คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : คำสาปแปลกประหลาดและนักเรียนใหม่
เช้าของวันรุ่งขึ้นเหตุการณ์ในตอนเช้าทำให้ทุกคนภายในห้องตกใจกับร่างของเซลูที่ไม่มีที่ท่าว่าจะขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ถึงทั้งสองคนจะปลุกอย่างไรก็ไม่ยอมตื่นสักทีจึงไปเรียกทุกคนให้มาช่วยกันปลุกแต่ผลที่ออกมาก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
“รุ่นพี่ครับเซลูจะตื่นไหม”เจมส์ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“เซลูไม่เป็นอะไรหรอกครับ เพียงแค่หลับไปเท่านั้น”เสียงหนึ่งทำลายความเป็นห่วงจากทุกคน
“ฟาเวลพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร”รุ่นพี่ประจำป้อมถามอย่างสงสัย
“มันเป็นโรคที่เซลูเขาเป็นมาตั้งแต่เกิดนะครับ”ฟาเวลกล่าวพลางยิ้มให้ทุกคน
เซคลอสมองบุรุษตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ ที่บุรุษคนนั้นรู้เรื่องของเซลูดีกว่าตนและดูท่าว่าจะสนิทสนมกันมากซะด้วย
“มันคือโรคอะไรหรอ”เจมส์ถามด้วยความสนใจในตาสีแดงเต้นระริกอย่างสนใจ
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ไม่ร้ายแรงมากหรอกเพียงแต่แค่หลับไปเท่านั้นแหละพรุ่งนี้คงจะฟื้นแล้วล่ะ”ฟาเวลพูดบนหน้ายังคงมีรอยยิ้มเช่นเดิม
“งั้นหรอ งั้นพวกเธอแยกย้ายกันกลับห้องได้แล้วล่ะ”รุ่นพี่พูดอีกครั้งทำให้หลายๆคนเริ่มทยอยกันออกไป จนเหลือแต่เจมส์เซคลอสและฟาเวล
“ท่าไมนายยังไม่กลับห้องไปอีกล่ะ”เซคลอสถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ฉันเป็นองค์รักษ์ประจำตัวองค์หญิงก็ตรงคอยดูแลนะสิ”
“ก็เมื่อกี้นายเป็นคนพูดไม่ใช่หรอว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เซลูก็ตื่น”เจมส์ถามกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
“นายคิดว่าฉันพูดจริงหรอ”ฟาเวลพูดแล้วยิ้มเจ้าเหล่
“ฉันพูดแค่ให้ทุกคนออกจากห้องไปเท่านั้นแหละ”ฟาเวลกล่าวใบหน้าบัดนี้ดูเย็นชาและหน้าเกรงขามฟาเวลจ้องไปยังหญิงสาวเบื้องหน้า
“ดีไม่ดีเซลูอาจจะต้องหลับไปอย่างนี้ตลอดไป”ฟาเวลกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยไม่มีท่าทีว่าจะเป็นห่วงเลยแม้แต่น้อย ทำให้บุคคลทั้งสองในห้องเลือดขึ้นหน้า
“นี่นายไม่คิดจะเป็นห่วงเซลูเลยหรือไง!!!!!”เจมส์ตะโกนออกมาอย่างสุดจะทนแล้วคว้าคอเสื้อของบุรุษตรงนี้
‘เจ้าปล่อยฟาเวลเถอะ’เสียงของหญิงสตรีดังขึ้นที่แฝงไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน
“ท่านเป็นใคร”เจมส์กล่าวแล้วปล่อยมือจากคอเสื้อ
“องค์ราชินี”ฟาเวลเปรยขึ้น
“องค์ราชินี!!”บุคคลในห้องตะโกนออกมาพร้อมกัน
“งั้นก็เป็นแม่ของเซลูนะสิ”เจมส์กล่าวขึ้น
‘ใช่แล้วข้าเป็นแม่ของเซลูเน่’น้ำเสียงที่อ่อนโยนและอบอุ่นนั้นช่างต่างกับเซลูมากนัก
“องค์ราชินีทรงไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”เซคลอสกล่าวหลังจากที่องค์ราชินีกล่าวจบ
