ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BEHIND...[HaeEun ft. SJ]

    ลำดับตอนที่ #8 : ♚ ( Chapter 4 ) Do you know him? .

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 54


    สวัสดีค่ะ รีดเดอร์ทุกคน ^^
    กลับมาอัพเรื่องหลักของบีไฮด์กันบ้างนะคะ หลังจากครั้งที่แล้วได้ลง SF แรงๆของเฮอึนไป
    หลายๆคอมเม้นบอกชอบมาก ชอบฮยอกแจแรงๆแบบนี้ อะไรแบบนี้
    แนนต้องขอขอบคุณทุกคำชมจากทุกๆคนที่ติดตามอ่านนะคะ ^^

    คราวนี้เรื่องหลักของเรามันทำเดินถึงจุดเริ่มต้นของความเครียด ปมปัญหาหลักของเรื่องแล้ว
    ตอนหน้านี้ก็จะมีเรื่องวุ่นๆวายๆให้ทุกคนได้ลุ้นกัน ยังไงก็ติดตามฟิคแนนด้วยนะคะ
    ขอบคุณมากค่ะ ^^ 
    ปล.พรุ่งนี้จะมาอัพชอทฟิคเฮฮาๆสไตล์สองป้าแก่ๆ 83line ft HaeEun ให้อ่านเล่นกันค่ะ


    ----------CHAPTER 4----------

    ซีวอนเดินเข้าบ้านหลังใหญ่ของตนด้วยท่าทางอิดโรย ความเหนื่อยล้าจากการประชุมสำคัญในวันนี้ทำให้เขาหมดแรงเกินกว่าจะปั้นยิ้มออกมาได้

    คณะกรรมการในบริษัทต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าหากเขาไม่ได้เงินทุนเพื่อผลิตสินค้าใหม่ชิ้นนี้ได้ทันเวลา บริษัทของเขาซึ่งอยู่ในช่วงขาลงก็มีสิทธิ์ที่จะตกต่ำจนเข้าสู่ขั้นวิกฤตได้

    ร่างสูงโยนกระเป๋าเอกสารและเสื้อสูทลงบนโซฟาในห้องรับแขกลวกๆ ก่อนจะเดินผ่านไปที่โต๊ะอาหาร เมื่อเห็นคุณชายของบ้านกลับมาถึง แม่บ้านต่างกระวีกระวาดรีบยกอาหารที่ทำเสร็จได้ไม่นานมาเสิร์ฟ

    “หื้มม..เขาทานเสร็จแล้วเหรอ”ซีวอนเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อไม่เห็นว่าบุคคลที่ควรจะนั่งรอเขากลับไม่อยู่ตามที่คาด

    “อ่อ..เธอขึ้นไปด้านบนสักครู่นี้น่ะค่ะ เห็นเธอบอกว่าจะขึ้นไปเอาของ”แม่บ้านกล่าว

    “อืม..งั้นเหรอ”ซีวอนพยักหน้ารับ

    “กลับมาแล้วเหรอซีวอน”ร่างโปร่งที่ถูกเอ่ยถึงเมื่อสักครู่ก้าวเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน รอยยิ้มหวาน โชว์ลักยิ้มที่แก้มเนียนเอกลักษณ์ของเจ้าตัว

    ปาร์ค จองซูนี่คือชื่อจริง ที่เจ้าตัวมักไม่ชอบให้ใครเรียกนอกจากคนสนิท เขาเป็นคุณชายอีกคนของบ้าน ร่างโปร่งเจ้าของโครงหน้าเรียวเล็กได้รูป ประกอบกับดวงตาสีชาคู่สวยเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่ดูลึกลับน่าค้นหา กลุ่มผมยาวระคอสีน้ำตาลประกายทองขับให้ใบหน้าคมดูอ่อนหวาน

    ในความเป็นจริงเขามีศักดิ์เป็นพี่ของซีวอน เพราะอายุที่มากกว่าถึง 4 ปี แต่ด้วยความเยาว์วัยของใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างเอาใจใส่และรอยยิ้มหวานอ่อนโยน จึงทำให้ความช่องว่างความแตกต่างของอายุลดความสำคัญลง จนไม่เคยนึกจะใส่ใจ

    เขาอาศัยอยู่ในบ้านของซีวอนในฐานะพี่ชาย เพื่อน ที่ปรึกษา และคนรัก เขาทั้งสองผูกพันธ์กันมากเกินอธิบายเพราะความใกล้ชิดสนิทสนมตั้งแต่สมัยเด็ก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นสิ่งที่ไม่ได้ระบุได้ชัดเจนสักเท่าไรนัก แต่เขาเองก็ไม่คิดจะติดใจสงสัยอะไร เพราะเขารู้ดีว่าคนที่ซีวอนจะให้ความสำคัญ มีแค่เพียงเขาคนเดียว

