ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่น้อง 5 ธาตุ ภาค 1

    ลำดับตอนที่ #9 : ยินดีที่ได้รู้จัก

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 53


    ตอนที่ 9

         พิมลรัตน์และบงกชก็เดินเข้าบ้าน  โดยที่ป้าแจงมีหน้าที่เปิดและปิดประตูบ้านเท่านั้น  พิมลรัตน์ถือขนมเปียกปูนอยู่  เพื่อเอาไปฝากป้าแจงโดยเฉพาะ

        พิมลรัตน์  :  (ยกมือไหว้ป้าแจง)  "สวัสดีฮะป้าแจง"

        ป้าแจง  :  "สวัสดีค่ะนู๋รัตน์  เป็นไงบ้างคะ?"

        พิมลรัตน์  :  "สบายดีสิฮะป้า  (เอาขนมเปียกปูนให้ป้าแจง)  ป้าฮะ  นู๋ซื้อขนมมาให้ป้าแล้วฮะ"

        ป้าแจง  :  (รับของจากมือพิมลรัตน์)  "ขอบใจจ้านู๋รัตน์  วันนี้นู๋รัตน์ของป้าน่ารักที่สุดเลย"  แต่ในระหว่างที่คุยกันนั้น  รถของสิริภรณ์ขับมาถึงบ้าน  และลงจากรถ

        พิมลรัตน์  :  "แน่นอนอยู่แล้วฮะป้า  ไม่เหมือนใครบางคนหรอกนะ  (มองไปที่สิริภรณ์ที่กำลังเดินไปถึงยกมือหยิบถอดรองเท้าส้นสูงของเธอ)  สวยก็สวย  แต่ไม่เคยซื้อขนมมาให้กับคนในบ้านเล๊ย"  พิมลรัตน์พูดเสร็จ  ทำให้สิริภรณ์มองไปที่พิมลรัตน์ด้วยสีหน้าโมโห

     

        สิริภรณ์  :  "นี่!  พี่รัตน์  ตกลงพี่ว่าใครไม่ทราบฮะ?"  สิริภรณ์พูดเสียงแหลมใส่พิมลรัตน์

        พิมลรัตน์  :  (เดินเข้าไปหาสิริภรณ์)  "ก็ฉันว่าคนแถวนี้  ไม่ใช่เธอสักหน่อย"  พิมลรัตน์พูดกับสิริภรณ์อย่างไม่รู้ไม่ชี้

        สิริภรณ์  :  "คนไหน  ยังไง  อย่าบอกนะว่าพี่ว่าฉัน"

        พิมลรัตน์  :  "ทำไมล่ะ?  ทำไมฉันจะว่าไม่ได้ฮะ?"  พิมลรัตน์พูดกับสิริภรณ์อย่างไม่กลัวใคร  ทำให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน  แต่บงกชก็เดินเข้าไปห้ามทั้งพิมลรัตน์และสิริภรณ์ซะก่อน

        บงกช  :  "พอๆกันที  มาถึงบ้านไม่ทันไร  ทะเลาะกันอีก  ทั้งสองคนนี้ทะเลาะกันไม่เลิกลาจริงๆเลย  หยุดทะเลาะสักวันนึงได้ไหม?"  บงกชพูดกับพิมลรัตน์และสิริภรณ์ด้วยความหวังดี  ทำให้สิริภรณ์และพิมลรัตน์เงียบ  และทั้งสองสาวเดินเข้าบ้านพร้อมกัน  ทำให้ทั้งสองสาวมองหน้ากันไม่ติด  จึงเดินแยกคนละห้องทันที  แต่ทันใดนั้นเอง  พจน์ก็เดินเข้าถึงบ้านพร้อมกับ  ปานวาด  พิมลวรรณ  และชญาดาทันที

     

        บงกช  :  (เดินเข้ามาหาพจน์)  "กลับมาแล้วหรอคะ?พี่พจน์"

        พจน์  :  "กลับมาแล้ว  แล้วบงกชมาตั้งแต่เมื่อไหร่  พี่ไม่เห็นเลย"

        บงกช  :  "ก็มาสักพักนึงอ่ะค่ะ"

        พจน์  :  "ว่าแต่พิมลรัตน์มาหรือยัง?"

