ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BEHIND...[HaeEun ft. SJ]

    ลำดับตอนที่ #2 : ♚ CHAPTER 1: OPPOSITION .

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 54


    สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกคน *0*

    ตอนแรกยอมรับเลยว่าไม่ได้คาดหวังอะไรกับฟิคเรื่องนี้เลย 
    เพราะมันเป็นฟิคที่แต่งขึ้นเพื่อสนองความต้องการของแนนและเพื่อน -.,-
    แต่เมื่อลงแล้วกลับได้การตอบรับที่ดีมาก ทุกคนบอกว่าชอบฮยอกแจมู้ดนี้มาก ㅋㅋ
    แนนก็ต้องขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ให้ความสนใจกับฟิคเรื่องนี้นะคะ
    ถึงแม้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ดีเท่าที่คาด แต่แนนก็จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดค่ะ
    ยังไงก็คอมเม้นติชมกันได้เลยนะคะ ^^

    ----------CHAPTER !----------

    “อ้าว คุณชาย วันนี้คุณหนูฮยอกแจไม่ไปทำงานด้วยเหรอคะ”แม่บ้านคิม ที่ทำงานให้กับตระกูลอีมาตั้งแต่ทงเฮยังเด็กเอ่ยทักทายคุณหนูของเธอยามที่เขาเดินลงมานั่งที่โต๊ะอาหาร

    “อืม เจ้าตัวบอกว่าไม่สบายเท่าไรน่ะ”ทงเฮตอบรับเรียบๆ มือหนาเลื่อนไปหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านอย่างที่เคยทำเป็นกิจวัตร

    “ตายจริง แล้วคุณหนูฮยอกแจเป็นอะไรมากมั้ยคะ ไข้ขึ้นมั้ย คุณชายจะให้ป้าทำข้าวต้มไปให้เธอมั้ยคะ”

    “ไม่ต้องหรอก เห็นว่าสายๆจะลงมาทานข้าวน่ะ ยังไงก็เตรียมอาหารไว้ให้เขาด้วยละกัน”

    “อ๋อ ค่ะ ได้เลยค่ะคุณชาย”เมื่อเห็นท่าทางนิ่งๆของทงเฮ แม่บ้านคิมก็เข้าใจได้ทันทีว่าไม่สบายที่ว่ามาจากสาเหตุอะไร หญิงชรายกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูคุณหนูและความรักของทั้งคู่

    “เอ้อ ชั้นลืมบอกฮยอกแจว่าวันนี้จะกลับเร็ว ก่อนสี่โมงก็คงจะกลับแล้ว ถ้าเขาลงมาฝากป้าบอกด้วยนะ เดี๋ยวต้องรีบไปแล้วล่ะ”เอ่ยจบ มือหนาก็จัดการยกกาแฟขึ้นดื่มจนหมดแล้วคว้ากระเป๋าเอกสารของตนเดินออกไปหน้าบ้านที่มินโฮได้ขับรถมาจอดรอไว้อยู่แล้ว

    “เชิญครับ คุณชาย”มินโฮกล่าวพร้อมกับเปิดประตูให้ทงเฮตามหน้าที่

    “ขอบใจ”

    “วันนี้คุณชายจะเข้าบริษัทเลย หรือว่าไปที่บริษัทคุณชองเลยครับ”มินโฮเอ่ยถามเมื่อนั่งประจำที่เรียบร้อย

    “อืม..ไปบริษัทคุณชองเลยละกัน นัดเวลาไว้ตอนเก้าโมงน่ะ เดี๋ยวจะไม่ทัน”

    “ครับ”

    รถคันหรูเคลื่อนเข้าจอดที่หน้าบริษัท ReTimes บริษัทธุรกิจส่งออกชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าบริษัทเล็กใหญ่ก็มีเป้าหมายที่จะได้ลงทุนร่วมกับบริษัทนี้

