คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตำราหน้าที่6 : สิ่งที่เราเรียกว่าโชคชะตา
ตำราหน้าที่6 : สิ่งที่เราเรียกว่าโชคชะตา
เสียงลมพัดเอาสายฝนและลูกเห็บหลายหมื่นหลายล้านลูกหล่นมาจากฟากฟ้า ในขณะที่ความมืดเข้าปกคลุมปราสาทสีขาวบาดตาในที่แห่งหนึ่งที่ไม่เคยต้อนรับใครต่อใคร ตัวปราสาทสีขาวแก้วสดใสเปล่งประกายออกเป็นแสงสว่างเจ็ดสีแห่งสายรุ้ง เมื่อมองมันราวกับเป็นบ้านเหล่าแฟรี่ในเทพนิยายปรัมปรา....แต่ทว่านี่คือเรื่องจริง....
‘ปราสาทเทวา’
นั่นคือชื่อเรียกปราสาทแห่งนี้ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน หรือถ้าเคยมนุษย์ผู้นั้นก็คงถูกริบชีวิตไปอย่างไม่มีหวนกลับ ด้วยอำนาจมนตราเทวาของ ‘กบฎ’ ที่คิดคดต่อราชา แต่ทว่าที่พวกเขาทำนั้นก็เพื่ออาณาจักรวองโกเล่....!
ปราสาทแห่งนี้ไม่มีปรากฏอยู่ในแผนที่โลก แต่ทว่ากลับถูกจารึกไว่ในหนังสือแห่งโชคชะตา ตำราต่างๆมากมายทั่วโลก ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งบริสุทธิ์และงดงาม ตั้งขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนที่อาณาจักรแห่งนี้จะเกิดขึ้นและเพราะมันงดงามนี่เอง ปราสาทเทวาจึงมักเป็นเป้าหมายอันโอชะของพวกมือแมวนอกกฎหมาย ทว่าคำสาปนั้น.... ไม่ปราณีใคร
คำสาปคือ.... ใครที่สูดอากาศบริเวณนั้นไปแม้แต่นิดเดียว... วิญญาณของท่านจะสลายกลายเป็นธุลีดิน
ยกเว้นแต่.. ผู้อาศัยและผู้ถูกเลือก........
“ฮ้าววววว! ง่วงจังเลย ใครก็ได้ช่วยเอามาชเมลโล่ตรงนั้นให้ทีดิ” ชายหนุ่มผู้มีนัยส์ตาสีเทาหม่นเอ่ยขึ้นขณะบิดขี้เกียจไปมาในห้องนอนสีขาวสะอาดตา แร่หินสีใสที่ใช้ประดับประดาในห้องยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์ไปอีก
“อ่ะ เบียกคุรัน นายควรออกกำลังกายบ้างนะ ช่วงนี้นายดูเหมือนตาลุงแก่ๆ ตามบาร์เน่าๆเลยว่ะ ฮ่ะๆๆ” ชายหนุ่มผมสีทอง ตาสีทองสดที่นั่งอ่านหนังสือเล่มใหญ่บนเพดานห้องกำลังห้อยหัวลงมาแซวพร้อมหัวเราะเอิ้กใหญ่ และปาถุงมาชเมลโล่ของชอบให้ชายหนุ่มที่นอนแอ้งแม้งบนเตียง
“ใจร้ายว่ะ แล้วนี่ดีโน่ เธอจะขึ้นไปทำไมบนนั้นน่ะ ลงมาเร็วเลย ฉันคุยไม่สะดวก” เบียกคุรันกวักมือเรียกอีกคนที่อยู่บนเพดาน ด้วยนิสัยพูดคล้ายผู้หญิงของเขาทำให้ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกโยนรองเท้าลงมาใส่หน้าเขา
“ชิส์ นายน่ะหน่อมแน้มเกินและ ไม่จำเป็นต้องเรียกชั้นว่าเธอหรอกเว้ย” ดีโน่ว่าก่อนจะกระโดดดึ๋งตึ๋งลงมาด้วยท่ายิมนาสติกเรียกพ่อ
“เอาเถอะๆ แป๊ปนะดีโน่ ขอคุยธุระกับน้องชายหน่อย” เบียกคุรันผายมือให้ดีโน่ออกไปจากห้องงนอน พลางหยิบอุปกรณ์บางอย่างที่มีหน้าจอคล้ายๆ โทรศัพท์แต่ใหญ่กว่าขึ้นมากดปุ่มบางอย่าง ในโลกใบนี้มีเจ้านี่เครื่องเดียวในโลก เจ้าน้องชายโคตรอัจฉริยะของเขาทำขึ้นมาเองโดยเฉพาะ
ตื้ดดดด ตื้ดดดดด
“ฮาโหล” ปลายสายกรอกเสียงงัวเงียของเจ้าตัวเต็มที่ หน้าจอเครื่องทำงานทำให้เห็นหน้าของชายหนุ่มคนนั้นชัดเจน...
