คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #53 : Chapter: 39 Forgot -- กลับมาอัพฟิคแล้วนะคะ
หลังจากผ่านการตัดสินใจที่งี่เง่าไปเมื่อครั้งที่แล้ว
หลังจากที่ได้อ่านคอมเม้นจากทุกๆคน แล้วแนนเพิ่งนึกได้ค่ะ
เพราะตอนนั้นมันเหนื่อยมันเพลีย ถึงคิดอยากจะลบ
แต่พอมาเจอเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจ ตอนนี้แนนก็มีกำลังใจเต็มร้อย
พร้อมที่จะอัพต่อไป แม้ว่าคอมเม้นจะน้อยก็ตามแต่ค่ะ (:
สำหรับใครที่ยังติดตามอ่านฟิคแนน ต้องขอบคุณจริงๆค่า
สำหรับเรื่องรวมเล่มเรื่องนี้ แน่นอนว่ามีแน่นอนค่ะ
หลังจากที่กล่าวเกริ่นๆไว้นานมากกกกแล้ว
แต่คิดว่าประมาณสองสามเดือนข้างหน้า จะมีรวมเล่มออกมาแน่นอนค่ะ
----------CHAPTER 39----------
“พี่ฮันกยองครับ...”เสียงทุ้มของร่างสูงดังขึ้นในขณะที่ฮันกยองกำลังจะเดินเข้าครัวไปทำอาหารให้สมาชิกคนอื่นๆ
“หืม? ว่าไง”ฮันกยองขานรับพร้อมกับรอยยิ้มบาง
“เอ่อ...คือ...คือว่า...”ซีวอนอ้ำอึ้งเมื่อเห็นรอยยิ้มของร่างเพรียวของคนที่เขารักกำลังฉีกยิ้มในแบบฉบับที่เขารัก
“เป็นอะไรไป...มีอะไรก็บอกพี่สิ”ฮันกยองกล่าวพร้อมกับเลื่อนไปมือไปแตะไหล่ร่างที่สูงกว่าอย่างอ่อนโยน
“เอ่อ...คือ...”ซีวอนอ้ำอึ้งก้มหน้าหลบสายตาอีกฝ่าย
“เรื่อง...ฮีชอล?”ฮันกยองเอ่ยถามเมื่อเห็นทาทางอ้ำอึ้งของอีกฝ่าย
“เอ่อ...ครับ...”ซีวอนพยักหน้าเบาๆ แม้จะยังคงก้มหน้าหลบสายตาอีกร่างอยู่
“จะถามว่าอะไรล่ะ...หืม?”ฮันกยองเอ่ยถามด้วยความอบอุ่น มือเรียวเลื่อนไปโอบกอดแผ่นหลังแกร่งของซีวอน
“พี่กับพี่ฮีชอล..เอ่อ...”ซีวอนอึดอัดที่จะต้องกล่าวถามไปว่าคนรักกับพี่ชายที่เขาเคารพของตนเป็นอะไรกัน
“เป็นแค่เพื่อนกันน่ะ...ไม่ได้มีอะไรหรอก”ฮันกยองเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบางๆแสดงออกถึงความอบอุ่นที่ฮันกยองมี รอยยิ้มที่สามารถปลอบประโลมซีวอนที่กำลังเศร้าได้เป็นอย่างดี รอยยิ้มที่ซีวอนหลงรัก...
“พี่ครับ...ผมรักพี่มากนะ”แขนแกร่งของซีวอนดึงร่างเพรียงของฮันกยองเข้ามากอดเอาไว้อย่างหวงแหน น้ำตาลูกผู้ชายที่ซีวอนเก็บกลั้นมันเอาไว้ค่อยๆไหลออกมาเงียบๆ แต่มันก็ถูกปาดออกอย่างลวกๆ เพื่อไม่ให้ร่างในอ้อมกอดเห็น...
