คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 . {Re-write}
'แฟนเก่า' ที่ยังรักกัน . ยังหวงกัน . ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ..
มันเรียกว่า 'แฟนเก่า' ได้รึเปล่านะ ?
เป็นแฟนเก่าที่ไม่ต่างจากแฟนปัจจุบัน
ก็แค่เพียงไม่มีสิทธิหึงหวงเหมือนเก่า ..
ก็เท่านั้น
สถานะ :
แค่แฟนเก่า .. ที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
"วันนี้งานเยอะเหรอทงเฮ"ฮยอกแจเดินเข้าไปถามร่างสูงที่กำลังนั่งนวดไหล่คลายกล้ามเนื้อที่แข็งตึง
ใบหน้าคมแสดงออกชัดเจนว่ากำลังมีเรื่องเครียด
"อื้ม ใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว
ต้องไล่คะแนนเด็กที่สอบตกให้หมดก่อนน่ะ"ทงเฮว่าอย่างนั้นก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มแก้กระหาย
ฮยอกแจเห็นดังนั้นก็เดินเข้าไปซ้อนด้านหลังร่างแกร่ง ออกแรงบีบนวดไหล่ให้ช้าๆ
ส่วนคนที่ได้กำไรไปเต็มๆก็นั่งอมยิ้มหน้าระรื่น
"อ่ะแฮ่ม .. โอ้ย มดมันไต่คอโว้ยยย"ซองมินแกล้งตะโกนขึ้นดังๆทำให้ฮยอกแจต้องรีบละมือออกจากไหล่แกร่ง
แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างทงเฮก็เลื่อนมือไปโอบเอวบางรั้งคนตัวเล็กมาแนบกายอย่างเคยชิน
ฮยอกแจเหลือบไปมองซองมินที่หันหน้าไปสนใจอย่างอื่นแล้ว ก็ยอมยืนนิ่งปล่อยให้ทงเฮทำตามใจโดยไม่ขัดขืน
"ฮยอกแจไม่เก็บร้านต่อเหรอ"
"เหลือแค่กวาดพื้นน่ะ
เดี๋ยวค่อยทำก็ได้น่ะ"ฮยอกแจตอบพลางหยิบเอกสารงานของทงเฮที่วางกระจายอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูเล่น
ทงเฮที่ถือโอกาสพักก็เงยลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอดีตคนรักยิ้มๆ
"เอ้อ
เค้กชาเขียวเป็นไงบ้างน่ะ โอเคมั้ย?"ฮยอกแจถามเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นจานเค้กที่เหลือเพียงความว่างเปล่าและคราบครีมเล็กน้อยที่เลอะอยู่
"อื้อ ก็อร่อยดีนะ
แต่ถ้าลองใส่ไวท์ชอคไปสักหน่อยคงจะโอเคกว่า สำหรับคนที่ไม่ชอบกินหวานอย่างชั้นอะน่ะ"
"อ้าว
แล้วมันจะไม่เลี่ยนไปเหรอ ทงเฮไม่ชอบไม่ใช่ไง?"
