ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn&AKB0048 ขอรักเธอได้ไหม?

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 57


     

    ตอนที่ 5

     

                สึนะมองนางิสะด้วยหัวใจที่สั่นรัว เธอเปล่งประกายเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง เขาเริ่มกลัวว่าซักวันจะคว้าเธอเอาไว้ไม่ได้

     

                ขณะที่ทุกคนกำลังรอเพลงต่อไป จู่จู่ก็มีหุ่นรบยักและคนในชุดเกราะสีดำมากมายวิ่งเข้ามา ทุกคนต่างกรีดร้องกันอย่างแตกตื่นและหวาดกลัว พวกสึนะได้แต่คิดหนักกับสถาณการณ์รอบๆ

     

                ทุกคน เอายังไงดี?สึนะถาม

     

                สึนะคุง! ” นางิสะกับจิเอริวิ่งเข้ามาหาด้วยใบหน้าตื่นๆ สึนะเห็นและก็ต้องวิ่งเข้าไปหา

     

                นางิสะจัง หนีไปเถอะ! ” สึนะบอก ทุกคนพยักหน้า แต่นางิสะกับจิเอริส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าพวกเธอจะไม่หนีไปไหนทั้งนั้น

     

                พวกเราไม่ไปไหนทั้งนั้น...พวกเธอบอกพร้อมกับ และกระชับไมค์ในมือ

     

                ทำไมล่ะ มันอันตรายนะเคียวโกะบอกเพราะว่าเธอเป็นห่วงสองสาวที่ไม่ยอมไปไหน

     

                เพราะพวกเราต้องปกป้องพวกเขา! ” ทั้งสองเอี้ยวตัวหลบโต๊ะที่ลอยมาอย่างหวุดหวิด เอาล่ะนะ จิเอริ! ” นางิสะบิดไมค์จนกลายเป็นดาบเรืองแสงโผล่ขึ้นมา

     

                อื้ม! ” จิเอริพยักหน้ารับ สองสาววิ่งเข้าประจันหน้ากับหน่วยเดสอย่างชำนาญ และคล่องแคล่ว ปากของทั้งสองก็ร้องเพลงไปด้วยไม่หยุดหย่อน พวกสึนะมองอย่างทึ่งๆ อีกซักพักก็มีหุ่นรบรูปไอดอลมากมายโผล่เข้ามาช่วย รวมถึงกลุ่มคนที่ใช่อาวุธต่างๆในการเชียร์เข้ามาร่วมต่อสู้ด้วย

     

                พวกเราก็สู้มั่งเถอะ! ” สึนะบอกพร้อมกับกินยาดับเครื่องชนและสวมถุงมืออย่างที่ทำประจำ

     

                ครับ!/ค่ะ! ” ผู้พิทักษ์ทั้งหมดรับคำและเริ่มเปิดกล่อง ส่วนพวกเคียวโกะ ฮารุ แรมโบ้และอี้ผิง รีบอร์นก็พาไปในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ทั้งหมดจึงสู้ได้โดยไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด นางิสะมองสึนะที่เปลี่ยนไป เธอยิ้มเบาๆนางิสะหยุดการเคลื่อนไหว เธอหันไปมองเด็กที่นั่งร้องไห้โดยมีโต๊ะพุ่งเข้ามาหาด้วยความตกใจ ไวกว่าความคิดนางิสะวิ่งเอาตัวเข้าไปบังเด็กคนนั้นอย่างรวดเร็ว

     

                ปึก!

     

                “ นางิสะ!!! ” จิเอริร้องขึ้น เธอรีบจัดการเดสตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าไปดูนางิสะที่นอนสลบอยู่โดยมีเลือดไหลออกมาจากหัวเต็มไปหมด ในอ้อมอกของเธอมีเด็กน้อยนอนร้องไห้อย่างตกใจกลัวและเสียขวัญ จิเอริรีบแบกเด็กน้อยขึ้นมาก่อนจะหันมองหาใครซักคนให้มาช่วย จู่จู่ สึนะก็พุ่งเข้ามาอุ้มตัวของนางิสะเอาไว้แล้วพูดเบาๆ

     

                เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเองแล้วเขาก็พุ่งไปอีกทาง ทางที่มีเคียวโกะอยู่เพื่อให้ช่วยปกป้องผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาที่สลบไปโดยไม่รู้เรื่องราวอะไร ว่าเธอได้ช่วยชีวิตหนึ่งเอาไว้แต่ตัวเองกลับบาดเจ็บเสียเอง เหมือนเขา....