‘เซคลอส!! เจ้าอยู่ด้วยหรือนี่’เสียงของราชินีที่แกมประหลาดอย่างมากหรือเรียกว่าตกใจก็เป็นได้
“ครับ”
“เซลูเป็นอะไรหรือครับ”เจมส์ถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงแต่ก็ยังคงเกรงเล็กน้อย
‘เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก ลูกของข้าเพียงแค่หลับไปเท่านั้นแหละ’
“แล้วเซลูจะฟื้นเมื่อไหร่ครับ”เซคลอสถามต่อ
‘ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน’น้ำเสียงที่ตรัสต่อมาฟังดูเศร้าสร้อยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนบุตรรีตรงหน้าจะไม่กลับมาให้เธอเห็นหน้าอีกครั้ง
“ทำไมท่านถึงกล่าวเช่นนั้นไม่ใช่ว่าเซลูจะไม่ฟื้นขึ้นมาหรอกนะ”เจมส์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เริ่มมีอารมณ์โดยไม่เกรงกลัวคนที่อยู่บนฟากฟ้า
‘ข้าไม่สามารถรู้ได้ทุกอย่างหรอกนะ ถึงข้าจะเป็นราชินีหิมะก็ไม่ได้หมายความว่าข้าเป็นเทพเจ้าสักหน่อย’น้ำเสียงจากคนฟากฟ้ายังคงราบเรียบ
คำพูดของราชินีหิมะทำให้เจมส์เริ่มลดความโกรธลงไปบ้าง หลังจากที่เงียบอยู่นานเจมส์จึงถามขึ้นต่อ
“ท่านคิดว่าเซลูเป็นอะไรหรือ”
‘ข้าว่าลูกของข้าคงโดนคำสาปในตอนเด็กกลับมาทำร้ายอีกครั้ง’
“คำสาปอะไรหรือท่าน”สองเสียงที่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
‘ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน มันเป็นคำทำนายนะว่าลูกของเราจะถูกคำสาปร้ายตอนที่มีอายุครบ 6 ปี’
“แล้วคำสาปนั้นมันคืออะไรครับ”เจมส์ถามต่อด้วยความสนใจและและเป็นห่วงเพื่อนสาว
‘ข้าไม่รู้สิ คนที่รู้มีเพียงเค้าคนนั้นเท่านั้น’น้ำเสียงสุดท้ายเบาลงเรื่อยๆแล้วฟังดูเศร้าสร้อย
“ท่านก็เอาแต่บอกว่าท่าไม่รู้อยู่นั่นแหละ ให้ตายซี่”เจมส์ตะโกนออกมาอย่างสุดจะทนกับราชินีหิมะ
“นี่เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงไปว่าองค์ราชินีเช่นนั้น”ฟาเวลตะหวาดขึ้นมา
“ก็ดูองค์ราชินีของนายสิเอาแต่บอกว่าไม่รู้อย่างนี้ให้ตายก็ช่วยเซลูไม่ได้หรอก”
“ที่ท่านบอกว่าเค้าคนนั้นหมายถึงใครหรือกระหม่อม”เซคลอสขัดการทะเลาะของคนทั้งสอง
‘หมายถึง...กษัตริย์แห่งโนว์อาร์อย่างไงล่ะ’น้ำเสียงที่ฟังดูเศร้าสร้อยดังผ่านมาจากฟากฟ้า
“หมายถึงกษัตริย์เซฟฟรานที่ตายไปแล้วนะหรอครับ”เซคลอสกล่าว อย่างแปลกใจ
‘ใช่แล้วล่ะเซคลอส’
“แล้วเหตุอันใดถึงมีเพียงกษัตริย์เซฟฟรานเท่านั้นที่เป็นผู้ล่วงรู้”เจมส์ถามต่อ
‘เพราะว่า.....’เสียงเงียบหายไปชั่วขณะหนึ่ง
“เพราะกษัตริย์เซฟฟรานเป็นผู้สาปเจ้าหญิง”ฟาเวลตอบแทนองค์ราชินี
“ทำไมล่ะ”เจมส์ถามอย่างอยากรู้
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”ฟาเวลตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อะไรกันเนี่ยคนของโนว์อาร์ดูท่าจะไม่รู้ไปหมดซะทุกเรื่องเจมส์กล่าว
อย่างหน่ายๆ
“อึก...ท่าน...แม่”เสียงครางดังขึ้นดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง
“เซลูตื่นแล้ว”เจมส์กล่าวออกมาอย่างดีใจแล้วรีบเข้ากอดด้วยความเร็ว สร้างความตกใจกับทุกคนไม่น้อย
“เจมส์ปล่อยฉันก่อน”น้ำเสียงจากปากของเธอที่แหบแห้งทำให้เจมส์ปล่อยให้เธอให้เป็นอิสระ
“ลูกตื่นแล้ว”น้ำเสียงตอนนี้ไม่ได้ออกมาจากฟากฟ้าดังเช่นเคยแต่ดังออกมาจากราชินีหิมะที่ตอนนี้ปรากฏกลายอยู่ในห้องแล้วเขากอดลูกสาวอย่างดีใจ
“แม่นึกว่าลูกจะหลับไปเหมือนคราวนั้นซะอีก”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความดีใจหยาดน้ำไหลไปดาบแก้มอันขาวนวล
“คราวนั้นไหนหรอครับ”เจมส์ถามด้วยความสนใจ
“เมื่อตอนที่เซลูเน่ยังเด็กตอนนั้นเซลูยังอายุได้หกปีถูกพ่อของเขาหรือกษัตริย์เซฟฟรานสาปให้หลับใหลไปชั่วนิรัน ผลที่ออกมาก็คือเซลูเน่หลับไปตลอดสิบปีเต็มแล้วเพิ่งฟื้นเมื่อไม่นานมานี้เอง อดีตก็ลืมเลือนไปด้วย”
“งั้นที่เซลูลืมกระหม่อมคงเป็นเพราะเหตุนี้”เซคลอสกล่าวขึ้นมา
“ใช่แล้วล่ะจ๊ะ”ราชินีทรงยิ้มให้บุรุษตรงหน้าทั้งหลายแล้วมองหน้าทุกคนแล้วก็หยุดที่หน้าของเจมส์
“เธอคือเจมส์ อาเธอร์น่าเจ้าชายแห่งมาร่าสินะ”ราชินีมองบุรุษเบื้องน่าอย่างไม่วางตา
“ใช่แล้วกระหม่อมคือบุตรของกษัตริย์แห่งมาร่า”เจมส์กล่าวแล้วทำความเคารพ
“ข้าเคยเจอกษัตริย์ของมาร่าท่านพ่อของเจ้า ดูสินิสัยนี่เหมือนกันอย่างกับแกะชอบใจร้อนอยู่เรื่อย”องค์ราชินีพูดแล้วเผยยิ้มน้อยๆ
“ทรงประทานอภัยหม่อมฉันมิได้ตั้งใจ”เจมส์พูดอย่างเกรงๆ
“ข้าไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก”ราชินีพูดแต่ใบหน้าก็ยังคงเผยรอยยิ้มอยู่
ใบหน้าที่ดูสดใสอ่อนโยนและดูจะสนิทกับคนง่าย ซึ่งต่างกับเซลูเน่โดยสิ้นเชิงทำให้หลายๆคนสงสัยกันว่าเป็นแม่ลูกกันจริงหรือป่าว
“เมื่อก่อนเซลูไม่ได้มีนิสัยอย่างนี้หรอก”องค์ราชินีตอบเหมือนเข้าใจในความคิดของทุกคน
“เมื่อก่อนเซลูเป็นคนที่ร่าเริงและสดใสแต่หลังจากที่ตื่นขึ้นมานั้น เซลูนิสัยก็เปลี่ยนไป”
“แล้วมันไม่มีวิธีแก้คำสาปเลยหรือครับ”เซคลอสถามข้อสงสัยที่อยู่ในหัวอยู่นาน
“เออ...มันก็...”แต่องค์ราชินีก็ถูกขัดด้วยน้ำเสียงที่ยังแฝงด้วยความขี้เล่นว่า
“เซคลอสแกไม่ต้องไปถามองค์ราชินีหรอกแกก็รู้คนของโนว์อาร์ไม่รู้ไปเสียซะทุกเรื่อง”
“การแก้คำสาปนั้นมีแน่”เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบดวงตาสีเงินแสดงถึงความว่างป่าวในจิตใจ
“งั้นทำไมเธอไม่ยอมแก้ล่ะ”เจมส์ถามด้วยความสงสัยดวงตาสีแดงสั่นระริกด้วยความสนุก
“ท่าฉันทำประชาชนต้องสูญเสียไปด้วยความชั่วร้ายที่โปรยปรายบนความบริสุทธิ์”คำตอบที่มักจะแฝงความหมายน้ำให้คนฝังทำหน้าเบ้ๆ
“เวลาพูดอะไรให้มันชัดเจนหน่อยสิ”เจมส์กล่าวด้วยตาสีแดงจับจ้องไปบนใบหน้าที่บัดนี้ดวงตาสีเงินเริ่มมีความรู้สึกอีกครั้ง
“ท่าเซลูเน่ถอนคำสาปความชั่วร้ายที่ถูกสาปไว้มันจะแพร่ออกมานั่นก็คือหิมะสีดำ มันสามารถฆ่าประชาชนได้ทั้งอาณาจักร”องค์ราชินีแก้ความกระจ่างให้ใบหน้าตอนนี้เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดียวกับลูกสาว
องค์ราชินีทรงลุกขึ้นจากเตียงแล้วมีทีท่าว่าจะกลับ กระโปรงยาวที่ลากพื้นสีขาวขยับไปตามการเคลื่อนไหว
“ท่านแม่จะไปแล้วหรือเพคะ”เธอกล่าวราบเรียบจ้องใบหน้าพระมารดา
“จ๊ะ แล้วก็ฟาเวลเจ้าไปยื่นไปลาออกซะแล้วกลับมากับข้า”
“แล้วองค์หญิงใครจะคุ้มครองล่ะพะยะคะ”
“เดี๋ยวข้าจะส่งคนมาดูแลเอง แต่ตอนนี้เจ้าจะต้องกลับไปกับข้า”น้ำเสียงที่เด็ดขาดและแน่วแน่ทำให้คนในห้องรู้สึกเสียวสันหลัง
“พะยะคะ”ฟาเวลกล่าวก่อนจะหายลับไปกับราชินีหิมะ
ความเงียบเริ่มปกคลุมอีกครั้งบุรุษในห้องทั้งสองจับจ้องไปยังหญิงสาวเบื้องหน้า ผู้มีนามว่าเซลูเน่ อาเธอร์เรียเจ้าหญิงแห่งโนว์อาร์หรือที่เรียกกันว่า เจ้าหญิงหิมะแห่งความมืด
“มองทำไม”เธอกล่าวทำลายความเงียบสงัดแล้วจับจ้องไปยังดวงตาสีแดงกับสีเขียวทั้งสองที่จับจ้องมาที่เธอ
“ฉันไปห้องอาหารก่อนนะ”เธอกล่าวแล้วเดินผ่านไป
ที่ป้อมอัศวินมีห้องอาหารอยู่สี่ห้อง ห้องแรกห้องฟิกนิกส์ ห้องดราก้อน ห้องกริฟฟรินและห้องยูนิคอน เธอเดินตรงเข้าไปยังห้องอาหารดราก้อนโดยไม่ลังเลเนื่องจากเป็นถิ่นของป้อมนักรบ
เธอเดินไปซื้ออาหารแล้วกับมานั่งทานบนโต๊ะโดยไม่ปริปากพูดสักคำ จากร่างกายที่ซีดขาวก็เริ่มดูมีสีเลือดบ้าง
ปัง!!!
เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นเรียกความสนใจให้กับทุกคนไม่น้อย
“พอทานข้าวเสร็จให้ไปที่ห้องประชุมโดยด่วน”หลังสิ้นคำประกาศของนางฟ้าของป้อมนักรบที่น้อยนิดทุกคนจึงเริ่มทยอยไปยังห้องประชุมหรือว่าห้องนั่งเล่นของปีหนึ่งนั่นเอง
“วันนี้เรามีนักเรียนย้ายมาใหม่”เรวิลซ่ากล่าวขึ้นนัยน์ตาสีฟ้าที่ดุดันทำให้เสียงฮือฮาหยุดลงไม่นานนักก็มีนักเรียนชายเดินเข้ามาหนึ่งคน
“คาลอส มอสตินนิคลอสนักฆ่าแห่งโนว์อาร์”บุรุษที่ย่างก้าวเข้ามาก้าว
ผมสีดำดูสงบตรงกลางแสมด้วยสีเงินเล็กน้อยนัยน์ตาสีเงินจับจ้องมาที่เธอ ผิวที่ออกคล้ำเล็กน้อยตาข้างหนึ่งถูกปิดด้วยผ้าสีดำ บุรุษคนนั้นเดินมายังเธอ
“นายกลับมาทำไม”แววตาสีเงินดูเย็นชาแล้วส่งให้ไปยังนักฆ่าข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
ทุกคนในห้องมองทั้งสองคนสลับไปมาอย่างแปลกใจ ที่เซลูหน้าเหมือนเซคลอสมาก ผ้าปิดที่ดูเหมือนกันเพียงใส่ไว้คนละข้างเท่านั้นเซลูใส่ด้านซ้ายส่วนคาลอสใส่ด้านขวา ยิ่งทำให้ดูเหมือนกันเข้าไปอีกแตกต่างตรงสีผิวเท่านั้น
“ข้ามาเพื่อปกป้องเจ้า”เขากล่าวแล้วก้มลงจูบบนมือเล็กเธอชักกลับด้วยความตกใจและโมโหสุดขีด
“คนอย่างเจ้าไปสมควรมาปกป้องข้า!!!!”เสียงตะโกนเกรียวกราดของเจ้าหญิงแห่งโนว์อาร์สร้างความตกใจกับคนทั้งห้องไปไม่น้อย
เธอเดินจากไปแล้วเดินไปยังห้องหัวหน้าป้อมแล้วทรุดลงบนเตียง มือขาวซีดทั้งสองข้างเอาปิดใบหน้าแล้วปล่อยให้สายน้ำไหลริน
“เซลู!!”เสียงบุรุษทั้งสองดังก้องเมื่อเข้ามาในห้องแล้วตกใจกับภาพที่เห็น
ทั้งสองรีบเข้ามาปลอบหญิงสาวที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด เสียงร้องไห้ดังอยู่นานไปทั่วทั้งห้องและหยุดลงกับหญิงสาวที่หมดสติไป
ความคิดเห็น