    “ครับ กลับมาแล้ว”

    “ขอโทษทีนะ เมื่อกี้ขึ้นไปหยิบของในห้องน่ะ งั้นทานอาหารกันเลยนะ วันนี้ชั้นเลือกเมนูที่ซีวอนชอบให้แม่บ้านทำล่ะ”

    “จองซูไม่หิวเหรอ ทำไมไม่ทานก่อนล่ะครับ”

    “ไม่ล่ะ อยากทานกับซีวอน ซีวอนทานเลยสิ”จองซูชักชวนพลางตักกับข้าวใส่จานร่างสูง

    “ฮ่ะๆ ขอบคุณครับ”ซีวอนยิ้มรับความหวังดีของอีกฝ่าย แม้ว่าเขาไม่ค่อยอยากทานอาหารตรงหน้าสักเท่าไร แต่มันก็คงไม่ดีนักหากเขาจะปล่อยให้จองซูต้องนั่งทานข้าวคนเดียว

    “ทานเลยสิ อร่อยออกนะ”จองซูชักชวนอีกครั้ง ซีวอนจึงค่อยๆตักอาหารที่คนรักตักให้เข้าปาก ระบบประสาทของเขาบอกว่ามันรสชาติดีมาก หากแต่ในใจเขากลับคิดว่ามันไร้รสชาติสิ้นดี ความเครียดในหัวที่เขามีมันก่อก่วนเขาจนไม่อยากทำอะไรแล้วจริงๆ

    “เอ๋..ทำไมทานน้อยจังล่ะซีวอน”จองซูถาม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทานข้าวเข้าไปเพียงคำเดียว แล้วเอาแต่เขี่ยอาหารในจานไปมา

    “ขอโทษนะจองซู พอดีผมเครียดๆน่ะเลยทานไม่ค่อยลง”ซีวอนตอบกลับไปตามตรง ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะตักอาหารในจานทานอีกคำ

    “ไม่เป็นไรหรอกซีวอน ถ้าทานไม่ลงก็อย่าทานเลยนะ”จองซูเอ่ยบอกพร้อมยิ้มหวาน

    “อา...”

    “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ ทำแบบนี้ก็ใช่ว่าซีวอนจะกินลง ไม่ต้องฝืนหรอกนะ เดี๋ยวทานนมอุ่นๆแทนก็ได้”จองซูเสนอพร้อมกับหันไปสั่งให้แม่บ้านเตรียมนมอุ่นๆสำหรับคนรัก

    “สีหน้านายแย่มากเลยนะซีวอน”

    “ช่างเถอะครับ อีกไม่นานปัญหานี้ก็ต้องผ่านพ้นไปได้น่ะ”ซีวอนเอ่ยพร้อมฉีกยิ้มสร้างความสบายใจให้จองซู

    “อยากระบายมั้ย?”

    “อืม..ก็ดีนะครับ แต่ผมไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไงน่ะสิ”ซีวอนลังเล

    “ซีวอนเครียดเรื่องไหน ปัญหาของงานมันเกิดตรงไหนก็เริ่มเล่าตรงนั้นแหละ ซีวอนจะได้ไม่ต้องอึดอัดอยู่คนเดียวไง”

    “ครับ..”ซีวอนพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มต้นเล่าเรื่อง ปัญหาสถานการณ์ของบริษัทในปัจจุบัน จองซูนั่งฟังอีกฝ่ายเงียบๆทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ดวงตาสีชามองใบหน้าหล่อของคนรักนิ่ง

    “อืม...”เมื่อเล่าจบจองซูก็พยักหน้ารับรู้ แต่ไม่ได้เสนอแนะความคิดเห็นอะไรไป เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ซีวอนคงอยากจะลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนที่เขาจะยื่นมือเข้าไปช่วย

    “งั้น...เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่านะ ^^

    “ครับ”ซีวอนพยักหน้ารับ อมยิ้มกับท่าทางของร่างเพรียวที่คอยชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ เล่าเรื่องตลก เรื่องกิจกรรมที่ทำในหนึ่งวันของตน

    จองซูเป็นคนอัธยาศัยดี ชวนคุยเก่ง แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆยังเชื่อมโยงไปเรื่องอื่นเล่าได้เป็นชั่วโมงสองชั่วโมง จึงไม่แปลกที่ซีวอนที่เป็นคนเงียบๆจะยิ้มได้เมื่อได้ฟังเรื่องเล่าของคนตรงหน้า แม้ว่าเขาไม่ได้ตอบกลับอะไรมากมาย นอกจากคำตอบรับสั้นๆหรือการพยักหน้า เขากับจองซูคบกันในฐานะคนรักมานานเป็นเวลาหลายปี เขารู้จักกับจองซูตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก พ่อแม่ของทั้งสองเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน เพราะอายุที่ไม่ต่างกันมากจึงทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกัน จนพัฒนาความสัมพันธ์มาเป็นคนรักกัน

