คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 . {Re-write}
ฉันรู้ .. ฉันควรดีใจที่เดินข้างเธอวันนี้
ฉันรู้ .. ฉันควรยินดีที่มีเธอกอดฉันไว้
แต่ลึกลงไปข้างในใจ .. อ่อนไหวกังวลอยู่ทุกวัน
ยิ่งลึกซึ้งยิ่งไหวหวั่น ยิ่งรักยิ่งห่วง
วันพรุ่งนี้ .. จะยังคงฝันดีอยู่ไหม? จะมีกันและกันอยู่ไหม? มือของเธอจะอุ่นอยู่นานแค่ไหน?
สถานะ : แฟนเก่าที่กำลังมีความสุข (?)
ร่างเล็กลอบมองเสี้ยวหน้าคมที่กำลังตั้งใจเขียนแผนงานอะไรที่เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรใส่กระดาษ
พลางเลื่อนมือไปหยิบกล่องนมสตอร์เบอร์รี่ยี่ห้อโปรดขึ้นมาดูด
ไม่รู้ว่านานเท่าไรแล้วที่ฮยอกแจชอบนั่งมองทงเฮเวลาตั้งใจทำงาน
นี่ก็เป็นอีกวันที่ทงเฮเอาแต่ใจไม่ยอมกลับบ้านตัวเองไปอาศัยบ้านหลังเล็กของฮยอกแจ
หลังจากเดินแยกมาจากอาจารย์ยุนอา ทงเฮก็ลากฮยอกแจไปซื้อเบอร์เกอร์ชิ้นโตแล้วพากันไปนั่งกินกันที่ข้างสวนสาธารณะทางผ่าน
ก่อนจะเดินเนียนบอกว่าจะไปส่งที่บ้านแล้วสรุปเองเออเองขอค้างอย่างเคย
“ยังกินนมอยู่อีกเหรอ?”เงยหน้าขึ้นถามคนตัวเล็กด้วยความสงสัยเมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองโดนจ้องอยู่นานสองนานแล้ว
“อื้อ ก็มันอร่อยดีนี่นา”
“กินไปก็ไม่สูงขึ้นหรอกน่า เด็กโง่”
“ก็ไม่ได้จะกินให้สูง จะกินให้อร่อยต่างหาก”
“แล้วมองทำไมอ่ะ? จะมาช่วยงานไง?”
“ทำได้ก็ดีน่ะสิ”
“ปวดไหล่ชะมัด
นวดให้หน่อยได้ไหม”ไม่ใช่น้ำเสียงแข็งกร้าวเป็นคำสั่งแต่ก็ไม่ใช่น้ำเสียงอ่อนหวานออดอ้อน
แต่คล้ายกับบ่นเบาๆพึมพำกับตัวเองเสียงมากกว่า
ฮยอกแจอมยิ้มกับท่าทางของทงเฮ
ร่างเล็กลุกจากโซฟาตัวนุ่มไปนั่งคุกเข่าด้านหลังทงเฮก่อนจะบีบนวดไหล่ให้ทงเฮช้าๆ
“แก่แล้วขี้ปวดจังว่ะ”
“ทำเหมือนไม่เคยปวดเท้าตอนลูกค้าเข้าเยอะๆงั้นล่ะ”ทงเฮสวนกลับพร้อมรอยยิ้มบางๆ
มือหนายังคงเขียนร่างตารางบางอย่างใส่กระดาษ
แต่มือซ้ายที่ว่างก็ยกขึ้นไปลูบกลุ่มผมของฮยอกแจเบาๆ
“สยิว”ฮยอกแจเอียงคอหนีก่อนขยับไปนั่งที่นั่งตรงข้ามทงเฮ
โต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ยที่มีเอกสารวางอยู่กระจัดกระจายทำให้ฮยอกแจเบ้ปากน้อยๆ
ขาเรียวทั้งสองยืดยาวออกไปก่อนจะใช้ปลายเท้าแกล้งถีบหน้าขาอีกคน
“วันนี้ผีเด็กเข้าสิงหรือไง หื้ม?”ทงเฮเงยหน้าจากงานขึ้นถาม
“อืม ก็คงงั้นอ่ะ”
“เอาดีๆ เป็นอะไรทำไมถึงอ้อน”
“ไม่รู้สิ น้องอยากอ้อน”วางคางกับโต๊ะแล้วช้อนตาขึ้นสบตากับอีกฝ่าย
ทงเฮไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่หยิบเอกสารที่ระเกะระกะมาจัดๆกองรวมกันที่พื้นข้างๆตัว
“....”
