ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fantasy Music

    ลำดับตอนที่ #3 : โลกใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 49


    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ ริเรียอาศัยอยู่ในกระท่อมริมลำธารในป่านอกเมืองหลวง เธอมาอาศัยอยู่ที่นี่ได้ 2อาทิตย์แล้ว ตั้งแต่เธอจากบ้านมา ริเรียเป็นหญิงสาวอายุ16 ปี เธอสวยแบบเรียบง่ายไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางต่างๆ ผมของเธอสั้นแบบน่ารัก สีน้ำตาลอ่อนๆ

    ที่เธอมาพักอาศัยอยู่ที่นี่ก็เพราะอีกหนึ่งอาทิตย์ โรงเรียนคาสวาเนียจะเปิดทำการและจะยุ่งมากเป็นพิเศษ เพราะนี่เป็นโรงเรียนที่ดังมาก ผู้ที่จบจากโรงเรียนนี้ส่วนมากจะได้งานดีๆทำกัน  ริเรียก็ตั้งตารอที่จะเข้าโรงเรียนนี้เหมือนคนอื่นเช่นกัน แต่วันนี้เธอจะได้พบกับเพื่อนใหม่ที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล.......

     

     

     

    เฮ้อ...อีกหนึ่งอาทิตย์ ริรียลุกขึ้นจากเตียงและมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอลุกขึ้น

    บริหารร่างกายแบบง่ายๆ แล้วเดินออกไปข้างนอกกระท่อม แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องร่างอันเปลือยเปล่าของเธอ ขณะที่เธอถอดเสื้อผ้า แล้วลงไปอาบน้ำที่ลำธาร

     ริเรียไม่ต้องอายใครเพราะเธออาศัยอยู่คนเดียวในป่าแห่งนี้  เธอค่อยๆก้าวลงแม่น้ำอย่างช้าๆ แล้วนั่งแช่พลางถูตัวไปมา

    แล้วอะไรบางอย่างก็เตะตาเธอเข้า เธอมองไปทางมันแล้วก็เห็นดาวตกกำลังลอยมา

    อ้า..ดาวตกงั้นเราก็ต้องอธิฐานบ้างดีกว่า เธอนั่งกุมแล้วอธิฐานขอให้เธอได้เข้าเรียนที่คาสวาเนีย แล้วเธอก็มองดูดาวตกต่อไป

    นานๆจะเห็นดาวตกเช้าๆอย่างนี้ก็แปลกดีเหมือนกัน ริรียเงียบไปชั่วครู่

    ดาวตก... ริเรียคิด

    ดาวตก ....ตอนเช้า แล้วเธอก็ตกใจสุดขีด

    หา!!!  ตอนเช้าอย่างนี้เนี่ยนะ เธอรีบหันไปมองดาวตกอีกครั้งแล้วเธอก็วิ่งแจ้นขึ้นจากน้ำทันที เพราะมันกำลังพุ่งเข้ามาหาเธอ

    ริเรียวิ่งเข้าไปในกระท่อมแล้วมองจากหน้าต่าง ดาวตกดวงนั้นพุ่งมาด้วยความเร็วสูงแล้วตกลงไปในลำธารทันที น้ำแตกกระจายเป็นวงกว้างแล้วทุกอย่างก็นิ่งเงียบไป

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น  เป็นคำถามแรกที่ริเรียคิด เธอมองไปที่จุดตกของดาวหางแล้วก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นเลือดสดๆผุดขึ้นมาจากจุดที่ดาวหางตก

    เลือด...เลือดนี่นา จากนั้นริเรียก็มองเห็นร่างของชายหญิงใส่ชุดแปลกๆกำลังลอยตามเลือดขึ้นมา และชายคนหนึ่งในนั้นแขนซ้ายขาดไป เป็นที่มาของเลือดที่เธอเห็น

    ตายแล้ว! คนนี่นา ริเรียรีบสวมเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกไปที่ลำธารทันที เธอเดินลุยน้ำลงไปแล้วค่อยพาชายหญิงเหล่านั้นขึ้นมาจากน้ำทีละคน

     ริเรียก็ได้รู้ว่ามีชายอยู่สามและผู้หญิงอีกหนึ่ง เธอค่อยๆรวบรวมความกล้าเขยิบเข้าไปหาชายคนหนึ่งเขาเป็นชายที่อายุเท่าๆกับเธอ และมีผมสีน้ำตาลเช่นเดียวกับเธอเหมือนกัน    เธอก้มลงฟังเสียงหัวใจของชายคนนั้น  มันยังดังอยู่ ชายคนนี้ยังมีชีวิตอยู่

     

     

     

    เอ่อ... เธอ เสียงของผู้หญิงดังขึ้นข้างๆหูวิล ทำให้เขาสะดุ้งตื่นแล้วบีบที่คอของผู้หญิงคนนั้นทันที