        บงกช  :  "มาแล้วค่ะ"

        ปานวาด  :  "แม่คะ  แล้วสิริภรณ์ล่ะคะ?"

        บงกช  :  "นู๋ภรณ์  เค้ากลับมาแล้วน่ะลูก  มาถึงนู๋รัตน์และนู๋ภรณ์ทะเลาะกันไม่หยุดหย่อนเลย  ไม่รู้จะทำยังไงดี?"

        พจน์  :  (ส่ายหน้าและถอนหายใจ)  "เฮ้อ!  พิมลรัตน์และสิริภรณ์นี่จริงๆเลย  ทะเลาะกันไม่มีวันหยุดเลย"  พจน์พูดเสร็จจึงเดินเข้าบ้านพร้อมกับปานวาด  พิมลวรรณและชญาดา

       

    ใน ห้องนอนของทั้ง  5  สาว  ชญาดากำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียงนอนของเธอ  ด้วยจิตใจที่สงบ  แต่ในขณะนั้น  พิมลรัตน์ซึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ  เพราะว่าเธอเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว  ส่วนปานวาดก็เดินขึ้นมาในห้องนอนตามมา  ชญาดาลืมตาขึ้นมา  และหันหน้าไปที่พิมลรัตน์และปานวาด

        ปานวาด  :  (ถามชญาดา)  "เอ้า  ดามาทำอะไรอยู่ตรงนี้หรอ?"

        ชญาดา  :  (พูดกับปานวาด)  "อ๋อ  ดาแค่มานั่งสมาธิอ่ะค่ะ  แล้วพี่ปานล่ะคะ?"

        ปานวาด  :  "อ๋อ  พี่จะเอาของอ่ะจ้า"

        พิมลรัตน์  :  "น้องดา  อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ?"

        ชญาดา  :  "เสร็จแล้วค่ะพี่รัตน์  ได้ข่าวว่าพี่รัตน์ไปเจอเพื่อนสนิทของพี่หรอคะ?"

        พิมลรัตน์  :  "ใช่สิ  เค้ารู้จักกับพี่มาตั้งแต่ตอนเรียนม.ต้นสิ"

     

        ปานวาด  :  "ว่าแต่  ใช่คนที่ชื่อศุภกรณ์  ที่เดินไปรับไปส่งเธอที่บ้านเมื่อก่อนนั้นน่ะสิ?"

        พิมลรัตน์  :  "ก็ใช่สิพี่ปาน  ตอนนี้นายกรเค้าอยากสมัครเป็นนักร้องอะไรของเค้านี่แหล่ะ"

        ปานวาด  :  "แล้วตอนนี้ล่ะ?"

        พิมลรัตน์  :  "ตอนนี้น่ะหรอ?  (หยุดสักพักก่อนที่จะพูดด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย)  นายกรเค้าคงอยากจะเป็นนักร้อง  ตามที่เขาใฝ่ฝันเอาไว้  แต่ตอนนี้ทางร้านอาหารกำลังคุยอยู่ว่า  จะเป็นนักร้องในร้านอาหารหรือเปล่า?"

        ชญาดา  :  "แล้วพ่อแม่ของพี่กรล่ะคะ?  เค้าว่างไงบ้าง"

        พิมลรัตน์  :  "นายกรมันไม่เท่าไหร่หรอก  แต่พ่อแม่ของนายกรอ่ะ  แม่งไม่สนับสนุนเลย  หาว่าอาชีพพวกนี้  เป็นพวกเต้นกินรำกินไว้กันยันค่ำด้วยซ้ำ"

     

        ปานวาด  :  "พูดถึงการเป็นนักร้องนะ  พ่อแม่ของเค้า  จะสนับสนุนหรือไม่นั้น  ขึ้นอยู่กับตัวความสามารถของเค้ามากกว่า  และที่อีกอย่างนึง  สมัยนี้  ทุกๆคนเค้าอยากใฝ่ฝันอยากจะทำอะไร  ก็ต้องทำในสิ่งๆนั้นไป  (ถามชญาดา)  จริงไหม?ดา"

        ชญาดา  :  "จริงด้วยสิคะพี่ปาน  ดาเห็นด้วยกับพี่ปานนะคะ  เค้าอยากจะทำอะไร  มันเป็นเรื่องของเค้า  พ่อแม่ไม่น่าจะกีดกันขนาดนี้หรอกค่ะ"

        พิมลรัตน์  :  "จริงเหมือนอย่างที่น้องดาบอกนี่แหล่ะ  (ลุกขึ้นออกเตียงนอน)  พี่นี่แหล่ะที่จะช่วยเค้าเอง"

        ปานวาด  :  "แล้วเธอจะช่วยเค้ายังไงดีล่ะ?"