“พี่ก็...รักนายเหมือนกัน”ฮันกยองกล่าวออกเสียงแผ่ว...ทั้งๆที่เขารู้สึกสับสนกับใจตัวเองเหลือเกิน...คนนึงก็คนรักที่ดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง คนนึงก็คนที่ต้องดูแล...แม้จะเหนื่อยเท่าไรก็ไม่เคยปริปากบ่น...
“พี่ฮันกยอง...ถ้าวันไหนที่พี่ทิ้งผมไป...วันนั้นต้องเป็นวันที่ผมขาดใจตายแน่ๆ”ซีวอนเอ่ยเสียงแผ่ว ริมฝีปากหนาคลอเคลียอยู่ที่ใบหูเล็กของฮันกยอง
“อื้ม...พี่ไม่ทิ้งนายหรอกซีวอน...”มือเรียวของฮันกยองลูบหลังของซีวอนเบาๆ
“พี่ครับ...พี่หวั่นไหวกับพี่ฮีชอลรึเปล่า...”ซีวอนเอ่ยถามเสียงสั่น
“ถ้าหวั่นไหวน่ะเคย...แต่ถ้ารัก...ก็มีแค่แบบเพื่อน...ทำไมล่ะ? นายไม่เชื่อใจพี่งั้นเหรอ?”ฮันกยองตอบเสียงนุ่ม ดวงตากลมจ้องมองใบหน้าเข้ม
“ไม่ใช่ไม่เชื่อใจครับ...แต่ผมกลัว...ผมกลัวว่าพี่จะหวั่นไหวกับพีฮีชอลแล้วจะทิ้งผม...ใครจะรู้ล่ะ...พี่ฮีชอลออกจะสวย...ขนาดผมยังเคยหวั่นไหวเลย...”ซีวอนเอ่ยตามที่คิด
“แน่ะ...นายก็เคยหวั่นไหวกับหมอนั่น...เห็นมั้ย? พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรนายเลยนะ”มือเรียวของฮันกยองเลื่อนไปบีบจมูกโด่งของซีวอนขำๆ
“อะไรอ่า...ไม่เกี่ยวกันซักหน่อยนี่นา...”เด็กโข่งอย่างซีวอนเริ่มเบะปากงอแง
“ฮ่าๆ ไปทำอาหารดีกว่า...ปล่อยเด็กโข่งไว้นี่แหละ”ฮันกยองหันหลังเดินเข้าครัวไป ก่อนจะหันกลับไปมองเด็กโข่งที่เดินตามมาแทบจะทันทีที่เค้าหันหลังเดิน
“พี่ทิ้งผม”ซีวอนเอ่ยอย่างเอาแต่ใจก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่โต๊ะอาหาร
“อะไร...พี่ไม่ได้ทิ้งซะหน่อย...ถ้าพี่ทิ้งจริงๆ พี่คงจะไม่มาทำอาหารให้กินแบบนี้หรอก”ฮันกยองเอ่ยขณะที่กำลังเตรียมอุปกรณ์ทำอาหาร
“อะไรอ่ะ...ก็พี่ต้องทำให้ทุกคนทานนี่...ไม่มีอะไรพิเศษๆที่ทำเพื่อผมเลยหรอ?”ซีวอนอ้อนเป็นเด็ก
“ไม่มีหรอก...ขืนทำให้เยอะๆ ได้เอาแต่ใจกันพอดี”ฮันกยองเอ่ยยิ้มๆ
“ใจร้าย...”ซีวอนทำเสียงง๊องแง๊ง
“ใจร้ายแล้วไม่รักรึไง”ฮันกยองพูดลอยๆ
“โธ่...พี่ก็...จะไม่รักได้ยังไงล่ะครับ...แฟนทั้งคนนะ...”ซีวอนปรี่เข้าไปกอดฮันกยองอ้อนๆ คางแหลมเกยอยู่ที่ไหล่ลาด ก่อนที่จมูกโด่งจะฝังลงกับแก้มบางเบาๆ
“อย่าสิซีวอน...ทำอาหารก่อน”ฮันกยองดุร่างสูงพร้อมกับเอียงใบหน้าออกห่างจากปลายจมูกของซีวอน
“อื้อ...ก็ได้”ซีวอนงอแงนิดหน่อย ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมด้วยสีหน้าบูดๆ