    ว้าย...ขอโทษค่ะ อย่าฆ่าฉันเลย หญิงสาวตกใจ

    คุณเป็นใคร แล้วนี่ที่ไหน แล้วจีน่ากับฟรานล่ะ วิลหันไปหาหญิงสาวคนนั้นแล้วคลายมือออกจากคอเธอ

    เอ่อ..ทีละคำถามได้ไหมฉันจำไม่ได้อ้ะ ริเรียตอบพลางถูคอของตัวเองไปมา

    เธอเป็นใครกัน วิลถามอีกครั้ง

    ฉันชื่อริเรีย ริเรียตอบอย่างอายๆ

    แล้วที่นี่ที่ไหน

    กระท่อมนอกเมืองหลวงคาสวาเนีย

    คาสวาเนียอะไร ฉันไม่เคยได้ยินชื่อ วิลนวดขมับและลองทบทวนความจำ

    เธอไม่รู้จักคาสวาเนียหรอ ก็เมืองหลวงของอาณาจักรเรนีม่าที่อยู่ทางตะวันอกของโลกไง ริเรียพยายามอธิบายแต่วิลก็ส่ายหน้า

    ฉันไม่รู้จักสถานที่ที่เธอพูดเลย

    แล้วเธอมาจากไหนกัน  แล้วเธอเป็นใคร ริเรียย้อนถามกลับไปบ้าง

    ฉันชื่อวิล ฉันกำลังสู้กับคิดในปราสาทคราซิมแล้วจู่มันก็โยนอะไรมาใส่ฉันแล้วทุกอย่างก็มืดไปหมด วิลพยายามทบทวนความจำอีกครั้ง

    ฉันเห็นเธอกับเพื่อนตกลงมาจากฟ้า ฉันก็เลยพามารักษาตัวที่บ้าน ตอนนี้วิลรู้แล้วเขากำลังนั่งอยู่บนเตียงเตียงหนึ่งเขานอนลงไปอีกครั่ง แล้วลุกขึ้นมา

    ริเรีย..เพื่อนๆของผมอยู่ที่ไหนกัน

    เธอลุกมาซิ เดี๋ยวฉันจะพาไปดู วิลลุกจากเตียงแล้วเดินตามริเรียไปที่ห้องข้างๆ จีน่านอนอยู่บนเตียงที่ห้องนั้น ตามตัวเธอมีผ้าพันแผลพันเป็นแห่งๆ

    เธอเป็นยังไงบ้าง วิลถามริเรียขณะเดินไปอยู่ข้างๆจีน่า

    ไม่ค่อยดี กระดูกแตกหลายแห่งแต่ฉันใช้เวทมนตร์รักษาให้ไปแล้วแต่ก็คงเดินไม่ได้ไปซักพัก แต่ทันทีที่ริเรียพูดว่าเวทมนตร์วิลก็จับที่คอเธอกระแทกกับผนังทันที

    เธอมีเวทมนตร์ เธอเป็นพวกเดียวกับคิดรึเปล่าว วิลคำรามด้วยความโกรธ

    เปล่า...ฉัน..ไม่รู้จักคิด..ปล่อยฉันเถอะฉันขอร้อง แล้ววิลก็เห็นว่าริเรียกำลังร้องไห้ เขาจึงปล่อยเธอลงกับพื้น

    ฉันขอโทษริเรีย ฉันไม่เคยเห็นเวทมนตร์ ฉันก็เลย.... วิลส่งมือให้

    เธอก็เลยคิดว่าฉันเป็นพวกเดียว กับคนที่ชื่อคิดอะไรนั้นใช่ไหม ริเรียปาดน้ำตาแล้วจับมือวิลเพื่อดึงตัวเองลุกขึ้น

    เธอมานี่ดีกว่า ฉันว่าเพื่อนอีกคนของเธออาการหนักกว่านี้อีก ริเรียจูงมือวิลออกไปนอกห้องแล้วพาเข้าไปในครัวที่ฟรานซิสนอนอยู่บนโต๊ะ เลือดที่แขนหยุดไหลแล้วแต่มันกลายมาเป็นแผลแดงขนาดใหญ่แทน

    ฉันจะถามเธอว่าจะให้ทำยังไงกับแขนเขา ถ้าปล่อยไว้มันไม่ดีแน่

    แล้วเธอมีทางเลือกให้หรอ วิลถามแต่ ริเรียแค่ยิ้ม เธอเดินไปที่กล่องไม้ที่วางอยู่ข้างๆตัวฟรานแล้วดึงแขนเทียมเหล็กออกมา

    แขนนี้เคยเป็นของปู่ฉัน และท่านก็จากไปแล้ว  เธอช่วยบอกฉันหน่อยว่าควรติดแขนนี้ให้กับเขาไหม ริเรียถามแล้วก็เหวี่ยงแขนเหล็กไปมา

    ฉันว่า...ควรให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่านะ

    เออ..ไหนๆฉันก็ไม่มีแขนอยู่แล้วติดมาเถอะ ทั้งสองหันมาหาฟรานซิสที่ลุกขึ้นมานั่งได้แล้ว

