ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BEHIND...[HaeEun ft. SJ]

    ลำดับตอนที่ #10 : ♚ ( Chapter 5 ) Who is he? .

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 54


     *โผล่หัวจากตุ่ม*

    ต๊ะเอ๋...หลังจากดองฟิคหลักมานาน วันนี้ก็ได้มาอัพแล้วนะคะ ^^

    หลังจากที่ทุกคนได้ถามว่า “ใคร?” ฮยอกแจพบ “ใคร?” ทำไมต้องตกใจ

    แฟนเก่ารึเปล่า? หรือแฟนใหม่? (ฮา) หรือจองซู? บลาๆๆๆๆ

    เอ๊ะ..หรือยังไง อะไรยังไง วันนี้ก็ได้มาอัพเฉลยกันแล้วค่ะ ^^

    ตอนนี้อย่างที่บอกคือมันเป็นจุดปัญหา เริ่มต้นความเป็นปมของฟิคเรื่องนี้แล้วค่ะ หลังจากไร้สาระมานาน คึคึ

    ต้องบอกไว้ก่อนว่าตอนนี้ไม่มีฉากสวีทของเฮอึนเลยยยยย =  =’’

    แต่มันก็เป็นตอนนึงที่จะนำพามาเจอกับปัญหาอีกมากมายก่ายกอง (เว่อร์)

    แต่บอกได้เลยค่ะว่า บีไฮด์จะไม่ทำให้แฟนฟิกผิดหวังกับการรอคอยแน่นอน ^^

    และที่สำคัญ หลังจากที่ครั้งที่แล้วป้าผ่องได้เม้นว่ามันสั้นไปนิด ตอนนี้เลยจัดมาให้เต็มๆยาวๆกว่าตอนไหน

    และจะเป็นแบบนี้ต่อไปในทุกๆครั้งค่ะ _ _’’ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจฟิคแนนนะคะ ^^

    ปล. ฝาก SF HaeEun&83line Sweet Grean Style by kikukikulove’ บทความแนนกันด้วยเน้ออออ

    ไปอ่านกันเลยค่ะ ^^

     


    +++++CHAPTER 5+++++

     

    'ฮยอกแจ..พี่จะปกป้องนายเอง นายไม่ต้องกลัวไปนะ'

     

    .

    .

    ...คำสัญญาครั้งอดีต ดังขึ้นในห้วงความทรงจำ...
    ....มันผ่านมานานมากเท่าไรกันนะ....

     

     

    เท้าเล็กหยุดชะงักลงเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เรียก ร่างทั้งร่างไม่ขยับเขยื้อนราวกับถูกตรึงไว้ด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่กลับแฝงไปด้วยความอบอุ่นของคนๆนั้น

     

    'ดวงตาสีประหลาดแตกต่างจากสมาชิกในครอบครัวและเครือญาติ'

     

    “ฮยอกแจ ฮยอกใจใช่มั้ยน่ะ..”ทั้งเสียงห้าว ร่างกายสูงแกร่ง ใบหน้าคมและทรงผมที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาที่แปรผัน มีเพียงแววตาและรอยยิ้มอันอบอุ่นเท่านั้นที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

    “อ่ะ..พี่..พี่..จองซู”ร่างเล็กพึมพำชื่อคนตรงหน้าเสียงแผ่ว ก้มลงมองข้อมือตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายจับไว้

    “ใช่นายจริงๆด้วยฮยอกแจ เป็นนายจริงๆด้วย"จองซูเอ่ย พร้อมกับเรียวแขนคว้าตัวคนตัวเล็กเข้าไปกอดแน่น ให้สมกับความคิดถึงที่มี

    ส่วนร่างเล็กที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืนนิ่งงันทำอะไรไม่ถูก

    "พี่จองซู..พี่มาได้ไง"ฮยอกแจเอ่ยถามเสียงหลง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะมีโอกาสได้กลับพบคนตรงหน้าอย่างที่เคยคิดไว้ 

    ...เขาไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะได้เจอจองซูอีกหลังจากวันนั้น...

