คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตำราหน้าที่3 : เเสงเเดดเเละผืนดิน
ตำราหน้าที่3 : แสงแดดและผืนดิน..
‘....แสง.... เวทย์ที่เกิดขึ้นหลังเวทย์ทั้งปวง เปรียบเสมือนเป็นเวทย์แห่งความดีงามของมนุษย์โลก....เวทย์แห่งแสงมีหน้าที่ปกปักรักษาผู้อื่นให้พ้นภัยดุจดั่งแสงสว่างอันเจิดจ้าแห่งสุริยันยามเช้า....และอบอุ่นดุจจันทร์ฉายยามค่ำคืน... พลังส่วนใหญ่ของเวทย์นี้คือการรักษา.... ดูแลผู้เจ็บไข้จากสงครามหรือจิตใจ แม้เวลาจะผันผ่านไปนานเพียงใด..เวทย์แห่งแสงก็ยังถูกตราตรึงว่าเป็นเวทย์ชั้นสูงในตำราชั้นหนึ่งแห่งเมืองนี้... ผู้ใช้เวทย์แห่งแสงจะถูกยกย่องให้เป็นเวทย์ที่สูงส่งที่สุด ดีที่สุด และได้รับเกียรติมากที่สุด.......แต่ทว่านักเวทย์แห่งแสงในตำนานนั้น....เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา....ที่ต้องแบกรับทุกสิ่งเอาไว้...... เธอคือ ดานิเอล่า หรือ อ๊อคตาโว่’
“คุณหนู้ค๊า!!!!! ยะ อย่าไปเล่นแถวๆนั้นสิคะ โอ้ยเหนื่อยวุ้ย!” เสียงเล็กๆของหญิงสาววัยสิบเก้าย่างยี่สิบปีที่ต้องตื่นมาตอนเที่ยงคืนกว่าๆ เพื่อมาตามหา ‘คุณหนู’ ของเธอที่เล่นหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่ยอมนอน เธอเป็นเด็กหญิงกำพร้าที่ถูกเจ้าของคฤหาสน์เก็บมาเลี้ยงและให้ดูแลเด็กชายวัยใกล้เคียงที่นิสัยไม่ใกล้กันแม้แต่น้อย!
ชื่อของหญิงสาวคือ...’โคลม โดคุโร่’
ชื่อของคุณหนูคือ...’โจชิมะ เคน!’ (ตรูคิดได้ไงว่าให้มันเป็นคุณหนูวะ -*-)
“แง่ง!! กรร... อย่าเข้ามานะเฟ้ย!!”
โจชิมะ เคน ขู่ในท่าหมาแยกเขี้ยวออกเป็นสองซีก ที่เขานิสัยเหมือนหมานื่ไม่ใช่เพราะอะไร! เพราะว่าตอนเด็กๆ เขาเคยถูกหมาป่าขโมยเอาไปเลี้ยงจนเติบโตและนำกลับมายังคฤหาสน์ตระกูลโจชิมะ ตระกูลนักธรุกิจชื่อดังคับฟ้าที่นี่!
\
ก็คงเป็นประมาณวรรณกรรมเรื่องเมาคลีเทือกๆนั้นน่ะนะ ---
“โธ่คุณหนู! แถวนี้น่ะไม่มีหมูป่าให้ล่าหรอกนะคะ กลับเข้าบ้านเถอะค่า T-T”
โคลมกล่อมด้วยน้ำเสียงแทบตายอดตายอยาก ตั้งแต่เด็กที่เธอต้องดูแลไอ้เด็กบ้าที่อายุน้อยกว่าเธอตั้งสามปีเหมือนพี่สาวติดน้องชายตลอดเวลา แถมวันดีคืนดีมันยังจะเอาหมูป่าที่มันไปล่ามาในวิธีสัตว์ๆบ้าๆบอๆของมันมาให้กินอีก
โอว....รักกันดีจริงนะ -_-
“เงียบไปยัยสัปปะรด! นี่ตอนที่ฉันอยู่ในฝูงน่ะคุณอาบากูตู้น่ะชอบกินสัปปะรดมากเลย เห็นเธอแล้วอยากเอาไปฝากเขาจังเล้ย!!!”