"ขมๆหวานๆพอกินด้วยกันมันก็เข้ากันได้ดีนะ
แบบนี้มันขมอย่างเดียวรสมันธรรมดาไป"
"เอ้อ..นั่นสิเนอะ
ลูกค้าที่ไม่ชอบขมๆจะได้กินได้ด้วยเนอะ”
“อื้ม ตามนั้นแหละ”
“ฉันตั้งใจทำให้เฮกินเลยอย่างเดียวเลยไม่ได้คิดถึงคนอื่นเลยแฮะ"ฮยอกแจพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปที่เค้าท์เตอร์แล้วหยิบเค้กชาเขียวที่ยังเหลืออยู่ออกมาวางเตรียมไว้
ส่วนทงเฮที่บังเอิญได้ยินความลับดีๆจากคนตัวเล็กเข้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ดีใจที่ฮยอกแจยังคงเอาใจใส่แคร์เขากว่าใครอยู่เสมอ
"ซองมิน
ไวท์ชอคอยู่ไหนน่ะ"
"อยู่ในกล่องในตู้เย็นชั้นล่างอ่ะ
เหลืออีกนิดเดียวเอง พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อเอาสิ"
"ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ใช้แค่โรยหน้าเค้กเอง"ฮยอกแจพยักหน้ารับพร้อมกวาดสายตามองหาของที่ต้องการ เมื่อเจอของที่ต้องการ
คนตัวเล็กก็จัดการหั่นซอยไวท์ชอคโกแลตให้เป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำมาโรยตกแต่งหน้าเค้กตามคำแนะนำของทงเฮ
"พักได้แล้วน่าฮยอกแจ...ทำงานหนักไปแล้วนะครับ"อ้อมกอดอุ่นๆรอบเอวพร้อมน้ำเสียงทุ้มนุ่มข้างๆใบหูทำให้คนตัวเล็กชะงัก
เขาเอาแต่สนใจเค้กจนลืมสังเกตไปด้วยซ้ำว่าทงเฮขยับเข้ามาใกล้ขนาดนี้
ปลายนิ้วแกร่งแตะลงที่ด้านข้างเค้กก่อนจะป้ายครีมบนแก้มคนตัวเล็กเบาๆ
"เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้นะทงเฮ
นี่ของขายนะ"ฮยอกแจบ่นด้วยสีหน้าจริงจังพลางเช็ดแก้มตัวเอง
แต่ไม่ทันจะสะอาดก็โดนคนตัวโตชิงขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่
"เล่นอะไรเนี้ยอยู่ๆมาหอมแก้ม
ตาคนบ้า”ฮยอกแจมองค้อนใส่คนฉวยโอกาส แต่ก็ใช่ว่าคนถูกดุจะสนใจอะไร
"ก็เดี๋ยวพรุ่งนี้จะครบสองปีสองเดือนที่คบกันแล้วนี่"ทงเฮตอบพร้อมฉีกยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวเล็กๆที่เป็นเอกลักษณ์ของตัว
มือหนายกขึ้นเกลี่ยกลุ่มผมของคนตัวเล็กเล่น
"ยังจะจำได้อีกเนอะ
เลิกกันไปตั้งแต่เมื่อไรแล้ว ได้นับเดือนไว้ด้วยรึเปล่าเนี้ย?”ฮยอกแจเอ่ยแซว
"โหยยย...แต่ถึงจะเลิกกัน
แต่ก็ยังรักกันอยู่นี่นา ไม่ใช่รึไง?"ร่างสูงกระเซ้าพร้อมทำท่าจะยื่นหน้าเข้าไปจุ้บปากอิ่ม
แต่ฮยอกแจก็เบือนหน้าหลบ
"คิดเองเออเองตลอด ใครรักนายกันเล่า!"
“ไม่ได้คิดไปเองซะหน่อย ฮยอกแจแน่ใจเหรอว่าไม่รักกันน่ะ
หื้ม?”ทงเฮแกล้งถามพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆคนขี้อายอีก