    เป็นไงบ้างเพื่อน วิลทักทาย

    ยังไม่ตายแล้วกันนา แล้วนี่ใครเห็นแว่นฉันบ้างเนี่ย ฟรานซิสล้วงแว่นสำรองในกระเป๋ากางเกงออกมาสวมแล้วจ้องมาที่ริเรีย

    ว้าว วิลไม่เห็นนายเคยบอกว่ามีเพื่อนเป็นสาวน้อยน่ารักแบบนี้ด้วยนี่นา แนะนำให้ชั้นรู้จักบ้างดิเพื่อนวิลหันไปมองก็เห็นริเรียแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

    คิกๆๆ อย่างน้อยก็มีคนปากหวานอยู่ในกลุ่มนายด้วยนี่ ริเรียพูดกับวิลแล้วเดินมาหาฟรานซิส

    ฟรานใช่ไหมค่ะ ฉันริเรียค่ะ จะยอมติดแขนเทียมนี่ไหม

    อื้อ เชิญติดมาได้เลยคนสวย ฟรานซิสยื่นแขนข้างที่ขาดให้

      ทนเจ็บนิดนะค่ะ ริเรียค่อยๆสวมแขนเทียมไป

    ผมทนเจ็บได้ครับ.....จ๊าก!!! ” ฟรานซิสร้องเสียงดังจนตัวลอย

    ค่ะ ฟรานต้องทนเจ็บหน่อยนะคะ ฉันต้องจัดการเส้นประสาทของฟรานให้เข้ากับแขนนี่ก่อน แล้วริเรียก็หันมาทางวิล

    คุณลองไปดูเพื่อนอีกคนดีกว่าไหมค่ะ เขาได้สติก่อนใครก็เลยให้ออกไปนั่งข้างนอกก่อนน่ะค่ะ

    เพื่อน....หรอยังมีใครอีกล่ะ  แล้ววิลก็คิดออกคงจะเป็นอาเบลแน่นอน เขาเดินออกจากบ้านไปและเห็นอาเบลนั่งกอดเข่าแล้วจ้องมองไปที่ดวงอาทิตย์

    ผมนึกว่าแวมไพร์กลัวแสงอาทิตย์ซะอีก วิลลงมานั่งข้างๆอาเบล ที่จริงอาเบลก็ดูไม่แก่กว่าเขามากนักยังดูหนุ่มแน่นทีเดียว ชุดแปลกๆที่เขาสวมมันทำให้เขาดูแก่ลงไปมากกว่า

    ข้าไม่ได้กลัวแสงอาทิตย์ แต่ข้าแค่เกลียดมันเท่านั้น แล้วแกเป็นใครเจ้ามนุษย์ อาเบลหันกลับมาถาม

    ฉันวิลเป็นเพื่อนของจีน่า

    วิล นายหญิงเป็นไงบ้าง อาเบลถามสีหน้าแสดงถึงความเป็นห่วง เขาดูไม่เหมือนปีศาจร้ายที่อาละวาดตอนอยู่ในปราสามคราซิมเลย

    จีน่า ปลอดภัยแล้วตอนนี้นอนพักอยู่

    ดี..ดีแล้วล่ะ อาเบลยิ้มแล้วก็หันไปจ้องมองพระอาทิตย์ต่อ

    อาเบลนายมาจากไหนหรอ วิลลองถาม

    ข้ามาจากสถานที่ที่เรียกว่า...โลกอสูร อาเบลตอบ

    แล้วต่อจากนี้นายจะทำอะไร

    ข้าก็ต้องรับใช่นายหญิงต่อไป แค่นั้นแหละคือหน้าที่ของข้า

    เวลาล่วงเลยมาถึงเย็น ริเรียยังจัดแขนให้ฟรานซิสไม่เสร็จ ส่วนอาเบลก็คอยเฝ้าจีน่าไว้อยู่ข้างๆ  วิลจึงถูกทิ้งให้อยู่ลำพังเขายอมรับว่าเบื่อ เขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นและพยายามทำตัวให้มีประโยชน์

    ทำอาหารอยู่หรือค่ะ กลิ่นหอมจังริเรียเข้ามาในครัวขณะวิลคนอาหารในหม้อ

    อื้อ มันอยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำน่ะแล้วนี่ก็เย็นแล้วด้วย ฟรานเป็นไงบ้าง วิลเลิกคนอาหารในหมอแล้วยกออกมาจากเตาไฟ

    ก็นั่งหมดแรงอยู่ที่ห้องครัวน่ะค่ะ เขาต้องทนเจ็บมาตั้งแต่เช้า ริเรียเข้ามาช่วยยกจานออกไปตั้ง ส่วนวิลก็เดินเข้าไปหาจีน่า

