ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่น้อง 5 ธาตุ ภาค 1

    ลำดับตอนที่ #7 : เพื่อนชายคนสนิทของพิมลรัตน์

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 53


    ตอนที่ 7

         พจน์  :  (ถามชญาดา)  "แล้วชญาดาล่ะ  เหนื่อยบ้างไหมลูก?"

        ชญาดา  :  "ไม่อ่ะค่ะพ่อ  การที่ดาสอนเด็กในมหาวิทยาลัย  ก็สนุกดีนะคะพ่อ"

        พจน์  :  (ถามสิริภรณ์)  "แล้วสิริภรณ์ล่ะ  เหนื่อยบ้างไหมลูก?"

        สิริภรณ์  :  "วันนี้เหนื่อยสิคะคุณพ่อขา  ไหนก็จะต้องเรียนหนังสือ  งานถ่ายแบบลงปกนิตยสารอีก  เหนื่อยแทบแย่เลยค่ะ"

        พจน์  :  "เหนื่อยก็ต้องทนสิลูก  สิริภรณ์ฟังพ่อนะ  เรื่องเรียนกับเรื่องงานมันเป็นของคู่กัน  แต่ใจจริงพ่ออยากให้สิริภรณ์เรียนหนังสือให้จบ  ส่วนเรื่องงานเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีไม่ใช่หรอ?"

        พิมลรัตน์  :  "ใช่  ยัยภรณ์  พ่อพูดถูก  เอาเรื่องเรียนของเธอให้รอดก่อนดีกว่าเอาไหม?"

        สิริภรณ์  :  (ลุกขึ้นมาต่อว่าพิมลรัตน์)  "ทำไมล่ะ?  ฉันจะทำอะไรมันเป็นเรื่องของฉัน  พี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะยุ่งกับฉันด้วย"

     

        พิมลรัตน์  :  "ทำไมล่ะ?  ทีเวลาเรื่องพี่ภูแฟนของพี่ปาน  เธอก็ยังถามถึงเค้าได้อยู่เลย  แล้วทำไมพี่จะถามถึงเรื่องนี้ไม่ได้ล่ะ"

        สิริภรณ์  :  "ก็ฉันอยากรู้นี่ไงล่ะ"

        พจน์  :  "พอๆเถอะ  นี่เวลาอยู่บ้านนะ  ไม่ใช่สนามมวยที่จะมาชกต่อยกัน  เป็นพี่น้องกันก็ต้องรักกันสิ"

        บงกช  :  (พูดกับชญาดา)  "ดา"

        ชญาดา  :  "มีอะไรหรอคะแม่?"

        บงกช  :  "เดี๋ยววันนี้  ดากับแม่ไปสวดมนต์กันในห้องพระนะลูก"

        ชญาดา  :  "ค่ะแม่"

     

        บงกช  :  (พูดกับปานวาด  พิมลวรรณ  พิมลรัตน์และสิริภรณ์)  "นู๋ปาน  นู๋วรรณ  นู๋รัตน์และนู๋ภรณ์  ก็อย่าลืมสวดมนต์ก่อนนอนนะลูก  หรือไม่ก็สวดมนต์ในห้องพระก็ได้ลูก"

        ทั้ง  4  คน  :  "ค่ะ"

        บงกช  :  (พูดกับป้าแจง)  "ป้าแจง"

        ป้าแจง  :  "มีอะไรหรอคะ?คุณบงกช"

        บงกช  :  "ป้าอย่าลืมรีดกางเกงเสื้อผ้าสีขาว  มาให้ฉันและดานะ"

        ป้าแจง  :  "ได้ค่ะ"  ป้าแจงพูดเสร็จจึงรีบออกไป  ทั้ง  4  คน  ปานวาด  พิมลวรรณ  พิมลรัตน์และสิริภรณ์จึงเดินแยกย้ายกัน  เหลือเพียงแต่ชญาดาคนเดียว  ที่ช่วยป้าแจงล้างจาน  หลังจากที่ป้าแจงเดินออกไปรีดผ้าในห้อง  ชญาดาจึงมีหน้าที่ช่วยแจงล้างจานเช็ดถูภายในห้องครัว 

        พจน์  :  "ชญาดา"

        ชญาดา  :  (เดินไปหาพจน์)  "มีอะไรหรอคะพ่อ?"

