ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่น้อง 5 ธาตุ ภาค 1

    ลำดับตอนที่ #16 : ดูดวงชะตาทายทัก

    • อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 53


    ตอนที่ 16

         ปานวาด  :  "ใจจริงพี่ไม่อยากให้พ่อเค้าบังคับให้ภรณ์ไปหรอกนะ  แต่มันจำเป็นจริงๆ  พอถึงวันพระทีไร  ก็ต้องไปทำบุญ  เป็นธรรมดาอยู่แล้วเนี่ย"

        ชญาดา  :  "ดาว่า  ถ้าดาเป็นภรณ์  ดาจะเอาเวลาไปเที่ยวสถานเริงรมย์  มาเป็นเวลาไปวัดดีกว่าค่ะ"  ชญาดาพูดเสร็จ  ทำให้ปานวาด  พิมลวรรณและพิมลรัตน์มองไปที่ชญาดา

        พิมลรัตน์  :  "ทำไมล่ะน้องดา?"

        ชญาดา  :  "ดาคิดว่า  การไปสถานที่เริงรมย์  หรือพวกสถานบันเทิง  พอเข้าไปข้างใน  มันมีสุรา  พวกของมึนเมา  พอหลังจากที่ดื่มสุราจนเมาแล้ว  สุดท้าย  ก็ได้เสียตัวด้วยกัน  ในโรงแรมแห่งหนึ่ง  หรือไม่ก็...พวกอพาทเมนท์อ่ะค่ะ"  ชญาดาอธิบายให้ทุกๆคนฟัง  ทำให้ทุกๆคนเข้าใจ

        พิมลวรรณ  :  "จริงด้วยเหมือนอย่างที่น้องดาบอกเลย  การดื่มสุรา  เป็นสิ่งที่ไม่ดี  มันเป็นของสิ่งเสพติดอย่างนึง  (ถามปานวาด)  พี่ปานว่า  จริงอ่ะป่าวจ๊ะ?"

        ปานวาด  :  "จริงสิ  ที่ดาพูดไปทั้งหมด  เค้าพูดถูกนะ  ช่วงนี้เค้ารณรงค์เกี่ยวกับ  เมาไม่ขับ  ห้ามดื่มเหล้าเข้าพรรษา  มันบาปจริงๆ  และที่อีกอย่างนึง  ถ้าดื่มสุรามากจนเมาขนาดนี้  พี่ว่า  ขึ้นรถแท๊กซี่ดีกว่า  หรือไม่ก็ต้องหาเพื่อนสักคนนึง  มาขับรถแทนสักหน่อย"  ปานวาดแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ  เรื่องเกี่ยวกับสุรา

     

        พิมลรัตน์  :  "แสดงว่า  โครงการนี้ต้องเจ๋งแน่นอนเลยล่ะพี่"

        พิมลวรรณ  :  "แน่นอนอยู่แล้วจ้า"  หลังจากที่สิริภรณ์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว  ครอบครัวของพจน์ก็มาถึงที่วัด  เพื่อไปทำบุญตักบาตร  จากนั้น  ครอบครัวของพจน์ก็ได้เจอกับแม่ชีโศรยาอีกด้วย

        พจน์  :  (ยกมือไหว้)  "วันนี้ผมกับภรรยาและลูกสาวของผมทั้ง  5  คน  มาทำบุญในวันพระครับแม่ชี"

        แม่ชีโศรยา  :  "ดีเหมือนกันนะโยม  จำไว้นะจ๊ะ  หมั่นทำบุญเข้าไว้  มักจะได้บุญกุศลเยอะ  เกิดชาติหน้าฉันใด  ขอให้เกิดมาเป็นคนดีเท่านี้ก็สุขใจแล้ว"

        บงกช  :  (ยกมือไหว้)  "แม่ชีคะ  พอดีอิฉันจะมาให้ลูกสาวของฉันทั้ง  5  คน  มาดูดวงอ่ะค่ะ  แต่ไม่รู้ว่า  จะมีวัดไหนบ้างอ่ะค่ะ"

