ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่น้อง 5 ธาตุ ภาค 1

    ลำดับตอนที่ #14 : หน้าไม่อาย

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 53


    ตอนที่ 14

         สิริภรณ์  :  "ฉันจะกินยาอะไร  ยี่ห้ออะไร  ฉันก็เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรเหมือนกัน  ไอ้เด็กวัด"

        ณัฐพงษ์  :  "นี่!  คุณ  คุณจะว่าอะไรผมก็ว่าได้นะ  แต่คำนี้ๆไปใช้ที่อื่นเลย  ไม่ต้องใช้กับผมหรอก"

        สิริภรณ์  :  "ทำไมล่ะ?  ฉันไม่จำเป็นต้องว่าใครหรอก  นอกจากนายคนเดียวนั่นแหล่ะ  (มองณัฐพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า)  หน้าตาของนายใช้ได้นะ  แต่เสียอย่างเดียว  จนก็จน  เป็นเด็กวัด  ไม่รู้ไปเข้าวัดศาลาไหนก็ไม่รู้  พ่อแม่สั่งสอนบ้างหรือเปล่าล่ะ  (เดินเข้าไปชี้หน้าณัฐพงษ์และจิกหัวของเขาอย่างแรง)  และน้ำหน้าอย่างนาย  พ่อแม่ของนายก็ไม่มีอ่ะสิ"  สิริภรณ์พูดเสร็จกำลังจะเดินไป  แต่ณัฐพงษ์พูดขึ้นซะก่อน

        ณัฐพงษ์  :  "ใช่สิ  พ่อแม่ของผมก็ไม่มี  เป็นไงล่ะ  สะใจใช่ไหมที่ชอบมาด่าคนจนๆอย่างผมแบบนี้"  ณัฐพงษ์พูดเสร็จ  ทำให้สิริภรณ์หยุดเดินและมองไปที่ณัฐพงษ์

        สิริภรณ์  :  "สะใจสิ  สะใจยิ่งกว่าอะไรอีก  คราวหน้าคราวหลัง  อย่าเจอหน้ากันอีกเลย  จำไว้"  สิริภรณ์ตะคอกใส่ณัฐพงษ์ด้วยความสะใจ  และเดินขึ้นรถของเธอและขับแล่นออกไป  ปล่อยให้ณัฐพงษ์ยืนงงเพียงคนเดียว  และไม่อยากจะเชื่อเลยว่า  สิริภรณ์จะเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้

     

        ในผับแห่งย่านอาร์ซีเอ  พัชรีหรือเชอรี่กำลังนั่งกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน  ทันใดนั้นเอง  สิริภรณ์ก็เดินเข้ามาในผับด้วยสีหน้าอารมณ์ขุ่นเคือง 

        พัชรี  :  (ยกมือโบกให้กับสิริภรณ์)  "ยัยภรณ์  พี่อยู่นี่"  พัชรีพูดเสร็จ  สิริภรณ์ก็เดินเข้ามานั่งใกล้กับพัชรีทันที

        พัชรี  :  "เป็นไงบ้างล่ะเพื่อน?  ทำหน้าไปโกรธใครมาอ่ะ?"

        สิริภรณ์  :  "ก็ไอ้เด็กวัดนั่นไงล่ะ"  สิริภรณ์พูดอย่างเสียงดัง

        พัชรี  :  "ไอ้เด็กวัดที่ชื่อ  ณัฐพงษ์  เนี่ยนะ?"

        สิริภรณ์  :  "ก็จะใช่ใครสักที่ไหนล่ะ  ก็มีแต่มันอยู่นั่นแหล่ะ"

        พัชรี  :  "โธ่!  น้องภรณ์เพื่อนรักของพี่  อย่าเพิ่งทำหน้าโกรธใครเลยนะ  ทำหน้าแบบนี้ไม่สวยนะตัวเอง"

     

        สิริภรณ์  :  "ว่าแต่พี่เชอรี่  มีอะไรให้ฉันหายแก้เซ็งเลยหรือเปล่าล่ะ?"

        พัชรี  :  "มีสิ  วันนี้พี่เลี้ยงเหล้าให้กับเพื่อนของพี่รวมไปถึงน้องภรณ์ด้วย"

        สิริภรณ์  :  "จริงหรอพี่?  ว่าแต่  ฉันอยากมีผู้ชายสักคนน่ะ  อยากมีแฟนจริงๆนะ"

        พัชรี  :  "ทำไมล่ะน้องภรณ์?"

