ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] Coffee Break . [ HaeEun ]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 . {Re-write}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 802
      7
      2 ก.พ. 61

     

    'แฟนเก่าที่ยังรักกัน . ยังหวงกัน . ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ..

    มันเรียกว่า 'แฟนเก่าได้รึเปล่านะ ?

    เป็นแฟนเก่าที่ไม่ต่างจากแฟนปัจจุบัน

    ก็แค่เพียงไม่มีสิทธิหึงหวงเหมือนเก่า .. ก็เท่านั้น

    สถานะ : แค่แฟนเก่า .. ที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

     

    "วันนี้งานเยอะเหรอทงเฮ"ฮยอกแจเดินเข้าไปถามร่างสูงที่กำลังนั่งนวดไหล่คลายกล้ามเนื้อที่แข็งตึง ใบหน้าคมแสดงออกชัดเจนว่ากำลังมีเรื่องเครียด

    "อื้ม ใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ต้องไล่คะแนนเด็กที่สอบตกให้หมดก่อนน่ะ"ทงเฮว่าอย่างนั้นก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มแก้กระหาย ฮยอกแจเห็นดังนั้นก็เดินเข้าไปซ้อนด้านหลังร่างแกร่ง ออกแรงบีบนวดไหล่ให้ช้าๆ ส่วนคนที่ได้กำไรไปเต็มๆก็นั่งอมยิ้มหน้าระรื่น

    "อ่ะแฮ่ม .. โอ้ย มดมันไต่คอโว้ยยย"ซองมินแกล้งตะโกนขึ้นดังๆทำให้ฮยอกแจต้องรีบละมือออกจากไหล่แกร่ง แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างทงเฮก็เลื่อนมือไปโอบเอวบางรั้งคนตัวเล็กมาแนบกายอย่างเคยชิน ฮยอกแจเหลือบไปมองซองมินที่หันหน้าไปสนใจอย่างอื่นแล้ว ก็ยอมยืนนิ่งปล่อยให้ทงเฮทำตามใจโดยไม่ขัดขืน

    "ฮยอกแจไม่เก็บร้านต่อเหรอ"

    "เหลือแค่กวาดพื้นน่ะ เดี๋ยวค่อยทำก็ได้น่ะ"ฮยอกแจตอบพลางหยิบเอกสารงานของทงเฮที่วางกระจายอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูเล่น ทงเฮที่ถือโอกาสพักก็เงยลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอดีตคนรักยิ้มๆ

    "เอ้อ เค้กชาเขียวเป็นไงบ้างน่ะ โอเคมั้ย?"ฮยอกแจถามเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นจานเค้กที่เหลือเพียงความว่างเปล่าและคราบครีมเล็กน้อยที่เลอะอยู่

    "อื้อ ก็อร่อยดีนะ แต่ถ้าลองใส่ไวท์ชอคไปสักหน่อยคงจะโอเคกว่า สำหรับคนที่ไม่ชอบกินหวานอย่างชั้นอะน่ะ"

    "อ้าว แล้วมันจะไม่เลี่ยนไปเหรอ ทงเฮไม่ชอบไม่ใช่ไง?"

    "ขมๆหวานๆพอกินด้วยกันมันก็เข้ากันได้ดีนะ แบบนี้มันขมอย่างเดียวรสมันธรรมดาไป"

    "เอ้อ..นั่นสิเนอะ ลูกค้าที่ไม่ชอบขมๆจะได้กินได้ด้วยเนอะ”

    “อื้ม ตามนั้นแหละ”

    “ฉันตั้งใจทำให้เฮกินเลยอย่างเดียวเลยไม่ได้คิดถึงคนอื่นเลยแฮะ"ฮยอกแจพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปที่เค้าท์เตอร์แล้วหยิบเค้กชาเขียวที่ยังเหลืออยู่ออกมาวางเตรียมไว้

    ส่วนทงเฮที่บังเอิญได้ยินความลับดีๆจากคนตัวเล็กเข้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดีใจที่ฮยอกแจยังคงเอาใจใส่แคร์เขากว่าใครอยู่เสมอ