    "นี่มาเที่ยวคนเดียวใช่มั้ย? ไปทานอะไรด้วยกันสิ เดี๋ยวพี่เลี้ยง"

    "เอ่อ..ผมจะมาทานเค้กร้านนี่น่ะพี่"ฮยอกแจขัดขึ้น เขารู้ดีในย่านนี่ไม่มีอะไรอร่อยถูกปากเขาเท่าเค้กร้านนี้อีกแล้ว ขืนให้ไปเขาก็คงได้แต่เขี่ยอาหารเล่นนั่นแหละ

    "ฮ่ะๆๆ นายเปลี่ยนไปเยอะเลยนะฮยอกแจ เอาสิ ทานเค้กกันก็ได้ พี่ตามใจนาย”

    "ฮะ"ฮยอกแจพยักหน้ารับก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำร่างโปร่งเข้าไปด้านใน

    ร้านเค้กขนาดย่อมตกแต่งง่ายๆในสไตล์วินเทจ ไฟสีส้มสลัวขับให้บรรยากาศในร้านดูอบอุ่น บวกกับเพลงป๊อปช้าๆเปิดคลอเบาๆเคล้ากับกลิ่นกาแฟสดกระจายไปทั่วร้าน

    เมื่อเห็นว่าลูกค้าคนใหม่ของเธอคือใคร พนักงานสาวเจ้าก็กระวีกระวาดรีบต้อนรับแขกคนสำคัญ นำทางพาคนตัวเล็กไปนั่งยังโต๊ะประจำทันที 

    "มาที่นี่บ่อยเหรอ?"เมื่อสั่งเค้กและเรื่องดื่มเสร็จ จองซูก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาขึ้น เขาอยากจะถามไถ่ อยากจะรู้เรื่องราวความเป็นไปในปัจจุบันของร่างตรงหน้า เวลาที่ผ่านไปมันให้อะไรๆเปลี่ยนแปลงไปมาก มากเสียจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าฮยอกแจตรงหน้าจะใช่คนเดียวกันกับฮยอกแจที่เขารู้จักหรือไม่

    ฮยอกแจในตอนนี้ดูเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก ทั้งรูปร่าง หน้าตา ท่าทาง บุคลิก และการแต่งกาย เขายอมรับว่าในตอนแรกที่เห็นใบหน้าด้านข้างของฮยอกแจเขาแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคนๆนี้คือคนที่เขาเคยรู้จัก สนิทชิดเชื้อมาก่อน

    จากเด็กหน้าตาน่ารัก บุคลิกท่าทางใสซื่อไร้เดียงสา ตลอดเวลามักจะมีแววตาเศร้าคล้ายพร้อมจะร้องไห้เมื่อยามมีเรื่องมากระทบกระเทือนจิตใจ มักกวาดสายส่ายตาไปทั่วราวกับกลัวทุกสิ่งอย่างที่อยู่รอบๆกาย แต่หากเพียงเข้าไปใกล้ๆถามไถ่ด้วยความห่วงใย รอยยิ้มใสซื่อก็จะถูกส่งมาให้อย่างน่ารัก การแต่งกายมอซอ เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเก่าๆ

    กลับกลายมาเป็นชายหนุ่มใบหน้าสวยหวาน ผิวหน้าเนียนใสที่ผ่านการบำรุงด้วยครีมคุณภาพดี เสื้อผ้าเครื่องประดับของใช้ต่างๆล้วนเป็นสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง กลิ่นน้ำหอมจางๆที่ลอยมาแตะปลายจมูกทุกครั้งยามขยับกาย แววตาเศร้าสร้อยเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งยากเกินกว่าจะเข้าใจความหมาย และบุคลิกใสๆก็ถูกแทนที่ด้วยบุคลิกท่าทางเย่อหยิ่ง ถือตัวสูงส่ง

    ...คนๆเดียวกันใช่มั้ย...

    .

    .

    “ทำไมพี่จองซูถึงจำผมได้ล่ะครับ? มันก็นานมามากแล้วนะ เรื่องของเราสองคนน่ะ”ฮยอกแจเอ่ยถามพร้อมยกแก้วชาร้อนขึ้นจิบ

    “ไม่รู้สิ คงเพราะสีตาของนายล่ะมั้ง”

    “ฮะ..หืม??”

    “เอ้ออ ช่างเถอะเรื่องนั้นน่ะ พี่แค่รู้สึกว่าคุ้น ก็เลยลองทักนะ”จองซูตัดบท เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังพูดในเรื่องที่ไม่ควรจะพูด

    “พี่โอเคนะ?”