    อาเบลนายออกไปข้างนอกก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันจะลองปลุกจีน่าดู อาเบลเดินออกไปอย่างว่าง่าย ส่วนวิลก็เข้าไปนั่งแทนอาเบล แล้วลองปลุกจีน่า

    จีน่า ตื่นได้แล้วตาของจีน่าขยับน้อยๆแล้วจึงลืมขึ้น

    ยินดีต้อนรับกลับมา ครับ วิลส่งยิ้มให้ แต่จีน่าเข้าโผกอดวิลกระทันหันทำเอาเขาตั้งตัวไม่ติด

    วิล ฉันฝันร้าย ฉันเห็นพวกเธอโดนคิดฆ่าตายแล้วก็...... วิลยกนิ้วแตะปากจีน่าไว้

    มันแค่ฝันร้ายจีน่า มันเป็นแค่ฝันร้ายโง่ๆ วิลหยิบเสื้อผ้าของมีเรียส่งให้กับจีน่า

    ตอนนี้ จีน่าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปกินข้าวกับทุกคนข้างนอกนะ วิลลุกขึ้นแล้วหันหลังรอให้จีน่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วพาเธอเดินออกไปนอกห้อง ซึ่งฟรานซิสกับริเรียกำลังกินข้าวอยู่ ส่วนอาเบลกำลังนั่งดูทั้งสองอยู่ห่างๆ

    ฟราน อาเบลแล้วเธอ...... จีน่าหันมาทางริเรีย

    ริเรียค่ะ ฉันชื่อริเรียค่ะคุณจีน่า ริเรียทักทายอย่างสุภาพ

    มากินนี่สิจีน่า อร่อยชะมัด ฟรานซิสเชิญชวน

    ไปจีน่าไปกินข้าวกัน วิลพาจีน่าไปนั่งลงบนโต๊ะ

    แล้วทั้งสี่ก็นั่งกินข้าวกัน ส่วนอาเบลที่เห็นว่าจีน่าแข็งแรงดีแล้วจึงขอตัวและออกไปข้างนอกเพื่อหาอาหาร

    อาเบลเพื่อนเธอเป็นใครหรอ ริเรียถามอย่างใคร่รู้

    แวมไพร์น่ะ วิลช่วยตอบให้ ทำเอาริเรียหน้าซีดไปเลย

    นี่ไหนๆตอนนี้มันก็ว่างแล้วพวกเธอช่วยเล่าเรื่อง ของพวกพวกเธอให้ฟังหน่อยสิริเรียเปลี่ยนเรื่องคุย

    อื้อ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟังหลังอาหารนะ หลังอาหาร  ทั้งหมดนั่งบนโต๊ะแล้วเล่าเรื่องของตัวเองให้ริเรียฟังตั้งแต่เรื่องที่เข้ามาอยู่ในวงการนักฆ่า ภารกิจสุดท้ายที่ปราสาท

    คราซิม  เรื่องของอาเบล โดนที่ริเรียนั่งฟังอยู่เงียบๆ และเธอสนใจเป็นพิเศษคือตอนที่ วิลเล่าถึงตอนที่คิดใช้พลังจากสร้อยคอ และขนนกสีทองที่พาพวกเขามาที่นี่

    จากที่พวกเธอเล่า ฉันคงจะสรุปได้ว่าพวกเธอไม่ได้มาจากโลกนี้ค่ะ ริเรียเริ่มพูดบ้าง

    หมายความว่าไงกัน ฟรานซิสถาม

    สิ่งที่พาพวกเธอมาที่นี่ อาจจะเป็นวัตถุวิเศษที่พาคนไปยังมิติอื่นก็ได้

    แล้วพวกเราสามารถกลับไปโลกของเราได้ไหมริเรีย วิลถาม

    เสียใจค่ะ วิลในโลกของฉันไม่มีสิ่งที่จะพาคนข้ามมิติได้

    งั้นแปลว่าเราจะไม่มีวันได้กลับไปโลกของเราอีกแล้วใช่ไหม

    ก็คงจะเป็นอย่างนั้นค่ะ ฟราน ทั้งสี่นิ่งเงียบไป

    วิลถอนหายใจออกมา เฮ้อ...ไหนๆก็ไม่มีทางได้กลับบ้าน ริเรียช่วยเล่าเรื่องโลกของเธอให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม ริเรียพยักหน้า แล้วเธอก็เริ่มบรรยายเรื่องโลกนี้ให้ฟัง

    โลกนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ทวีปใหญ่ๆ แต่ละทวีปถูกปกครองด้วยเผ่าต่างๆแบ่งกันออกไปคือ

    1.   มนุษย์

    2.   อสูรและพวกปีศาจ

    3.   แม่มด

    4.   เครื่องจักร

     และที่ที่พวกวิลอยู่ตอนนี้คือทวีปอาโฟรเดียซึ่งเป็นทวีปของเหล่ามนุษย์ และอยู่ทางตะวันออกเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชื่อดังที่สุดคือคาสวาเนีย