“....”
“อยากได้อะไรไหนพูด”
“ไม่อยากได้อะไรสักหน่อย”ฮยอกแจตอบกลับแต่ดวงตาก็ยังจ้องมองอีกฝ่ายนิ่ง
“เฮ้อ .. จริงๆเลยนะ อยากให้พาไปเที่ยวใช่ไหม?”เมื่อทนกับสายตาที่จ้องมาที่ตนนานสองนานไม่ได้ มือหนาก็วางปากกาลง
ตัดสินใจทิ้งงานตรงหน้าไว้
“....”
“โอเคๆ ยอมแล้วๆ อยากทำอะไรล่ะคืนนี้?”
“....”
“ไม่บอกไม่ตามใจแล้วนะ?”
“นิสัยไม่ดี”คำพูดรั้นๆที่หลุดจากเรียวปากอิ่มทำให้ทงเฮเผลอหลุดขำ
มือหนาเลื่อนไปยีกลุ่มผมนิ่มแรงๆจนยุ่งไม่เป็นทรง
“ก็บอกมาสิว่าอยากไปไหน”
“....”
“โอเค
เข้าใจแล้วครับ”หลังจากเล่นสงครามประสาทอยู่นาน ฮยอกแจก็ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะในสงครามนี้
มือหนาเลื่อนไปจับมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะฉุดร่างเล็กให้เดินไปข้างนอก
ทงเฮรู้ดีว่าเมื่อไรที่ฮยอกแจเกิดอาการเอาแต่ใจแล้วไม่ยอมพูดยอมจาอะไรแบบนี้
สิ่งที่ทงเฮต้องทำให้ก่อนนอนคือการพาไปนั่งชิงช้าเล่นจนกว่าคนตัวเล็กจะพอใจ
ก็เป็นซะอย่างนี้เขาจะไม่ตามใจได้ยังไงกัน
เพราะ
ฮยอกแจเหมือนเด็ก ที่น่าดูแล น่าปกป้อง แบบนี้ทงเฮเลยชอบเด็กๆ
จริงๆเขาอยากเป็นครูสอนเด็กประถมมากกว่าด้วยซ้ำ
เพราะการที่เขาได้มาดูแลฮยอกแจแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นพี่เลี้ยงเด็กประถมหรอก
ทงเฮพาฮยอกแจเดินไปที่สวนแถวๆบ้านที่ไม่มีผู้คนในเวลานี้
คนเอาแต่ใจเห็นว่าทงเฮเดาใจถูกก็ยิ้มร่า
“กว่าจะเข้าใจนะ”ฮยอกแจยิ้มกว้างก่อนวิ่งไปนั่งชิงช้าตัวโปรดแล้วไกวเล่น
ฮยอกแจชอบไกวชิงช้าเร็วๆ เพราะยิ่งแรงเหวี่ยงเยอะมันก็จะยิ่งสูง อากาศเย็นๆที่ปะทะหน้ามันทำให้เขารู้สึกดี
“ทงเฮดูดาวสิ!!!”ฮยอกแจเอ่ยพร้อมเงยหน้ามองท้องฟ้า
“หื้ม?”ทงเฮเงยหน้ามองตามฮยอกแจก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าคืนนี้เป็นคืนเดือนมืด
ไม่มีแสงของดวงจันทร์มาบดบัง จึงทำให้เห็นดาวได้ชัดเจน ฮยอกแจชอบดูดาวตั้งแต่เด็ก
จนตอนนี้ก็ยังชอบ และยิ่งชอบมากกว่าเดิมเวลาที่ได้มาดูกับคนข้างๆ
มือบางข้างหนึ่งปล่อยโซ่ที่ยึดชิงช้า
เรียวขาทั้งสองทำงานประสานกับร่างกายที่แกว่งไปมาถีบส่งให้ชิงช้าแกว่งเร็วขึ้นและสูงขึ้น
มือเรียวยกขึ้นไปข้างหน้าในระดับที่สูงกว่าสายตา ..แค่อยากจะลองแตะดาวสักครั้ง..
