คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คลุมถุงชน
ณ ดินแดนอันศักดิสิทธ์ ดินแดนที่เต็มไปด้วยภูต ปีศาจ เวทมนตร์ และสิ่งที่เหนือธรรมชาติเกินกว่าเราจะคลาดถึง ดินแดนที่เก่าแก่และโบราณ ดินแดนแห่งนี้ มีชื่อว่า ดินแดนเจสมิไนล์
ดินแดนเจสมิไนล์แห่งนี้ ประกอบด้วยอาณาจักรหลายอาณาจักร ได้แก่ แคททราโคมด์ , ซิลท์ , แคพพิทัลเลีย , แอนเดอร์เรช , อะดอร์น , แอลโดเรีย , โรบลูเคส , แอ็สเทรอย์ด ป่าเฟาลและป่าชิเล็สเตียส ป่าที่มีอาณาเขตติดกันเพียงแต่ป่าเฟาลตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ส่วนป่าชิเล็สเตียสอยู่ตอนกลางของดินแดนเจสมิไนล์ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ทั้ง 2 ป่านี้ และมีความเชื่อต่างๆนานา บ้างก็ว่า ป่าทั้ง 2 เป็นป่าที่เต็มไปด้วยปีศาจ ป่าที่ใครเข้าไปแล้วจะไม่สามารถกลับออกมาได้ และบางคนก็เล่าว่าเคยได้ยินเสียงโหยหวนกรีดร้องอย่างสยดสยอง บ้างก็ว่า เป็นป่าที่ศักดิสิทธ์ ป่าที่เทพเจ้าปลูกไว้เป็นที่อาศัยของพระองค์ แต่ใครเล่าจะรู้ความจริงได้ในเมื่อไม่มีใครเคยเข้าไปในป่าทั้ง 2 แห่งนี้เลย
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
“ราเคเซียร์ ลูกต้องแต่งงานกับเจ้าชายไซเฟอร์ หากลูกไม่แต่ง ลูกก็น่าจะรู้ว่าจะเกิดอะไรกับเมืองของเรา”กษัตริย์ฮิเลเรียส ราชาแห่งแคพพิทัลเลียกล่าวบอกลูกราเคเซียร์ เจ้าหญิงหัวดื้อ ให้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายไซเฟอร์ อาร์คิลิส เจ้าชายแห่งแอ็สเทรอย์ด เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่ออาณาจักรแอ็สเทรอย์ด
“ไม่! อย่างไรลูกก็ไม่แต่ง หากท่านพ่ออยากให้แต่งนัก ก็ทรงอภิเษกกับเจ้าชายนั่นเองสิเพคะ ในเมื่อตอนนี้ท่านแม่ก็ไม่อยู่แล้ว” เจ้าหญิงราเคเซียร์ปฏิเสธเสียงแข็ง ในใจคิดน้อยใจตัวเอง หากท่านแม่ของพระองค์อยู่ท่านพ่อคงไม่คิดอย่างนี้
“หากเป็นเรื่องอื่น ลูกปฏิเสธ พ่อก็คงไม่ว่า แต่เรื่องการแต่งงานเป็นหน้าที่ของพ่อที่จะเลือกคู่ครองอันเหมาะสมกับสายโลหิตขัตติยะอย่างลูก แล้วพ่อก็ได้ตกลงกับทางกษัตริย์อเล็กเซียสแห่งแอ็สเทรอย์ดไว้แล้วด้วย อีกอย่างลูกก็รู้ว่าเราทั้ง 2 อาณาจักรต่างมีความสัมพันธ์อันดีมาช้านาน หากเราปฏิเสธไป พ่อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ก็เอาไว้บนบ่าของพระองค์นั้นแหละเพคะ ท่านพ่อหยุดเกรี้ยวกร่อมลูกสักที ลูกบอกว่าไม่แต่ง คือไม่แต่ง ไม่ว่าท่านพ่อจะพูดสักเท่าไรก็อย่าหวังว่าลูกจะเปลี่ยนใจ การทนอยู่กับคนที่ตนไม่ได้รักไปตลอดชีวิต มันทรมานเพียงใด ท่านพ่อไม่รู้หรอก เพราะท่านพ่อไม่มีหัวใจ แม้กระทั่งท่านแม่ ท่านพ่อยังขับไล่ได้ลงคอ ท่านพ่อจะไปรู้อะไร” เมื่อกล่าวจบร่างที่พูดอย่างไม่เกรงใจใครก็เดินออกไป โดยไม่สนใจความรู้สึกของคนที่เธอเรียกว่า พ่อ