    ที่นี่มีเวทมนตร์ด้วยหรอริเรีย วิลถามด้วยความตื่นเต้น

    ทุกที่แหละค่ะ เวทมนตร์ของโลกนี้ถือเป็นเรื่องที่ธรรมดามากเหมือนสัตว์วิเศษอย่างมังกรรวมไปถึงมอนเตอร์ต่างๆในโลกนี้ เรามีทุกอย่าง ริเรียอธิบาย

    เอาล่ะ ฉันตัดสินใจได้แล้ว วิลหันไปพูดกับทุกคน

    ตัดสินใจอะไรเพื่อน ฟรานถาม

    เราจะเข้าเรียนที่คาสวาเนียนี่ล่ะ เพื่อนทั้งสามตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน

    หมายความว่าไงฟะ   ฟรานกระโดดตัวลอยจากเก้าอี้

    อย่างที่พูดนั้นล่ะ เราจะเข้าคาสวาเนียไปพร้อมริเรีย วิลยังยืนยันหนักแน่น

    วิล เธอแน่ใจแล้วหรอ เรายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกใหม่นี่เลยนะ จีน่าถามวิล

    ถูกต้องจีน่า เรายังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับที่นี่เลยเราจึงต้องเข้าโรงเรียน

    เฮ้ย  คิดดีๆนะวิล ฟรานซิสถามอย่างไม่แน่ใจ

    อื้อ ฉันตัดสินใจแล้ว ฟรานซิสยิ้ม แล้วเดินเข้ามากอดคอวิล

    เอาว่ะ นายไปไหนฉันไปด้วย ขอให้มีสาวสวยที่ไหนฉันไปที่นั้น วิลกอดคอ

    ฟรานซิสแล้วทั้งสองก็หัวเราะขึ้นมา

    แล้วคุณจีน่าล่ะค่ะ ริเรียหันมาถาม

    ฉันก็คงต้องตามไปดูแลเด็กสองคนนี้อยู่แล้ว ฉันคงต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกัน

    ริเรีย  

    เช่นกันค่ะ แล้วหญิงสาวทั้งสองก็เข้าไปร่วมวงหัวเราะกับพวกผู้ชาย มิตรภาพในโลกใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว  

     

     

     

    อะไรนะฝึก หรอ ทั้งสามนั่งฟังขณะริเรียอธิบายตอนกำลังกินอาหารเช้า

    ใช่ค่ะ ตั้งแต่วันนี้เราต้องฝึกฝนตัวเองค่ะ

    แล้วทำไมต้องฝึกด้วยงะ ฟรานซิสถามอย่างเซ็งๆ

    ก็ต้องเอาไว้ใช้ในการสอบเข้าค่ะ ที่คาสวาเนียจะมีสอบปฏิบัติโดยต้องเราต้องต่อสู้กับรุ่นพี่ในโรงเรียนด้วยนะค่ะ

    แต่ฉันกับวิลก็มีทักษะนักฆ่ากับตัวอยู่แล้วนี่ ฟรานซิสท้วง

    ฟรานค่ะ นี่ไม่ใช้โลกของพวกคุณนะค่ะ ทักษะเล่านั้นแถบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลยเมื่อเจอกับเวทยมนตร์ ฟรานต้องมีทักษะอื่นไว้ใช่ด้วยค่ะ ริเรียยืนยัน

    ก็ได้ริเรีย แล้วเราต้องทำไงบ้าง วิลตั้งคำถาม

    ค่ะ วิลต้องอยู่ฝึกกับฉันค่ะ ส่วนจีน่าและฟรานต้องไ ปฝึกกับเขาค่ะ แล้วริเรียก็ชี้นิ้วไปที่อาเบลซึ่งกำลังนั่งฟังอย่างตั้งใจ

    ให้ฝึกกับแวมไพร์เนี่ยนะ แล้วฉันจะเอาอะไรไปสู้กับมันงะ ฟรานซิสโวยวาย

    ฟรานค่ะ แขนเหล็กของปู่ฉันมีชื่อว่า เคเบรอส มันเป็นอาวุธที่ปู่ฉันใช่ในสงครามมานักต่อนักแล้ว แขนนั้นล่ะค่ะอาวุธที่เยี่ยมที่สุดแล้ว

    แล้วฉันล่ะริเรีย จีน่าถามบ้าง

    ส่วนคุณจีน่า ฉันอยากให้ฝึกการเคลื่อนไหวให้มากที่สุด  เพื่อจะได้มีไว้ช่วยอาเบลสู้กับคนอื่นๆ

    ช่วยอาเบลสู้งั้นหรอ หมายความว่าไงกัน

    ในโลกของฉันแวมไพร์ เป็นมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งไม่แพ้มังกรหรือสัตว์เทพตัวอื่นๆเลยนะค่ะ และผู้ที่ควบคุมสัตว์เหล่านี้ เราเรียกพวกเขาว่า ซัมมอนเนอร์ ค่ะ ว่าแล้วริเรียก็ส่งหนังสือให้จีน่าไป