    “โอเคสิ ^^ ตอนนี้พี่ก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นแล้วล่ะ พี่แยกมาอยู่คนเดียวได้สักพักแล้ว”

    "อ่อ.."

    "ว่าแต่นายเถอะ ตอนนี้อยู่ที่ไหนน่ะ?"

    "อ่อออ..อยู่กับพ่อเลี้ยงน่ะครับ เค้ารับอุปการะผมเอาไว้"เขาเลือกที่จะเอ่ยปดแทนการพูดความจริง ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะเคยเป็นคนรู้จักและสนิทสนมกันมาก่อนก็ตาม

    'การปิดบังสถานะตัวเองคือการทำลายหน้ากากของคนที่เกลียดสถานะของเราลง'

    ...ประโยคหนึ่งที่คอยเตือนสติฮยอกแจเสมอมา...

    บทสนทนาที่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นไปของอีกฝ่ายดำเนินไปอย่างไม่รีบเร่ง ยิ่งได้พูดคุย ก็ยิ่งคิดถึงภาพวันเก่าๆ ยิ่งนึกถึงความทรงจำครั้งวัยเยาว์ก็ยิ่งโหยหาภาพความทรงจำเหล่านั้น

    'หากย้อนวันเวลาได้ ผมอยากจะขอย้อนกลับไปดูแลเขาให้ดีกว่านี้'

    "ถึง 10 ปีรึยังนะที่เราไม่ได้เจอกัน"จองซูเอ่ยถาม พลางตักเค้กชอกโกแลตในจานเข้าปาก

    "ก็คงประมาณนั้นล่ะมั้ง ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน"ฮยอกแจตอบกลับโดยไม่ได้ใคร่ครวญนึกถึงคำตอบ หากทำได้เขาก็อยากจะลืมเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นไปให้หมดเสียด้วยซ้ำ

    "ยังจำได้อยู่มั้ย?"เอ่ยถามพร้อมถกแขนเสื้อเชิตขึ้น เปิดให้เห็นรอยแผลลึกเป็นทางใต้ท่อนแขนขาว

    "ฮ่ะๆๆ ก็นะ"ฮยอกแจหัวเราะฝืด จะให้เขาลืมลงได้ยังไงกัน ก็แผลนั่นมันเกิดขึ้นเพราะเขาเอง...

     

     

     

     

    เหตุการณ์เมื่อยี่สิบปีก่อนหน้า..

    "ฮึก..ฮึก..ฮื้ออออ..แม่..พ่อ..."เสียงสะอื้นไห้จากเด็กชายตัวเล็กอายุ 5 ขวบ ที่นั่งชันเข่าหลบอยู่มุมห้อง มองภาพบิดาของตนถูกชายกลุ่มใหญ่ในชุดดำรุมทำร้ายอย่างทารุณ โลหิตสีแดงสดไหลจากปากแผลทั่วร่างกาย สายตาแสนทรมาณบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ

    เสียงสั่นพร่าของบิดาไล่ให้เขาหนี แต่ร่างกายบอบบางกลับไม่กล้าขยับเขยื้อนราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกฉกชิงไป แม้ไหล่บางจะไหวสะท้านเพราะแรงสะอื้น แม้จะทรมาณที่ต้องทนดูภาพตรงหน้า แม้ในใจอยากจะวิ่งหนีออกไปให้ไกล แต่เด็กชายก็ห่วง...กลัวว่าบิดาของเขาจะจากไป...

    'ปัง'

    เสียงปืนดังลั่น ทำเอาร่างเล็กกระตุกด้วยความตกใจ เสียงแห่งความโหดร้ายแทรกเข้าในโสตประสาท ราวกับตอกย้ำยืนยันให้ชัดเจน เสียงสะอื้นไห้หยุดลงราวกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายกำลังถูกฉกชิง 

    ภาพของหญิงสาวใบหน้าสวยหวาน ผิวพรรณไร้ร่องรอยบาดแผลหรือข้อบกพร่อง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ก่อนที่ร่างเรียวเล็กในชุดเดรสสั้นสีเหลืองอ่อนจะกระตุกแรง ยืนเคว้คว้างในห้วงอากาศก่อนจะล้มลงนอนนิ่งกับพื้นตรงหน้าเด็กชาย ดวงตาสีนิลของมารดายังคงจ้องมองมาที่เขา

    ดวงตาสีนิล...สีเดียวกับฮยอกแจ...