ตลอดเวลา 7 ปี เวลาที่แสนยาวนานในใจของราเคเซียร์ เวลาที่หัวใจว่างเปล่าไร้คนเหลียวแล ไม่มีใครให้คำปรึกษา และระบายความรู้สึก ทำให้เธอไม่เป็นกุลสตรีสักเท่าไร ในเมื่อในพระราชวังหลวงไม่มีใครสนใจ เธอจึงออกไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ใครทราบ ตั้งแต่ท่านพ่อขับไล่ท่านแม่ออกจากพระราชวัง เธอก็มีแต่พวกทหารที่ค่อยเล่นกับเธอเท่านั้น เธอจึงเรียนวิชาป้องกันตัวด้วยอาวุสต่างๆ ตัวเธอนั้นไม่มีคนรับใช้ส่วนตัว ไม่มีเลขา ไม่มีแม้แต่องครักษ์ซึ่งราชวงศ์ทุกพระองค์ควรจะมี มันช่างแตกต่างไปจากพี่สาวของเธอโดยสิ้นเชิง ลูครีเชียร์ องค์หญิงผู้น่ารัก อ่อนโยน มีเสน่ห์และฉลาด ทุกคนสนใจในตัวเธอ ทั้งในพระราชวังเอง รวมไปถึงเจ้าชายในอาณาจักรต่างๆ ก็ต่างหลงใหลในตัวเธอยิ่งนัก ในงานเลี้ยงแต่ละครั้ง ลูครีเชียร์จะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ และขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีใครเห็นเจ้าหญิงนามว่า ราเคเซียร์ ผู้นี้อยู่ในงานเลย เพราะเธอมักจะออกจากงานเลี้ยงเพื่อกลับไปที่ห้อง ก่อนแขกคนสำคัญจะมาครบซะอีก และคงไม่แปลกที่จะไม่เห็นเธอไปร่วมงานที่อาณาจักรอื่น
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ในห้องที่เงียบสงบ พรมสีแดงที่สั่งทำพิเศษจากแอลโดเรีย ผนังสองข้างสีชมพูอ่อนสดใสเหมือนกุหลาบแรกแย้มในยามเช้าชวนน่าพิสมัยยิ่ง แต่ใจของหญิงสาวผมยาวถึงสะโพกสีดำสนิท ผู้เป็นเจ้าของห้องตอนนี้กลับขุ่นมัวไม่สดใสเฉกเช่นห้องที่เธออยู่
ก๊อก ก๊อก เสียงประตูดังขึ้น “พี่เอง น้องว่างอยู่หรือเปล่า พี่เข้าไปได้มั้ย”
“เข้ามาสิคะ ท่านพี่ลูครีเชียร์”
“อืม ท่านพ่อให้พี่มาบอกน้องว่า ให้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับพรุ่งนี้เช้า กษัตริย์อเล็กเซียสและเจ้าชายไซเฟอร์ จะเดินทางมาที่เมืองของเรา เพื่อจัดเตรียมงานอภิเษกสมรสระหว่างน้องกับเจ้าชายไซเฟอร์” หญิงสาวย่างกายเดินมาหาราเคเซียร์ เธอมีผมสีทอง ใบหน้ารูปไข่ได้รูป ปากอมชมพูดูอิ่มเอิบ ในตาสีบรอนเงินคมดั่งใบมีด แต่หาดูเย็นชาไม่ ถึงแม้ขณะนี้เธอจะดูอ่อนล้ามากเพียงใด แต่ความสวยของเธอก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย เธอคนนี้คือลูครีเชียร์ พี่สาวแท้ๆ ของราเคเซียร์ หากดูเผินๆ ทั้งท่าทางกิริยาและใบหน้าของเธอจะไม่มีส่วนไหนคล้ายราเคเซียร์เลย หากมองใบหน้าเธอให้ชัดๆ ก็มีบางส่วนที่ทำให้เธอดูคล้ายกับราเคเซียร์อยู่บ้าง เพียงแต่ส่วนนั้น อาจจะต้องดูจากภายใน
ราเคเซียร์เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มหนาที่ว่าด้วยการบริหารและการปกครองอาณาจักร และพบกับใบหน้าอันงดงามของพี่สาว ซึ่งบัดนี้ปรากฎให้เห็นริ้วรอยแห่งความกังวลและในตาสีบรอนเงินที่โศกเศร้า
“อะ! ท่านพี่ทำไมหน้าดูเศร้าๆ เป็นอะไรหรือเปล่าเพคะ”เธอถามพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร พี่สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกจ๊ะ อืม...พี่ถามอะไรหน่อยสิ น้องอยากแต่งงานกับเจ้าชายไซเฟอร์หรือเปล่า”