        สิริภรณ์  :  "ให้พี่ช่วยหาให้ฉันหน่อยนะ  เอาแบบว่า  ผู้ชายที่ฉันชอบ  จะต้องเป็นผู้ชายหน้าตาดี  หล่อๆ  รวยๆ  ผิวขาว  หุ่นดีเหมือนพระเอกหนังสักคน  และที่สำคัญจะไม่ต้องเป็นเด็กวัดเหมือนไอ้ตาณัฐพงษ์อีกต่างหาก"  สิริภรณ์บอกสเป๊คผู้ชายที่เธอชอบที่สุดมาให้พัชรีหาให้  ทำให้พัชรีคิดอย่างหนักก่อนที่จะตอบ

        พัชรี  :  "ได้สิ  เอาแบบว่า  ตามที่แกต้องการเลยก็แล้วกัน  แต่ตอนนี้  ฉันจะให้น้องภรณ์มาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนพี่หน่อยก็แล้วกัน"  พัชรีพูดเสร็จ  ยกมือหยิบแก้วที่มีสุราพร้อมไปกับเพื่อนๆและสิริภรณ์อีกด้วย  ทำให้ทั้งหมดดื่มสุราอย่างมีความสุข  พร้อมกับเต้นกับเพื่อนๆอีกด้วย

       

        ส่วนณัฐพงษ์กำลังนั่งด้วยความเสียใจที่สิริภรณ์ดูถูกเขาขนาดนี้  ณัฐพงษ์ได้นึกถึงเหตุการณ์ที่สิริภรณ์ดูถูกคนจนอย่างเขา

        สิริภรณ์  :  "ฉันจะกินยาอะไร  ยี่ห้ออะไร  ฉันก็เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรเหมือนกัน  ไอ้เด็กวัด"

        ณัฐพงษ์  :  "นี่!  คุณ  คุณจะว่าอะไรผมก็ว่าได้นะ  แต่คำนี้ๆไปใช้ที่อื่นเลย  ไม่ต้องใช้กับผมหรอก"

        สิริภรณ์  :  "ทำไมล่ะ?  ฉันไม่จำเป็นต้องว่าใครหรอก  นอกจากนายคนเดียวนั่นแหล่ะ  (มองณัฐพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า)  หน้าตาของนายใช้ได้นะ  แต่เสียอย่างเดียว  จนก็จน  เป็นเด็กวัด  ไม่รู้ไปเข้าวัดศาลาไหนก็ไม่รู้  พ่อแม่สั่งสอนบ้างหรือเปล่าล่ะ  (เดินเข้าไปชี้หน้าณัฐพงษ์และจิกหัวของเขาอย่างแรง)  และน้ำหน้าอย่างนาย  พ่อแม่ของนายก็ไม่มีอ่ะสิ"

        ณัฐพงษ์  :  "ใช่สิ  พ่อแม่ของผมก็ไม่มี  เป็นไงล่ะ  สะใจใช่ไหมที่ชอบมาด่าคนจนๆอย่างผมแบบนี้" 

        สิริภรณ์  :  "สะใจสิ  สะใจยิ่งกว่าอะไรอีก  คราวหน้าคราวหลัง  อย่าเจอหน้ากันอีกเลย  จำไว้"  ณัฐพงษ์ได้นึกถึงเหตุการณ์ที่สิริภรณ์ด่าเขาอย่างแรงๆ  แต่ในใจลึกๆ  ก็อยากจะขอโทษเขาด้วยซ้ำไป  แต่แล้วพระก็เดินเข้ามาเห็นณัฐพงษ์กำลังนั่งเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

     

        พระ  :  "ยังไม่นอนอีกหรอ?โยมณัฐพงษ์"  พระถามเสร็จ  ณัฐพงษ์ยกมือเช็ดน้ำตาของเขาและยกมือไหว้พระ

        ณัฐพงษ์  :  "ครับหลวงพ่อ  ผมนอนแล้ว  แต่นอนไม่หลับสักทีเลยอ่ะครับ"