อาบากูตู้ = จ่าฝูงหมาป่าของมัน - -*
“ลูเช่.... เธอดูโตขึ้นตั้งเยอะเลยเนอะ..” หญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งพูดดังขึ้นมาจากท้องฟ้า ที่แก้มข้างหนึ่งมีรอยสักสีแดงสดรูปดอกซากุระ ยิ่งทำให้เธอดูน่ามองไปอีก
“ฮ่าๆ นั่นสิคะท่านดานิเอล่า แต่เธอดูไม่เหมือนคุณเท่าไรเลยนะ” ตุ๊กตาหญิงเพียงตัวเดียวในหมู่ตุ๊กตาต้องคำสาปเอ่ยขึ้น ใบหน้าของเธอน่ารักเหมือนนางฟ้า ยิ่งเธอมักมีรอยยิ้มแสนสวยแต่งแต้มบใบหน้าอย่างนั้นยิ่งทำให้หน้ามองยิ่งขึ้น
นั่นมันสมัยตอนที่เธอเป็น ราชินี ของราชายุคแรก ‘ราชาแห่งสัจธรรม ริคคาโด้’
ก่อนที่ราชวงศ์ของเขาจะล้มสลายโดยน้ำมือของราชาองค์ปัจจุบัน.... เจ้าตุ๊กตาตัวน้อยนี้มาเพื่อแก้แค้นแทนชายที่เธอรัก.......
และคนที่เธอรักนั่นแหละที่ฆ่าเธอเพราะถูกวงแหวนเวทย์ครอบงำจิตใจ จากคนดีกลายเป็นคนชั่ว......
องค์ราชา ริคคาโด้ ‘ผู้ก่อตั้งอาณาจักรวองเล่พร้อมกับเหล่านักเวทย์ในตำนาน’
“ไม่เป็นไรนะ ลูเช่?’’ ดานิเอล่าถามขึ้นเมื่อเจ้าตุ๊กตาคลายรอยยิ้มลง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะท่านนักเวทย์แห่งแสงในตำนาน ข้าไม่เป็นไร”
ถึงตอบอย่างนั้น.... แต่แววตาของเธอเศร้าเหลือเกิน......
“องค์ราชินีคนปัจจุบันจะแสนดีเช่นท่านรึเปล่านะ?” ดานิเอล่าอุ้มลูเช่เอาไว้แนบอก สายตาของหญิงสาวทอดไกลออกไปถึงราชวังของเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่พำนักกันอย่างสุขสบาย...
“รีบมอบพลังเถอะท่านเดนิเอล่า เดี๋ยวจะรุ่งสางเสียก่อน” เจ้าตุ๊กตาซุกหน้าลงบนเสื้อคลุมของเดนิเอ
ล่า ซ่อนใบหน้าแสนเศร้าไว้ในนั้น...
“ได้สิ... ในนามของเรา เดนิเอล่า ผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงแห่งแสงสว่างทั้งจักรวาล บัดนี้เราของมอบพลังของเราให้แก่โลหิตของเรา..... เพื่อการแก้แค้น.... คนที่ทำให้พวกเราต้องหลั่งน้ำตา...”
“
..”
“ปลดลิมิตพลัง”
เมื่อดานิเอล่ากล่าวจบ น่าแปลกที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว.......
หมายถึงบนโลกน่ะนะ....
บนจักรวาลอันกว้างใหญ่ เมื่อหญิงสาวหลับตาลงก็พบกับกลุ่มดาวหลายหลายล้านดวงเต้นระบำบนอวกาศ ทางช้างเผือกแสนสวยเปล่งสีเป็นประกาย กลุ่มดาวลูกไก่พากันหัวเราะอย่างยินดีเมื่อเอ่ยถึงการแก้แค้นแห่งนักเวทย์แสง ดาวหางฮาเล่ย์กระหวัดกระเหวี่ยงไปมาเหมือนกับการเริงระบำ.....
ปลดปล่อยพลังอย่างสงบ..... คือการปลดปล่อยที่ถูกต้องกุลสตรี..
“โฮววว คุณหนูขา ได้โปรดกลับเข้าบ้านของเราเถอะค่า ดิฉันเหนื่อยแล้วก็ง่วงแล้วนะคะ!”