        พจน์  :  "พ่อว่า  ไม่ต้องช่วยป้าแจงทำงานบ้านนะ  เหนื่อยเปล่าๆ"

        ชญาดา  :  "ไม่เป็นไรค่ะพ่อ  เรื่องแม่บ้านแม่เรือน  ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดาเองค่ะ  พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ"  ชญาดายังยืนยันคำเดิม  ทำให้พจน์และบงกชเข้าใจ  จึงให้ชญาดาล้างจานทำความสะอาดในห้องครัวต่อไป

       

    เวลา ผ่านไป  ในห้องไหว้พระ  บงกช  ชญาดาและพิมลวรรณ  เข้ามาสวดมนต์ด้วยความพร้อมเพรียงกัน  ในระหว่างที่ทั้งสามคนแม่ลูกสวดมนต์ด้วยความคล่องแคล่วว่องไวอยู่นั้น  ภายในห้องนอนของหญิงสาวทั้ง  5  คน  ก็เหลือเพียงแต่ปานวาด  พิมลรัตน์และสิริภรณ์  กำลังนอนหลับอยู่  จู่ๆ  สิริภรณ์เกิดอาการนอนไม่หลับนอนดิ้นไปดิ้นมา  ยกมือทั้งสองข้างของเธอปิดหู  เพื่อไม่อยากได้ยินเสียงสวดมนต์ของบงกช  ชญาดาและพิมลวรรณ  ทำให้พิมลรัตน์และปานวาดลุกขึ้นออกจากเตียง

        ปานวาด  :  "ภรณ์  เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?"

        สิริภรณ์  :  "พี่ปาน  ฉันนอนไม่หลับอ่ะ  ไม่อยากได้ยินเสียงสวดมนต์บ้าๆบอๆหรอก"

        พิมลรัตน์  :  "นี่!  ยัยภรณ์  ในห้องพระกำลังสวดมนต์อยู่  ถ้านอนไม่หลับก็อย่าดิ้นได้ป่าวล่ะ  คนกำลังสวดมนต์  ได้บุญได้กุศลนะ"

        สิริภรณ์  :  "ไม่หรอก  สวดมนต์นี่เหรอ  จะได้บุญน่ะ  ไม่เชื่อหรอก  และไม่มีทางด้วย"

        ปานวาด  :  "ภรณ์  ฟังให้ดีนะ  ที่รัตน์พูดมาทั้งหมด  เค้าหวังดีนะ  เค้าอยากให้ภรณ์สวดมนต์  ไหว้พระ  ทำบุญไว้ซะ  ไม่ใช่วันๆภรณ์จะนั่งแต่งตัว  แต่งหน้า  ทาปาก  ไปไหนมาไหนแบบนี้  เรื่องหน้าตา  จะสวยหรือไม่สวย  มันไม่สำคัญหรอก  แต่ดูที่นิสัยใจคอ  ต้องเป็นคนดี  หมั่นทำจิตใจให้บริสุทธิ์นะ"  ปานวาดเตือนสิริภรณ์ด้วยความหวังดีและอยากให้สิริภรณ์นั้น  สวดมนต์ไหว้พระเหมือนชญาดา

     

        พิมลรัตน์  :  "และอีกอย่างนึงนะ  ต้องหมั่นนั่งสมาธิ  นั่งวิปัสสนากรรมฐานเข้าใจไหม?"  พิมลรัตน์เสริมอีกคน

        สิริภรณ์  :  "นั่งวิปัสสนากรรมฐานมันคือไรอ่ะ  ฉันไม่รู้จักอ่ะ?"