        แม่ชีโศรยา  :  "ก็มีบ้างอ่ะจ้า  คนเรามันแล้วแต่ดวงนะโยม  แข่งศักดิ์ศรีมันแข่งได้  แต่แข่งบุญกับวาสนา  มันแข่งกันไม่ได้จริงๆนะโยม"  หลังจากที่ครอบครัวของพจน์ไปทำบุญเสร็จแล้ว 

     

        ต่อมา  พจน์จึงไปที่วัดแห่งหนึ่ง  (ซึ่งเป็นสถานที่ที่ณัฐพงษ์เคยอยู่ไว้  แต่วันนี้ณัฐพงษ์ไม่อยู่  เพราะเขาไปเรียนหนังสือ)  ปานวาดจึงเดินมาถามบงกชทันที

        ปานวาด  :  "แม่คะ  ทำไมแม่ต้องพาพวกเราไปดูดวงที่วัดนี้ด้วยหรอคะ?"

        บงกช  :  "แม่อยากให้ลูกดูดวงว่า  ช่วงนี้เป็นย้งไงบ้าง  มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า  ส่วนจะดีหรือไม่ดีนั้น  มันเป็นอีกเรื่องนึงลูก"

        ชญาดา  :  "หมายถึงว่า  ที่มาดูดวงวันนี้  ก็จะให้พวกเราแก้ปัญหาหรอคะ?"

        บงกช  :  "ใช่จ้า  ถ้าดวงไม่ดี  ก็ต้องระวังไว้มากๆนะลูก  ยิ่งลูกเราทั้ง  5  คนเป็นผู้หญิง  พ่อกับแม่ก็ดูแลลูกเป็นพิเศษไงลูก"  ในระหว่างที่กำลังคุยกันนั้น  พระก็เดินออกจากโบสถ์ก็เห็นครอบครัวของพจน์เข้ามาในวัด

        พระ  :  "เอ้า  มากันแล้วหรอ?"  พระพูดเสร็จ  ครอบครัวของพจน์ก็ยกมือไหว้พระ

        พจน์  :  "นมัสการครับหลวงพ่อ  ผมกับภรรยาและลูกสาวของผมทั้ง  5  ก็มาถึงแล้วล่ะครับ"

        พระ  :  "เนื่องด้วยวันอะไรหรอ?"

       

        พจน์  :  "วันนี้ก็เป็นวันพระอ่ะครับหลวงพ่อ  พอดี  ผมพาภรรยาของผมรวมไปถึงลูกสาวของผมทั้ง  5  คน  มาดูดวงอ่ะครับว่า  จะมีเรื่องดีหรือไม่ดีตามมาหรือเปล่าอ่ะครับ?"

        บงกช  :  "ใช่ค่ะหลวงพ่อ  ที่อิฉันมานั้น  อิฉันอยากให้หลวงพ่อมาดูดวงชีวิตของลูกสาวทั้ง  5  คนของอิฉันด้วยอ่ะค่ะ"  บงกชเสริมคำพูดต่อจากพจน์  ทำให้พระได้ฟังที่พจน์และบงกชพูดมานั้น  พระจึงบอกกับพจน์และบงกชขึ้นมา

        พระ  :  "โยมพูดอะไรของโยมล่ะ  โยมพจน์  โยมบงกช?  พระไม่ใช่หมอดูที่มาทำนายดูดวงชะตาอะไรประมาณนั้นแหล่ะ  มันเป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละคนมากกว่า"  พระพูดเสร็จ  ทำให้พจน์และบงกชมองหน้ากันก่อนที่จะมาพูดกับพระขึ้นมาอีกครั้ง

        พจน์  :  "ผมทราบดีครับหลวงพ่อ  แต่ผมอยากให้หลวงพ่อหรือว่าใครก็แล้วแต่  มาช่วยดูดวงของลูกสาวของผมทั้ง  5  คนด้วยนะครับ"  พจน์ก็ยังอ้อนวอนให้พระมาดูดวงชีวิตของลูกสาวของพจน์ทั้ง  5  คน  พระจึงนิ่งคิดไปสักพักใหญ่ก่อนที่จะตอบออกมา