อิริเอะ โชอิจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีของวองโกเล่!!
“เพิ่งตื่นเหรอโชจัง นี่มันปาไปตั้งสิบโมงแล้วนา” เบียคุรันหันหน้าจอเข้ากับหน้าของตัวเอง ชายหนุ่มที่เขาเรียกว่าโชจังสะดุ้งด้วยความตกใจ
“พรวด!! สิบโมงเหรอ ให้ตายสิทำไมพี่ไม่บอกผมแต่แรกเล่าครับ ว้ากกกก! วันนี้มีนัดประชุมใหญ่ หลานขององค์ราชาเพิ่งกลับมาจากอีกทวีป เมื่อคืนก็นอนซะตีสองเข้าไปแล้ว ยัยพวกเชลแบคโรลตื๊อผมทั้งคืน! พี่ไม่รู้หรอกว่าที่นี่มันน่าเบื่อแค่ไหน ต้องทนออกงานสังคมทุกวี่ทุกวัน! แถมพวกผู้หญิงพวกนั้นก็น่ารำคาญมหาประลัย พี่จะให้ผมมาเป็นสายลับให้ก็ช่วยห่วงน้องชายคนเดียวด้วยสิครับ!!!” โชอิจิด่าพี่ชายต่างมารดาของตัวเองรัวขณะใส่เสื้อคลุมสีขาวสะอาดมาดคุณชาย แว่นที่ใส่นั้นกระดกเล็กน้อย เขาหยิบกาแฟที่พวกผู้หญิงทิ้งไว้เมื่อคืนมากระดกใส่ปากหลายอึก น้ำเนิ้มไม่ต้องอาบมันแล้วโว้ย!!!
“อะ อ้าว ฉันก็เพิ่งตื่นเมื่อกี๊เองไอ้น้อง^0^”
“ให้ตายสิ! นี่ถ้าเกิดว่าผมไม่เก่งจริงผมคงไม่ได้ทำงานในตำแหน่งใหญ่บิ๊กขนาดนี้หรอกนะ พี่ควรจะให้รางวัลผมเล็กๆน้อยๆบ้าง เช้อออออ” โชอิจิทำปากบู้ใส่ ก่อนจะปัดผมสีแสดปนน้ำตาลนั่นให้เข้าทรง
“ไม่ต้องเลยไอ้แว่น ฉันอิจฉาเธอจะตายที่มีมันสมองเก่งขนาดนั้น มีน้องอัจฉริยะนี่มันสบายจริงๆ ฮ่าๆๆๆ”
“แต่พี่ก็เก่งนะครับ พี่น่ะเป็นนักเวทย์จริงๆ ไม่เหมือนผมที่มีพลังนั้นแค่เสี้ยวเดียว” โชอิจิว่าขณะใส่รองเท้าและเดินออกไปจากห้อง เขาโยนเครื่องติดต่อสื่อสารของเขากับผู้เป็นพี่ไว้บนเตียงสีขาวสะอาดแต่เต็มไปด้วยกระดาษงานวิจัยสารพัด
ตื้ด ตื้ด ตึ้ด......