ยิ่งชิงช้าแกว่งไปด้านหน้าสูงเท่าไร ฝ่ามือเล็กๆก็ยิ่งขยับเข้าใกล้ดาวมากเท่านั้น
ฮยอกแจจึงแกว่งชิงช้าเร็วขึ้นเรื่อยๆเพื่อที่จะได้ทำตามที่ตัวเองต้องการ
...อีกนิด...
อีกนิดจะจับดาวได้แล้ว..
“ระวัง!!!”ทงเฮตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นว่าอีกเพียงนิดเดียวร่างของฮยอกแจก็จะไหลตกจากชิงช้า
ร่างโปร่งรีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวคนตัวเล็กที่กำลังตกใจกับเสียงเตือน
ร่างที่กำลังถูกไกวไถลหล่นลงพื้นเป็นจังหวะพอดีกันกับที่อ้อมกอดอุ่นๆของอีกคนคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน
กลายเป็นว่าทั้ตอนงสองกำลังนอนคลุกฝุ่นกองอยู่กับพื้นทั้งคู่
“เล่นบ้าอะไรเนี้ยทงเฮ! เจ็บนะ! เนี้ย เลอะเทอะ”
“ดีแค่ไหนแล้ว นี่แค่หล่นมาทับ
ถ้าตกลงพื้นเต็มๆช้ำแน่ๆ”ทงเฮเอ็ดเสียงแข็งดุคนตัวเล็กไป
ฮยอกแจที่ถูกดุหน้างอลงตามประสาก่อนจะเถียงเสียงดัง
“แล้วใครใช้ให้ตะโกนเสียงดังเล่า
ถ้าทงเฮไม่ตะโกนชั้นก็ไม่ตกใจหรอก”
“ก็เมื่อกี้นายเอาแต่จะจับดาวๆ
จนเกือบจะไถลตกลงมาอยู่แล้ว รู้ตัวบ้างรึเปล่า? นี่ถ้าไม่คว้าเอาไว้
แล้วขาหักหัวแตกกลิ้งหลุนๆไปกับพื้นจะว่าไง?”ทงเฮว่าเถียงบ้าง
คนตัวเล็กที่หน้าหงิกอยู่แล้วก็ยิ่งหงิกเข้าไปใหญ่
“ฉันโตแล้วน่า อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กๆได้ไหม?”
“ที่งอนกระฟัดกระเฟียดตั้งแต่ตอนเย็นนี่เรียกว่าโตแล้วเหรอ?”
“....อื้อ”เถียงไม่ออก ฮยอกแจได้แต่เม้มปากอย่างคนแพ้
“เถียงไม่ออกอ่ะดิ”
“....”
“ฮยอกแจ โตแล้วนะ อย่างอแงสิ
แบบนี่ไม่เห็นน่ารักเลย ไหนวันนี้เป็นอะไรครับ บอกทงเฮหน่อยสิ”ทงเฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
พยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบคนที่กำลังหน้ามุ่ย พลางช่วยพยุงคนตัวเล็กขึ้นจากพื้น
แล้วช่วยปัดฝุ่นที่เปรอะไปตามเสื้อผ้า
“ไม่น่ารักก็ไม่ต้องรัก รักอาจารย์ยุนอาเลย”
“โธ่..เอาเรื่องนี้กลับมาเป็นประเด็นอีกทำไมเนี้ย?”
“ก็ใครใช้ให้มากับอาจารย์ยุนอาล่ะ?”