     

                สึนะคุง? อ่ะ! ” เคียวโกะสงสัยที่สึนะเดินเข้ามาหา แต่พอเห็นสภาพของนางิสะแล้วเธอก็เข้าใจ เคียวโกะรีบวิ่งไปหาน้ำอย่างรีบร้อน หลังจากที่สึนะวางนางิสะลงแล้วเขาก็ออกไปทันที สถานการณ์เบื้องหน้าดูจะเริ่มเข้าที่เข้าทางดีแล้ว เพราะความช่วยเหลือจากโอตะทุกคน สึนะมองอย่างทึ่งๆ ทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรแบบนี้แต่พวกเธอก็ยังยืนหยัดสู้ไม่ถอยสินะ....

     

                บนยานคัทจูชะ สึนะนั่งเฝ้านางิสะที่หลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนอยู่อย่างนั้นจนเคียวโกะต้องเดินเอาอาหารมาให้

     

                นี่ข้าวเย็นจ้ะ สึนะคุงเคียวโกะวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะ

     

                อืม ขอบใจนะ เคียวโกะจังสึนะหันมองและยิ้มให้ แล้วหันมาสนใจร่างบางบนเตียงต่อไป เคียวโกะที่เห็นดังนั้นจึงอดถามไม่ได้

     

                สึนะคุง...เธอชอบเค้างั้นหรอ?สึนะนิ่งเงียบไปซักพักก่อนจะระบายลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ เขายิ้มเบาๆและทบทวนเกี่ยวกับเรื่องของนางิสะก่อนจะตอบเคียวโกะ

     

                ไม่รู้สินะ ฉันแค่รู้สึกเหมือนมองเห็นตัวเองในอดีตจากตัวของเธอคนนี้น่ะสึนะพูดไปยิ้มไป

     

                เห็นตัวเองในอดีต...?เคียวโกะพึมพำเสียงเบา ยังไงหรอ?เคียวโกะถามต่อด้วยความสงสัย

     

                “ หืม?....ยังไงน่ะหรอ...สึนะเว้นช่วงไปซักพักเพื่อหาเหตุผล ไม่รู้สิสึนะส่ายหน้าอย่างจำนนกับความคิดของตัวเอง เขาไม่มีเหตุผลอะไรในตอนนี้ สมควรจะเรียนว่าลางสังหรณ์มากกว่าละมั้ง...

     

                อ้าว! ” เคียวโกะถึงกับงง ที่จู่ๆสึนะก็บอกว่าไม่รู้สะงั้น เคียวโกะเบนสายตาลงไปมองเด็กสาวที่กำลังหลับตาพริ้มโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับโลกภายนอกในตอนนี้ บาดแผลที่หัวบ่งบอกว่าคงจะโดนไม่ใช่น้อย แต่ทำไมถึงยังยิ้มอยู่ได้...

     

                ในห้องพักเคียวโกะนั่งเหม่อมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอยู่คนเดียวเงียบๆ ในหัวของเธอมีแต่คำพูดและท่าทางของนางิสะเต็มไปหมด ทั้งๆที่รู้ว่ามันผิดกฎหมายก็ยังดันทุรังที่จะทำ ทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องโดนตามไล่ล่าก็พร้อมจะสู้ตาย ทั้งๆที่รู้ว่าทำแล้วจะเป็นอันตรายกับคนอื่นก็ยังดึงดันที่จะแสดงต่อไป ส่วนเธอก็ทำได้แค่เพียงมองพวกเขาเจิดจรัสราวกับดวงดาวอยู่บนเวที เทียบกันแล้ว เธอคอยแต่ให้คนอื่นมาปกป้อง ไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเองเลยซักอย่าง...

     

                เป็นอะไรงั้นหรอ?จิเอริที่พึ่งจะอาบน้ำเสร็จเดินมาหาเคียวโกะช้าๆ

     

                เปล่าหรอกจ้ะ ฉันแค่นั่งคิดอะไรนิดหน่อยน่ะเคียวโกะบอกด้วยรอยยิ้มทั้งๆที่ในใจไม่ได้ยิ้มตามไปด้วยเลยซักนิดเดียว

     

                “ ที่โลกของพวกเธอน่ะ...ดีมั้ย? จิเอรินั่งลงข้างๆเคียวโกะพร้อมกับเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจของเธอออกมา เคียวโกนิ่งไปซักพัก

     

                ดีสิ ดีมากด้วย...ทำไมงั้นหรอ? เคียวโกะหันไปถามด้วยความสงสัย

     

                ก็ มันสงสัยน่ะ แต่ก็ดีแล้วล่ะนะที่พวกเธอสบายดี ฉันแค่คิดว่าบรรพบุรุษของฉันอยู่ที่ในบนโลกเท่านั้นเอง แล้วก็คิดว่าคุณพ่อในสมัยเด็กก็คงจะสบายดีเช่นกัน จิเอริพูด ดวงตาสีฟ้าคู่สวยนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ และมันคงจะไม่มีวันหายไป มันจะอยู่กับเธอไปนานเท่านาน...