        พิมลรัตน์  :  "พี่ปาน  พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ  เรื่องพวกนี้  เดี๋ยวฉันจะเคลียร์กับพ่อแม่ของเค้าให้มันรู้ไปเลย  ว่าเค้าทำสิ่งนั้นได้"  พิมลรัตน์พูดด้วยความมั่นใจและสนับสนุนช่วยศุภกรณ์ให้เต็มที่

        ปานวาด  :  "ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆล่ะก็  พี่ก็จะตามใจเธอก็แล้วกัน  เพราะว่าเธอช่วยเพื่อนของเธอด้วย"  ปานวาดพูดเสร็จจึงเดินเข้าไปที่บนเตียงนอนของเธอเอง  เหลือเพียงแต่ชญาดากับพิมลรัตน์เท่านั้น

        ชญาดา  :  "พี่รัตน์คะ  (ยกมือจับมือพิมลรัตน์)  ดาขอให้พี่รัตน์ทำความฝันของพี่กรเพื่อนของพี่ให้เป็นจริงให้ได้นะคะ  ดาจะเอาใจช่วยค่ะ"

        พิมลรัตน์  :  "ขอบใจมากนะน้องดา  ที่มาเป็นกำลังใจให้พี่  ถ้างั้น  พี่ขอตัวเลือกเสื้อผ้าก่อนก็แล้วกัน"  พิมลรัตน์พูดเสร็จ  จึงเดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าของเธอ

       

     วันต่อมา  ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  ชญาดากำลังเดินเข้ามหาวิทยาลัยอยู่  จู่ๆมัลลิกา  เพื่อนสนิทของชญาดาเดินเข้ามาหาเธอทันที

        มัลลิกา  :  "อรุณสวัสดิ์จ้า  ยัยดา  สบายดีไหม?"

        ชญาดา  :  "สบายดีค่ะ  แล้วเธอล่ะสบายดีหรือเปล่า?"

        มัลลิกา  :  "สบายดีสิ  แหม  วันนี้ยัยดาหน้าใสจังเลยนะ"  มัลลิกาพูดเสร็จ  ชญาดางงกับคำชมของมัลลิกา  เพื่อนสนิทของเธอ  ชญาดายกมือทั้งสองข้างไปลูบที่แก้มของเธอและถามมัลลิกาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

        ชญาดา  :  "นี่!  หน้าของฉันใสจริงๆหรอ?"

        มัลลิกา  :  "ก็ใช่น่ะสิ  เธอทั้งสวย  ทั้งน่ารัก  และที่อีกอย่างนึง  ก็คือ  เธอก็เป็นคนดี  หน้าของเธอก็เลยใสไง"  มัลลิกาขยายความให้ชญาดา  ทำให้ชญาดาเข้าใจ

        ชญาดา  :  "ขอบใจนะที่ชมฉัน  คนเราเกิดมาจะสวยหรือไม่สวย  มันไม่สำคัญหรอก  แต่ขอให้เป็นคนดีก็พอแล้วจ้า"  ชญาดาพูดเสร็จจึงเดินออกไป  ปล่อยให้มัลลิกายืนอยู่คนเดียว

     

        มัลลิกา  :  "แหม!  พูดซะดีจริงๆเลยนะเพื่อน  ไม่น่าเชื่อล่ะ  เพื่อนของฉันจะใจพระขนาดนี้เลย"  ในขณะที่ชญาดากำลังเดินเข้าไปในที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  ชญาดาจึงเดินเข้าเอาหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา  ซึ่งเป็นหนังสือที่ชญาดาชอบอ่านที่สุด  เพราะชญาดาเป็นแม่พระของพี่ๆน้องๆรวมไปถึงเพื่อนๆของเธออีกด้วย  ทำให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยรักชญาดาเยอะแยะมากมาย  เพราะชญาดาเป็นคนจิตใจดีงาม  ชอบทำบุญ  ชญาดาเอาหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามา  2  -  3  เล่ม  เพื่อไปอ่านที่บ้าน  ในระหว่างที่ชญาดากำลังเลือกหนังสืออยู่นั้น  ชญาดาไปเจอหนังสือเล่มนึง  ที่วางไว้ชั้นบนสุด  แต่ผลปรากฎว่า  ชญาดาเอื้อมหยิบหนังสือเล่มนั้นไม่ถึง  มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่  เดินเข้ามาหยิบหนังสือที่ชญาดาหยิบพอดีมาให้เธอทันที  นั่นก็คือ  อนิรุทธิ์