     

        พระ  :  "ถ้าโยมอยากให้อาตมาทำอย่างนั้นล่ะก็  อาตมาคงห้ามความคิดของใครไม่ได้หรอก"  พระยอมใจอ่อนให้ดูดวงชีวิตของทั้ง  5  สาว  ทำให้พจน์ยิ้มด้วยความดีใจ

        พจน์  :  "ขอบคุณมากครับหลวงพ่อ  (บอกกับลูกสาวทั้ง  5  คน)  ลูก  ไปเข้าวัดดีกว่านะลูก"  พจน์พูดเสร็จ  จึงพาบงกชและลูกสาวทั้ง  5  คนเข้ามาในวิหารแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นวิหารของพระ  พอมาถึงในวิหารแล้ว  ทั้งหมดก็มานั่งที่พระพูดไว้

        พระ  :  "โยมพจน์  อาตมาเอาสมุดกับปากกามาให้ลูกสาวของโยมทั้ง  5  คน  เขียนชื่อ  -  นามสกุล  วัน  เดือน  ปี  เกิด  เวลาที่เกิดด้วย  เดี๋ยวอาตมาจะดูให้"  พระพูดเสร็จ  จึงยื่นสมุดปากกามาให้ทั้ง  5  สาวเขียน  แต่ความจริงแล้ว  พระก็เก่งวิชาความสามารถของพระที่เขาได้เรียนรู้มา  ส่วนจะดีหรือไม่ดีนั้น  มันแล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล  เริ่มจากปานวาด  เขียนชื่อและรายละเอียดทั้งหมด  ต่อมาด้วยพิมลวรรณ  ตามมาด้วยพิมลรัตน์  จากนั้นก็เป็นชญาดา  และคนสุดท้ายก็คือ  สิริภรณ์  หลังจากที่ลูกสาวของพจน์ทั้ง  5  คนเขียนในสมุดเรียบร้อยแล้ว  พจน์จึงเอาสมุดมาให้พระดู  พระจึงนั่งอ่านชื่อลูกสาวทั้ง  5  คน  พระจึงได้ทราบวันเดือนปีเกิดของทั้ง  5  สาว  พระจึงนั่งหลับตาเข้าไว้ไปสักพักนึง  ก่อนที่จะบอกกับปานวาด

     

        พระ  :  (บอกกับปานวาด)  "โยมปานวาดใช่ไหม?"

        ปานวาด  :  (ยกมือไหว้พระ)  "ใช่ค่ะหลวงพ่อ"

        พระ  :  "โยมเกิดวันพฤหัสบดีที่  20  ธันวาคม  2522  อายุ  30  ปี  เวลา  12.20  น.  ใช่ไหม?"

        ปานวาด  :  "ค่ะ"  ปานวาดตอบเสร็จ  พระนั่งหลับตาไปสักพักใหญ่  ก่อนที่จะบอกกับปานวาด

        พระ  :  "โยมปานวาด  เป็นสาวธาตุดิน"  พระตอบเสร็จ  ทำให้ปานวาดทำสีหน้างงกับคำตอบของพระ

        ปานวาด  :  "หลวงพ่อคะ  ไหนลองพูดใหม่อีกทีสิคะ  ดิฉันไม่เข้าใจเลย"

        พระ  :  "โยมปานวาด  เกิดในสาวธาตุดิน  เป็นตัวแทนของสีส้มกับสีน้ำตาล  เป็นดินที่บริสุทธิ์  ไม่มีสกปรก  และเป็นคนอดทน  รักความยุติธรรม  หนักแน่น  มั่นคง  ก็หมายถึงว่า  อะไรๆก็มั่นคงไปหมด  ยกเว้นเพียงแต่เรื่องความรัก  ระวังอย่าให้มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  ว่าแต่โยมทำงานอะไร?"

        ปานวาด  :  "ดิฉันทำงานเป็นพนักงานธนาคารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิค่ะ"

       

        พระ  :  (ถามปานวาดต่อ)  "แล้วแฟนของโยมปานวาดทำงานอะไร?"