    ระหว่างที่ฟรานเขาฝึกกับอาเบล จีน่าต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ให้เข้าใจค่ะมันบอกถึงประวัติของเหล่าซัมมอนเนอร์ และวิธีควบคุมมอนเตอร์รวมไปถึงเวทมตร์ที่ช่วยเพิ่มพลังให้เหล่าสัตว์อสูร ฉันเชื่อว่ามันมีประโยชน์มากทีเดียว ริเรียอธิบาย

    จีน่าจ้องมองหนังสืออยู่สักครู่ แต่อาเบลเดินเข้ามาข้างหลังแล้วหยิบหนังสือไปแทน

    ชีวิตข้าคงต้องฝากไว้กับท่านแล้วล่ะ เจ้านาย อาเบลย่อตัวลงแล้วยื่นหนังสือให้จีน่าอีกครั้ง

    จีน่ายิ้ม  แล้วหันมาหาฟรานซิส ไปฟรานเราไปฝึกกัน ฟรานซิสพยักหน้าแล้วเดินตามมีเรียกับอาเบลออกไปนอกบ้าน ตอนนี้ก็เลยเหลือวิลกับริเรียแค่สองคน

    แล้วนี่ฉันต้องทำอะไรบ้าง วิลหันมาทางริเรีย

    ฉันไม่รู้ค่ะ ริเรียตอบ

    อ้าว หมายความว่าไง

    คืองี้ค่ะ ฟรานเขามีเคเบรอสส่วนจีน่ามีอาเบลฉันจึงสามารถบอกได้ว่าควรไปทางด้านไหน แต่วิลไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้นวิลต้องเลือกเองว่าตนจะไปทางด้านไหน

    วิลเงียบไปชั่วครู่ คำถามของริเรียเป็นคำถามง่ายๆแต่เขาก็ไม่อาจจะตอบได้ทันที อะไรล่ะที่เขาต้องการ ทุกคนต่างเลือกไปตามทางของตนเองแต่เขาไม่มีอะไรเลย เขาคิดอยู่

    ซักครู่

    ฉันต้องการเรียนเวทมนตร์ริเรีย ฉันอยากใช้เวทมนตร์ นั้นคือสิ่งที่วิลต้องการถูกแล้วเวทมนตร์ แต่ดูจากสีหน้าของริเรียเธอรู้อยู่แล้วว่าวิลจะเลือกอะไร

    แล้ววิล อยากจะเรียนเวทมนตร์แบบไหนล่ะค่ะ

    เวทมนตร์มีหลายแบบหรอ

    ค่ะ ก็เวทมนตร์ที่ไว้ทำลาย เวทมนตร์ที่ไว้รักษาชีวิต และก็อีกหลายอย่างเยอะแยะ

    งั้นก็ต้องเป็นเวทมนตร์ ที่สามารถทำลายได้อยู่แล้วซิ วิลลองเลือก แต่ดูเขาจะทำผิดอย่างมหันต์ เพราะน้ำตาเริ่มไหลออกมาจากแก้มของริเรีย

    ริเรีย เธอ....เป็นอะไรรึเปล่า ริเรียรู้ว่าวิลเห็นเธอร้องไห้ เธอจึงรีบหันหน้าหนี

    ปล่าวค่ะ....เปล่าว วิลจะเรียนเวทมนตร์เกี่ยวกับการทำลายใช่ไหมค่ะเดี๋ยวฉันไปหาหนังสือให้ ริเรียรีบเดินออกไปแต่วิลคว้าข้อมือเธอไว้ก่อน

    ริเรียผมพูดอะไรผิดงั้นหรอ ริเรียตัวสั่นน้อยๆ

    ทำไม....ทำไมต้องเรียนกันแต่เวทมนตร์แบบนี้ด้วย ริเรียพยายามตั้งสติแล้วหันมาพูดกับวิล

    วิลค่ะ ช่วยฟังเรื่องของฉันหน่อยได้ไหม ริเรียวอนขอ

    ได้ซิ  ถ้ามันจะช่วยให้เธอดีขึ้น แล้วทั้งสองก็กลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง

    เมื่อก่อน แม่ของฉันเคยเป็นอาจารย์สอนเวทมนตร์มาก่อน แม่รับสอนคนทั่วไปและก็มีลูกศิษมากมาย แต่เขาเหล่านั้นก็เรียนเฉพาะเวทมนตร์ทำลายเท่านั้น ซึ่งแม่ก็ยอมสอนให้จนเวลาผ่านไปเรื่องก็เกิดขึ้น........ ถึงตอนนี้ริเรียนั่งเงียบไป

