คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : รักกันไว้เถิด
ตอนที่ 3
ปานวาด : "เอ้า รัตน์กับดาไปทำงานกันแล้วหรอ?"
พิมลรัตน์ : "ใช่สิพี่ปาน (เดินเข้ามานั่งพูดกับปานวาด) วันนี้นู๋ไปทำงานสายอ่ะพี่ กว่าจะเลิกงานได้นะ ก็ประมาณ 3 - 4 ทุ่ม แน่ะ"
พิมลวรรณ : (พูดกับพิมลรัตน์) "โธ่! นึกว่าเรื่องอะไร เรื่องนี้เองน่ะหรอ? รัตน์อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะ แค่เป็นเด็กเสริ์ฟแค่นี้ ไม่เห็นต้องนั่งคิดมากเลย"
ชญาดา : (เสริมคำพูดของพิมลวรรณ) "ใช่แล้วค่ะพี่รัตน์ ที่พี่วรรณพูดมาทั้งหมด ดาก็เห็นด้วยนะคะ พี่รัตน์เป็นเด็กเสริ์ฟที่ร้านอาหารของแม่ทั้งที ก็ต้องบริการให้กับลูกค้าและเอาใจลูกค้าด้วย และอีกอย่าง แม่ก็ต้องเป็นแม่ครัวทำอาหารให้ลูกค้ากิน ต้องทำมาหากิน เพื่อเสริมรายได้ค่ะพี่" ชญาดาเห็นด้วยกับพิมลวรรณ พูดชี้แจงให้กับพิมลรัตน์ฟัง ปานวาดได้ฟังคำพูดของทั้งพิมลวรรณและชญาดา จึงตัดสินใจพูดกับพิมลรัตน์อย่างมีเหตุผล
ปานวาด : "รัตน์ ฟังพี่พูดนะ คนเราจะทำอาชีพอะไรนั้น ก็ต้องทำด้วยความตั้งใจ ไหนจะต้องเรียนหนังสือจบก็ไปหางานทำ หาเงิน ให้พ่อแม่ใช้ แถมก็ต้องทำมาหากินอีก"
พิมลรัตน์ : "รัตน์เข้าใจค่ะพี่ปาน ว่าแต่พี่ปาน ยัยภรณ์หายหัวไปไหนอ่ะ?"
ปานวาด : (มองไปที่เพดาน) "นั่นน่ะสิ ตั้งแต่ภรณ์กลับมาถึงบ้านก็หายไปเลยอ่ะ" ปานวาดพูดเสร็จ ทันใดนั้นเอง สิริภรณ์ที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เห็นปานวาด พิมลวรรณ พิมลรัตน์และชญาดา พูดคุยกัน สิริภรณ์ใส่ในชุดนักศึกษา แถมยังเปิดกระดุมของเธอ 1 เม็ด เพื่อความสวยเซ็กซี่ของเธอ สิริภรณ์จึงเดินเข้าไปนั่งทันที
สิริภรณ์ : "ไม่ทราบว่าพี่ๆมานั่งคุยเรื่องอะไรไม่ทราบคะ?"
พิมลรัตน์ : "ก็พี่กำลังคุยกับพี่ปานน่ะสิ"
สิริภรณ์ : (ลุกขึ้นมาต่อว่าพิมลรัตน์ด้วยความโกรธ) "ฉันรู้ ว่าพวกพี่ๆกำลังคุยกับพี่ปานอยู่ ฉันถามว่า พี่ๆมาคุยเรื่องอะไร?" สิริภรณ์พูดเสร็จ ทำให้พิมลรัตน์มองสิริภรณ์ด้วยความโกรธจึงลุกขึ้นมาต่อว่าสิริภรณ์กลับ
พิมลรัตน์ : "ก็พี่ปานสอนพี่ให้รู้จักทำมาหากินน่ะสิ" พิมลรัตน์พูดเสร็จมองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะมาพูดกับสิริภรณ์
พิมลรัตน์ : "เธอเองก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย สวยกว่าพี่ตั้งเยอะ ดีเกือบหมดทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียว"
สิริภรณ์ : "เสียอะไรอีกล่ะพี่รัตน์?"