        พระ  :  "นอนไม่หลับ  แล้วโยมยังคิดมากเรื่องไรอยู่?  บอกความจริงกับอาตมาไปตรงๆเหอะ  เผื่ออาตมาจะช่วยโยมได้"  พระพูดเสร็จ  ทำให้ณัฐพงษ์รวบรวมความกล้าเข้าไว้  ก่อนที่จะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พระฟัง

        ณัฐพงษ์  :  "ผมยังคิดมากเรื่องสิริภรณ์นี่แหล่ะครับ  วันนี้สิริภรณ์เค้าออกไปข้างนอก  ผมกำลังเดินซื้อของอยู่ๆ  จู่ๆรถของสิริภรณ์เค้าชนผมล้มเลยอ่ะครับ  หาว่าผมไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ  (เงียบก่อนที่จะพูดกับพระด้วยน้ำเสียงเครือ)  แต่ที่ยิ่งกว่านั้น  สิริภรณ์เค้าดูถูกฐานะของผมนี่ไม่เท่าไหร่หรอกครับ  เค้าดูถูกพ่อแม่ของผมอีก  ทั้งๆที่พ่อแม่ของผมจากผมไปมาตั้งแต่ตอนที่ผมยังเด็กอยู่เลย  ฮือๆๆๆ(ร้องไห้)"  ณัฐพงษ์เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับสิริภรณ์มาให้พระฟัง  ทำให้พระส่ายหน้าอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่า  สิริภรณ์จะร้ายกาจขนาดนี้  แถมยังไม่ชอบไปวัด  ทำบุญตักบาตรอีกต่างหาก

     

        พระ  :  (ยกมือลูบหัวของณัฐพงษ์อย่างช้าๆ)  "โธ่!  โยมณัฐพงษ์  จะร้องไห้เสียใจไปกับเค้าทำไมล่ะ  ในเมื่อโยมสิริภรณ์ผู้หญิงของโยม  เค้าไม่ชอบหน้าโยม  ทั้งฐานะ  แถมพ่อแม่ของโยมก็ไม่มี  โยมอย่าเพิ่งเสียใจไปนะ  ถ้าโยมยังรักโยมสิริภรณ์จริงๆล่ะก็  โยมพยายามให้โยมสิริภรณ์หมั่นทำบุญให้มากๆ  เกิดชาติหน้าฉันใด  ก็ขอให้เป็นคนดีอีก"  พระพูดกับณัฐพงษ์ด้วยความสงสาร  ก่อนที่พระจะพูดกับณัฐพงษ์ต่อ

        พระ  :  "โยมณัฐพงษ์  หยุดร้องไห้ได้แล้ว  โยมเป็นลูกผู้ชาย  ก็ต้องมีใจให้อดทน  ต้องกล้าหาญ  ไม่ใช่มาร้องไห้งอแงเหมือนผู้หญิงแบบนี้  แต่อาตมาจะเอาใจช่วยให้โยมทำดีกับโยมสิริภรณ์ได้  ถ้าไม่ได้  สักวันนึง  เค้าจะเห็นความดีของโยมเอง  ว่าคนจนๆอย่างโยม  ก็เป็นคนดีได้เหมือนกัน"  พระปลอบใจณัฐพงษ์  ทำให้ณัฐพงษ์กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งนึง

        ณัฐพงษ์  :  "ขอบคุณครับหลวงพ่อ  ผมสัญญานะครับว่า  คนอย่างผม  จะไม่มีวันอ่อนแอเป็นอันขาดครับ"

        พระ  :  "ดีมาก  ถ้างั้นอาตมาขอตัวล่ะ"  พระพูดเสร็จ  จึงเดินออกไป  ส่วนณัฐพงษ์ก็ยังมีความหวังที่จะทำให้สิริภรณ์กลับตัวกลับใจเป็นคนดีให้ได้  ส่วนที่บ้านของพจน์  พจน์  บงกช  ป้าแจง  ปานวาด  พิมลวรรณ  พิมลรัตน์  และชญาดา  กำลังนั่งรอสิริภรณ์อยู่ที่บ้าน  เพราะตอนนี้เวลา  22.50  น.  เพราะอีก  10  นาที  จะถึง  5  ทุ่ม  ทำให้พจน์และบงกชยังเป็นห่วงสิริภรณ์  กลัวว่าสิริภรณ์จะเป็นอะไรไป?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×