“ห๊ะ?”คำถามที่จู่ๆก็โพล่งออกมาทำให้ทงเฮปรับอารมณ์ไม่ถูก
กำปั้นหนักๆทุบลงมาที่หัวไหล่ทงเฮดังปั่ก
จนร่างสูงต้องใช้มือป้องรับกำปั้นน้อยๆเอาไว้
“ทงเฮก็รู้ว่าเราไม่ชอบให้ทงเฮอยู่ใกล้ผู้หญิงคนอื่น
เพราะก่อนหน้านี้มันก็เคยมีเรื่องมาแล้วไง
เราเองก็ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแบบอาจารย์ยุนอาอะ เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะสนิทกับทงเฮแค่ไหน
ไม่รู้ว่าเขาชอบทงเฮรึเปล่า เราไม่สบายใจ”
“ก็ทงเฮบอกแล้วไงครับ
ว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ”ทงเฮพูดพลางจับมืออีกคนที่ยังกำแน่นพร้อมทุบเขาขึ้นมากดจูบเบาๆ
“ขอโทษนะ ที่ทำให้คิดมาก”
“เราไม่อยากงอแง ไม่อยากน้อยใจอะไรแบบนี้เลย
เรารู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าอะ พองี่เง่าเราก็พาลใส่ซองมิน
กลายเป็นว่าซองมินต้องมารับความรู้สึกเรา เราไม่ชอบตัวเองเลย เราพยายามแล้วนะเว้ย
เราพยายามจะไม่หึงทงเฮ ไม่หวงทงเฮแบบที่แต่ก่อนเป็น
แต่บางทีมันก็อดน้อยใจไม่ได้จริงๆ”ฮยอกแจพูดในสิ่งที่คิด
ดวงตาคู่กลมมองหน้าทงเฮนิ่ง น้ำตาหยดใสๆคลอหน่วง อยากร้อง..แต่ต้องกลั้นเอาไว้
“ไม่ต้องคิดมากนะ คนดี”ทงเฮเอ่ยพลางลูบหัวคนตัวเล็ก
ฮยอกแจมองการกระทำที่แสนอบอุ่นของร่างโปร่งแล้วยิ่งรู้สึกผิด
ความน้อยอกน้อยใจไร้สาระของตัวเองทำให้ทงเฮต้องคอยเอาแต่ใจ
แค่คิดแล้วก็อดว่าตัวเองไม่ได้..
ว่าตัวเขามันก็แค่ภาระอย่างหนึ่งของทงเฮ
“ทุกอย่างที่เราทำ มันมีเหตุผล มันเป็นงานล้วนๆเลยนะฮยอกแจ
มันไม่ได้มีอะไรเลย ถ้าคิดมากอะไรก็ถามกันก่อนสิ
ไม่ดีเลยนะที่มาคิดมากเอาเองแล้วเศร้าคนเดียวแบบนี้”ทงเฮใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลจากดวงตาคู่สวยออก
ยิ่งเขาปลอบฮยอกแจยิ่งดูเหมือนไปจี้จุดให้ร่างบางยิ่งร้องไห้
“งานก็แค่ในเวลางานสิ
ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วทงเฮก็รีบไปหาเขา ตอนเย็นก็ยังจะอยู่ด้วยกันอีก
ไม่คิดมากก็พ่อพระเกินไปแล้ว”
“ฮยอกแจ..มันก็เป็นมารยาทเฉยๆเองนี่นา..ฉันไม่ได้คิดอะไรกับอาจารย์ยุนอาจริงๆ”
“นายแอบไปหว่านเสน่ห์ให้อาจารย์ยุนอาเขาใช่ไหม
ตอบมานะ”ฮยอกแจพยายามเค้นถาม ดวงตากลมจ้องตาอีกฝ่าย
เพราะมั่นใจว่าทงเฮจะไม่กล้าสบตาเขาหากกำลังปิดบังอะไรอยู่
ทงเฮจ้องใบหน้าหวานอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนที่ปากแดงๆจะถูกคนตัวหนากว่ากดจูบเบาๆให้หายหมั่นเขี้ยว
“อื้อ..ไม่ต้องมาจูบกันเลยนะ นิสัยไม่ดี
นี่มันนอกบ้านนะ”