ปลายจมูกของทงเฮแกล้งแตะเบาๆที่ข้างแก้มแล้วละออก
“หยุดเลย นายจะเอาเปรียบฉันมากเกินไปแล้วนะ”
"ก็แฟนเก่านายนี่"
"โว๊ะ ออกไปเลยนะ ฉันจะทำเค้กเว้ย
ไปทำงานต่อไปได้แล้ว
เดี๋ยวทำไม่เสร็จจะมาโทษกันนะ"ฮยอกแจว่าพลางดันอกแกร่งของอีกฝ่ายออก
“ก็ได้ครับ แล้วเดี๋ยวทำเสร็จจะมากอดอีกนะ”ทงเฮรับคำพร้อมรอยยิ้ม
ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ฮยอกแจเผลอขโมยหอมแก้มอีกฟอดใหญ่แล้วเดินไปทำงานต่อ
“อ่ะแฮ่ม”ซองมินกระแอมเบาๆหนึ่งทีก่อนจะหันมาทำปากขมุบขมิบให้ฮยอกแจอ่านปาก ‘หมั่น.ไส้.ชิบ.หาย’
ฮยอกแจเองก็ไม่ยอมแพ้ขมุบขมิบปากตอบกลับ ‘เด็ก.แก.อยู่.หน้า.ร้าน’ ทำเอาซองมินรีบหันหน้ากลับไปทำบัญชีต่อไม่สนใจเพื่อนรักที่ยิ้มเยาะหัวเราะล้อตัวเองบ้าง
"เอ๊ะโอ"น้ำเสียงกวนๆของใครบางคนดังขึ้นเมื่อทั้งสามเดินออกจากร้าน
ร่างโปร่งในชุดนักเรียนม.ปลายชายเสื้อหลุดลุ่ยที่ไหล่สะพายเป้เหี่ยวๆเอาไว้
ข้างๆก็มีเด็กเนิร์ดตัวสูง แต่งตัวตรงข้ามกันอย่างเห็นได้ชัดเจน
ติดกระดุมทุกเม็ดยันกระดุมคอ ใส่แว่นหนาเตอะ สะพายเป้หนักตึง
"ว่างมากรึไง? มาทำไมน่ะ"ซองมินถามอย่างนึกรำคาญใจ
"ก็ ..
ผมเพิ่งเลิกซ้อมบาสนี่ครับ
ผ่านมาเลยอยากมาทักทายพี่ชายเค้กชมพูซักหน่อย"ร่างโปร่งยักคิ้วกวนอารมณ์ทำเอาซองมินคิ้วกระตุก
นี่กูพี่มันนะเว้ยเฮ้ย!!!
"เลิกเรียกพี่แบบนั้นซักที
พี่ฟังแล้วกระดากหูชะมัด - -*"
"ใจร้ายชะมัดเลยพี่
ผมอุตส่าห์มาหาพี่เลยนา..ไม่คิดถึงผมบ้างเหรอ?"
“ใครจะไปคิดถึงเด็กอย่างนายกันล่ะ”
“พี่ไง”
"กวนตีนละ ฉันไปก่อนหน้าทงเฮ
ฮยอกแจไว้เจอกัน"ซองมินเอ่ยก่อนจะเดินหนีไปทางอีกทางทิ้งไว้ให้ทงเฮฮยอกแจมองตามขำๆ
“ไม่ตามไปล่ะ คยูฮยอน?”ฮยอกแจเอ่ยถาม
“ไม่ล่ะครับ แค่เห็นหน้าผมเขาก็อยากจะเอารองเท้าปาใส่หน้าผมแล้วมั้ง”คนถูกถามยักไหล่ตอบคำถามอย่างไม่สนใจอะไรนัก
"นี่ไม่คิดจะทักทายอาจารย์กันหน่อยเลยรึไง"ทงเฮแกล้งเก๊กขรึมแซวทั้งสองที่ดูเหมือนจะให้ความสมใจกับอีกคนที่เพิ่งเดินจากไปมากกว่าตัวเขากับฮยอกแจเสียอีก
"เอ้อใช่! สวัสดีครับพี่ฮยอกแจ อาจารย์ทงเฮ!!"คยูฮยอนทักพร้อมรีบโค้งให้ทั้งสองตามมารยาท
พร้อมกับฝ่ามือที่กดหัวร่างสูงข้างๆให้โค้งตามด้วย
"คะ..ครับ ผมซีวอนครับ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ครับ"เด็กเนิร์ดเฉิ่มรัวคำทักทายด้วยความประหม่า
ทำเอาฮยอกแจหัวเราะลั่นเพราะท่าทางตลกๆนั่น
"พี่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น
ไม่ต้องทำเหมือนเจอผีหรอกน่า 555555 ไม่ต้องเกร็งหรอก คิดซะว่าพี่เป็นรุ่นพี่