“แหมๆๆ พี่ฮันกยอง ไอ้ซีวอน...มาสวีทอะไรกันในครัวเนี้ย...”คังอินที่เดินออกมาจากห้องนอนด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าโผล่หน้ามาแซวทั้งสองเสียงดัง
“เงียบไปเลยคังอิน ไปหาลีทึกนู่นไป”ฮันกยองตะโกนตอบคังอินไปพร้อมกับรอยยิ้มเขินๆ ที่ซีวอนหลงนักหลงหนา
“เอะอะอะไรกันแต่เช้าเลยเนี้ย...”เยซองที่เดินงัวเงียออกจากห้องบ่นอุบอิบก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะอาหารตรงข้ามซีวอน โดยมีรยออุคที่เดินตาปิดมานั่งข้างๆ
“ฮื้อ...นั่นสิครับ...ผมยังได้นอนไม่เต็มที่เลยนะ”รยออุคบ่นก่อนจะนอนฟุบไปกับโต๊ะ
“เมื่อคืนหนักกันรึไง”ฮันกยองแซว
“ก็พอๆกับคังอินกับพี่ลีทึกนั่นแหละ”เยซองเอ่ยยิ้มๆ
“อะไรเนี้ยพี่เยซอง! พูดอะไรก็ไม่รู้”รยออุคเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนสี มือบางฟาดเอาๆที่ไหล่หนาของเยซอง
“แล้วนี่ใครเห็นฮีชอลบ้างล่ะ ปกติเสียงดังขนาดนี้ต้องออกมาวีนไม่ใช่เหรอ”ฮันกยองเอ่ยถามถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น แต่ซีวอนที่ได้ยินคำถามจากปากของคนรักก็ทำหน้าตึง ได้แต่บอกกับตัวเองว่าฮันกยองแค่เป็นห่วงเพื่อนร่วมวงตามปกติ
“รายนั้นยังไม่กลับหอเลยไม่ใช่เหรอครับ...ได้ข่าวว่าไปดื่มกับคิบอม”เยซองตอบ พร้อมกับเลื่อนมือไปเล่นกับผมเส้นนุ่มของรยออุค
“อ้าว...แล้วทำไมไม่บอกชั้นล่ะ”ฮันกยองทำหน้าบึ้งด้วยความไม่พอใจ ปกติฮีชอลจะไปดื่ม หรือไปนอนไหนต้องบอกเขาทุกทีนี่นา...
“ผมจะรู้พี่เค้ามั้ยล่ะคร๊าบ...ว่าแต่พี่ฮีชอลกับพี่ฮันกยองทะเลาะกันเหรอ”เยซองถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เปล่าหรอก...ไม่มีอะไร”ฮันกยองส่ายหน้าเบาๆ แต่ในใจกลับคิดกังวลเป็นห่วงเพื่อนสนิทที่แสนเอาแต่ใจอย่างฮีชอล กลัวว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างตนและซีวอน จะเป็นเหตุทำให้ฮีชอลออกไปดื่ม กลัวว่าเรื่องราวของตนจะเป็นสาเหตุทำให้ฮีชอลโกรธ หรือเกลียดเพื่อนคนนี้ไปแล้ว สีหน้าร่างเพรียวบ่งบอกถึงความกังวลที่แสดงออกอย่างชัดเจน จนใครบางคนที่นั่งแอบมองอยู่ได้แต่แอบคิดมากอยู่เงียบๆ
“เป็นอะไรอ่ะซีวอน...ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ”รยออุคที่เงยหน้ามาเห็นซีวอนนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ทำให้ฮันกยองที่ทำอาหารอยู่ต้องหันมามองคนรักที่นั่งอยู่ไม่ห่าง
“ไม่มีอะไรหรอก”ซีวอนตอบปัดแล้วนอนฟุบกับโต๊ะ ท่าทีของร่างสูงทำเอาฮันกยองต้องถอนหายใจออกมาเงียบๆ