     

                อ้าว! ทั้งสองคนนั่นทำอะไรอยู่งั้นหรอ จิเอริและเคียวโกะหันขวับไปมองผู้ที่เอ่ยคำถามออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

     

                อัตจัง...เธอฟื้นแล้วหรอ แล้วนายคนนั้นล่ะ? จิเอริถามขึ้นเมื่อเห็นนางิสะเดินมาคนเดียวไม่มีสึนะติดสอยหอยตามมาด้วยตามปกติที่เห็นกันอยู่แทบทุกนาที

     

                อ้อ สึนะคุงเค้าไปหาเพื่อนน่ะ เห็นบอกว่ามีเรื่องต้องประชุมกันก็เลยออกไปแล้วล่ะ ตอนนี้คงอยู่ในห้องโถงใหญ่ของยานล่ะมั้ง นางิสะเดินมานั่งข้างๆเคียวโกะและเหม่อมองดาวที่พร่างพรายอยู่บนฟากฟ้า

     

                เหมือนกับตอนนั้นเลยเนอะ จิเอริ นางิสะพึมพำเบาๆ ตาความเงียบงันที่รายล้อมอยู่รอบตัวทำให้ได้ยินกันทุกคน

     

                ตอนนั้น ตอนไหนหรอ? จิเอริถามเพราะว่านึกไม่ออก

     

                ก็ตอนที่พวกเรากลับไปที่อากิบะสตาร์เพื่อช่วยทุกคนไง นางิสะเว้นวรรคไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง ตอนนั้นน่ะ ทุกคนโกรธพวกเรามากๆเลยเนอะ แต่สุดท้ายก็ช่วยไว้ได้ แสงของคิราร่าในตอนนั้นช่างเหมือนกับ...ดวงดาวพวกนี้จริงๆ นางิสะพูดพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปหมายจะคว้ามา แต่สิ่งที่ได้มาคือความว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวเธอ จิเอริมองแล้วยิ้มออกมา

     

                ยังไงเธอก็คือเธอสินะ...นางิสะ ไม่สิ! อัตจัง

     

                เคียวโกะมองนางิสะราวกับคนละเมอ เด็กสาวรูปร่างบอบบางที่อยู่ตรงหน้ากลับมีรอยยิ้มที่สวยได้ขนาดนี้เลยหรอ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเห็นใครยิ้มสวยขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่เคยเลยจริงๆ...

     

                ว่าแต่ แผลที่หัวของเธอไม่เป็นอะไรแล้วหรอ? เคียวโกะถามขึ้นเมื่อไม่เห็นผ้าพันแผลที่หัวอีกต่อไปแล้ว

     

                อ้อ อืม คุณยูกิรินหายาดีๆมาทาให้น่ะ ก็เลยหายไว อีกอย่างแผลก็ไม่ลึกเท่าไหร่ด้วย ถ้าหายช้าก็แย่เหมือนกันนะ นางิสะพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

     

                ทำไมล่ะ? เคียวโกะสงสัย

     

                ก็พรุ่งนี้อัตจังมีงานเยอะทั้งวันเลยน่ะสิ ถ้าให้มาหยุดรักษาตัวก็คงจะไม่ไหว แต่ อันที่จริงเธอพักบ้างก็ได้นะ เดี๋ยวจะแย่เอานะ จิเอริเฉลยให้ พร้อมกับเตือนนางิสะไปในตัว นางิสะเองก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆให้ นั่นเป็นสิ่งที่จิเอริรู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้ารอให้นางิสะงานลดลงล่ะก็ สู้รอเป็นฟักออกจากไข่ยังจะเร็วกว่าเลย...

     

                อีกด้านเงาของใครบางคนที่ยืนหลบอยู่หลังกำแพงก็ยิ้มออกมา...

     

     

     

    ____________________________________________________________________________

     

    กรี๊ดดดดดดด! (>_<;;) เดธต้องกราบขอโทษรีดเดอร์ทุกท่านจริงๆนะคะ ที่เดธอัพช้ามากกกก คงไม่ว่ากันนะคะ พอดีว่าเดธต้องเตรียมตัวขึ้นม.ปลาย แล้ว ก็เลยต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง และต้องเตรียมเอกสารนู่นนี่นั่นเยอะแยะ เดธต้องขอโทษจริงๆค่ะ T^T กราบขอโทษจริงๆค่ะ

     

    ปล. ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่นๆนะคะ พรุ่งนี้เดธอัพให้แน่นอนค่ะ!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×