โคลมว่าเข้า ทำให้เจ้าสัตว์เคนหน้าหงอยเป็ยพัลวัน
“กะ...ก็พอถึงรุ่งสาง.... ปะเป็นวันที่พ่อของฉันพบเธอ เป็นวันเกิดของเธอนี่นา ฉันก็แค่อยากเซอร์ไพรส์โดยการแฮปปี้เบิร์ดเดย์เธอเป็นคนแรก ธะ...เธอตะคอกใส่ฉันอ่ะ...หงิง..”
“โธ่เอ๋ย! นึกว่าอะไร”
เขาอยู่ด้วยกันมา เขาทั้งสองคนจึงรักกันเหมือนพี่เหมือนน้องยิ่งกว่าพี่แท้ๆ ของโจชิมะ เคนซะอีก!
ชายที่เอาแต่เงียบขรึมและเกลียดผู้เป็นพ่อถึงกับเปลี่ยนนามสกุลใหม่!
คาคิโมโตะ จิคุสะ....
“เคน.... เข้าบ้านไปกับพี่เถอะ มันดึกแล้ว...”
เสียงอันแผ่วเบาของใครบางคนเอ่ยขึ้นในยามดึกสงัด... หญิงสาวหันไปกลับพบเพียงชายหนุ่มผู้มีนัยส์ตาว่างเปล่าราวกับไร้ชีวิตแตกต่างจากผู้เป็นน้องซึ่งมีแววตามุทะลุดุจสุนัขล่าเนื้อ
“โคลม.... เธอทำได้ดีแล้ว เข้าบ้านไปเถอะ....”
“คะ...ค่ะคุณชายใหญ่”
น้ำเสียงโทนโดดเดี่ยวนั่นทำให้หญิงสาวหายใจติดขัดด้วยความตกใจ จิคุสะ หรือคุณชายใหญ่ที่เธอเรียกนั้นอายุมากกว่าเธอสองปี เป็นพี่ชายสุดขรึมของเคน การนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูด ส่วนมากเขาจะพูดกับคนสนิทเท่านั้น การเงียบทั้งวันโดยไม่พูดอะไรสักคำคือความสามารถพิเศษ
อา....เขาใส่แว่นด้วย...
“ขะ...ขอประทานอภัยที่ทำให้ตื่นในยามวิกาลเช่นนี้นะคะ คราวหน้าดิฉันจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้นอีกค่ะ”
หญิงสาวรีบก้มหัวให้เขาสองสามทีก่อนจะลากคุณหนูของเธอที่เริ่มจะเบะ (ร้องไห้นะจ๊ะ)ออกไปด้วยความกลัว คุณชายใหญ่ก็โหดใช่เล่น เขาเคยสั่งฆ่าคนใช้ที่ล้างจานส่วนตัวของเขาไม่สะอาดด้วย บรื๋อออออ
“เดี๋ยว.....”
“ค่ะ...คะคุณชายใหญ่?”
คุณชายจิคุสะชะงักไปนิดหน่อยก่อนเอ่ยเสียงเรียบ....
“.....เธอลืมรูดซิปกางเกงนอนน่ะ... เห็นหมดเลย..”
“ว้าย!!!”
‘
..เวทย์แห่งผืนดิน.... พลังเวทย์แห่งความบาดหมางและโหดเหี้ยมดุจดั่งรอยแยกแห่งผืนดิน และความร้ายกาจของปรากฎการณ์ธรรมชาติต่างๆ นักเวทย์แห่งผืนดินเป็นประเภทที่กระจอกงอกง่อยแทบทุกคน.... ต้องมีคนมากระตุ้นถึงจะใช้พลังของตัวเองได้ เฉื่อยชาสุดๆ ทว่าแม้ว่าพวกเขาจะมีนิสัยแบบนั้นก็ยังมีพลังเวทย์ที่ควบคุมธรรมชาติทางธรณีได้อย่างอิสระเสรี จึงถือเป็นเวทย์ที่ ‘ซ่อน’ ความรุนแรงไว้มากนัก...เช่นเดียวกับนักเวทย์แห่งผืนดินในตำนาน ‘ชิม่อน โคซาร์ท’ ต้นตระกุลแห่งราอาณาจักรชิม่อนอันรุ่งโรจน์ผู้มีรอยยยิ้มแสนดีตามระเบียบสุภาพบุรุษ ทว่าเขากลับหนีออกจากเมืองชิม่อนของตนเองเพื่อมาอยู่กับเหล่านักเวทย์ในตำนานคนอื่นๆ และหายตัวไปอย่างลึกลับ.......ถึงร้อยปี ก็ยังไม่มีใครเห็นแม้แต่ ‘วิญญาณ’ หรือร่างของเขาเลย....’