    หยาดโลหิตสีแดงสดไหลจากบาดแผลฉกรรณ์ที่ศรีษะช้าๆ อาบนองไปบนพื้นไม้ในห้องเป็นบริเวณกว้าง เด็กชายร้องเรียกมารดาเสียงดังด้วยความตกใจ หากแต่ไร้การตอบรับเคลื่อนใดๆทั้งสิ้น 

     

    เสียงปืนนัดที่สองดังขึ้นอีกครา..

    บุพการีทั้งสองถูกปลิดชีวิตไปต่อหน้าต่อตา ในเวลาต่างกันไม่ถึงนาที

     

    จากนั้นเด็กชายก็ถูกอุ้มพาไปที่ไหนสักแห่ง แม้ร่างเล็กจะดิ้นหนีสุดแรง แต่กำลังแข็งแกร่งก็พันธนาการเขาแน่นจนมิอาจขยับเขยื้อน สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือปล่อยให้น้ำใสๆไหลจากดวงตากลมโต..

    ...ดวงตา ที่เหมือนกับของมารดาเขาทุกประการ...

    "แกต้องเป็นทาสของบ้านหลังนี้ จำไว้ซะ!!"เสียงแหลมตวาดใส่เด็กชายตัวเล็กที่นั่งกอดเข่าสั่นอยู่บนพื้นบ้านหลังใหญ่ของใครสักคนที่เขาไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า น้ำตาหยาดใสไหลอาบแก้มเนียน ดวงตากลมโตแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้หนักเป็นเวลานาน 

    นับตั้งแต่วันนั้น...ชีวิตของเด็กชายวัย 5 ขวบที่เคยได้รับการประคบประหงมดูแลอย่างใกล้ชิดก็ได้เปลี่ยนผันไปโดยสิ้นเชิง...

     

    เด็กตัวเล็กๆที่ต้องประคับประคองถาดหนักที่มีแก้วน้ำวางอยู่หลายใบไปเสิร์ฟให้ 'เจ้านาย' เครือญาติ และเพื่อนมิตรทุกครั้งที่ถูกสั่ง

    มือบางที่ถูกน้ำยาล้างจานกัดจนแสบแดง แต่เด็กชายก็ยังต้องกัดฟันฝืนใจทำ 'หน้าที่' ที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จ

     

    แต่หากเมื่อใดที่ร่างกายแบกรับงานเหล่านั้นไม่ไหว และล้มลงป่วย สิ่งได้ตอบแทนกลับมาคือความเจ็บปวด การลงโทษ คำด่าทอต่อว่า ที่เจ้านายของเขาเรียกว่า บทเรียน จนร่างกายเป็นแผลช้ำไปทั่ว

    หากแต่เด็กชายยังโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือ และยารักษาเล็กน้อยจากแม่บ้านใจบุญ แม้มันจะไม่ได้มากพอที่จะรักษาให้อาการหายดี แต่น้ำใจเล็กๆน้อยๆเท่านี้มันก็สามารถเยียวยาหัวใจดวงน้อยได้บ้าง

    หลังจากที่ฮยอกแจอาศัยใน'บ้าน'หลังใหม่ได้ไม่นาน 'ความสุข' ที่เด็กชายพยายามจะไขว่คว้าก็มาถึง เมื่อเขาได้พบกับ... 'พี่ชาย'

    ความอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับจากใครอื่นนอกจากพ่อแม่ทำให้ฮยอกแจยิ้มได้ทุกครั้งที่สัมผัส ฝ่ามือเล็กที่คอยเช็ดน้ำตาให้ยามที่ฮยอกแจถูกดุหรือถูกทำร้าย ยามใดที่ฮยอกแจเหงา พี่ชายของเขาก็จะเข้ามาชวนคุยเล่นเล่าเรื่องราวความสนุกสนานของสถานที่ที่เรียกว่า โรงเรียน ให้ฟัง ถึงแม้ว่าพี่ชายจะเคยขอร้องเจ้านายให้พาเด็กชายไปโรงเรียนด้วย แต่คำตอบที่ได้ก็เหมือนกันทุกๆครั้ง นั่นคือทาสอย่างเขา ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้ สิทธิเดียวที่เขาสามารถมีได้ นั่นก็คือการหายใจ