     

    "ซองมิน ไวท์ชอคอยู่ไหนน่ะ"

    "อยู่ในกล่องในตู้เย็นชั้นล่างอ่ะ เหลืออีกนิดเดียวเอง พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อเอาสิ"

    "ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ใช้แค่โรยหน้าเค้กเอง"ฮยอกแจพยักหน้ารับพร้อมกวาดสายตามองหาของที่ต้องการ เมื่อเจอของที่ต้องการ คนตัวเล็กก็จัดการหั่นซอยไวท์ชอคโกแลตให้เป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำมาโรยตกแต่งหน้าเค้กตามคำแนะนำของทงเฮ

     

    "พักได้แล้วน่าฮยอกแจ...ทำงานหนักไปแล้วนะครับ"อ้อมกอดอุ่นๆรอบเอวพร้อมน้ำเสียงทุ้มนุ่มข้างๆใบหูทำให้คนตัวเล็กชะงัก เขาเอาแต่สนใจเค้กจนลืมสังเกตไปด้วยซ้ำว่าทงเฮขยับเข้ามาใกล้ขนาดนี้ ปลายนิ้วแกร่งแตะลงที่ด้านข้างเค้กก่อนจะป้ายครีมบนแก้มคนตัวเล็กเบาๆ

    "เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้นะทงเฮ นี่ของขายนะ"ฮยอกแจบ่นด้วยสีหน้าจริงจังพลางเช็ดแก้มตัวเอง แต่ไม่ทันจะสะอาดก็โดนคนตัวโตชิงขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่

    "เล่นอะไรเนี้ยอยู่ๆมาหอมแก้ม ตาคนบ้า”ฮยอกแจมองค้อนใส่คนฉวยโอกาส แต่ก็ใช่ว่าคนถูกดุจะสนใจอะไร

    "ก็เดี๋ยวพรุ่งนี้จะครบสองปีสองเดือนที่คบกันแล้วนี่"ทงเฮตอบพร้อมฉีกยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวเล็กๆที่เป็นเอกลักษณ์ของตัว มือหนายกขึ้นเกลี่ยกลุ่มผมของคนตัวเล็กเล่น

    "ยังจะจำได้อีกเนอะ เลิกกันไปตั้งแต่เมื่อไรแล้ว ได้นับเดือนไว้ด้วยรึเปล่าเนี้ย?”ฮยอกแจเอ่ยแซว

    "โหยยย...แต่ถึงจะเลิกกัน แต่ก็ยังรักกันอยู่นี่นา ไม่ใช่รึไง?"ร่างสูงกระเซ้าพร้อมทำท่าจะยื่นหน้าเข้าไปจุ้บปากอิ่ม แต่ฮยอกแจก็เบือนหน้าหลบ

    "คิดเองเออเองตลอด ใครรักนายกันเล่า!"

    “ไม่ได้คิดไปเองซะหน่อย ฮยอกแจแน่ใจเหรอว่าไม่รักกันน่ะ หื้ม?”ทงเฮแกล้งถามพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆคนขี้อายอีก ปลายจมูกของทงเฮแกล้งแตะเบาๆที่ข้างแก้มแล้วละออก

    “หยุดเลย นายจะเอาเปรียบฉันมากเกินไปแล้วนะ”

    "ก็แฟนเก่านายนี่"

    "โว๊ะ ออกไปเลยนะ ฉันจะทำเค้กเว้ย ไปทำงานต่อไปได้แล้ว เดี๋ยวทำไม่เสร็จจะมาโทษกันนะ"ฮยอกแจว่าพลางดันอกแกร่งของอีกฝ่ายออก

    “ก็ได้ครับ แล้วเดี๋ยวทำเสร็จจะมากอดอีกนะ”ทงเฮรับคำพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ฮยอกแจเผลอขโมยหอมแก้มอีกฟอดใหญ่แล้วเดินไปทำงานต่อ

