ตนไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยมากที่สุดในขณะนี้


    “ไม่ต้องพูดให้ฉันฟัง เรื่องของมันน่ะ ฉันไม่อยากจะยุ่ง’’ ขาเรียวยาวของผู้พูดรีบเดินจ้ำอ้าวหวังจะหลบให้พ้นจากเพื่อนร่วมสังกัด


    “แต่สควอโล่ บอสน่ะ!’’ เสียงของคนตะโกน มันทั้งสั่นและสิ้นหวัง ใบหน้าของเขามีหยาดน้ำตาเกาะเต็มไปหมด แต่คนโดนเรียกกลับไม่ได้สังเกตเห็นด้วยคิดหมกหมุ่นแต่เรื่องของตน


    “มันจะเป็นตายยังไงก็ช่างหัวมัน ไอบอสเฮงซวย จากนี้ไปฉันกับมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก’’ เสียงกร้าวของสควอโล่ฟังชัดฉะฉานเล่นเอาคนตื๊อทั้งสามสะอึก


    “ถึงนายจะไม่อยากรู้ แต่สควอโล่ บอสน่ะ…’’

    .

    .

    .



    “แซนซัส!!’’ เสียงสั่นจนแทบจับใจความไม่ได้ของฉลามหนุ่มดังกังวานขึ้นในห้องสี่เหลี่ยม ที่ซึ่งใครบางคนนอนขดตัวแน่นิ่งอยูบนพื้น เหล่าลูกน้องบริวารทั้งหมดรีบพากันกรูออกไปทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้ามา


    “หนวกหู แกจะตะโกนทำไม ไอ้สวะ’’ คนพูดรีบหันหลังกลับด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นสภาพของตนในตอนนี้ เสียงแหบพร่าฟังดูไร้เรี่ยวแรงของผู้เป็นบอสทำเอาหัวใจของผู้มาใหม่กระตุกวูบก่อนจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม


    “แกทำไมไม่บอกฉัน!? หา แซนซัส ทำไมแกไม่บอกฉัน!?’’ ฉลามหนุ่มตะโกนลั่น ใบหน้าสวยยามนี้มีแต่น้ำตาเกรอะกรังเต็มไปหมด เขารีบรุดเข้ามาเขย่าตัวคนที่นอนอยู่ จนอีกฝ่ายร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด


    “ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก’’


    “…ฉันไม่ออก’’


    “ก็ฉันบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าแก จะไปตายที่ไหนก็ไป ไม่ได้ยินรึไงวะ ไอ้สวะ!! ’’ ผู้เป็นบอสขึ้นเสียงตะโกนจนสุดแรงก่อนจะไอและอาเจียนออกมาอย่างหนัก


    “แค่ก แค่ก’’ มือใหญ่ที่บัดนี้สันเทาของแซนซัสรีบยกขึ้นมาปิดปากตัวเองแน่น ริมฝีปากแตกแห้งของเขารับรู้ได้ถึงรสขมปร่าของเลือดที่อยู่ภายใน แม้มันจะน่าสะอิดสะเอียนและเหม็นคาวมากแค่ไหนแค่เขากลับเลือกที่จะกลืนมันลงคอไปด้วยความยากลำบาก


    “แล้ว แล้วทำไมแกไม่เรียกหมอ หมอ เบอร์หมออยู่ไหน’’ เสียงสั่นๆของสควอโล่ร้อนรนไม่ต่างกับเจ้าตัวที่ลุกเดินไปเดินมาทั่วห้อง


    “ออกไป แค่ก ซะทีไอ้สวะ แค่ก แค่ก’’ คนออกคำสั่งไอเสียงน่ากลัวออกมาชุดใหญ่ เรียกอารมณ์ฉุนกึกจากคนเป็นห่วงได้อย่างดี


    “แกมัวพล่ามบ้าอะไรอยู่ได้! ขืนแกยังทำตัวแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดี!!’’ ฉลามหนุ่มตะโกนลั่น หากแต่ถ้อยคำเหล่านั้นล้วนมาจากคาวมเป็นห่วงของเขานั่นเอง ร่างบางกว่ากลับไปนุ่งคุกเข่าเช่นเดิมแล้วนำศีรษะของคนที่นอนคุดคู้อยู่บนพื้นมาวางไว้บนตักตน


    “…ไม่เป็นไรนะ แซนซัส’’ สควอโล่บอกด้วยเสียงแผ่วเบาแตกต่างกับเมื่อครู่อย่างลิบลับ ดวงตาสีเทาที่เคยใสเป็นประกายของเขาบัดนี้กลับมืดหม่นเพราะเรื่องราวต่างๆที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด


    “ฉันกำลังจะตาย… แล้วไงล่ะ’’ แซนซัสพยายามออกเสียงด้วยความยากลำบาก ดวงตาสีเลือดของเขายามนี้ทอดมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายแน่นิ่ง


    “แกจะได้เป็นหัวหน้าวาเรีย ไม่ใช่สิ่งที่แกใฝ่ฝันมาตลอดรึไง’’ คนไม่รู้สังขารตัวเองแค่นหัวเราะ ทำเอาคนได้ฟังเบิกตากว้าง