        ปานวาด  :  "แฟนของดิฉันทำงานเป็นสจ๊วตในสายการบินค่ะ"

        พระ  :  "ไหน  ลองเอาวันเดือนปีเกิดของแฟนของโยมหน่อยสิ"  สิ้นเสียงของพระ  พจน์หยิบสมุดกับปากกามาให้ปานวาดเขียนวัน  เดือน  ปี  เกิดของภูวนาท  หลังจากที่ปานวาดเขียนเสร็จแล้ว  ปานวาดจึงเอาสมุดกับปากกามาส่งให้พจน์และส่งไปให้พระ  พระจึงอ่านวัน  เดือน  ปีเกิดของภูวนาท  หลับตานิ่งสักพักใหญ่  ก่อนที่จะลืมตาตอบกับปานวาดขึ้นมา

        พระ  :  "ผู้ชายคนนี้  เค้าเป็นคู่แท้ของโยม  แต่อาจจะมีมือที่สามเข้ามาบ้าง  ยังไง  อาตมามีวิธีเดียวที่จะให้โยมกับแฟนของโยมอยู่ด้วยกันได้ก็คือ  ต้องรักกันเชื่อใจกันเอาไว้มากๆ  ส่วนเรื่องแต่งงาน  อาตมายังตอบไม่ได้จริงๆ"  พระได้ชี้แจงให้ปานวาดฟัง  ทำให้ปานวาดคิดไว้ว่า  คนอย่างภูวนาทเค้าจะมีสาวอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า?  หลังจากที่พระได้ดูดวงชะตาของปานวาดแล้ว  ต่อไป  ก็จะเป็นพิมลวรรณ  พระได้อ่านชื่อ  พิมลวรรณ  ก่อนที่จะมองหน้าพิมลวรรณ

     

        พระ  :  (พูดกับพิมลวรรณ)  "โยมพิมลวรรณใช่ไหม?"

        พิมลวรรณ  :  (ยกมือไหว้พระ)  "ใช่ค่ะหลวงพ่อ"

        พระ  :  "โยมพิมลวรรณ  เกิดวันจันทร์ที่  20  เมษายน  2524  อายุ  28  ปี  เวลา  08.30  น.  ใช่ไหม?"

        พิมลวรรณ  :  "ใช่ค่ะ"  สิ้นเสียงของพิมลวรรณ  พระนั่งหลับตานั่งสมาธิไปสักพักใหญ่  ก่อนที่จะลืมตาพูดกับพิมลวรรณ

        พระ  :  "โยมพิมลวรรณ  เป็นสาวธาตุทอง  เป็นคนที่ฉลาด  หลักแหลม  มีความรู้  แถมชอบเอาชนะด้วย  และที่สำคัญ  ผู้หญิงคนนี้เสน่ห์แรงมาก"  พระพูดเสร็จ  ทำให้พจน์และบงกช  รวมไปถึงปานวาด  พิมลรัตน์  ชญาดาและสิริภรณ์  ตกใจและอึ้งกับคำพูดของพระ  และไม่คิดเลยว่า  พิมลวรรณจะเป็นคนแบบนี้

        บงกช  :  "ทำไมล่ะคะ?หลวงพ่อ"

     

        พระ  :  "ลูกสาวของโยมคนที่  2  ในชาติที่แล้ว  โยมเป็นเจ้าคุณหลวง  ที่ทุกๆคนรักและเคารพ  แถมยังเอาทาสมาเป็นเมียหลายคน  ชาตินี้  โยมพิมลวรรณ  เป็นคนสวย  มีผู้ชายมาชอบโยม  เรื่องการงาน  ดีมาก  การเงินก็ดี  แต่เรื่องของความรัก  โยมพิมลวรรณอย่าเลือกมากกับเรื่องความรักเลย  เลือกคนเดียวแค่นี้ก็พอแล้ว  เนื้อคู่ของโยมพิมลวรรณ  จะต้องเป็นคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าโยม  และที่สำคัญ  เค้าเป็นคนดีด้วย"

        พิมลวรรณ  :  "แสดงว่า  นู๋มีคู่แข่งแล้วใช่ไหมคะ?"