    ร่างสูงโปร่งของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง หนึ่งในบุคคลที่เป็นเป้าสายตาของคนในสังคมปัจจุบัน ก้าวออกจากลิฟท์แล้วเดินไปตามทางเดินนิ่งๆ ด้วยชื่อเสียงประกอบกับลักษณะภายนอกบวกกับบุคลิกท่าทางที่รับกันกับชุดสูทราคาแพงและกระเป๋าเอกสารในมือทำให้พนักงานสาวในบริษัทต่างพากันเหลียวมองและจับกลุ่มซุบซิบตามประสา แต่ร่างสูงก็ไม่ได้คิดสนใจ เพราะมันเป็นสิ่งที่เค้าได้พบเจอบ่อยจนกระทั่งชินเสียแล้ว เขามุ่งไปที่โต๊ะเลขาธิการหน้าห้องประธานบริษัทยักษ์ใหญ่

                “ผมอี ทงเฮ จากบริษัท MHK นัดคุณชองไว้ตอน 9 โมงครับ”

    “ค่ะ ท่านประธานได้แจ้งว่าให้เข้าไปพบได้เลยค่ะ คุณอี เชิญทางนี้เลยค่ะ”เลขาสาวเอ่ยด้วยความนอบน้อม ร่างสวยเคาะประตูห้องประธานบริษัทก่อนจะเปิดเข้าไปตามมารยาท

    “คุณอี จากบริษัท MHK มาถึงแล้วค่ะท่านประธาน”

    “อืม เข้าใจแล้ว”

    “เชิญเลยค่ะ คุณอี”เลขาสาวเอ่ยกับทงเฮพร้อมกับหลีกทางให้ร่างสูงเข้าไปด้านในห้องของประธานด้วยท่าทางสำรวม

    “สวัสดีครับคุณชอง ที่ผมมานัดวันนี้ ผมจะมาคุยเรื่องสินค้าตัวใหม่ที่ทางบริษัทผมได้คิดขึ้นมาใหม่น่ะครับ”หลังจากนั่งเก้าอี้รับรองแขกเรียบร้อย ทงเฮก็เริ่มคุยเรื่องงานทันที เขามักจะไม่เสียเวลาในการพูดอ้อมค้อมทุกๆครั้งที่ติดต่อธุรกิจ จึงไม่แปลกเลยที่เค้าจะเริ่มต้นเอ่ยเรื่องงานแทนจะอรัมภบทเรื่องทั่วไปให้ยืดยาว

    .

    “ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ ทางเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับบริษัทของคุณอีนะครับ นับตั้งแต่วันนี้ทางเราขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”ประธานบริษัท NHK กล่าวตามมารยาทพร้อมกับรอยยิ้มปรีดี เพราะการที่จะได้ร่วมงานกับนักธุรกิจหนุ่มอย่างอี ทงเฮ เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเขาอยู่ไม่น้อย

    “ทางเราก็ต้องขอบคุณมากครับที่สนใจงานบริษัทของเรา จากนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”ร่างสูงของทงเฮโค้งให้คุณชองเล็กน้อย ทงเฮเหลือบมองเอกสารสัญญาข้อตกลงของบริษัทที่เพิ่งจะทำเสร็จเมื่อสักครู่พร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะบอกลาผู้ร่วมงานครั้งนี้เมื่อเห็นว่าเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว

    “ลาล่ะครับคุณชอง”ร่างสูงเอ่ย ก่อนจะผลักประตูห้องประธานบริษัทหรู มือหนากระชับกระเป๋าเอกสารในมือ พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา

    ติ๊งเสียงลิฟต์เปิดออกช้าๆ ร่างสูงของทงเฮเตรียมจะก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับมีร่างสูงโปร่งของใครอีกคนเดินสวนออกมาเสียก่อน

    นักธุรกิจหนุ่มหน้าตาดี ที่พ่วงดีกรีจบจากต่างประเทศ เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่คู่ต่อสู้เบอร์หนึ่งของทงเฮ ที่บรรดาสื่อมวลชนต่างอยากจะทำข่าวเกี่ยวกับเขาคนนี้ ทั้งใบหน้าหล่อเหลาบวกกับร่างกายสูงแกร่งในชุดสูทราคาแพงที่สั่งตัดมาอย่างดี ทั้งท่าทางการเดินที่ดูภูมิฐาน ทำให้ผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนที่ดึงดูดสายตาไม่แพ้กับทงเฮ

    “อะ..อ้าว. ไม่เจอกันนานเลยนะ เชวซีวอน”ทงเฮกดเสียงลงต่ำเอ่ยทักอีกฝ่ายด้วยสีหน้านิ่งๆ ไม่ได้แสดงออกถึงมิตรไมตรีใดๆทั้งสิ้น