    “แกเกลียดฉันอยู่แล้วนี่ ฉันทำร้ายทั้งร่างกายทั้งจิตใจแกมามากมาย ที่จริงแกกำลังดีใจอยู่ใช่ไหมที่ฉันจะได้ตายๆไปซะที ไม่ต้องมาทำเสแสร้ง’’ แซนซัสยกยิ้มที่มุมปากคล้ายยิ้มเยาะแม้ในใจจะขมขื่นเพียงใด แต่มีแค่การที่ทำให้ตัวเองโดนเกลียดเท่านั้น คนตรงหน้าเขาจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวด เพราะรู้ตัวเองดีว่าเวลาที่จะได้อยู่บนโลกใบนี้ มันได้ใกล้จะหมดลงแล้ว


    “แซนซัส!’’  สควอโล่ตะคอกใส่หน้าคนปากดีเสียงดัง ดวงตาเรียวสวยยามนี้มีน้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งแห้งไป


    “แกไม่รู้เหรอ ไม่เคยรู้เหรอ! เรื่องราวที่ผ่านมา ที่ฉันทำมันเพื่อใคร!? เพื่อใครกันล่ะ!!’’ ฉลามหนุ่มตะโกนเสียงก้องแม้มันจะสั่นมากก็ตาม ดวงตาสีเลือดของอีกฝ่ายจ้องมองมาทางเขา ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากขึ้นเหมือนต้องการจะเอื้อนเอ่ยบางอย่าง


    “แก…’’ เสียงของผู้เป็นบอสที่เปล่งออกมานั้นแตกพร่าและเบาเสียจนฟังไม่รู้เรื่อง มีแต่เพียงลมร้อนเท่านั้นที่ออกมาจากปากที่เคยพ่นแต่คำร้ายๆ


    “ไม่ต้องพูดหรอก ไอ้บอสบ้า…’’ สควอโล่กัดปากแน่นอย่างขมขื่นและน้อยเนื้อต่ำใจ


    “…’’


    “…ฉันรู้ ว่าแกเกลียดฉัน จนตายแกก็คงยังไม่เลิกเกลียดฉันสินะ’’


    “…’’                                 


    “ฉันคงเป็นได้แค่สวะอย่างที่แกว่าจริงๆ’’


    “…’’


    “รู้อะไรไหมแซนซัส ถึงฉันจะรักแก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะไม่เกลียดแก’’


    “…’’


    “แกชอบทำตัวเอาแต่ใจตัวเอง วางอำนาจใหญ่โต ไม่เคยคิดถึงจิตใจคนอื่น’’


    “…’’


    “ถึงแม้ว่าฉันจะเกลียดแกมากแค่ไหน แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงต้องยอมแกตลอดมา’’


    “…’’


    “ฉันน่ะ… แซนซัส?’’ สควอโล่ก้มหน้าลงดูอีกฝ่ายเพราะเห็นว่าเงียบผิดปกติแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนให้อ้อมกอดนอนหลับตาแน่นิ่ง


    “แกอย่าเงียบอย่างนี้สิ แซนซัส แซนซัส’’ เขาเขย่าตัวอีกฝ่ายแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนที่นิ่งอยู่จะตื่นขึ้นมาได้เลย หัวใจของเขาเย็นเยียบราวอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ


    “แซนซัส… ตื่นสิ!! ไอ้บอสบ้า ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!’’ เสียงโวยวายของเขาสั่นสะท้านเช่นเดียวกับร่างกายของเขาที่สั่นจนควบคุมไม่ได้ น้ำตาใสร่วงลงมาอย่างไม่ขาดสาย


    “ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ไอ้บอสบ้า ฉันเกลียดแก ตื่นขึ้นมา’’ เสียงโวยวายเปลี่ยนเป็นเสียงยืดที่ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง คนพูดกอดร่างของอีกฝ่ายแน่น ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเขาได้ซึมผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้เป็นบอสจนเห็นรอยน้ำตาเป็นวงกว้าง


    “… สเปลบี สควอโล่’’ เสียงเรียกแผ่วเบาในโสตประสาท ทำให้สควอโล่รีบเงยหน้าขึ้นมามองบุคคลในอ้อมกอดก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายปรือตาขึ้นมาช้าๆ ริมฝีปากแตกแห้งขยับช้าๆคล้ายจะเอื้อนเอ่ยคำพูด เจ้าของร่างพยายามสูดหายใจเข้าช้าๆเพื่อเรียกลมหายใจให้กลับมาอีกครั้ง


    “ฉันรักแก…’’ คำพูดที่เขาต้องการได้ยินมาตลอด แค่คำว่ารัก จากปากคนที่เขารักมากที่สุด หากแต่ตอนนี้มันกลับคือสิ่งที่เขาไม่ต้องการได้ยินมากที่สุด




    เพราะมันคือคำพูดที่พรากลมหายใจของคนที่เขารักไป ตลอดกาล



    ________________________________


    ฟิควายรีบอร์นเรื่องแรกที่แต่ง... จบได้แบบสิ้นคิดมาก 
    ไม่รู้จะให้เศร้ายังไงแล้ว ตายเลยละกันป๋า ฮะฮ่า (แฟนคลับป๋ารุมกระทืบ)


    ไรท์เตอร์ชอบดราม่าค่ะ ฮะฮ่า

    ต่อไปอยากได้คู่อะไร รีเควสมาได้เลยค่ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×