“องค์ชายเอ็นมะ! องค์ชายขอรับ รอกระผมก่อนขอรับ” เสียงออกแนวแบดบอยสุดๆของชายคนหนึ่งดังขึ้นหลังจากเห็นเจ้านายของตนเองเดินดุ่มๆ ออกจากวังของตนเอง
“หมายความว่าไงจูรี่ย์? ที่ฉันไม่ใช่ลูกจริงๆ ของท่านพ่อ?” เด็กหนุ่มถามย้ำด้วยน้ำเสียงชอกช้ำใจ เขาคือเจ้าชายที่ไม่มีใครรักมาตั้งแต่ต้น ท่านแม่ก็ทำท่าเหมือนเกลียดเขาตั้งแต่จำความได้ ที่แท้เขาก็เป็นลูกกาฝากรึนี่?
“อะ...เอ่อ...องค์ชายขอรับ กระผม
”
“ทุกคนในวังหลอกฉัน!!!! หลอกลวงฉันมาตลอดเวลา! ที่แท้ฉันมันก็ไม่ต่างจากเด็กข้างถนนสินะ ไม่มีใครรักฉันมาตั้งนานแล้วสินะ!!!” เอ็นมะตะโกนเสียงดัง แต่ทว่าวังของเขาอยู่ไกลไม่ใช่น้อยจึงมีน้อยคนนักที่จะได้ยินเสียงนี้
“หึ.... ที่แท้ฉันมันก็เด็กกำพร้า ที่ท่านพ่อไม่เคยให้ฉันออกนามว่าเป็นองค์ชายจริงๆ ก็เพราะงี้สินะ....”
“ไม่เอาน่าขอรับองค์ชาย อย่างน้อยองค์หญิงอเดลไฮท์ก็ยังเป็นคนที่รักท่านนะขอรับ”
เมื่อเจ้าชายเริ่มอารมณ์ขุ่น จูรี่ย์ผู้เป็นพี่เลี้ยงตั้งแต่เด็กยังโตเป็นควายจึงยกเอาพี่สาวของเขามาอ้าง
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ! ฉันทนอยู่ในวังที่มีแต่คนหลอกลวงอย่างนั้นไม่ไหวหรอกนะ!!”
“ถ้าไม่อยู่ในวังจะไปอยู่ไหนล่ะขอรับ -*-“
“อย่าถามกวนจะได้ไหม!?’’
เอ็นมะปัดกระถางต้นไม้จนแตกด้วยความโกรธ นัยส์ตาสีแดงสดฉายแววไม่พอใจ เขาเสียใจกับเรื่องนี้มากเลย มากจนตัวเขาเองยังตกใจ...
“นายน่ะ...จะตามไปกับชั้นรึเปล่า...”
“ปะ..ไปไหนขอรับองค์ชาย”
“
.”
“
.”
“สหราชอาณาจักร... วองโกเล่ยังไงกันล่ะ..”
“หา!?’’
“โอ้.... หนีออกจากบ้าน คลับคล้ายคลับคลาว่ามีคนทำแบบนี้เมื่อร้อยปีก่อนนะเนี่ย..”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ เด็กๆนี่ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดเลยนะ ^^” โคซาร์ทที่ลอยต่องแต่งอยู่พูดกับตุ๊กตาตัวน้อยที่เขาเอาใส่กระเป๋าสะพายมาด้วย
“โลหิตของท่านนี่เหมือนกับท่านจริงๆ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ชิม่อน โคซาร์ทชัดๆเลยนะ”
“นั่นดิ ฮ่ะฮ่ะๆๆๆ ^0^”
“นี่เที่ยงคืนกว่าแล้วนา.... ท่านคิดจะมอบพลังให้เขาตอนไหนล่ะ”
“ตีสี่ค่อยมอบก็ได้ กลัวอะไร ^^”
“ผมไม่ว่างมาคุยเล่นกับท่านจนถึงตีสี่นะ ผมต้องไปวิจัยงานของผมต่อเหมือนกัน”
“เอาจริงๆนะ ฉันขี้เกียจอ่ะ แฮ่ๆๆ ^^” โคซาร์ทเริ่มเอนตัวลงนอนบนท้องฟ้าในขณะที่ลอยแต่งอยู่
“ชิม่อน โคซาร์ท!!!!” ตุ๊กตานักวิจัยถีบหัวโคซาร์ทแรง ก่อนด่าไม่ยั้ง
“นายนี่มันขี้เกียจตัวเป็นขน! ก็เข้าใจนะว่ามันเป็นพิสัยของนักเวทย์ธาตุดิน แต่นี่นายไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกินไปเว้ยไอ้กร้วก! เวลาทุกนาทีของผมมีค่านะ!! ผมยังเหลืองานวิจัยอีกไม่รู้เท่าไร!และยังต้องแก้คำสาปตุ๊กตามหาประลัยนี่อีก! ผมน่ะไม่ได้ตายแล้วแบบคุณนะเว้ย!!!”