“ฮยอกแจอา..ฉันแค่อยากจูบปลอบนายเอง”
“จูบปลอบก็ไม่ควร นี่มันข้างนอกนะ
ถ้ามีเด็กๆมาเห็นจะแย่นะ รู้ไหม”
“อ่าๆ
โอเคๆ เราไม่เถียฮยอกแจแล้ว ไม่จูบก็ไม่จูบ ไหนมาดูหน่อยสิ
ว่าตรงไหนช้ำไหม”ทงเฮถามพลางจับยกแขนสองข้างของฮยอกแจมาสำรวจ
แล้วจับร่างบางหมุนไปหมุนมาเพื่อหารอยฟกช้ำ
“ไม่ช้ำตรงไหนหรอก ห่วงตัวเองก่อนไหม
เมื่อกี้เราลงมทับเต็มๆเลยนะ”
“ไว้ก่อนก็ได้ ไม่เจ็บมากหรอก”
“ทำเป็นเก่ง”
“แล้วนี่ที่งอนมาตลอดเย็นนี่คือหึงใช่ไหม?”ท
“ไม่ได้หึงซะหน่อย มีสิทธิด้วยรึไงเล่า”
”ถ้าอยากจะมีสิทธิหึง
ก็จะยอมให้หึงนะ”ทงเฮอมยิ้ม เห็นอีกคนยิ้มเก้อๆแก้เขินแล้วทงเฮยิ่งอยากแกล้ง
มือหนาหยิกแก้มนิ่มของฮยอกแจเล่น
“ข้ามประเด็นนี้ไปก่อนเลย
เนี้ย ดึกแล้ว กลับบ้านกันดีกว่า ง่วง”ฮยอกแจอ้างพลางเดินนำทงเฮไปตามทางกลับบ้าน
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องสิ ตอบมาก่อนสิ
สรุปว่าหึงใช่ไหม? ตอบมาก่อนเร็ว”ทงเฮถามเสียงทะเล้น
ขณะเดินตามคนตัวเล็กไป
“เปล่านี่ ใครหึง”
“หึงก็บอกมาเถอะ”
“อืม”
“โหย..ไม่เอาอืมอ่ะ เอาชัดๆหน่อยว่าหึงไม่หึง”
“เออ ถามมากจังวะวันนี้”คนตัวเล็กตัดบทก่อนจะก้าวฉับๆเดินหนีคนขี้เซ้าซี้
ส่วนทงเฮก็เอาแต่ยิ้มทะเล้นที่เดินตามต้อยๆ เรียวปากอิ่มแดงเม้มแน่นพยายามกลั้นยิ้มเขินเมื่อร่างโปร่งเร่งฝีเท้าเดินตามมาแล้วสอดมือประสานกับมือตัวเอง
ฮยอกแจเลือกที่จะซ่อนใบหน้าที่กำลังร้อนผ่าวด้วยการก้มมองพื้น
ต่างกับทงเฮที่ซ่อนความเขินอายภายใต้รอยยิ้มเก้อๆแล้วเงยหน้ามองดาวบนฟ้า
ฮยอกแจเองไม่ใช่คนหวานๆ ทงเฮก็ไม่ใช่คนโรแมนติกมากมาย เขาทั้งคู่เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆสองคนที่รักกันเท่านั้นแหละ
ฮยอกแจไม่ใช่คนแสดงออกมากนักเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น
แต่เวลาที่อยู่กับทงเฮเขาก็มักแสดงท่าทางอ่อนไหวงอแงน้อยใจเหมือนเด็กๆ
ไม่ต่างกับทงเฮที่มักจะหลุดขรึมมาทะเล้นขี้เล่นเวลาที่อยู่กับฮยอกแจเช่นกัน
“แวะแปปดิ”ฮยอกแจเอ่ยพร้อมออกแรงสะกิดแขนทงเฮเบาๆเมื่อเดินผ่านซุปเปอร์มาร์เกตเล็กๆข้างทางที่มีคุณป้าอาจุมม่าเดินถือตระกร้าใบใหญ่พร้อมขนมปังข้าวกล่องที่อัดแน่นอยู่ข้างใน
ร่างบางยิ้มน้อยๆก่อนเดินนำทงเฮเข้าไปด้านใน
เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาปิดทำการ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บรรดาอาหารกล่องและชั้นขนมปังจะถูกแปะป้ายราคาเซลล์ 50 เปอร์เซ็นวางอยู่อย่างร่อยหรอ