“ไม่เลยเพคะ น้องไม่อยากแต่งงานกับเขาเลย น้องไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ ว่าแต่ท่านพี่ถามน้องทำไมหรอเพคะ”
“อ๋อ เปล่า แล้วพรุ่งนี้น้องจะไปต้อนรับเจ้าชายไซเฟอร์ใช่มั้ย”
“ทำไมหรอเพคะ? ...แต่ก็ชั่งเถอะ รบกวนท่านพี่ไปบอกท่านพ่อด้วยว่าน้องจะเตรียมตัว และพรุ่งนี้ฝากลาท่านพ่อด้วยนะเพคะ ท่านพี่ไปนอนเถอะคะ พรุ่งนี้จะได้ไปต้อนรับกษัตริย์และเจ้าชายไซเฟอร์แห่งแอ็สเทรอย์ดแทนน้องนะเพคะ ท่านพี่ที่รัก”
“น้องจะไปไหน น้องจะหนีไม่ได้นะ”
“แล้วท่านพี่จะให้น้องทำเช่นไร ยอมแต่งงานกับคนที่น้องไม่ได้รักงั้นหรือ ถึงแม้ขุนนาง
“เพราะเจ้าชายไซเฟอร์ไม่ได้รักพี่น่ะสิ เขารักน้อง เขาต้องการแต่น้องเพียงเท่านั้น”
“แล้วน้องล่ะ น้องต้องการเขาหรือเปล่า หากเขารักน้องจริง น่าจะเห็นอกเห็นใจน้อง เขาไม่รู้หรือว่าน้องไม่ได้รักเขาเลย”
หากเขารักเราจริง เขาคงต้องนึกถึงจิตใจเราบ้างสิ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เค้าคงแค่อยากได้เราไปครอบครองเสมือนเราเป็นสิ่งของที่ต้องตาต้องใจชั่วคราวเท่านั้นแหละ นานไปก็เบื่อ เขาหาคิดว่าเราเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจไม่ เราจะไม่มีวันแต่งงานกับคนผู้นั่นเป็นอันเด็ดขาด
“แต่ท่านพ่อ...”
“เราจะไม่พูดเรื่องนี้อีก น้องตัดสินใจแล้ว”
ลูครีเชียร์ถอนหายใจในความดื้อรั้นของน้องสาว ในใจพลอยคิดว่า คงเป็นเพราะเธอไม่ได้รับความเอาใจใส่เท่าที่ควร เธอจึงเป็นเช่นนี้กระมัง
“ราเคเซียร์ รอพี่แปบนะ เดี๋ยวพี่มา”ลูครีเชียร์เดินกึ่งวิ่งออกไปจากห้อง
5 นาทีผ่านไป
“ท่านพี่ไปไหนมาเพคะ” ราเคเซียร์ถามด้วยความสงสัย
“พี่เอานี่มาให้ เมื่อน้องออกเดินทางไปจากที่นี่แล้ว ให้น้องดื่มนี่ซะ ดื่มหยอดเดียวก็พอแล้ว มันจะทำให้การเดินทางของน้องปลอดภัยขึ้น สิ่งนี่ใช้ครั้งหนึ่งได้เพียง 12 ชั่วโมง เท่านั้น จงใช้มันอย่างประหยัดน้องรัก พี่คงช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้” ลูครีเชียร์ยื่นขวดแก้วสีทับทิมใสที่มีลักษณะคล้ายคนโทมีฝาปิดไว้ ให้แก่ราเคเซียร์ พร้อมอธิบายการใช้อย่างละเอียด
“สิ่งนี้มันคืออะไรเพคะ ทำไมน้องต้องดื่มมัน”
“มันคือ น้ำทิพย์บุตรจันทรา พี่ไปนอนก่อนนะ น้องจะนอนก่อนก็ได้นะ จะได้มีแรง โชคดีล่ะ”
“เดี๋ยว ท่านพี่ มันเอา...”
กึก! ลูครีเชียร์ออกจากห้องไป ทิ้งความสงสัยไว้ให้ราเคเซียร์คิดอยู่เต็มสมอง
ราเคเซียร์หยิบขวดแก้วนั้นขึ้นมาพิจารณาความเป็นไปได้
“มันเอาไว้ทำอะไรน้า ชื่อก็แปลกๆ ‘น้ำทิพย์บุตรจันทรา’ มันต้องมีน้ำทิพย์บุตรีจันทราแน่ๆ” เธอยิ้มพลางคิดเล่นๆ ก่อนเก็บขวดแก้วลงกระเป๋าย่ามใบใหญ่ และจัดเตรียมของสำหรับเดินทาง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าลูครีเชียร์และเธอจะไม่สนิทกันมากนัก แต่เธอก็รักและเคารพในตัวพี่สาวของเธอมาก เธอไม่เคยคิดที่จะอิจฉาพี่ของเธอเลยสักครั้ง เวลาเธอมองสายตาคู่นั้นเธอมักจะรู้สึกถึงความเป็นห่วงเป็นใยเสมอ และเธอก็ส่งความรู้สึกนั้นผ่านสายตาของเธอให้แก่ลูครีเชียร์เช่นกัน
ความคิดเห็น