    แต่เพราะเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชาย และตัวเขาเองก็มีคู่แข่งทางธุรกิจอยู่มาก เขาจึงตกลงกับจองซู ให้ปิดบังความสัมพันธ์ของทั้งสองเอาไว้ เพื่อป้องกันการเสียผลประโยชน์ ชื่อเสียงหน้าตาทางสังคม และลดจุดอ่อนที่ฝ่ายตรงข้ามเขาอาจจะใช้เป็นเครื่องมือในการแข่งขันลง จึงมีเพียงคนในครอบครัว แม่บ้าน และลูกน้องคนสนิทบางคนเท่านั้นที่รู้ถึงความลับนี้ 

    “จองซูครับ ผมขออะไรอย่างนึงได้มั้ย?”

    “หื้มมม ว่าไง? มีอะไรให้ช่วยงั้นเหรอ”

    “ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่อยากขอให้จองซูอย่าข้องเกี่ยวกับงานในบริษัทนะ ไม่ว่าผมจะมีปัญหาแค่ไหนก็ไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมต้องแก้ปัญหานี่ได้น่ะ”ซีวอนกล่าวเสียงเข้ม สีหน้าจริงจัง

    “อื้ม ได้สิ ^^ ปกติก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่นา..ทำไมครั้งนี้ต้องขอล่ะ? มีอะไรที่สำคัญมากกว่าครั้งอื่นงั้นเหรอ?

    “เปล่าหรอกครับ ผมแค่ถามไปอย่างนั้นแหละ”

    “อ่อ...อื้ม”จองซูพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เขาไม่อยากจะขัดใจอะไรร่างสูงมากเท่าไร เพราะเขารู้ดีว่าการขัดใจลูกชายคนเดียวของตระกูลเชวคนนี้เป็นสิ่งต้องห้าม

    .

    อีกด้านนึงของทงเฮ ชายหนุ่มร่างสูงเพิ่งเสร็จสิ้นจากภารกิจรักเร่าร้อนที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หัวค่ำจนล่วงเลยข้ามวันใหม่มาได้สักพัก หลังจากบทรักในสวนหย่อม ร่างเล็กก็ออดอ้อนให้เขาอุ้มพามาที่ห้องนอนพร้อมกับยั่วเย้ากระเซ้าให้เริ่มบทรักบทใหม่บทแล้วบทเล่าจนเจ้าตัวเป็นฝ่ายหมดแรง

     นิ้วแกร่งเกลี่ยปอยผมที่ปรกดวงหน้าหวานเล่น อมยิ้มน้อยๆมองคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทเพราะเรี่ยวแรงที่ถูกใช้ไปมาก ดวงหน้าหวานยามหลับ ดูน่ารักราวกับตุ๊กตาเด็กน้อยแสนบริสุทธิ์ ภาพความเย่อหยิ่ง ยั่วยวน ร้อนแรงยามที่ตื่นอันตธานหายไปห้วงนิทราแสนหวาน ทงเฮลูบแก้มใสแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงประทับจุมพิตที่หน้าผากมน กระซิบคำหวานบอกรักซึ้งๆแผ่วเบา

    แม้ฮยอกแจไม่ได้รับรู้เสียงกระซิบของคนรัก แต่ทงเฮมั่นใจว่าฮยอกแจสัมผัสถึงมันได้ด้วยหัวใจ ร่างเล็กขยับเข้าซุกอกแกร่ง เบียดตัวเข้าหาไออุ่นที่ทำให้เขานอนหลับสบายในทุกๆคืน

    สายตาคมมองสำรวจคนรักในอ้อมกอด ฮยอกแจของเขาบอบบางเกินกว่าใครจะแตะต้อง แม้นภาพภายนอกจะรู้แข็งแกร่ง แต่นั่นก็เป็นเพียงเกราะกำบังที่ฮยอกแจสร้างมันขึ้นเท่านั้น

    ทงเฮกลัวเหลือเกิน กลัวว่าเกราะกำบังที่สร้างขึ้นมานี้มันจะพังลงหากฮยอกแจเจอเรื่องร้ายหรืออะไรที่อันตรายมากกว่าที่เคยเจอในปัจจุบัน แม้ว่าฮยอกแจจะมีฝีมือในการต่อสู้อยู่ไม่น้อยกว่าเขาสักเท่าไร แต่หากเกิดเหตุการณ์ผิดพลาดที่ไม่สามารถดิ้นหนีได้