ฮยอกแจเดินตรงไปที่ชั้นเครื่องดื่มล๊อกประจำมือบางกวาดกล่องนมสีชมพูอ่อนใกล้ถึงวันหมดอายุ 5-6
กล่องมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน
โดยไม่ลืมใช้นิ้วคีบซองขนมปังติดมือมาอีกสองชิ้น
“ซื้อหมดนี่?”ทงเฮมองคนตัวเล็กที่หอบของพะรุงพะรังจึงเข้าไปช่วยถือกล่องนมในอ้อมแขนขาว
ทงเฮไม่ได้แปลกใจอะไรนักหรอกกับจำนวนมากมายที่คนขี้งกกำลังหอบ
ถามไปอย่างนั้นเพื่อจะได้ช่วยถือของก็เท่านั้นแหละ
“ถามแปลกๆ
มาซุปเปอร์ตอนกลางคืนทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้ม”ปากแดงงุบงิบบอกเหตุผลก่อนเดินนำไปที่เค้าท์เตอร์จ่ายเงิน
ชีวิตของทั้งคู่ไม่ใช่พระเอกนางเอกตามละครซีรี่ย์ที่ทงเฮจะมาดแมนควักกระเป๋าตังจ่ายค่าของใช้ให้ฮยอกแจ
แล้วถือของทั้งหมดเดินตามต้อยๆ ของของฮยอกแจก็เป็นหน้าที่ที่ฮยอกแจต้องจ่ายเอง
แต่ถุงสัมพาระบางส่วนที่ทงเฮพอจะช่วยถือได้ก็แบ่งกันถือกลับบ้านตามประสา
“นายอาบน้ำก่อนเลยก็ได้
เดี๋ยวจะนั่งดูทีวีก่อน”พอถึงบ้านปุ๊ปคนตัวเล็กก็ออกปากสั่งทิ้งถุงหนักๆไว้บนพื้นข้างโซฟาคว้ากล่องนมกล่องนึงขึ้นมานั่งดูดพร้อมเปิดรายการข่าววิเคราะห์ผลบอลนัดที่ชอบ
“ไม่อาบก่อนเหรอ”
“ไม่อะ นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ”เห็นเช่นนั้นทงเฮจึงยอมเดินเข้าไปอาบน้ำก่อนอย่างที่ฮยอกแจต้องการ
“อย่าหลับไปก่อนละกันนะ”ตะโกนกำชับก่อนปิดประตูห้องน้ำ
เมื่อโผล่หน้าออกมาเห็นคนตัวเล็กนั่งชันเข่าตาแป๋วๆมองทีวีตาไม่กระพริบ
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีทงเฮในเสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์หลวมๆก็เดินออกจากห้องน้ำพร้อมพาดผ้าขนหนูไว้ที่ไหล่
ไม่ลืมจะหยิบหลอดยาสำหรับทารอยฟกช้ำให้ฮยอกแจด้วย
“เฮ้อ ..
พาโบยา..”ทงเฮอดถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหัวเราะเบาๆกับตัวเองไม่ได้เมื่อคนที่บอกว่าจะดูบอลผลอยหลับไปบนโซฟาในท่าคุดคู้กอดกระชับกล่องนมในมือไว้แน่น
“กินนมแล้วนอนหลับนี่มันเด็กกี่ขวบน้า..”
ร่างสูงจัดการทายาที่รอยช้ำตามแขนขาของร่างเล็ก
ก่อนจะจัดการพาร่างเน่าๆของคนตัวเล็กไปนอนที่เตียงดีๆแทน มือหนาเกลี่ยกลุ่มผมนุ่มๆของฮยอกแจเล่นก่อนบอกราตรีสวัสดิ์ด้วยจุ้บเบาๆที่หน้าผากมนก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆร่างเล็กบ้าง
ถึงไม่อ่อนหวานแบบใคร .. แต่ก็อบอุ่นจนอดยิ้มไม่ได้อยู่ดี
Talk'
ขอบคุณที่ยังมีคนอ่านฟิคเรื่องนี้กันอยู่ ใครว่างๆก็อาจจะไปคุยกันในทวิตแท๊ก #กาแฟแฟนเก่าเฮอึน
ความคิดเห็น