     “อ่ะแฮ่ม”ซองมินกระแอมเบาๆหนึ่งทีก่อนจะหันมาทำปากขมุบขมิบให้ฮยอกแจอ่านปาก ‘หมั่น.ไส้.ชิบ.หาย

    ฮยอกแจเองก็ไม่ยอมแพ้ขมุบขมิบปากตอบกลับ ‘เด็ก.แก.อยู่.หน้า.ร้าน’ ทำเอาซองมินรีบหันหน้ากลับไปทำบัญชีต่อไม่สนใจเพื่อนรักที่ยิ้มเยาะหัวเราะล้อตัวเองบ้าง

     

    "เอ๊ะโอ"น้ำเสียงกวนๆของใครบางคนดังขึ้นเมื่อทั้งสามเดินออกจากร้าน ร่างโปร่งในชุดนักเรียนม.ปลายชายเสื้อหลุดลุ่ยที่ไหล่สะพายเป้เหี่ยวๆเอาไว้ ข้างๆก็มีเด็กเนิร์ดตัวสูง แต่งตัวตรงข้ามกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ติดกระดุมทุกเม็ดยันกระดุมคอ ใส่แว่นหนาเตอะ สะพายเป้หนักตึง

    "ว่างมากรึไง? มาทำไมน่ะ"ซองมินถามอย่างนึกรำคาญใจ

    "ก็ .. ผมเพิ่งเลิกซ้อมบาสนี่ครับ ผ่านมาเลยอยากมาทักทายพี่ชายเค้กชมพูซักหน่อย"ร่างโปร่งยักคิ้วกวนอารมณ์ทำเอาซองมินคิ้วกระตุก นี่กูพี่มันนะเว้ยเฮ้ย!!!

    "เลิกเรียกพี่แบบนั้นซักที พี่ฟังแล้วกระดากหูชะมัด -  -*"

    "ใจร้ายชะมัดเลยพี่ ผมอุตส่าห์มาหาพี่เลยนา..ไม่คิดถึงผมบ้างเหรอ?"

    “ใครจะไปคิดถึงเด็กอย่างนายกันล่ะ”

    “พี่ไง”

    "กวนตีนละ ฉันไปก่อนหน้าทงเฮ ฮยอกแจไว้เจอกัน"ซองมินเอ่ยก่อนจะเดินหนีไปทางอีกทางทิ้งไว้ให้ทงเฮฮยอกแจมองตามขำๆ

    “ไม่ตามไปล่ะ คยูฮยอน?”ฮยอกแจเอ่ยถาม

    “ไม่ล่ะครับ แค่เห็นหน้าผมเขาก็อยากจะเอารองเท้าปาใส่หน้าผมแล้วมั้ง”คนถูกถามยักไหล่ตอบคำถามอย่างไม่สนใจอะไรนัก

    "นี่ไม่คิดจะทักทายอาจารย์กันหน่อยเลยรึไง"ทงเฮแกล้งเก๊กขรึมแซวทั้งสองที่ดูเหมือนจะให้ความสมใจกับอีกคนที่เพิ่งเดินจากไปมากกว่าตัวเขากับฮยอกแจเสียอีก

    "เอ้อใช่สวัสดีครับพี่ฮยอกแจ อาจารย์ทงเฮ!!"คยูฮยอนทักพร้อมรีบโค้งให้ทั้งสองตามมารยาท พร้อมกับฝ่ามือที่กดหัวร่างสูงข้างๆให้โค้งตามด้วย

    "คะ..ครับ ผมซีวอนครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ครับ"เด็กเนิร์ดเฉิ่มรัวคำทักทายด้วยความประหม่า ทำเอาฮยอกแจหัวเราะลั่นเพราะท่าทางตลกๆนั่น

    "พี่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ไม่ต้องทำเหมือนเจอผีหรอกน่า 555555 ไม่ต้องเกร็งหรอก คิดซะว่าพี่เป็นรุ่นพี่ เป็นเพื่อนที่สนิทๆกันล่ะกัน"

    "มึงนี่ก็บ้า เฉิ่มชิบหายเลยว่ะ"คยูฮยอนหันไปว่าเพื่อนก่อนฟาดฝ่ามือเข้าที่หัวกลมๆอีกที