    “วันนี้คงเป็นลัคกี้เดย์ของผมล่ะมั้งครับ คุณลีทงเฮ”เอ่ยตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งเสียงเรียบๆพร้อมกับสายตาเย็นชาที่จดจ้องบุคคลที่ก้าวเข้าไปยืนในลิฟต์

    “ก็หวังว่าอย่างนั้นนะ”ทิ้งท้ายสีหน้านิ่งก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง ราวกับเป็นสัญญาณการบอกลาของคนทั้งคู่ ทงเฮเหยียดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ดวงตาคมจดจ้องไปที่กระเป๋าเอกสารที่บรรจุสัญญาที่เพิ่งเซ็นเมื่อสักครู่อย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า

    .

    .

    บริษัทยักษ์ใหญ่ที่พนักงานต่างพากันเดินเข้าไปประจำตำแหน่งหน้าที่ของตน เมื่อช่วงพักกลางวันของพวกเขากำลังจะหมดลงในไม้ช้า ร่างสูงโปร่งก้าวเดินเข้าบริษัทนิ่งๆโดยไม่ได้คิดจะสนใจคำทักทายของพนักงานแม้แต่คน เป้าหมายของเขาคือห้องประธานบริษัทของเขา

    “มาช้า”เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้นเมื่อผลักประตูห้องเข้าไป ร่างเล็กที่นั่งเล่นอยู่ที่โซฟารับแขกกอดอกทำหน้างอด้วยความขัดใจที่ต้องนั่งคอยร่างสูง

    “อื้ม”ทงเฮพยักหน้ารับเรียบๆ ราวกับไม่ได้สังเกตเห็นอาการไม่พอใจของคนรัก

    เขาเองยอมรับว่าเขาพึงพอใจกับท่าทางดื้อรั้นของร่างเล็กไม่น้อย แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องอะไรฮยอกแจก็มักจะหาเรื่องเขา เอาแต่ใจสารพัดแบบนี้ทุกครั้ง แต่การที่จะให้เขาต้องตามเอาใจคุณหนูเอาแต่ใจนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดเลย

    “แน่ะ ผิดแล้วยังจะทำหน้าไม่รู้เรื่องอีกนะ”คนตัวเล็กตวัดสายตาเหลือบไปมองร่างสูงที่เดินไปวางกระเป๋าเอกสารบนโต๊ะเพียงชั่วครู่ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีมองไปทางอื่น

    “อะไร อย่ามาใส่ร้ายกันนะ ใครทำอะไรผิด?”ทงเฮตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ร่างสูงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตน ก่อนจะเปิดแฟ้มงานที่อยู่บนโต๊ะออกอ่าน ทิ้งให้คนช่างเอาแต่ใจได้แต่นั่งหน้าง้ำหน้างออยู่ที่โซฟา

    “ก็ปล่อยให้ชั้นรออีกแล้ว!”ขึ้นเสียงสูงด้วยความไม่พอใจ คนตัวเล็กเดินกระแทกเท้าเสียงดังไปหยุดที่โต๊ะ ตรงกันข้ามกับทงเฮ ดวงตากลมสวยจ้องเขม็งไปที่อีกร่างที่นั่งสีหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว

    “ก็ไปติดต่องานนี่ แล้วใครบอกให้มาหาล่ะ ก็บอกแล้วนี่ว่าจะกลับเร็ว”ทงเฮเอ่ยตอบโดยไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า นั่นยิ่งทำให้ฮยอกแจยิ่งหงุดหงิดเพิ่มเข้าไปอีก

    “ก็ได้ ไม่ให้มาหาใช่มั้ย! งั้นก็จะไม่มาอีกเลย!”เอ่ยจบร่างบางก็กระฟัดกระเฟียดเดินไปคว้ากระเป๋าใบหรูคอลเลกชั่นล่าสุดที่เพิ่งซื้อมาใช้

    “ถ้าจะเดินออกไป แล้ววีนใส่คนข้างนอกแบบครั้งก่อนๆก็ไม่ต้องนะ”ทงเฮเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจ้องคนตัวเล็กที่กำลังจะเปิดประตูออกจากห้อง