        พระ  :  "โยมไม่มีคู่แข่งหรอก  แต่ระวังเรื่องการพูดการจาที่มาดูถูกผู้ใหญ่ของฝ่ายชายเข้าบ้างนะ"  สิ้นเสียงของพระเสร็จแล้ว  หลังจากที่พระได้ดูดวงของพิมลวรรณ  จากนั้น  พระก็ได้ดูดวงของพิมลรัตน์  พระได้อ่านชื่อของพิมลรัตน์  ก่อนที่จะมองหน้าพิมลรัตน์

        พระ  :  (พูดกับพิมลรัตน์)  "โยมพิมลรัตน์ใช่ไหม?"

        พิมลรัตน์  :  (ยกมือไหว้พระ)  "ใช่ค่ะหลวงพ่อ"

        พระ  :  "โยมพิมลรัตน์  เกิดวันศุกร์ที่  19  สิงหาคม  2526  อายุ  26  ปี  เวลา  18.30  น.  ใช่ไหม?"

       

        พิมลรัตน์  :  "ใช่ค่ะ"  สิ้นเสียงของพิมลรัตน์  พระนั่งหลับตานั่งสมาธิไปสักพักใหญ่  ก่อนที่จะลืมตาบอกกับพิมลรัตน์

        พระ  :  "โยมเกิดวันศุกร์  เป็นสาวธาตุน้ำ  โยมคนนี้เป็นคนทำอะไรด้วยความใจเย็น  แต่บางทีก็อารมณ์แปรปรวนไปหน่อย  เพราะชาติที่แล้ว  โยมพิมลรัตน์  เป็นผู้ชาย  เป็นทหารกลับชาติมาเกิด  เป็นคนที่รักชาติ  รักศักดิ์ศรีของตัวโยม  เป็นคนรักใครรักจริง  แต่พอมาชาตินี้  โยมเป็นผู้หญิง  เป็นผู้หญิงที่เก่งในเรื่องของการต่อสู้  แล้วเพื่อนของโยมในชาติที่แล้ว  ก็เป็นทหารด้วย"  พระพูดเสร็จ  ทำให้พิมลรัตน์ที่ได้ยินคำพูดของพระเหล่านั้น  ก็ได้แต่ถามพระด้วยสีหน้างงเล็กน้อย

        พิมลรัตน์  :  "หลวงพ่อคะ  คนที่พระกำลังพูดถึงนั้น  ก็คือ  นาย  ศุภกรณ์  เพื่อนสนิทของนู๋ในสมัยเรียนใช่ไหมคะ?"

        พระ  :  "ใช่แล้ว  โยมศุภกรณ์  เค้าเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่ค่อยสนับสนุนเรื่องการเล่นดนตรี  การมีความฝันอยากจะเป็นนักร้อง  โยมศุภกรณ์  เค้าหนีออกจากบ้าน  เพราะพ่อทะเลาะกับโยมศุภกรณ์  พออาตมามาเห็น  อาตมาก็เลยเลี้ยงดูโยมศุภกรณ์มาเป็นเด็กวัดเดียวกับโยมณัฐพงษ์ไง"  พระพูดเสร็จ  ทำให้พิมลรัตน์รู้ว่า  ศุภกรณ์  เพื่อนสนิทของพิมลรัตน์นั้น  ได้เป็นเด็กวัดเดียวกับณัฐพงษ์ด้วย

     

        พิมลรัตน์  :  "ว่าแต่หลวงพ่อให้นู๋ระวังเรื่องอะไรมากที่สุดคะ?"

        พระ  :  "เรื่องศัตรู  อันนี้ต้องระวังเป็นอย่างมากเลยล่ะ  และอีกเรื่องนึงที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ  การพูดจา  ต้องพูดให้มันดีหน่อยนะ"  สิ้นเสียงของพระ  หลังจากที่พระได้ดูดวงของพิมลรัตน์เสร็จแล้ว  พระจึงได้อ่านชื่อของชญาดา  ก่อนที่จะพูดกับชญาดา

        พระ  :  (พูดกับชญาดา)  "โยมชญาดาใช่ไหม?"