        พิมลรัตน์  :  "เอ้า  พี่นึกว่าเธอจะรู้จักซะอีก  พี่จะบอกให้นะ  การนั่งวิปัสสนากรรมฐานนะ  ก็คือ  การนั่งสมาธิสิ  การนั่งสมาธิต้องกำหนดหายใจเข้าและออกด้วย  เข้าใจหรือยัง?"

        สิริภรณ์  :  "เข้าใจแล้ว  ขอบใจนะ  แต่ไม่ต้องล่ะ  เพราะว่าฉันไม่ชอบไปสวดมนต์และไปวัดหรอก  เชอะ"  สิริภรณ์พูดเสร็จนอนลงบนเตียง  ทั้งปานวาดและพิมลรัตน์ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อว่า  สิริภรณ์มักจะไม่ชอบสวดมนต์  นั่งสมาธิและไปวัดสักเท่าไหร่

        พิมลรัตน์  :  "ยัยภรณ์เอ้ย  เธอน่าจะไปวัดมากกว่าในผับอีก"  พิมลรัตน์พูดกับสิริภรณ์ที่กำลังหลับอยู่ด้วยสีหน้าเซ็งและนอนบนเตียงต่อ  ทำให้ปานวาดก็พลอยนอนหลับบนเตียงไปด้วย

     

        วันต่อมา  พิมลรัตน์ใส่รองเท้าผ้าใบพร้อมกับกระเป๋าสะพาย  ส่วนบงกชก็เดินออกจากห้องแต่งตัว  เพราะบงกชเพิ่งแต่งตัวเสร็จแล้ว  ป้าแจงจึงเดินเข้ามาถามพิมลรัตน์

        ป้าแจง  :  "นู๋รัตน์คะ"

        พิมลรัตน์  :  (หันมาถามป้าแจง)  "มีอะไรหรือเปล่าฮะป้าแจง?"

        ป้าแจง  :  "ป้าอยากจะให้นู๋รัตน์ซื้อขนมเปียกปูนมาให้ป้าหน่อยนะคะ  ซื้อตอนกลับบ้านด้วย"

        พิมลรัตน์  :  "ได้เลยฮะป้า  เดี๋ยวนู๋จะซื้อขนมมาฝากให้ป้าด้วย"

        ป้าแจง  :  "งั้น  นู๋รัตน์อย่าลืมดูแลคุณบงกชด้วยนะคะ  เดี๋ยวป้าจะตบรางวัลให้นู๋รัตน์เป็นอย่างงามด้วย"

        พิมลรัตน์  :  "ป้าแจงไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะฮะ  เรื่องแม่ของฉันเดี๋ยวฉันดูแลให้  ป้าดูแลบ้านให้ดีๆนะ"  พิมลรัตน์พูดเสร็จจึงเดินออกจากบ้านพร้อมกับบงกช  ส่วนป้าแจงก็มีหน้าที่ดูแลบ้าน  ส่วนสิริภรณ์จึงเดินออกมาในชุดนักศึกษา  จึงถามป้าแจง

        สิริภรณ์  :  (หันมาถามป้าแจง)  "ป้าแจง"

       

    ป้าแจง  :  "มีอะไรหรือเปล่าคะ?นู๋ภรณ์"

        สิริภรณ์  :  "ป้าไปหยิบรองเท้ามาให้นู๋หน่อย"

        ป้าแจง  :  "ได้ค่ะ"  ป้าแจงพูดเสร็จ  จึงรีบวิ่งแจ้นไปหยิบรองเท้าส้นสูงมาให้สิริภรณ์ด้วยความรวดเร็ว  และใส่รองเท้าให้กับสิริภรณ์

        ป้าแจง  :  "เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหนูภรณ์"

        สิริภรณ์  :  "ขอบใจมากนะป้า  งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ"