        อนิรุทธิ์  :  "ขอโทษนะครับ  นี่หนังสือของคุณใช่ไหมครับ?"  อนิรุทธิ์พูดเสร็จ  ชญาดาได้เจอหนังสือในมือของอนิรุทธิ์  และยกมือหยิบหนังสือจากมือของอนิรุทธิ์

        ชญาดา  :  "ขอบคุณมากค่ะ  ที่มาหยิบหนังสือให้ฉัน"

        อนิรุทธิ์  :  "ไม่เป็นไรหรอกครับ  ถ้ามีอะไรให้ผมช่วย  บอกผมได้นะครับ"  อนิรุทธิ์พูดเสร็จ  ชญาดาจึงเดินเข้าไปนั่งอ่านหนังสือทันที  ทำให้อนิรุทธิ์ชอบชญาดามาตั้งแต่แรกเจอ

     

        อนิรุทธิ์จึงเฝ้ามองไปที่ชญาดาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่  ส่วนชญาดานั้นกำลังอ่านหนังสือโดยไม่สนใจผู้คนแต่อย่างใด  อนิรุทธิ์จึงเดินเข้าไปหาชญาดาทันที

        อนิรุทธิ์  :  "ขอโทษนะครับ  ผมมารบกวนคุณไปหรือเปล่าครับ?" 

        ชญาดา  :  (วางหนังสือก่อนที่จะพูดกับอนิรุทธิ์)  "ไม่หรอกค่ะ  ไม่ทราบว่า  คุณมีธุระอะไรไม่ทราบคะ?"

        อนิรุทธิ์  :  "คือ  คุณชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาด้วยหรอครับ?"

        ชญาดา  :  "ใช่ค่ะ  ดาชอบอ่านเล่มนี้มากๆค่ะ  เพราะหนังสือเล่มนี้  เป็นหนังสือที่ทุกๆคนต้องทำความดีกันน่ะค่ะ  ก็เลยเอาไปสอนให้กับนักศึกษาหน่อยค่ะ"  ชญาดาอธิบายเหตุผลให้อนิรุทธิ์ฟัง

        อนิรุทธิ์  :  "ดีสิครับ  คนอย่างคุณ  นอกจากจะเป็นครูแล้ว  แถมยังสอนให้ทุกๆคนเป็นคนดี  ผมขอชื่นชมคุณจริงๆเลยน่ะครับ"

        ชญาดา  :  "นี่ตกลงคุณชมหรือว่าแกล้งล่ะคะ?"

        อนิรุทธิ์  :  "ผมไม่ได้แกล้งคุณหรอกครับ  ผมแค่ชมคุณจริงๆครับ"  อนิรุทธิ์ชมเปาะให้กับชญาดา  ทำให้ชญาดายิ้มแก้มปริ

       

    ชญาดา  :  "ขอบคุณมากค่ะ  ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ?"

        อนิรุทธิ์  :  "ผมชื่อ  อนิรุทธิ์  ครับ  เป็นบรรณารักษ์ในห้องสมุดแห่งนี้ครับ  แล้วคุณชื่อ..."