    อะไรหรอ เกิดอะไรขึ้น

    วันนั้นมีมอนเตอร์บุกมาทำลายหมู่บ้าน และทุกคนก็ร่วมกันต่อสู้อย่างสุดความสามารถ แต่แล้วแม่ก็เสียท่าแม่สูญเสียแขนไปจึงไม่อาจร่ายเวทมนตร์รักษาได้

    และในหมู่บ้านก็ไม่มีใครช่วยแม่ได้เช่นกัน สุดท้ายแม่ต้องตายไป ฉันซึ่งยังเป็นเด็กอยู่ต้องเสียแม่ไปแค่ไม่มีคนสามารถใช้เวทมนตร์รักษาแม่ได้ มันคงเป็นเรื่องที่โง่เอามากๆ เมื่อริเรียเล่าจบเธอก็ไม่พูดอะไรอีกเลย แล้วก็นั่งคอตก

    ริเรียผม..... วิลลุกขึ้นมาหาริเรียแต่ เธอลุกขึ้นยืนแล้วกลับมายิ้มอีกครั้ง

    แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันมันโง่เองล่ะ ควรจะให้วิลเป็นคนเลือกเองดีกว่าขอโทษ....

    ผมอยากจะเรียนเวทมนตร์รักษา

    แต่...แต่ว่า

    ใช่แล้ว ถูกของคุณ เวทมนตร์รักษามันจำเป็นจริงๆนั้นล่ะ ผมจะเรียน ริเรียหันหน้าหนีแต่วิลแอบเห็นเธอร้องไห้ด้วยความดีใจ

    แล้วผมต้องทำไงบ้างล่ะ ถึงตรงนี้ริเรียหน้าแดง แล้วก็ตัวสั่นอีกครั้ง

    คือ...แบบว่า ฉันมีเวทมนตร์ที่ให้วิลอยากลองดูอ้ะ เธอวิ่งออกไปจากห้องแล้วกลับมาด้วยความเร็ว ในมือมีห่อผ้าอะไรมาด้วย

    นี่ ฉันให้ วิลลองเปิดดูซิ วิลเปิดออก มันเป็นขลุ่ยที่ตกแต่งมาอย่างประณีตมาก มันใสเหมือนแก้ว ที่ตัวขลุ่ยสลักรูปนางฟ้าที่กำลังเริงระบำ

    อะไรอีกล่ะที่นี่ อย่าบอกนะว่า…” วิลหันกลับมาหาริเรียที่ยังยืนยิ้มอยู่

    ใช่แล้ว ฉันอยากให้วิลลองใช่เวทมนตร์แห่งเสียงดนตรีดู

    แล้วมันเกี่ยวกับเวทมนตร์รักษาตรงไหนเนี่ย

    อื้อ เกี่ยวซิ  เวทมนตร์แห่งเสียงดนตรีมันสามารถรักษา ทำลาย ได้ด้วยซิ่ง ฉันว่ามันเหมาะกับวิลมากเลย แถมยังเข้ากับฉันด้วย

    ฉันก็คงต้องถามว่ายังไงอีกนั้นล่ะ

    วิลออกไปที่หลังบ้านนะเดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดู แล้วริเรียก็วิ่งกลับเข้าห้องไปอีกครั้ง วิลจึงเดินออกไปข้างนอกและก็เห็นฟรานซิสกำลังต่อสู้กับอาเบลอยู่ แต่ดูเหมือนว่า

    อาเบลไม่ได้ตอบโต้อะไรฟรานซิสเลย แค่ปล่อยให้ฟรานซิสใช้แขนเหล็กต่อยเขาก็เท่านั้นเอง ส่วนจีน่ากำลังอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ วิลจึงเดินเลาะไปหลังบ้านและนั่งรอริเรีย

     

     

     

    ขณะเขานั่งรอไปซักพักริเรียก็เดินมาเขาหันไปมอง แล้วก็ต้องรีบหันหน้ากลับมาเพราะความตกใจ ริเรียเปลี่ยนชุดใหม่เธอสวมเสื้อ  ไม่สิมันเหมือนชุดชั้นในมากกว่า เป็นชุดเต้นเหมือนชาวอินเดียในโลกของเขา มีแค่เสื้อผ้าน้อยชิ้นกับผ้าแพรติดกับกำไลกระดิ่งที่มือทั้งสองข้าง