เป็นเพื่อนที่สนิทๆกันล่ะกัน"
"มึงนี่ก็บ้า เฉิ่มชิบหายเลยว่ะ"คยูฮยอนหันไปว่าเพื่อนก่อนฟาดฝ่ามือเข้าที่หัวกลมๆอีกที
"ทำเป็นไปว่าเพื่อน
ได้ข่าวว่าแต่ก่อนก็ไม่ต่างกันนี่ เดี๋ยวนี้ไม่ใส่แล้วเหรอแว่นน่ะ"ทงเฮแซวบ้าง
"โหยยย อาจารย์อ่ะ
อย่าแซวได้ป่ะ สมัยก่อนนั่นมันความทรงจำโคตรเลวร้ายเลยนะ"คยูฮยอนโอดครวญ เพราะก่อนหน้าที่คยูฮยอนจะเข้าชมรมบาส
คยูฮยอนก็เป็นเด็กเนิร์ดไม่ต่างอะไรจากซีวอนนักหรอก
"5555 จะไม่เลวร้ายได้ไงล่ะ
ดัดฟันปากเจ่อๆห้อยๆ ใส่แว่นหนาๆ หน้าจืดๆ หนำซ้ำยังไว้หน้าหม้าเต่ออีกต่างหาก 5555555"ทงเฮยังแซวต่อไม่เลิกทำเอาซีวอนที่ฟังอยู่หลุดขำพรืด
"เฮ้ย!
หัวเราะกูหรอวะ!"คยูฮยอนพาลพลางผลักไหล่แกร่งของร่างสูงแรงๆ
"ทงฮอย่าแกล้งเด็กไปน่า"ฮยอกแจปราม
"แกล้งที่ไหนก็พูดความจริงต่างหาก"ทงเฮกลั้วหัวเราะ
"นิสัยเสีย -
-"
"แต่อาจารย์ก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่ครับนะครับ
คยูฮยอนเป็นแบบนั้นจริงๆ"ซีวอนพยายามกลั้นยิ้มไปพูดไป ยิ่งจี้จุดให้คนโดนล้อยิ่งโมโหหนักขึ้น
"5555555 เห็นมั้ย
ซีวอนยังเห็นด้วยเลย!"ได้ทีทงเฮก็รีบหาพวกแทคทีมกับซีวอนแล้วหัวเราะลั่น
"ไอ้ซีวอน!!!!"
“โอ้ยยย
อย่าตีผมสิคยูฮยอน”
“มึงแม่งงงง”
"เฮ้ออ...ทะเลาะกันไม่หยุดซักที
นายนี่ก็อีกคนนะทงเฮไม่น่าไปแกล้งน้องเลย"ฮยอกแจสายหัวไปมาอย่างเอือมระอา
คนนึงก็โตจนเป็นครูคน อีกคนก็เอาแต่ใจโวยวายลั่นไม่เกรงใจคนอื่นเลยสักนิด
“อะไรเล่า ก็แค่เล่นกันขำๆเองน่าฮยอกแจ”
“ไม่ต้องมาเล่นอะไรเลย นี่มันจะสองทุ่มแล้วนะ
ไล่เด็กๆกลับบ้านไปได้แล้ว”
“เอ้อ..ใช่! จะสองทุ่มแล้วทำไมพวกนายไม่กลับบ้านกัน
ไปๆ กลัลกันไปได้แล้ว”ทงเฮที่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาจริงก็รีบโบกมือไล่นักเรียนทั้งสอง
"เฮ้ย!!! จริงป่ะครับ จะสองทุ่มแล้วเหรอ เฮ้ย! กลับกันซีวอน! สวัสดีครับพี่
สวัสดีอาจารย์"คยูฮยอนโวยวายลั่นเมื่อรู้ว่าอีกเพียงครึ่งชั่วโมงจะหมดเวลาเคอร์ฟิวของที่บ้าน
ก่อนที่ร่างโปร่งจะรีบลากเพื่อนตัวสูงที่อยู่ข้างๆให้วิ่งตามออกไป
"เอ่อ ผมขอตัวนะครับพี่ฮยอกแจ
อาจารย์"ซีวอนเด็กหนุ่มแสนดีหันกลับไปขอโทษขอโพยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
ก่อนจะรีบก้าวจ้ำๆวิ่งตามเพื่อนสนิทที่นำลิ่วไปไกล
"คยูฮยอนนี่จริงๆเลยน้า...”ฮยอกแจหัวเราะร่าเมื่อแผ่นหลังทั้งสองลับตาไปไกลพอสมควร
“นั่นสิ เหมือนใครก็ไม่รู้ตอนเด็กเนอะ ไอ้นิสัยชอบกลับบ้านดึกๆจนโดนออมม่าดุเนี้ย”ทงเฮแซว
“อะไร หมายถึงชั้นรึไง?”