    เขาเคยสงสัยอยู่หลายครั้งว่าทำไมต้องเป็นเขาที่ถูกทรมาณ ถูกเฆี่ยนตีทำร้าย ถูกใช้งานหนักหนาต่างๆ ทั้งๆที่เขาก็เสียพ่อแม่ไปแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฆ่าเขาตามพ่อแม่ไป ทำไมถึงยังเก็บเขาไว้ทรมาณเล่นอยู่ทุกวัน

    เขาเคยถามคำถามนี้กับพี่ชายอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่คำตอบที่รับก็มีเพียงสองอย่างคือการส่ายหน้า และคำว่า ไม่รู้ เขาคิดว่าพี่ชายไม่ได้โกหกเขา เพราะเขาทั้งสองต่างก็ยังเด็ก อายุห่างกันแค่เพียง 4 ปี คงไม่มีใครบอกอะไรให้ด็กอย่างเขาทั้งคู่หรอก

     

     

     

    ในบ่ายวันหนึ่งในขณะที่พี่ชายกำลังออกไปข้างนอก เด็กชายที่เริ่มย่างก้าวเข้าสู่วัยหนุ่ม เดินผ่านห้องนั่งเล่นได้ยินได้บทสนทนาของ'เจ้านาย'โดยบังเอิญ

    "คุณว่ามั้ย ยิ่งโตขึ้นไอ้เด็กสกปรกนั่นก็ยิ่งหน้าเหมือนพี่ชั้นเลยนะคะ ขนาดมันเป็นผู้ชาย หน้ามันยังกับผู้หญิงเลยนะคะ"

    "หึ จะแปลกอะไรล่ะ ก็เลือดโสโครกของแม่มันแรงน่ะสิ"

    "ยี้.. ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเดี๋ยวอีกหน่อยมันก็คงต้องหนีตามผู้ชายไปเหมือนแม่มันสินะคะ เพราะท่าทางมันก็ร่านอยากจะได้ตาหนูของเราไม่น้อยเลย"

     

    ไหล่บางสั่นไหวน้อยๆ มือเรียวทั้งสองยกขึ้นปิดปากอุดเสียงสะอื้นไห้ไว้แน่น น้ำตาหยาดใสไหลอาบแก้มเนียนดูน่าสงสาร หลังจากปะติดปะต่อเหตุการณ์เรื่องราวทั้งหมดเข้าหากัน คำตอบที่อยากรู้มาตลอดเกือบสิบปีก็ถูกเปิดเผย ... 

     

     

     

    รู้แล้วว่าทำไมทุกครั้งที่เขาโดนทำโทษ 'นายใหญ่' มักพูดว่าไม่อยากจะมองหน้าเขา

    รู้แล้วว่าทำไมดวงตาของเขาถึงมีสีเหมือนกับคนในครอบครัวของ'เจ้านาย'

    ในขณะเดียวกันเขาก็รู้แล้วว่าทำไม'พี่ชาย'มักมองหน้าเขาแล้วพูดว่าอิจฉา .. 

    .. ทั้งหมดมันก็เพราะดวงตาและใบหน้าของเขานั่นเอง ..

     

    เพราะใบหน้าที่คล้ายคลึงกับมารดาที่จากไป จึงสงผลให้เขาต้องกลายมาเป็นทาสรับใช้ ต้องกลายมาเป็นที่รองมือรองเท้า โดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจสารพัด ไม่ว่าทำอะไรก็ขัดหูขัดตาคนในบ้านไปซะหมด 

     

    ... ใบหน้างดงามและดวงตาสีนิลที่โดดเด่น ... 

    .. ของหญิงสาวต้องห้าม .. 

    'ตึง'

    ร่างเล็กตั้งใจจะหันหลังวิ่งหนีความจริงที่โหดร้าย แต่โชคร้ายสะดุดขาตัวเอง ล้มลงกระแทกกับพื้นเสียงดัง ร่างบอบบางค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืน เพราะรู้ดีว่าชะตากรรมของตนจะเป็นเช่นไรหาก 'เจ้านาย' จับได้ว่าเขาถือดีมาแอบฟัง

    แต่ฮยอกแจก็ยังเป็นฮยอกแจที่โชคร้ายอยู่เสมอ ความพยายามของร่างเล็กสูญเปล่าลง เพราะความเร็วของ 'นายใหญ่' ที่ก้าวมากระชากร่างบางอย่างรุนแรง