“ว้า...วางไปซะแล้ว” เบียคุรันถอนหายใจขณะถอดเสื้อนอกของตัวเองออกเผยให้เห็นซิกส์แพกบางๆ กับผิวที่ขาวละเอียดราวกับว่าไม่ใช่ผู้ชาย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกมาที่ริมหน้าต่างที่ ‘เปิด’ อยู่
“อากาศร้อน.... สงสัยต้องเปิดหน้าต่างซะแล้ว” มือเรียวของเขาสัมผัสกับหน้าต่างเบาๆ หน้าต่างที่ปกติต้องดึงขึ้นถึงจะเรียกว่า ‘เปิด’ แต่ทว่าชายผู้นี้กำลัง ‘ปิด’
เขาดึงหน้าต่างที่เปิดเห็นวิวทัวทัศน์สวยงามลง ลมที่โชยเย็นมากลับมีกลิ่นคาวเลือด...
เมื่อปิดหน้าต่าง วิวด้านนอกกลับเปลี่ยนไปราวกับอยู่คนละโลก น้ำพุสีขาวใสสะอาดกลับเป็นสีแดงฉาน ต้นไม้เขียวขจีกลับกลายเป็นซากไม้ที่ขาดน้ำและเน่าไปจนถึงราก รูปปั้นสุนัขสีขาวสง่าที่ตั้งตระหง่านกลับกลายเป็นสุนัขจริงๆ กำลังเห่าหอนกรรโชก ที่ริมฝีปากของมันมีเลือดสดติดอยู่ราวกับอีแร้งที่ดักกินซากศพ ก้อนหินที่เป็นสีขาวเช่นกันกลับเปลี่ยนผันไปเป็น...
หัวกะโหลก.....
สวนนี้เป็นสภาพสวนที่แท้จริงของปราสาทเทวา มีไม่กี่คนที่เห็นมัน
‘สวนวิปโยค’
ผู้ดูแลสวน ชายผู้เดียวที่หยุดโทสะของทุกสรรพสิ่งในนั้น จิตใจที่แผ่กว้างราวกับแผ่นพิภพที่โอบล้อมสิ่งมีชีวิต มนุษย์เพียงคนเดียวที่สุนัขสีขาวนั้นไม่คิดทำร้ายเขารองมาจากเบียคุรัน....
บาจิล ชายผู้นั้นชื่อบาจิล.....
---------
ณ โรงพักของสึนะ
“ว้ากกกกกกกกกกกกกก!!!! กรี้ดกร้าดดดด นี่มันอะไรกัน นายเป็นครายยยยย? TAT”
สึนะกระโดดดึ๋งลงมาจะเตียงนอนด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ๆ เช้าตรู่ก็มีตุ๊กตาพูดได้ขึ้นมานอนกับเขาบนเตียง ทว่าหัวเขาก็ปวดแปล๊บๆ
“อะ..โอ้ย! นะ”
“
”
“นายคือ... รี....บอร์น ใช่มั้ย” สึนะชี้หน้ารีบอร์นที่นั่งอยู่บนหมอนของเขางงๆ ทำไมกันนะ ความทรงจำเหล่านี้มันผุดขึ้นมาในหัวอย่างประหลาด ความแค้นนี่มันมาจากไหนกัน
“ใช่จริงๆด้วย เมื่อคืนตอนที่ถ่ายทอดพลังพวกนั้นพรีโม่ได้ถ่ายทอดความทรงจำเล็กๆน้อยของเขาติดมาให้นายได้ใช้จริงๆ” รีบอร์นพูดขณะหยิบปืนขึ้นมาขัด
“หมายความว่าไง!? ถ่ายทอดอะไรของนายน่ะ ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง เจ้าตุ๊กตาคำสาปอย่างนายน่ะไม่ต้องมาสนฉันเลย อยากแก้แค้นก็ไปทำกันเองเซ่ พวกราชวงศ์ก็อยู่ใกล้ๆ อ้ะ....”
สึนะปิดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าพูดอะไรออกมา ความทรงจำต่างๆ ที่เขาไม่เคยได้ทำแบบนั้นมาทั้งชีวิตหลั่งไหลราวกับก๊อกแตกเข้ามาในสมอง
มันไม่ใช่ความทรงจำของเขา....
‘อ้ากกกกกกกกกกกกกก!’
‘หึหึหึหึหึ บัลลังค์นี้ยังไงมันก็ต้องเป็นของข้า หลังจากที่ข้าได้อาบแสงแห่งวงแหวนเวทย์นี่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถแม้แต่จะต้องตัวของข้า’
‘ไม่! อึก.... นี่มันไม่ถูกต้อง.... โนโน่ เจ้าจะขึ้นเป็นองค์ราชาต่อจากริคคาโด้ไม่ได้ นายฆ่าเขา แผ่นดินนี้จะร้อนเป็นไฟหากเจ้าขึ้นครองราชย์ เรา อึก....อัก!’
‘อุวะฮ่าๆๆๆๆ เลือดกบปากเลยนี่หว่าท่านพรีโม่! อ้าวๆ ไหนแสดงพลังของนักเวทย์แห่งเพลิงในตำนานให้ข้าดูเป็นขวัญตาหน่อยซิ ฮ่าๆๆๆๆ’
‘อ้ะ...อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก’
“เฮือก!!”
สึนะหยิกเนื้อตัวเองว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ มันก็แค่เขาคิดไปเองก็เท่านั้นน่ะแหละ มันไม่มีวันเป็นไปได้ เจ้าคนที่หน้าเหมือนเขาที่นอนจมกองเลือดอยู่นั้นก็เหมือนกัน ชายหนุ่มที่เค้าหน้าคล้ายคลึงกับราชานั่นก็เหมือนกัน ทุกอย่างมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันคือโชคชะตาฟ้าลิขิต” รีบอร์นยิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนจะใช้มือเล็กนั่นแตะที่หัวของเด็กหนุ่มเบาๆ
“ทำ...ทำไมฉันถึงได้รู้เรื่องของนาย ฉันรับรู้ได้ว่านายชื่อรีบอร์น ตุ๊กตาคำสาปสุดแกร่ง และฉันก็เห็น ฉันก็เห็น...”
“เห็นอะไรสึนะ เห็นอะไร?”
“เห็นชายคนหนึ่ง... จิตใต้สำนึกมันบ่งบอกได้ มันเรียกร้องเสมอ มันทำให้ฉันกระวนกระวาย”
“หึ..”
“ผืนดินนั่นลุกเป็นไฟสีแดงสด ในตอนนั้นแสงสว่างไม่มีแม้แต่นิด ความมืดเข้าปกคลุมทั่วบริเวณนั้น สายลมมันพัดอย่างเกรี้ยวกราด มันน่ากลัวเหลือเกิน ... ไม่พอนะ น้ำทะเลมันก็ซัดไปมาราวกับจะกลืนกินแผ่นดินทั้งทวีปไปได้เลย ฉันได้ยิน ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กเล็ก ของประชาชนทุกคน ความรู้สึกประหลาดนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนเที่ยงคืนของเมื่อคืนราวกับว่าฉันไปอยู่ในวงล้อมของมัน!”
“นายรู้สึกเชื่อใจฉันอย่างประหลาดด้วยใช่มั้ยล่ะ?”
“ใช่.... ฉันรู้สึกว่า มันคือสิ่งที่เหนือมนุษย์เกินไปแล้ว ฉัน” สึนะกุมขมับ พยายามเอ่ยสิ่งที่ตัวเองเห็นและรู้สึกออกมาจากริมฝีปากอย่างยากลำบาก....
