ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหาเวทย์แห่งความหวัง

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 3 เตรียมตัว

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 55



      บทที่ 3 เตรียมตัว

     

     
                   วันนี้มิเกลตื่นแต่เช้าตรู่ เธออาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดลำลองกางเกงขายาวสีดำและเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ผมสีชมพูถูกถัก

    เป็นเปียเดี่ยว และบนดวงหน้าก็ประดับด้วยแว่นเปลือยกรอบที่เธอชอบใช้อ่านหนังสือ เธอเดินไปเคาะประตูห้องของอีริค


    ก๊อก ~~ ก๊อก


    ครับ เขาเปิดประตูออกมาด้วยท่าทางงัวเงีย ผมสีเงินนั้นยุ่งราวกับรังนกแต่มันก็ไม่ได้ลดความดูดีไปจากดวงหน้าหล่อเหลา

    นั่นเลยแม้แต่น้อย


    มีอะไรครับคุณหนู เขาถาม


    คือ...ฉันจะขออกไปข้างนอกหน่อยนะ เธอเอ่ยขอ อีริคนิ่งไปชั่วครู่ เขาเข้าไปในห้องและเดินกลับออกมาพร้อมกับกระเป๋า

    สตางค์ใบสวยและนำมันมายื่นให้เธอ เมื่อเธอเปิดออกดูก็ต้องพบกับเหรียญทอง เหรียญเงินและเหรียญทองแดงมากมายอยู่ใน

    กระเป๋าและแบงก์สีเทาๆอีกประมาณเจ็ดใบ เธอมองอย่างสงสัย


    ถ้าคุณหนูไปเดินข้างนอกอาจเจอของถูกใจ แล้วอยากซื้อผมก็เลยเอาเงินให้ครับ เหรียญทองมีค่าหนึ่งร้อยยูล เหรียญเงินมิค่า

    สิบยูล เหรียญทองแดงมีค่าหนึ่งยูล และแบงก์สีเทานั่นมีค่าหนึ่งพันยูล ครับ
    เขาบอก เธอพยักหน้า และเดินออกไปจาก

    ปราสาท แทนที่เธอจะขึ้นรถม้า เธอกลับเดินออกไปเองแทน เพราะว่า...มันเด่นเกินไป

     



                    กว่าจะเดินพ้นปราสาทออกมาได้ มิเกลแทบลมจับเพราะตอนที่นั่งรถม้าเลยย่นระยะทางไปได้ทำให้เธอรู้สึกว่าเดินไม่

    นานก็ถึง แต่นี่...กว้างกว่าที่เธอคิดไว้เยอะจริงเชียว เมื่อเดินพ้นปราสาทออกมาได้ เธอก็เริ่มเดินสำรวจตามร้านค้าในตลาดตอน

    เช้าเสียที เธอเดินวนไปวนมาเพราะตลาดนี้เล็กเสียที่ไหน แม้จะกว้างไม่เท่าปราสาทของเธอ แต่ก็ถือว่ากว้างอยู่ดี ระหว่างที่เดิน

    ไปเรื่อยๆ ในซอกตึกเธอเห็นชายอันธพาลกำลังรังแกเด็กสาวคนหนึ่งที่ท่าทางไม่มีแรงจะสู้ ไม่ทันที่สมองจะสั่งการ เธอก็เดิน

    ตรงเข้าไปในซอกตึกนั้นอย่างรวดเร็ว ชายกลุ่มนั้นมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ


    ไงสาวน้อย มีอะไรกับพวกพี่หรอจ้ะ ชายที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเดินออกมาด้วยท่าทางชีกอสุดขีด


    ปล่อยเธอไป เธอเอ่ยเสียงเย็น และราบเรียบ ชายกลุ่มนั้นมองเธออย่างเหยียดๆ มือหนาค่อยๆเอื้อมมาที่ใบหน้าของเธอช้าๆ

    แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร พลังสีทองก็พุ่งออกจากมือของเธอไปยังชายกลุ่มนั้นจนสลบ เด็กสาวที่กำลังสลบไม่ได้สติก็ตื่นขึ้น

    ด้วยท่าทางหวาดๆ


    ไม่เป็นอะไรนะ เธอเดินเข้าไปถาม เด็กสาวพยักหน้า ท่าทางจะอายุเท่ากับเธอเสียด้วย


    เธอชื่ออะไรงั้นหรอ มิเกลถามอีก


    ไลล่า...ไลล่า ฟรอนิไทล์ เด็กสาวตอบ

     


    ฉันชื่อ มิเกล แฟนเทเซีย บ้านเธออยู่ไหนงั้นหรอ  มิเกลถาม เด็กสาวลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตอบมาโดยดี


    อยู่ที่รัฐมิเนอร์วา  เด็กสาวตอบเสียงค่อย มิเกลครุ่นคิดเล็กน้อย ตามที่ได้อ่านเวทย์มา เวทย์เคลื่อนย้ายน่าจะพอไหว


    ในนามแห่งข้า มิเกล แฟนเทเซีย จงเคลื่อนย้ายข้าและสหายไปที่รัฐมิเนอร์วา เซเรส!! ” เมื่อลืมตาขึ้นอีกที่เธอและเด็กสาวก็มา

    อยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ เด็กสาวเอ่ยขอตัวกลับคฤหาสน์ ส่วนเธอก็กลับไปที่ปราสาท แน่นอนการเดินมาเที่ยวตลาดครั้งนี้ทำให้

    เธอได้ชิมอาหารแสนอร่อยมากมาย และได้หนังสือน่าอ่านมาหลายเล่มพอดู เมื่อกลับมาถึงก็เจออีริคยืนดักรออยู่ที่หน้าประตู

    ห้อง


    ได้อะไรมาบ้างหรอครับ เขาถาม เธอจึงชูกล่องใส่หนังสือกล่องใหญ่ที่ด้านในมีหนังสือประมาณห้าเล่ม เธอหยิบกระเป๋า

    สตางค์คืนเขาแต่โดนห้ามไว้เสียก่อน


    ผมว่าคุณหนูคงใช้ไปไม่มากเท่าไร ดังนั้นเงินที่เหลือเอาไว้พรุ่งนี้ที่จะสอบดีกว่านะครับ เพราะค่าลงทะเบียนและค่าอาหาร

    กลางวันด้วย
    เขาเอ่ย มิเกลพยักหน้ารับรู้ ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องเสียงหนึ่งก็ขัดขึ้นอีก


    เดี๋ยวช่วยลงมาที่ห้องหนังสือด้วยนะครับ อีริคเอ่ยสมทบก่อนจะเดินไปรอที่ห้องหนังสือ มิเกลรีบวางหนังสือที่ซื้อมาแม้จะ

    อยากอ่านมากแค่ไหนก็ตาม เธอเดินมาที่ห้องที่คาดว่าจะเป็นห้องหนังสือ เพราะมีหนังสือวางเรียงรายตามชั้นวางจนเต็มไป

    หมด เธอเดินเข้าไปก็เจออีริคกำลังค้นหาหนังสือบางอย่างอยู่ และเมื่อเจอเขาก็นำหนังสือกองพะเนินมาวางไว้ที่โต๊ะตัวหนึ่ง ที่

    ทำจากไม้ชั้นดี เธอเดินมาดูหนังสือก็แทบลมจับแม้จะมีไม่กี่เล่มแต่ทว่า แต่ละเล่มกลับหนาเตอะเสียยิ่งกว่าอะไร


    นี่ อะไรงั้นหรอ เธอถาม


    หนังสือเวทย์ครับ มีนจะบันทึกเวทย์พื้นฐาน เวทย์ชั้นกลาง และเวทย์ชั้นสูงเอาไว้ครับ คุณหนูต้องอ่านเพื่อเอาไปสอบพรุ่งนี้

    นะครับ
    เขาเอ่ย


    ตะ แต่มีเวลาเตรียมตัวแค่วันเดียว แล้วแต่ละเล่มหนาขนาดนี้ ฉันจะอ่านทันได้ยังไง เธอค้านเสียงสูง


    ไม่ต้องห่วงครับ ผมเชื่อว่าคุณหนูทำได้ ว่าแล้วเขาก็เดินออกไป ดังนั้นวันนี้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็นเธอจึงต้องนั่งท่องเวทย์

    ทุกเล่มอยู่นี่แหละ แต่ก็แปลกนะที่เธอสามารถจำเวทย์ทุกบทได้อย่างรวดเร็ว จนเธออดแปลกใจในตัวเองไม่ได้ แต่ก็แน่ละ ก็

    ตอนอยู่ที่โลกเก่าเธอคืออัจฉริยะนี่นา...แต่มาอยู่ที่นี่เธอชักไม่แน่ใจเสียแล้วซิ...


    คุณหนูครับ อาหารเย็นเรียบร้อยแล้วครับ เธอละสายตาจากหนังสือที่อ่านจนเสร็จและกำลังนั่งท่องเวทย์เพื่อให้จำได้ไว้แค่

    นั้น และเดินไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด และลงไปทานอาหารเย็นที่เฝ้ารอมานาน

     



                    เธอเดินลงมาที่ห้องอาหารอย่างเชื่องช้ากว่าทุกครั้ง เพราะเธอกำลังทวนความจำอยู่นั่นเอง เธอเดินลงบันไดจนสะดุด

    เข้ากับขาของตัวเองจนหัวจะทิ่มลงกับพื้น แต่โชคดีที่มีมือของใครบางคนมารับไว้ทัน


    เป็นอะไรมั้ยครับคุณหนู อีริคถาม พลางสำรวจว่าคุณหนูของตนได้รับอันตรายอะไรหรือไม่ เมื่อไม่พบบาดแผลใดๆเขาก็

    ถอนหายใจเล็กน้อย


    เวลาเดินลงบันไดอย่าใจลอยซิครับ เขาเอ่ยปนตำหนิเล็กน้อย

     



                    ดึกแล้วมิเกลยังไม่เข้านอน เธอเดินมาตามระเบียงทางเดินและเหม่อมองท้องฟ้ากว้างที่ถูกย้อมด้วยสีของรัตติกาลและ

    ประดับด้วยดวงดาวเต็มท้องฟ้า อย่างคิดถึงสุดหัวใจ...




      

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×