    "ทำเป็นไปว่าเพื่อน ได้ข่าวว่าแต่ก่อนก็ไม่ต่างกันนี่ เดี๋ยวนี้ไม่ใส่แล้วเหรอแว่นน่ะ"ทงเฮแซวบ้าง

    "โหยยย อาจารย์อ่ะ อย่าแซวได้ป่ะ สมัยก่อนนั่นมันความทรงจำโคตรเลวร้ายเลยนะ"คยูฮยอนโอดครวญ เพราะก่อนหน้าที่คยูฮยอนจะเข้าชมรมบาส คยูฮยอนก็เป็นเด็กเนิร์ดไม่ต่างอะไรจากซีวอนนักหรอก

    "5555 จะไม่เลวร้ายได้ไงล่ะ ดัดฟันปากเจ่อๆห้อยๆ ใส่แว่นหนาๆ หน้าจืดๆ หนำซ้ำยังไว้หน้าหม้าเต่ออีกต่างหาก 5555555"ทงเฮยังแซวต่อไม่เลิกทำเอาซีวอนที่ฟังอยู่หลุดขำพรืด

    "เฮ้ย! หัวเราะกูหรอวะ!"คยูฮยอนพาลพลางผลักไหล่แกร่งของร่างสูงแรงๆ

    "ทงฮอย่าแกล้งเด็กไปน่า"ฮยอกแจปราม

    "แกล้งที่ไหนก็พูดความจริงต่างหาก"ทงเฮกลั้วหัวเราะ

    "นิสัยเสีย -  -"

    "แต่อาจารย์ก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่ครับนะครับ คยูฮยอนเป็นแบบนั้นจริงๆ"ซีวอนพยายามกลั้นยิ้มไปพูดไป ยิ่งจี้จุดให้คนโดนล้อยิ่งโมโหหนักขึ้น

    "5555555 เห็นมั้ย ซีวอนยังเห็นด้วยเลย!"ได้ทีทงเฮก็รีบหาพวกแทคทีมกับซีวอนแล้วหัวเราะลั่น

    "ไอ้ซีวอน!!!!"

    “โอ้ยยย อย่าตีผมสิคยูฮยอน”

    “มึงแม่งงงง”

    "เฮ้ออ...ทะเลาะกันไม่หยุดซักที นายนี่ก็อีกคนนะทงเฮไม่น่าไปแกล้งน้องเลย"ฮยอกแจสายหัวไปมาอย่างเอือมระอา คนนึงก็โตจนเป็นครูคน อีกคนก็เอาแต่ใจโวยวายลั่นไม่เกรงใจคนอื่นเลยสักนิด

    “อะไรเล่า ก็แค่เล่นกันขำๆเองน่าฮยอกแจ”

    “ไม่ต้องมาเล่นอะไรเลย นี่มันจะสองทุ่มแล้วนะ ไล่เด็กๆกลับบ้านไปได้แล้ว”

    “เอ้อ..ใช่จะสองทุ่มแล้วทำไมพวกนายไม่กลับบ้านกัน ไปๆ กลัลกันไปได้แล้ว”ทงเฮที่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาจริงก็รีบโบกมือไล่นักเรียนทั้งสอง

    "เฮ้ย!!! จริงป่ะครับ จะสองทุ่มแล้วเหรอ เฮ้ย! กลับกันซีวอน! สวัสดีครับพี่ สวัสดีอาจารย์"คยูฮยอนโวยวายลั่นเมื่อรู้ว่าอีกเพียงครึ่งชั่วโมงจะหมดเวลาเคอร์ฟิวของที่บ้าน ก่อนที่ร่างโปร่งจะรีบลากเพื่อนตัวสูงที่อยู่ข้างๆให้วิ่งตามออกไป

    "เอ่อ ผมขอตัวนะครับพี่ฮยอกแจ อาจารย์"ซีวอนเด็กหนุ่มแสนดีหันกลับไปขอโทษขอโพยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ก่อนจะรีบก้าวจ้ำๆวิ่งตามเพื่อนสนิทที่นำลิ่วไปไกล

    "คยูฮยอนนี่จริงๆเลยน้า...”ฮยอกแจหัวเราะร่าเมื่อแผ่นหลังทั้งสองลับตาไปไกลพอสมควร

    “นั่นสิ เหมือนใครก็ไม่รู้ตอนเด็กเนอะ ไอ้นิสัยชอบกลับบ้านดึกๆจนโดนออมม่าดุเนี้ย”ทงเฮแซว

    “อะไร หมายถึงชั้นรึไง?”