        ชญาดา  :  (ยกมือไหว้พระ)  "ใช่ค่ะหลวงพ่อ"

        พระ  :  "โยมชญาดา  เกิดวันพุธที่  28  สิงหาคม  2528  อายุ  24  ปี  เวลา  20.12  น.  ใช่ไหม?"

     

        ชญาดา  :  "ใช่ค่ะ"  สิ้นเสียงของชญาดา  พระนั่งหลับตานั่งสมาธิไปสักพักใหญ่  ก่อนที่จะลืมตาบอกกับชญาดา

        พระ  :  "โยมเกิดวันพุธ(กลางคืน)  เป็นสาวธาตุไม้  โยมคนนี้  ในชาติที่แล้ว  เป็นแม่ทัพ  เป็นคนเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า  ทำให้ภรรยาของโยมในชาติที่แล้วเสียใจมาหลายครั้ง  ภรรยาของโยมก็เลยคิดสั้นฆ่าตัวตาย  พอชาตินี้  โยมเป็นคนอ่อนโยน  จิตใจดี  เสียสละ  เหมือนต้นไม้ต้นนึง"

        ชญาดา  :  "หลวงพ่อคะ  ให้ดิฉันระวังเรื่องอะไรมากที่สุดคะ?"

        พระ  :  "เรื่องของความรักกับเพื่อนไง"

        ชญาดา  :  "ทำไมล่ะคะ?"

        พระ  :  "เรื่องของความรักนั้น  โยมต้องระวังก็คือ  ระวังแฟนของโยมจะมีใจให้กับคนอื่นนะ  ทำให้โยมต้องมานั่งโศกเศร้าอีก"

        ชญาดา  :  "แล้วเพื่อนล่ะคะ?"

        พระ  :  "เรื่องของเพื่อน  ต้องระวังเป็นอย่างมาก  อย่าให้เพื่อนทำให้โยมเสียใจอีก  ถึงขนาดทำร้ายร่างกายโยมก็ว่าได้"

       

        ชญาดาได้ฟังคำพูดของพระเอาไว้แล้ว  สีหน้าของชญาดาอึ้งไปตามกัน  และเกิดความสงสัยขึ้นมา

        ชญาดา  :  "เพื่อนของดิฉันเค้าทำอะไรให้ดิฉันเสียใจด้วยหรอคะหลวงพ่อ?"

        พระ  :  "เพื่อนของโยมชญาดา  อาจจะแย่งคนที่รักโยมได้  ไม่ช้านี้หรือไม่ก็สักพักแหล่ะ"  สิ้นเสียงของพระ  ทำให้ชญาดาคิดในใจว่า  เธอกับพยัคฆ์แฟนหนุ่มของเธอ  ยังไม่เคยนอกใจกับเธอแม้แต่ครั้งเดียว  หลังจากที่พระได้ดูดวงชะตาของชญาดาแล้ว  พระจึงอ่านชื่อของสิริภรณ์  ก่อนที่พระจะมองหน้าสิริภรณ์

        พระ  :  (พูดกับสิริภรณ์)  "โยมสิริภรณ์ใช่ไหม?"

        สิริภรณ์  :  (ยกมือไหว้พระ)  "ใช่ค่ะหลวงพ่อ"

        พระ  :  "โยมสิริภรณ์  เกิดวันอาทิตย์ที่  13  ธันวาคม  2530  อายุ  22  ปี  เวลา  07.55  น.  ใช่ไหม?"