    เขาไม่อยากจะจินตนาการเลย ถ้าหากเขาจะต้องสูญเสียฮยอกแจ หรือไม่ก็มีใครทำให้ฮยอกแจเจ็บปวด เขาจะต้องเจ็บปวดมากกว่าที่ฮยอกแจเป็นแน่ๆ เขาทนไม่ได้หรอกหากไม่มีฮยอกแจอยู่ในชีวิตนี้ ฮยอกแจคือคนที่เติมเต็ม และทำให้เขาเป็นเขาได้ในทุกวันนี้ เปลี่ยนเขา เปลี่ยนโลกของเขา และเปลี่ยนมุมมองด้านความรักของเขาไปอย่างสิ้นเชิง

    “ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น เชื่อใจผมไว้นะครับคนดี”

     

    ในเช้าของวันใหม่ แสงแดดจ้าส่องเข้ามาในห้องผ่านผ้าม่านสีครีมอ่อน ร่างเล็กที่นอนคู้อยู่บนเตียงกว้าง ขยับพลิกตัวหนีแสงแดดที่สาดส่องรบกวนการนอนของเขา ฮยอกแจบิดตัวไปมาเมื่อคิดได้ว่ามันถึงเวลาที่เขาสมควรตื่นได้แล้ว ดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมขึ้นปรับเข้ากับแสงสว่าง ร่างเล็กมองไปรอบๆห้องนึกถึงบทรักที่ผ่านมาแล้วอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพบว่าในห้องนอนกว้างนี้ไม่มีวี่แววของร่างสูงเสียแล้ว ฮยอกแจยู่ปากเล็กๆคิดน้อยใจคนรัก จะรีบออกไปทำงานอะไรเร็วนักนะ ไปเอาแรงขนาดนั้นมาจากไหนกัน..

    ฮยอกแจเม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันแน่น ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ออกไปหากิจกรรมสนุกๆทำเล่นแก้เบื่อ ในเวลานี้เขาไม่อยากไปบริษัทของคนรักเท่าไรนัก เพราะรู้ดีว่าทงเฮคงจะมองเขาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ แกล้งปั่นหัวเขาเล่น ไม่ยอมพูดเรื่องราวเมื่อคืน ใช้เพียงสายตามองลวนลามเขาจนเขาทนไม่ไหวต้องโวยวายลั่นบริษัท ทำให้พนักงานต่างต้องวุ่นทำงานกันไม่ได้

    “วันนี้ชั้นจะไปทานเค้ก”ฮยอกแจเอ่ยบอกคยูฮยอน ลูกน้องร่างโปร่งคนสนิท ถึงแม้ทงเฮจะมีลูกน้องอยู่มากมาย แต่คนทีมีหน้าที่ดูแล และสามารถเข้าใกล้เขาได้มีเพียงมินโฮและคยูฮยอนเท่านั้น แต่เพราะมินโฮต้องออกไปส่งทงเฮที่บริษัท คยูฮยอนจึงมีหน้าที่ทำตามคำสั่งของเขาในวันนี้

    คยูฮยอนขับรถพาคนตัวเล็กไปส่งที่ร้านเค้กเจ้าประจำ ในย่านที่มีผู้คนรู้จักไม่มากเท่าไรนัก บรรยากาศเงียบๆเหมาะแก่การนั่งพักผ่อนสบายๆ ใช้เวลากับการคิดถึงสิ่งรอบๆกายมากกว่างานเครียดๆที่ต้องรับผิดชอบ ฮยอกแจจึงเลือกร้านเค้กที่นี่เป็นที่นั่งเล่นยามเบื่อ หรือบางครั้งก็ชักชวนคนรักมานั่งทานของหวานด้วยกันในเวลาที่ทงเฮไม่มีงานยุ่ง

    ร่างเล็กก้าวลงจากรถสีบรอนซ์คันหรูที่จอดลงหน้าร้านเค้ก ยกยิ้มหวานด้วยความพึงพอใจ เขาไม่ได้มาเหยียบที่นี่ได้ประมาณสองสามเดือนแล้วล่ะมั้ง สาเหตุก็เพราะงานยุ่งๆและคำสั่งห้ามนู่นห้ามนี่ของทงเฮนั่นเอง

    “อึนฮยอกกี้”เสียงของใครบางคนเอ่ยเรียกชื่อเล่นที่เขามักให้คนอื่นเรียกแทนชื่อจริงๆดังขึ้นทางด้านหลัง ร่างเห็นหันไปมองตามต้นเสียง ก่อนจะพบกับบุคคลที่ทำให้ฮยอกแจต้องหยุดยืนนิ่งด้วยความตกใจ...

    ----------CONTINUE---------
    คอมเม้นกันหน่อยนะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×