    “หรือไม่ใช่?”

    -__- นี่มันก็ตั้งกี่ปีแล้วยังจะมาแซวอีกนะ”

    “แซวไม่ได้ไง? ตอนนี้แตะต้องไม่ได้แล้วเหรอครับ? หื้ม?”ทงเฮยิ้มกวน

    “เอ้ออ..นายนี่ก็จริงๆเลย ถ้าแตะต้องไม่ได้แล้วจะยังยอมให้โอบอยู่อย่างนี้ไหมล่ะ อย่าโง่น่า..”

    “นายก็ยอมให้ฉันแตะตลอดนั่นแหละ ฉันรู้^^”ทงเฮยิ้มหน้าระรื่น

     “ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย นี่คิดจะเนียนไปนอนบ้านชั้นอีกแล้วใช่มั้ยเนี้ย”ฮยอกแจบ่นเมื่อทงเฮไม่มีท่าทีว่าจะเดินแยกไปขึ้นรถบัสกลับบ้านสักที

    “ไม่ได้เนียนสักหน่อย ก็บอกแล้วไงว่าจะวันครบรอบแล้วก็ขอไปค้างหน่อยน่า..”

    “ไม่เอา ไม่ให้ค้างอ่ะ”

    “ห้ามไปก็เท่านั้น ไปถึงบ้านก็ห้ามกันไม่ได้แล้วล่ะ นายก็รู้ดีนี่”ทงเฮรวบรัดเสร็จสรรพ ก่อนจะคว้ามือบางของคนตัวเล็กมากุมเอาไว้แทน

    “จับทำไม?”

    “ก็อยากจับนี่ ห้ามได้เหรอ”ถามพร้อมมองดวงหน้าหวานของร่างเล็ก คงต้องขอบคุณแสงสว่างสลัวๆจากไฟข้างทางที่ทำให้ทงเฮรู้ว่า ณ บัดนี้แก้มเนียนๆของฮยอกแจเปลี่ยนเป็นสีแดงไปเรียบร้อย ให้ตายสิฮยอกแจของเขายังขี้เขินเหมือนเดิมเสมอเลยนะ

    “อืม..ก็ไม่เคยห้ามได้นี่”ฮยอกแจตอบเขินๆก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

    “รู้ก็ดีแล้วนี่”

    “เออน่ะ”

    “เขินเหรอ หื้ม?”

    “ไม่รู้ ไม่ได้เขิน”

    “อ่ออ..ไม่ได้เขินเลยยยย...น่าเชื่อจัง”

    “เลิกแกล้งได้แล้วน่า..ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้วนะ”ฮยอกแจรีบตัดบทก่อนที่เขาจะโดนแซวไปมากกว่านี้ มือข้างที่ว่างยกขึ้นต่อยไหล่แกร่งแรงๆหลายที ส่วนทงเฮที่มือไม่ว่างเพราะต้องแบกกระเป๋าถือเอกสารก็ทำได้แค่ปัดป้องแรงน้อยๆของตัวเล็กไปพลางๆ

     

    มือทั้งสองที่กอบกุมเกี่ยวกันไว้ ร่างสองร่างที่เดินเคียงข้างกัน ..

    ไม่มีใครรู้ ว่าเส้นทางจะจบลงที่จุดใด ..

    แต่ที่สิ่งเขาทั้งสองมั่นใจคือ ‘ปัจจุบัน’ เพียงแค่มีกันและกัน..

    ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว (:


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×