“หรือไม่ใช่?”
“-__- นี่มันก็ตั้งกี่ปีแล้วยังจะมาแซวอีกนะ”
“แซวไม่ได้ไง? ตอนนี้แตะต้องไม่ได้แล้วเหรอครับ?
หื้ม?”ทงเฮยิ้มกวน
“เอ้ออ..นายนี่ก็จริงๆเลย
ถ้าแตะต้องไม่ได้แล้วจะยังยอมให้โอบอยู่อย่างนี้ไหมล่ะ อย่าโง่น่า..”
“นายก็ยอมให้ฉันแตะตลอดนั่นแหละ ฉันรู้^^”ทงเฮยิ้มหน้าระรื่น
“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย
นี่คิดจะเนียนไปนอนบ้านชั้นอีกแล้วใช่มั้ยเนี้ย”ฮยอกแจบ่นเมื่อทงเฮไม่มีท่าทีว่าจะเดินแยกไปขึ้นรถบัสกลับบ้านสักที
“ไม่ได้เนียนสักหน่อย
ก็บอกแล้วไงว่าจะวันครบรอบแล้วก็ขอไปค้างหน่อยน่า..”
“ไม่เอา ไม่ให้ค้างอ่ะ”
“ห้ามไปก็เท่านั้น
ไปถึงบ้านก็ห้ามกันไม่ได้แล้วล่ะ นายก็รู้ดีนี่”ทงเฮรวบรัดเสร็จสรรพ ก่อนจะคว้ามือบางของคนตัวเล็กมากุมเอาไว้แทน
“จับทำไม?”
“ก็อยากจับนี่ ห้ามได้เหรอ”ถามพร้อมมองดวงหน้าหวานของร่างเล็ก
คงต้องขอบคุณแสงสว่างสลัวๆจากไฟข้างทางที่ทำให้ทงเฮรู้ว่า ณ
บัดนี้แก้มเนียนๆของฮยอกแจเปลี่ยนเป็นสีแดงไปเรียบร้อย
ให้ตายสิฮยอกแจของเขายังขี้เขินเหมือนเดิมเสมอเลยนะ
“อืม..ก็ไม่เคยห้ามได้นี่”ฮยอกแจตอบเขินๆก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“รู้ก็ดีแล้วนี่”
“เออน่ะ”
“เขินเหรอ หื้ม?”
“ไม่รู้ ไม่ได้เขิน”
“อ่ออ..ไม่ได้เขินเลยยยย...น่าเชื่อจัง”
“เลิกแกล้งได้แล้วน่า..ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้วนะ”ฮยอกแจรีบตัดบทก่อนที่เขาจะโดนแซวไปมากกว่านี้
มือข้างที่ว่างยกขึ้นต่อยไหล่แกร่งแรงๆหลายที
ส่วนทงเฮที่มือไม่ว่างเพราะต้องแบกกระเป๋าถือเอกสารก็ทำได้แค่ปัดป้องแรงน้อยๆของตัวเล็กไปพลางๆ
มือทั้งสองที่กอบกุมเกี่ยวกันไว้
ร่างสองร่างที่เดินเคียงข้างกัน ..
ไม่มีใครรู้ ว่าเส้นทางจะจบลงที่จุดใด ..
แต่ที่สิ่งเขาทั้งสองมั่นใจคือ ‘ปัจจุบัน’ เพียงแค่มีกันและกัน..
ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว (:
ความคิดเห็น