    “อ้อออ ได้. ไม่ให้วีนข้างนอกใช่มั้ย? งั้นจะวีนข้างในนี้เนี้ยแหละ!”พูดจบกระเป๋าใบสวยก็ถูกโยนใส่ร่างสูง เพียงแต่มือหนาก็คว้ามันไว้ทันท่วงที แต่ไม่ทันที่จะได้หายใจหายคอ ของชิ้นที่สอง สาม สี่ ก็ตามมาไม่หยุด เท่าที่ร่างเล็กคิดจะหามาโยนได้

    “ฮยอกแจ!!!”ทงเฮดุเสียงแข็ง พร้อมกับก้าวเข้าไปคว้าตัวคนตัวเล็กเอาไว้

    “อะไร”ฮยอกแจเอ่ยเสียงตวัดอย่างคนไม่ยอมแพ้

    “หยุดดื้อ ถ้าไม่หยุดจะพาออกไปปล้ำข้างนอกให้คนอื่นดู”ทงเฮขู่เสียงเรียบ สายตาคมจ้องเขม็งลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย

    “แล้วไง? คิดว่าชั้นไม่กล้าเหรอ?”คนตัวเล็กเลิกคิ้วมองตอบอย่างไม่ยอมแพ้ กับแค่คำขู่แค่นี้ คิดเหรอว่าจะทำอะไรฮยอกแจได้

    “อยากโชว์รึไง”เอ่ยถามพร้อมกับมือหนาที่เลื่อนไปตะปบกระดุมเสื้อของคนตัวเล็ก

    “กล้าป่ะล่ะ?”ฮยอกแจยกยิ้มยั่ว ใบหน้าหวานไม่ได้แสดงทีท่าลังเลเลยสักนิด

    “กล้าสิ”มือหนาปลดกระดุมเสื้อเชิตของคนตัวเล็กออกจนหมด ก่อนที่มือหนาอีกข้างเอื้อมไปจับลูกบิดเตรียมจะเปิดออก

    “ก็เปิดเลยดิ”คนสวยท้าพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า เขารู้ดีว่าทงเฮต้องไม่กล้าทำตามที่ขู่เอาไว้แน่

    ถึงแม้ว่าทงเฮจะเงียบขรึมหรือเดาอารมณ์ได้ยากสักเพียงไหน แต่ฮยอกแจมั่นใจได้ว่านอกจากทงเฮแล้วไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์ได้เห็นเรือนร่างของเขาอย่างแน่นอน

    “....”

    “แล้วจะช้าทำไมล่ะ”ร่างเล็กเอ่ยเมื่อเห็นว่าทงเฮยังไม่มีทีท่าว่าจะหมุนลูกบิดออกสักที

    “บอกมาว่าหวงเมีย ไม่อยากให้ใครเห็นก็จบและน่า”ฮยอกแจที่ขัดใจกับท่าทางของร่างสูงกล่าวตัดบท มือเรียวดันอกอีกคนให้ออกห่าง แล้วจึงจัดการติดกระดุมเสื้อของตัวเอง

    “ใครบอก คิดไปเองรึเปล่า”ร่างสูงมองการกระทำของอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ราวกับเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “กลัวเมียก็บอกมาเถอะ”ร่างเล็กเอ่ยพร้อมกับยักไหล่น้อยๆ ขาเรียวก้าวเดินกลับไปทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างอยู่ที่โซฟาตัวเดิม

    “ก็บอกว่าไม่ได้หวง ไม่ได้กลัว อย่าสรุปเอาเอง”ทงเฮตอบเสียงขุ่น สายตาที่กวาดไปตามตัวอักษรในเอกสารไม่ได้ช่วยให้เขาเข้าใจเนื้อหาในนั้นได้เลยแม้แต่น้อย

    “อ้อ หรอออ น่าเชื่อนะเนี้ย”ร่างเล็กแกล้งถามเสียงสูง คนสวยยกยิ้มพึงพอใจเมื่อเห็นอาการหัวเสียของคนรัก ต่อให้จะปั้นหน้าเก๊กแค่ไหนทำไมเขาจะไม่ดูไม่ออกล่ะว่าร่างสูงกำลังรู้สึกยังไงอยู่

    .

    .

    .

    ...ก็เขาเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์ได้รับความรู้สึกดีๆจากทงเฮนี่นา...


    ----------BEHIND--------

    ขอบคุณที่ติดตามฟิคแนนนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×