        ป้าแจง  :  "ค่ะ"  สิ้นเสียงคำพูดของป้าแจง  สิริภรณ์เดินไปที่รถยนต์ของสิริภรณ์ขับออกจากบ้านไป  ปล่อยให้ป้าแจงเฝ้าบ้านเพียงคนเดียว  ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นที่ทำงานของบงกชและพิมลรัตน์  บงกชและพิมลรัตน์เดินมาถึงที่ร้านอาหาร  จึงเดินเข้าไปทักทายเจ้าของร้านอาหาร  หลังจากที่คุยกันเสร็จแล้ว  ทั้งสองแม่ลูกก็แยกย้ายกันทำงาน  ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

     

        ในระหว่างที่พิมลรัตน์กำลังกวาดถูในร้านอาหารนั้น  จู่ๆมีชายหนุ่มหล่อเท่  เดินเข้ามาในร้านอาหาร  พร้อมสะพายกระเป๋ากีต้าร์อยู่ด้วย  จึงเดินเข้าไปหาพิมลรัตน์ทันที

        พิมลรัตน์  :  "สวัสดีค่ะ  ร้านอาหารยินดีต้อนรับค่ะ"  พิมลรัตน์พูดเสร็จ  จึงมองหน้าไปที่ชายหนุ่มคนนี้และก็รู้สึกตกใจเมื่อได้เจอเพื่อนสนิทที่ไม่ ได้พบกันมาตั้งนาน

        พิมลรัตน์  :  "เฮ้ย!  นายกร"  พิมลรัตน์ร้องด้วยความดีใจ  เมื่อชายหนุ่มที่สนิทกับพิมลรัตน์นั้นมาที่ร้านอาหารอยู่ด้วย  ซึ่งผู้ชายคนนี้ก็คือ  ศุภกรณ์  เพื่อนสนิทของพิมลรัตน์  มาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมตอนต้น

        ศุภกรณ์  :  "นี่!  ยัยรัตน์ใช่ไหม?"

        พิมลรัตน์  :  "ก็ใช่สิ  ฉันไม่ได้เจอกับนายตั้งนานเลยว่ะ"  พิมลรัตน์พูดเสร็จจึงเดินเข้าไปกอดศุภกรณ์ด้วยความดีใจ 

        พิมลรัตน์  :  "ว่าแต่นายกรเหอะ  นายหายหัวไปไหนมา  (มองศุภกรณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะพูดกับเขา)  ทำไมนายไม่โทรมาหาฉันฮะ?"

     

        ศุภกรณ์  :  "ก็ฉันจะโทรหาเธอได้ไงฮะ  ก็ที่ฉันหายไปนะ  ก็วันนี้ฉันอยากจะมีข่าวดีจะมาบอกเธอด้วย"

        พิมลรัตน์  :  "ถ้างั้น  นายมานั่งก่อนสิ"  พิมลรัตน์พูดเสร็จ  ศุภกรณ์ลากเก้าอี้มานั่งเพื่อคุยกับพิมลรัตน์

        พิมลรัตน์  :  "ว่าแต่นายกรมีข่าวดีจะบอกอะไรฉันล่ะ?"

        ศุภกรณ์  :  "ข่าวดีก็คือ  ฉันอยากจะมาสมัครเป็นนักร้องน่ะสิ  ฉันอยากจะบอกกับเธอเรื่องนี้เป็นคนแรกไง"

        พิมลรัตน์  :  "จริงหรอวะ?"

        ศุภกรณ์  :  "จริงดิ  ถ้าฉันไม่ได้บอกข่าวนี้กับเธอนะ  ป่านนี้ฉันคงไม่กล้าบอกหรอก"

        พิมลรัตน์  :  (ยกมือจับไหล่ของศุภกรณ์)  "เฮ้ย!  นายอย่าเพิ่งคิดมากสิวะ  เรื่องแค่นี้บอกฉันได้นะโว้ย  ถ้านายอยากให้ฉันทำอะไร  บอกฉันมาได้เลย  เดี๋ยวฉันจะสนับสนุนให้นายเต็มที่เลย" 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×