“ฮ้าววววว อรุณสวัสดิ์ทุกคน มีอะไรให้ผมกินมั้ย?”ชินดงที่เดินออกมาจากห้องนอนเอ่ยถามด้วยท่าทางงัวเงีย ตาสองข้างยังคงปิดสนิทไม่รับรู้ถึงท่าทางแสนอึดอัดที่เกิดขึ้นกับคนในครัวเลยแม้แต่น้อย
“กำลังทำนี่ไง รอหน่อยสิ”ฮันกยองเอ่ยบอก
“ชินดงอา...ไปหาฟักทองกินกัน”ซองมินที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เดินมาเกาะชินดงที่ยืนพิงขอบประตูห้องครัวแน่น
“อือ...ไปขอคยูฮยอนสิ”ชินดงตอบ
“หมาป่าเล่นเกมอย่างเดียวอา...ไม่ยอมสนใจกระต่ายเลยสักนิด”ซองมินงอแง
“ก็ไปทำให้หมาป่าสนใจสิซองมิน...เหมือนรยออุคทำไง...ติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นเลย คิกคิก”เยซองเอ่ยแซว มือหนาเลื่อนไปไล้แก้มสวยของคนรักแผ่วเบา
“อื้อ...พี่เยซองบ้า”รยออุคว่าพลางก้มหน้าเขินอาย
“ฮ่าๆๆ”เสียงหัวเราะด้วยความเอ็มดูของคนทั้งโต๊ะดังขึ้น ใบหน้าหวานของรยออุคแดงซ่านด้วยความเขินอาย ก่อนที่ร่างสูงของเยซองจะคว้ารยออุคไปนั่งตักแล้วจัดการหอมแก้มสวยแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
“พี่เยซองอ๊ะ ทำอะไรของพี่เนี้ย >////<”รยออุคก้มหน้าเขิน ในขณะที่คนรอบข้างได้แต่ฉีกยิ้มเอ็นดูคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ในอ้อมกอดของคนรักเงียบๆ
“เอ๊า...เสร็จแล้ว มาตักๆกันกินได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ขอโทรไปตามฮีชอลก่อน ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างแล้วก็ไม่รู้...”ร่างเพรียวของฮันกยองก้าวเดินออกไปจากห้องครัว ทิ้งให้ร่างของใครบางคนที่ต้องการอ้อมกอด และความใส่ใจจากฮันกยองให้นั่งเหงาอยู่เงียบๆ
“พี่ลีทึกครับ ฮีชอลได้ติดต่อมาบ้างรึเปล่า”เมื่อก้าวออกจากห้องครัวไปยังห้องนั่งเล่น ฮันกยองก็เจอลีทึกกับคังอินที่นั่งดูทีวีกันอยู่
“เห็นเมื่อคืนบอกว่าจะไปดื่มนิ...หมอนั่นไม่ได้บอกนายหรอ?”ลีทึกเอียงคอถามงงๆ เพราะทุกครั้งที่เขาหาฮีชอลไม่เจอ ฮันกยองจะเป็นคนเดียวที่รู้ว่าฮีชอลไปไหน
“เฮ้อ...ทำไมชอบทำตัวเป็นเด็กๆ ทำให้เป็นห่วงเนี้ย”ฮันกยองบ่นเบาๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นข้างๆโซฟา
พี่ครับ...
พี่เป็นห่วงเขามากเลยหรอ...
พี่เป็นห่วงเขาจนลืมใครบางคน...
ที่นั่งรอความรัก...ความอบอุ่น...ความห่วงใยจากพี่...
พี่ลืมไปแล้วหรอครับ...ว่ามีคนๆนี้...
รักพี่อยู่..
ซีวอนคนนี้...มันยังรักพี่อยู่...เต็มหัวใจ...
----------2 be continue----------
สำหรับเพื่อนๆพี่ๆที่เปิดเทอมแล้ว สู้ๆนะคะ
ไฟต์ติ้งค่ะ
ความคิดเห็น