คำว่า...’ตาย’ กระตุกต่อมของโคซาร์ท...
แม้ว่าจะตายไปแล้ว แต่เขาก็ยังรักอาณาจักรแห่งนี้ไม่เปลี่ยนไป...
อยากจะกลับมาอีกครั้ง.... อยากกลับไปกอดบิดาและมารดาผู้สูงศักดิ์.....
แต่ทว่า..... เขากลายเป็นวิญญาณแล้ว...
“นั่นสินะ..... เพราะเราตายแล้ว..” โคซาร์ทค่อยๆ ยันตัวขึ้นช้าๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับตุ๊กตา
“ขอบคุณนะเวลเด้..... ถ้านายไม่บอกฉันคงคิดว่าตัวเอง... ยังมีชีวิตอยู่......”
“อืม... ขอโทษด้วยนะที่ว่านายไป” ตุ๊กตาเวลเด้ตบหัวชายหนุ่มเบาๆ
“เอาล่ะ ฉันจะเริ่มแล้วนะ...”
“
.”
“ตื่นขึ้นมาเถอะ.... ธรณี...”
ชิม่อน โคซาร์ทไม่พูดอะไรต่อจากนั้น เขาไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ทว่าน้ำตาที่เก็บเอาไว้กลับหลั่งออกมารดแขน เหมือนกับว่าการสืบทอดนี้ต้องใช้ ‘น้ำตา’ แทนบทสวดกันแน่?
“กะ...เกิดอะไรขึ้นจูรี่ย์ ทะ...ทำไมฉัน...”
เอ็นมะตกใจจับมือขององครักษ์ตัวเองไว้แน่น เมื่อพื้นธรณีรอบข้างเขาเริ่มแตกออกและนูนสูงขึ้น เพลิงไฟสีน้ำตาลอ่อนรายล้อมร่างกายของเขาราวกับต้องการปกป้องผู้เป็นที่รักของเจ้านาย.....กลิ่นคละคลุ้งของละอองดินทำให้ชายหนุ่มหายใจติดขัดราวกับจะสิ้นลมเอาตรงนั้น....
“เฮ้โคซาร์ท... คุณปลดปล่อยให้เด็กคนนั้นโต้งๆ เลยเรอะ ทำไมไม่ให้พลังของเขาออกไปอาละวาดไกลๆ เหมือนกับนักเวทย์ในตำนานคนอื่นๆ” เวลเด้ตกใจ มิฉะนั้นเอ็นมะอาจจะตายได้เลยถ้าได้รับพลังอันยิ่งใหญ่นั้นมากไป!
“นั่นแหละ.... เขาต้องได้รับความเจ็บปวด เพื่อเตรียมพร้อมกับสิ่งนั้น....”
“โค...ซาร์ท”
“...ธรณีน่ะ...... ต้องแบกรับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ ทั้งความสุข ความทุกข์.... เสียงหัวเราะ... เสียงร้องไห้ มันคือหน้าที่ของเราผู้เป็นนักเวทย์แห่งดิน.... จงรับรู้ไว้ซะเถอะนะ...”
“อะ..อ้ากกกกกกกกกกก!!!!!!”
พลังแห่งผืนดิน..... ถ่ายทอดเสร็จสิ้น...
ความคิดเห็น