“สุดท้าย.... ฉันรู้สึกว่าคนที่ชื่อพรีโม่ กับฉัน... คือคนๆเดียวกัน..”
“ใช่...” รีบอร์นหัวเราะเบาๆ ในลำคอ หึๆ หนีไม่พ้นกันเลยจริงๆ เด็กหนุ่มคนนี้มีบางอย่างประหลาดไปจากนักเวทย์ในตำนานคนอื่นๆ เขามองเห็นได้มากกว่า ชัดกว่า และทั้งได้รับทั้งความรู้สึกและสัมผัสเหล่านั้นมาด้วยตัวเองได้ จะว่าเขา ‘กระจอก’ ก็คงไม่ได้สินะ
“สึนะโยชิ นายคือหนึ่งภาคอวตารของพรีโม่ หรือเรียกได้ว่านายเป็นเศษเสี้ยววิญญาณของเขาในโลกนี้ นายเกิดมาจากการตายของพรีโม่ และดำรงชีวิต เกิดขึ้นมาได้โดย ‘โลหิต’ ของเขา”
“....”
“สมควรที่นายจะต้องตกใจ แต่นายต้องรับรุ้เอาไว้หนึ่งอย่าง เมื่อนายได้รับการถ่ายทอดพลังเวทย์แห่งเพลิงนี้แล้วนั้น นายจะต้องตกสู่หลุมแห่งการแก้แค้นตลอดกาล”
“ฉัน...ฉันไม่เข้าใจ ฉันละทิ้งชีวิตแบบเดิมๆ ไปไม่ได้ รีบอร์น ฉันไม่มีทางรับการเป็นนักเวทย์ในตำนานอะไรนั่นหรอก”
“ไม่ทันแล้วสึนะ มันเรื่มตั้งแต่นายถือกำเนิดมาจากเลือดของพรีโม่แล้วล่ะ” รีบอร์นทอดมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อไม่ให้เด็กหนุ่มเห็นแววตาเศร้าของเจ้าตุ๊กตาอย่างเขา ความหลังของเขามีมากมายจนไม่อาจจำได้หมด การถูกสาปโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ก็เหมือนกัน สึนะก็คงคิดแบบนี้สินะ
“อาจจะใช้เวลาสักสองสามวันกว่านายจะได้รับความทรงจำของพรีโม่ทั้งหมด ถึงตอนนั้นกงล้อแห่งโชคชะตาจะหมุนเวียนครบรอบหนึ่งร้อยปี และจะหมุนเวียนใหม่อีกครั้งเมื่อเดธพริ้นซ์อย่างนายตื่นขึ้น”
“ฉัน...ฉัน” สึนะลังเลใจ เขาหันไปมาลุกลี้ลุกลนในห้องนอนเล็กๆนั้น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ความทรงจำที่มีอยู่ของพรีโม่ไหลเข้าสู่สมองนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่ปรากฎบนสมองของสึนะยังคงพูดกับเขาเดิมๆ ใบหน้านั้นที่เขาทอดมองไปราวกับเหมือนส่องตัวเองในกระจกใบใหญ่ที่สะท้อนตัวของสึนะกลับมา ในความทรงจำนั้นสึนะเห็นไฟที่ลุกโชติช่วงอยู่ที่ศรีษะของพรีโม่ไม่หยุด และไฟพวกนั้นก็กำลังจุดติดที่หัวของเขาเหมือนกัน....
‘แก้แค้น แก้แค้น แก้แค้น แก้แค้น แก้แค้น แก้แค้น’
‘สิ่งที่เป็นของพรีโม่ก็ต้องเอาคืนมา สิ่งที่เป็นของพรีโม่ก็ต้องเอาคืนมา’
ในขณะที่สึนะหยุดนิ่งอยู่กับความทรงจำเหล่านั้น ร่างเล็กที่ลับกระบอกปืนอยู่กลับแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงใส
“นี่แหละมั้ง สิ่งที่เราเรียกว่า.... โชคชะตา”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น