    วิลเป็นอะไรค่ะ หน้าแดงเชียว เป็นไข้รึเปล่าว ริเรียก้าวมาหาวิล

    ปล่าวๆแต่ชุดนั้นมัน... วิลชี้มาที่ริเรีย

    ดูก็รู้แล้วใช่ไหมค่ะ ว่าเป็นแดนเซอร์

    เดี๋ยว  แดนเซอร์หรอ งั้นนี่ก็.... ริเรียหัวเราะอายๆ

    คิกๆๆนักเต้นรำ จะขาดนักดนตรีไปได้ไงล่ะค่ะ แต่ฉันไม่ใช่แดนเซอร์ธรรมดานะดูนี่ซิ ริเรียก้าวถอยออกไปแล้วไปยืนที่หน้าต้นไม้ใหญ่ วิลคอยสังเกตเธออยู่ เธอนิ่งไปซักพักแล้วเริ่มเต้นรำเป็นจังหวะแบบเรียบง่าย วิลนั่งดูอย่างตั้งใจแต่ชุดของริเรียมันทำให้เขาแทบเป็นลม จากนั้นริเรียก็ค่อยเร่งจังหวะให้รุนแรงขึ้นมันทำเอาวิลคล้อยตาม แต่แล้วก็เกิดวงแหวนเวทมนตร์ขึ้นใต้เท้าเธอขณะเต้น  แล้วเธอก็สะบัดเท้าไปด้านบนมันทำให้เกิด ใบมีดลมขนาดใหญ่ตัดต้นไม้ขาดล้มไปทั้งต้น ทำเอาวิลกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางนึกว่าเขาคงไม่อยากเป็นต้นไม้นั่นแน่

    นั้นมัน..... วิลพูด

    ถูกแล้วค่ะ ฉันเป็นนักเวทย์ที่ปล่อยเวทมนตร์ด้วยการเต้นรำ

    แล้วทำไมต้องมีนักดนตรีอยู่ด้วยล่ะ

    งั้นวิลก็ลองเล่นขลุ่ยดูซิค่ะ เอาจังหวะแบบที่ฉันเต้นนะค่ะ

    เอ่อ....ริเรีย ฉันเล่นขลุ่ยไม่เป็นงะ

    ไม่เป็นไรค่ะ วิลแค่เป่าไปเรื่อยๆแล้วดูจังหวะที่ฉันเต้นเท่านั้นแหละค่ะ วิลลองทำตามเขาแนบปากกับขลุ่ยแล้วลองวางมือตามที่ริเรียสอน เขาคอยจ้องดูขณะริเรียเริ่มเต้นแล้วเขาต้องตกใจเพราะร่างกายเขามันขยับไปเอง ทั้งนิ้วแล้วลมหายใจมันทำงานไปตามจังหวะที่ริเรียเต้น  แต่ไม่ใช้แค่นั้น เขายังสามารถบังคับให้เสียงฟังดูเพราะขึ้นรวมทั้งเร่งหรือผ่อนจังหวะได้ และริเรียก็เต้นตามจังหวะของเขาเช่นกัน จากนั้นริเรียก็เต้นตามจังหวะเหมือนครั้งที่แล้ว วงแหวนเวทย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้งตาเมื่อเธอปล่อยเวทมนตร์ออกมา ใบมีดอากาศมีขนาดใหญ่กว่าอันที่แล้วเกือบเท่าตัว และต้นไม้ไม้ก็ล้มไปเป็นแถบๆ

    ไงค่ะเข้าใจรึยัง ฉันว่าวิลเล่นดนตรีเก่งออกริเรียหยุดเต้น

    แต่ฉันก็ยังไม่เห็นว่า ดนตรีมันเกี่ยวกับเวทมนตร์รักษาตรงไหนเลย

    วิลมานี่สิ ริเรียดึงวิลมาที่ต้นไม้ที่หักไปเหลือแต่ตอ

    วิลลองคิดที่จะรักษาต้นไม้แล้วลองเล่นดนตรีดูซิค่ะ วิลทำตามเขาลองนึกภาพของต้นไม้แล้วลองเป่าขลุ่ย เสียงขลุ่ยที่ออกมาเป็นจังหวะที่ดูสงบ มันไพเราะแต่เรียบง่าย

    นั่นไงค่ะ ความรู้สึกของวิล ริเรียเรียกวิลให้ดูบริเวรที่เป็นตอไม้ตอนนี้เกิดต้นอ่อนต้นเล็กๆขึ้น

    วิลหันมาหาริเรียด้วยสีหน้าทึ่ง

    ความรู้สึกของวิล เวลาถอดออกมาเป็นดนตรีมันเพราะมากเลยนะค่ะ ริเรียยิ้มให้

    งั้นที่ริเรียให้ผมเรียนเวทมนตร์นี้ เพื่อคุณอย่างนั้นหรอ วิลตะโกนใส่

    คือ...แบบว่า มีเรียไม่มีรอยยิ้มให้เห็นอีกต่อไป เพราะ สิ่งที่เธอกลัวกำลังจะเกิดขึ้นเพราะการกระทำของเธอเป็นการบังคับให้วิลทำตามที่เธอต้องการ แต่วิลกลับเดินเข้ามาแล้วยื่นมือมาให้

    งั้นก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคู่หู  วิลกลับเป็นฝ่ายยิ้มให้แต่แล้ว ริเรียก็กระโดดขึ้นมากอดและหอมแก้มเขา ขอบคุณค่ะ เธอตระโกนด้วยความดีใจ    

      วิลตกใจยังไม่ทันไรเขาก็โดนผู้หญิงจากโลกอื่นแย่งจูบไปเสียแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×