พิมลรัตน์ : "ก็ปากของเธอเสียอ่ะสิ วันๆไม่ทำอะไร เอาแต่แต่งหน้าทาปาก ด่าชาวบ้านชาวช่อง ไม่เว้นแต่ละวัน แม้กระทั่งที่บ้านก็ไม่เว้น" พิมลรัตน์พูดเสร็จ ยกมือกำมือของเธอจะชกหน้าสิริภรณ์ไม่ทันไร สิริภรณ์ยกมือจะตบหน้าพิมลรัตน์
สิริภรณ์ : "ก็เอาเลยสิพี่ คนอย่างฉันไม่กลัวพี่หรอก" สิริภรณ์พูดกับพิมลรัตน์อย่างไม่กลัวใคร พิมลรัตน์วางกำปั้นของเธอและหลับตานิ้งคิดเอาไว้ แต่พิมลรัตน์ก็ยังทำใจไม่ได้ ยกมือกำหมัดจะชกหน้าสิริภรณ์ไม่ทันไร ทั้งพิมลวรรณและชญาดาช่วยกันห้ามพิมลรัตน์และสิริภรณ์เข้าไว้
ปานวาด : (ลุกขึ้นมาต่อว่าพิมลรัตน์และสิริภรณ์) "หยุดด้วยกันทั้งคู่แหล่ะ"
ปานวาด : (ยกมือกอดไหล่ทั้งพิมลรัตน์และสิริภรณ์) "เป็นพี่เป็นน้องกัน ทำไมต้องทะเลาะกันให้เป็นเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ล่ะ ไม่เห็นใจพ่อแม่ของพวกเราเลยหรือไง?" ปานวาดพูดเสร็จ พิมลรัตน์และสิริภรณ์เงียบ ก่อนที่ปานวาดจะพูดต่อ
ปานวาด : "พ่อแม่ก็อายุมากแล้ว พ่อก็เป็นหมอรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาล ทำงานหนักมาก ส่วนแม่ ก็เป็นแม่ครัวที่ร้านอาหาร พี่ไม่อยากให้พวกเธอทั้งสองคนมานั่งยืนทะเลาะกันให้พ่อแม่เห็น ถ้าพ่อแม่เห็นพวกเธอทั้งสองคนทะเลาะกันขึ้นมา พ่อแม่จะรู้สึกยังไง?" ปานวาดพูดเสร็จ ทั้งพิมลรัตน์และสิริภรณ์เงียบ พูดไม่ออก เมื่อปานวาดสั่งสอนพวกเธอทั้งสองคนและมองปานวาดด้วยความอาย
ปานวาด : (พูดกับพิมลรัตน์และสิริภรณ์) "รัตน์ ในฐานะที่เธอเป็นน้องสาวของพี่ และเป็นพี่สาวของสิริภรณ์ เธอจะต้องเสียสละให้ภรณ์ เธอเรียนจบแล้ว เธอก็ทำงานเป็นเด็กเสริ์ฟให้บริการลูกค้า ไม่ใช่มาต่อว่าลูกค้าเหมือนที่เธอต่อว่าภรณ์แบบนี้ ส่วนภรณ์ ในฐานะที่เธอเป็นน้องคนสุดท้อง ก็ต้องเชื่อพี่บ้าง เธอยังเรียนหนังสือไปด้วย ทำงานไปด้วย เธอก็ต้องเรียนให้จบ ต้องตั้งใจเรียนสิ เราเป็นพี่น้องกันก็ต้องรักกันสิ"
ปานวาด : "เอาละ รัตน์และภรณ์ ขอโทษซะ และต่อไปจะไม่ทะเลาะกันอีก" ปานวาดพูดเสร็จ ทำให้พิมลรัตน์และสิริภรณ์มองหน้ากัน
พิมลรัตน์/สิริภรณ์ : "ขอโทษ" หลังจากที่พิมลรัตน์และสิริภรณ์กล่าวขอโทษกันแล้ว ทำให้ปานวาด พิมลวรรณและชญาดายิ้ม เมื่อทั้งสองสาวปรับความเข้าใจกัน
ปานวาด : (พูดกับพิมลวรรณและชญาดา) "วรรณกับดา ก็เหมือนกันนะ เป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันเอาไว้ ดีกว่าจะมาทะเลาะกันอีก"
พิมลวรรณ/ชญาดา : "ค่ะ" ทั้ง 5 พี่น้อง ก็ได้ปรับความเข้าใจกัน และสัญญาว่าจะไม่ทะเลาะกันอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม แต่ก็ขอให้พี่น้องในครอบครัวแห่งนี้ รักกันเข้าไว้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ปานวาดได้เข้ามาทำงานในธนาคารไทยพาณิชย์ ปานวาดกำลังนั่งทำงานอยู่ สุดารัตน์ เพื่อนสนิทของปานวาด กำลังแต่งหน้าเสริมสวย และก็เห็นปานวาดกำลังทำงานอยู่ สุดารัตน์เก็บของใส่ไว้ในกระเป๋า และลุกขึ้นไปหาปานวาด และยกมือจับไหล่ ทำให้ปานวาดตกใจ
สุดารัตน์ : "จ๊ะเอ๋"
ปานวาด : "ว๊าย! (ร้องด้วยความตกใจและหันหน้ามองสุดารัตน์) สุ มาทำอะไรแถวนี้ ทำให้ฉันตกใจหมดเลย"
สุดารัตน์ : "ก็พอดีฉันเห็นเธอกำลังทำงานอยู่ ไม่ขยับไปไหน ฉันก็เลยทำแบบนี้ไง ว่าแต่เมื่อเช้าไปทำบุญเป็นไงบ้างหรอ? เล่าให้ฉันฟังหน่อยดิ"
ปานวาด : (หมุนเก้าอี้เพื่อคุยกับสุดารัตน์) "ได้สิ เมื่อเช้าฉันกับน้องสาวของฉัน รวมไปถึงพ่อแม่ของฉันไปทำบุญตักบาตรมา ซึ่งตรงกับวันพระอ่ะสิ"
สุดารัตน์ : "แสดงว่า ครอบครัวนี้ มักจะไปทำบุญตอนวันพระเสมออ่ะสิ"
ปานวาด : "แน่นอนอยู่แล้วจ้า การทำบุญตักบาตรนะ เป็นที่ดีเลยล่ะ ถ้าใครได้ทำบุญตักบาตรแล้ว จะต้องได้บุญได้กุศลอีกด้วยล่ะ" ปานวาดพูดอย่างอารมณ์ดี
สุดารัตน์ : (ยกมือไหว้) "สาธุ สาธุ ก็ขอให้ปานเพื่อนรักของฉันโชคดีทั้งเรื่องการงานและความรักด้วยเถอะ สาธุ"
ปานวาด : (ยกมือหยิบแฟ้มมาตีสุดารัตน์) "นี่แน่ะ เธอพูดอะไรอายคนในธนาคารบ้างเถอะ"
สุดารัตน์ : "เอ้า แล้วที่ฉันกล่าวมามันจริงหรือไม่จริงอ่ะ ทำงานแบบนี้เดี๋ยวเผลอนึกถึงแฟนของเธออีกหรอก"
ความคิดเห็น