        ชญาดา  :  "ฉันชื่อ  ชญาดา  ค่ะ  เป็นคุณครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา  ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ค่ะ"

        อนิรุทธิ์  :  "แสดงว่า  คุณเป็นอาจารย์มาตั้งนานแล้วนี่ครับ"

        ชญาดา  :  "ค่ะ  ดาแค่เป็นอาจารย์มา  2  ปีค่ะ  (ยกมือเหลือบไปที่นาฬิกา)  ขอโทษด้วยนะคะ  ดาขอตัวไปสอนการบ้านให้นักศึกษาก่อนนะคะ"  ชญาดาพูดเสร็จ  ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าของเธอมาสะพายที่แขนพร้อมกับหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธ ศาสนามา  3  -  4  เล่ม  และเดินออกจากห้องสมุดไป  เวลาผ่านไป  ตอนเย็น  ชญาดาเดินออกจากห้องไป  จู่ๆ  ก็ได้เจอกับนักศึกษาสาวคนนึงเดินเข้ามาหาเธอพอดี

     

        นักศึกษา  :  "อาจารย์คะ  นู๋มีเรื่องอยากจะถามค่ะ"

        ชญาดา  :  "ถามมาเลยค่ะ"

        นักศึกษา  :  "คือ  นู๋อยากจะถามอาจารย์ว่า  การที่นู๋แอบชอบผู้ชายคนนึงอ่ะค่ะ  แต่ผู้ชายที่นู๋แอบชอบนั้น  มีแฟนแล้วอ่ะค่ะ  นู๋ก็เลยอยากจะสารภาพความในใจให้เค้าฟังค่ะ"

        ชญาดา  :  "แล้วเค้าว่างไงบ้างคะ?"

        นักศึกษา  :  "เค้าก็บอกไปว่า  เค้ามีแฟนแล้วล่ะค่ะ  เค้าคิดกับนู๋เป็นแค่น้องสาวค่ะ"  นักศึกษาสาวน้ำเสียงเศร้า  ทำให้ชญาดาสงสารนักศึกษาสาวคนนั้นมาก

        ชญาดา  :  "นู๋  ฟังครูให้ดีๆนะคะ  การที่นู๋เอาของเค้ามาเป็นของนู๋นั้น  อย่าเอามาไขว่คว้ามาเป็นของนู๋เลย  ในเมื่อเค้าไม่ใช่ของนู๋  ถึงแม้ว่า  เค้าคิดกับนู๋เป็นแค่น้องสาว  แต่นู๋ก็ยังรักเค้าเป็นแค่พี่ชายไม่ใช่หรอคะ?"

     

        นักศึกษา  :  "แล้วจะมีวิธีแก้ไหมล่ะคะ?"

        ชญาดา  :  "มีสินู๋  นู๋อย่าแย่งของเค้าๆไปเป็นของนู๋นะนู๋  มันเสียเวลาไปเปล่าๆ  มันผิดศีลข้อที่  3  ที่ว่า  ห้ามประพฤติผิดในกาม  อย่างน้อยนู๋ก็ยังมีผู้ชายดีๆเข้ามาในชีวิตเยอะแยะมากมาย  แต่อย่างน้อย  ก็ขอให้เค้าดีกับนู๋ก็พอ  รักเดียวใจเดียวดีกว่า  ดีที่สุดค่ะ"

        นักศึกษา  :  (ยกมือไหว้ชญาดา)  "ขอบคุณมากค่ะอาจารย์  ที่แก้ปัญหาให้นู๋"

        ชญาดา  :  "ไม่เป็นไรค่ะ  นู๋ก็ต้องอย่าลืมสวดมนต์นั่งสมาธิ  ทำจิตใจให้สงบ  ทำความดีเข้าไว้  บุญจะได้อยู่กับนู๋ไปนานๆ"  (ยิ้ม)  นักศึกษาก็ยิ้มให้กับชญาดาอย่างเป็นมิตร  จึงเดินสวนทางกับเธอทันที  ส่วนชญาดาจึงเดินออกไปทันที  ชญาดาจึงเดินออกจากมหาวิทยาลัย  แต่ทันใดนั้น  มีรถคันสีดำ  ขับมาหาเธอทันที  และคนขับรถก็เปิดกระจกรถเพื่อได้เจอหน้าเธอ  และก็ได้เจอกับ  พยัคฆ์  แฟนหนุ่มของเธอนี่เอง  ที่คบกันมา  5  -  6  ปี

        พยัคฆ์  :  (ยกมือถอดแว่นตา)  "สวัสดีครับน้องดา"

        ชญาดา  :  "สวัสดีค่ะพี่พยัคฆ์"

        พยัคฆ์  :  "น้องดา  พี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ  ที่พี่ไปรับน้องดาช้า  หวังว่าน้องดาคงไม่ว่าพี่นะครับ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×