    รอยยิ้มร้ายของ 'นายหญิง' ทำให้เด็กหนุ่มหวาดหวั่น ทุกครั้งที่เขาทำผิดรอยยิ้มแบบนี้มักจะถูกส่งมาให้พร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นริ้วไปทั่วร่าง

    "แกได้ยินทั้งหมดแล้วใช่มั้ย?! รู้แล้วใช่มั้ยว่าทำไมชั้นถึงชอบทรมาณแก!? ก็เพราะว่าแกมันเหมือนแม่ของแกมากไงล่ะ ยิ่งชั้นเห็นแกชั้นยิ่งอยากจะทรมาณ ยิ่งอยากเห็นแกเจ็บปวด!?"เสียงแหลมตวาดกร้าวก่อนที่ฝ่ามือเรียวจะตวัดฟาดเข้าที่ใบหน้าเล็กแรง

    "ฮึก..ฮึก..ยะ..อย่าว่า..แม่ผม..ฮึก..นะ"เสียงสะอื้นไห้จากเรียวปากปากอิ่ม รอยนิ้วมือทั้งห้าปรากฎชัดบนแก้มสวย 

    "ทำไมจะว่าไม่ได้ ก็แม่แกมันสกปรก! แม่แกมันร่าน!"คำด่าทอแสนโหดร้ายบาดลึกเข้าไปในดวงใจดวงน้อย ก่อนที่แรงฟาด ตบ ตี หยิก ข่วนจะถูกส่งตามมาติดๆ ไม่คิดสนใจความรู้สึกของคนตัวเล็กแม้แต่น้อย 

    .. มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่สามารถอธิบายความรู้สึกได้ ..

     

    "แม่!!! หยุดนะ อย่าทำอะไรน้อง!"เสียงห้าวของเด็กหนุ่มที่เข้ามาใหม่ ร่างโปร่งวิ่งเข้าพยายามดึงรั้งมารดาให้ออกจากร่างบางของน้องชาย

    “แม่บอกแกกี่ครั้งแล้วจองซู มันไม่ใช่น้องแก! มันเป็นแค่ทาส!”หญิงสาวตวาดกร้าว พยายามดันลูกชายให้ออกห่าง เพื่อจะจัดการกับร่างเล็กที่ล้มกองอยู่บนพื้น ร่างกายสกปรกที่เธอเกลียดนักเกลียดหนา

    “ไม่..แม่!!!!”เด็กหนุ่มยังคงพยายามห้ามปรามมารดาสุดกำลัง

     

     

     

    เพล้ง

    “โอ้ย!!!”เป็นจองซูที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แขนเรียวยาวที่พลาดไปชนกับแจกันที่ตั้งโชว์ คมแหลมของเศษหินคมกรีดลึกที่ใต้ท้องแขน หยาดเลือดสีสดไหลจากบาดแผลใหญ่จนน่ากลัว

    เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนฮยอกแจไม่อาจจะตั้งสติรับรู้สิ่งใดได้ ร่างบอบบางได้รับอิสระเมื่อ เจ้านาย ทั้งสองวิ่งไปดูอาการของลูกชายด้วยความตื่นตนกตกใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มรีบยันตัวประคับประคองร่างกายไร้เรี่ยวแรง ที่มีบาดแผลไปทั่ววิ่งหนีจากบ้านหลังใหญ่ที่แสนโหดร้าย

    วิ่งหนี...ความเป็นจริงที่เขาไม่อาจจะรับมันได้

    วิ่งหนี...เพื่อไขว่คว้าอิสระที่เขาไม่เคยได้รับตลอดชีวิตวัยเด็ก

    .

    .

    .

     

    “นายเปลี่ยนไปมากเลยนะ รู้มั้ยฮยอกแจ?”

    “ฮ่ะๆๆ ก็ผมโตขึ้นแล้วนี่ครับพี่”

    “อย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ พี่นึกว่านายจะร้องไห้เป็นเด็กขี้แยเหมือนแต่ก่อนซะอีกนะ”

    “ผมน่ะ..เปลี่ยนไปทุกอย่างแล้วล่ะครับพี่จองซู”ร่างเล็กเอ่ยพร้อมเหยียดยิ้มเย็น

     

    ใช่...ฮยอกแจในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนแล้วล่ะ...

     

     

     

    +++++END OF THIS CHAPTER+++++

    แหะๆๆ ชอบไม่ชอบยังไงก็ติชมกันหน่อยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×