     

        สิริภรณ์  :  "ใช่ค่ะ"  สิ้นเสียงของสิริภรณ์  พระนั่งหลับตานั่งสมาธิไปสักพักใหญ่  ก่อนที่จะลืมตาบอกกับสิริภรณ์

        พระ  :  "โยมสิริภรณ์เกิดวันอาทิตย์  เป็นสาวธาตุไฟ  (หันมาพูดกับพจน์และบงกช)  โยมสิริภรณ์คนนี้  เค้าเป็นคนตรงไปตรงมา  มั่นใจในตัวเอง  ชาติที่แล้ว  โยมสิริภรณ์เป็นภรรยาของคุณหลวง  แต่มีความสัมพันธ์กับสามีในชาติที่แล้วอย่างลับๆ  จนถูกคุณหลวงจับได้"

        สิริภรณ์  :  "หลวงพ่อคะ  นู๋อยากจะถามหลวงพ่ออีกเรื่องนึงอ่ะค่ะ  เป็นเรื่องสำคัญมากเลยล่ะค่ะ"  สิริภรณ์ทำหน้าตาตื่น

        พระ  :  "มีอะไรก็ว่ามาสิ  บอกกันตรงๆก็ได้"  พระพูดเสร็จ  สิริภรณ์รวบรวมความกล้าก่อนที่จะถามพระอย่างมั่นอกมั่นใจ

        สิริภรณ์  :  "นู๋อยากจะถามหลวงพ่อว่า  ในชาตินี้ของนู๋  นู๋มีสิทธิ์จะเจอเนื้อคู่ไหมคะ?"  สิ้นเสียงของสิริภรณ์  ทำให้พระที่ได้ฟังคำถามของสิริภรณ์นั้น  ก็รู้สึกคิดหนักพอสมควร  ก่อนที่จะตอบสิริภรณ์

     

        พระ  :  "โยมสิริภรณ์คงจะเจอเนื้อคู่ในไม่ช้ามานี้"  พระพูดเสร็จ  ทำให้สิริภรณ์ยิ้มด้วยความดีใจไม่ทันไร  พระจึงพูดกับสิริภรณ์ต่ออีก

        พระ  :  "แต่โยมต้องระวังเรื่องคู่ครองนะ  เพราะจากที่พระได้ดูดวงของโยมสิริภรณ์มาเหล่านั้น  โยมจะมีเนื้อคู่เยอะพอสมควร  ไม่ว่าจะเป็นคนวัยทอง  วัยรุ่น  แม้กระทั่งวัยเดียวกับโยม  รวมไปถึงคนที่มีแฟนแล้ว  อย่าไปแย่งของๆใครมาเป็นของโยมเลย  มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก"  พระพูดเสร็จ  ทำให้สีหน้าสิริภรณ์เริ่มไม่เชื่อตามที่พระพูดเอาไว้

        สิริภรณ์  :  "หลวงพ่อคะ  แต่นู๋อยากได้แฟนเป็นคนหน้าตาดี  หล่อ  รวย  มีอีกสักคนไหมล่ะคะ?"

        พระ  :  "มีแน่  แต่อย่าเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นหรอกนะ  เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะแหกอกโยมเอา  แต่ที่อาตมาเตือนอีกเรื่องนึงก็คือ  เรื่องการดื่มสุรา  และก็เรื่องการทะเลาะตบตีกับคนอื่น  อันนี้อาตมาเป็นห่วงจริงๆ  ต้องระวังเอาไว้มากๆเลย" 

        พจน์  :  "หลวงพ่อครับ  ทำไมดวงของลูกสาวของผมทั้ง  4  คนดวงดี  แต่ทำไมดวงของสิริภรณ์ไม่ดีอ่ะครับ?  ทำไมผลออกมามันเป็นอย่างนี้"

        พระ  :  "ฟังดีๆนะโยมพจน์  โยมสิริภรณ์ลูกสาวคนสุดท้องของโยม  เค้าเกิดวันอาทิตย์  คนที่เกิดวันอาทิตย์นั้น  มักจะอาภัพเรื่องคู่ครอง  มีแฟนไม่ทันไร  ก็หาแฟนใหม่กันอีกแล้ว  จนกระทั่งมีความสัมพันธ์อย่างลับๆอีกด้วย  เพราะชาติที่แล้ว  โยมสิริภรณ์ทำกรรมมาเยอะพอสมควรล่ะ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×