คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 ปราสาทแฟนเทเซีย
บทที่ 2 ปราสาทแฟนเทเซีย
เด็กสาวอยากตบหน้าตัวเองอยู่หลายครั้งหลายครา เมื่อชายหนุ่มพาเธอมายังโลกที่ชื่อ แฟนทาสติกอะไรนั่น ด้วยสิ่งที่
เธอคิดว่าไม่เคยมีอยู่บนโลก สิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ หรือสิ่งที่พวกอนิเมะชอบเอามาทำเป็นการ์ตูนสาว
น้อยจอมเวทย์ที่เชียน่าชอบพาเธอไปดู...สิ่งที่เรียกว่า...เวทย์มนต์
“ คุณทำได้ยังไงคะ ” เธออดปากถามไม่ได้
“ เวทย์มนต์ ไงละครับ ” เขาตอบตามที่เธอคิด เพียงแต่ว่า...
“ มันไม่น่ามีจริงนี่นา ” เธอบอก ก็ทั้งชีวิตตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยเห็นเวทย์มนต์เลยนี่นา ไม่แปลกหรอกที่เธอจะคิดเช่นนี้
“ เวทย์มนต์เป็นสิ่งที่องค์มหาเทพทรงประทานให้พวกเรา เอาไว้ต่อกรกับจอมปีศาจ แต่จริงอยู่ที่พวกเรามีเวทย์มนต์ แต่เวทย์
บางบทพวกเราก็ไม่สามารถใช้ได้ ” ชายหนุ่มเล่า มิเกลจึงสงสัยหนักเข้าไปอีก
“ ทำไมละคะ ” เธอถาม ชายหนุ่มยิ้มบางๆ
“ เพราะพวกเรามีพลังเวทย์ที่มีขีดจำกัด หากใช้พลังเกินตัวก็หมายถึงชีวิตของพวกเราจะดับสูญ และเวทย์ชั้นสูงบางบทก็ใช้
พลังมหาศาลเกินกว่าที่ร่างกายของพวกเราจะทนไหว เวทย์พวกนั้นจึงถือว่าเป็นเวทย์ต้องห้ามที่พวกเราไม่สามารถที่จะ
ใช้ได้...ยกเว้นคุณ... ” คำสุดท้ายที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมาช่างเบาราวกับจะหายไปพร้อมกับอากาศได้ทุกเมื่อ
“ คุณพูดว่าอะไรนะคะ ” เธอได้ยินไม่ค่อยชัดจึงถามย้ำแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มบางๆเท่านั้น ระหว่างที่พวกเธอกำลังนั่งอยู่
บนสิ่งที่ชายหนุ่มเรียกว่า...รถม้าที่ดูจะไม่ค่อยเหมือนซักเท่าไร เพราะว่า สิ่งที่ลากรถอยู่นั้นหาใช่ม้าไม่ แต่มันเป็นสัตว์ใน
ตำนานของกรีกโรมัน...เพกาซัสสีขาวสวย และเท่าที่เธอสังเกตตามข้างทาง จะมีแต่เหล่าผู้คนมองมาที่รถม้าที่เธอนั่งอย่างอึ้ง
แปลกใจ และสนใจ กันทั้งนั้น...
“ ทำไมทุกคนถึงจ้องมองรถม้าที่เรานั่งแบบนั้นละคะ ” เธอถาม ชายหนุ่มยิ้มและเอ่ยตอบแบบปนขำ
“ ก็ เพกาซัสเป็นม้าที่มีตัวเดียวในโลกนี้นะครับ ” มิเกลอึ้งจนแมลงวันจะบินเข้าปากได้เป็นฝูง...ตัวเดียวในโลก...คำนี้ช่างเป็น
คำที่ทำเอาเธออยากเป็นโรคหัวใจขึ้นมาจริงๆ ขนาดรถม้ายังเป็นเพกาซัส แล้วจะมีอะไรที่ทำให้เธออึ้งได้นอกจากนี้
อีกมั้ยเนี่ย!!!
เพียงไม่นานรถม้าที่ขับเคลื่อนด้วยเพกาซัสก็ค่อยๆวิ่งเข้ามาจอดในปราสาทสีขาวที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาลล้อมรอบ
ด้วยทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ ชายหนุ่มลงไปจากรถม้าและผายมือให้เธอลงตามไป เมื่อเธอลงมาก็ต้องอึ้งในความใหญ่และ
สวยงามของปราสาท เมื่อเข้าไปด้านในเธอก็ต้องตะลึงในความกว้างที่เรียกได้ว่าเดินกันทั้งวันก็ไม่ชนกันเห็นจะได้ แถมของที่
อยู่ภายในก็ท่าทางจะมีราคาสูงลิบแบบยอดเขาเอเวอร์เรสแน่ๆ เหล่าคนใช้ต่างเดินออกมารับเป็นแนวยาวจนถึงบันได
“ ยินดีต้อนรับกลับคะ คุณหนู ” เธอทวนคำเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนแทบจะชิดกันอยู่แล้ว
“ คุณหนูหรอ...??? ” เธอหันไปมองชายหนุ่มข้างๆอย่างสงสัย เขาที่เห็นสายตานั้นก็ตอบคลายความข้องใจของเธอ
“ ก็คุณเป็นคุณหนูแฟนเทเซียนี่ครับ ” เขาบอก มิเกลพยักหน้าเข้าใจ ชายหนุ่มนำเธอขึ้นไปชั้นบน เขาเดินไปเปิดประตูห้อง
หนึ่งออกมา เมื่อเธอลองเดินเข้าไปก็พบกับห้องที่กว้างขวางที่มีข้างของเครื่องใช้วางเรียงรายทุกอย่างล้วนเป็นสีขาวและทองที
ดูหรูหราและคลาสสิก เธอเดินไปดูตู้เสื้อผ้าก็พบกับชุดกระโปรงสวยๆสีขาวล้วนและมีชุดสีชมพู ฟ้า เหลืองที่เป็นสีอ่อนๆเต็ม
ตู้ไปหมด บนโต๊ะเครื่องแป้งก็มีของที่เธอจำเป็นต้องใช้อยู่เช่นกัน...
“ ต่อไปนี้ที่นี่จะเป็นห้องของคุณนะครับ คุณหนู และผมคือพ่อบ้านของคุณ ” เมื่อรู้ว่าเขาเป็นพ่อบ้าน มิเกลก็พึ่งนึกอะไรออก
มาจึงเอ่ยถาม โดยที่ลืมถามมานาน
“ ขอโทษนะคะที่พึ่งถาม คุณชื่ออะไรคะ ” ชายหนุ่มยิ้มแห้งๆให้และตอบ
“ ผมชื่อ อีริค คอนเรียส ครับ ” เธอพยักหน้า และแย้มรอยยิ้ม ใบหน้าที่กระทบกับแสงทำให้เกิดเป็นวงออร่า จนคนที่มองดูใจ
ลอย ชายหนุ่มออกจากห้องไปและเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เขาเดินไปห้องเอกสารและหยิบบางอย่างออกมาจากกองเอกสารใน
ห้องของเขา
ก๊อก ~~ ก๊อก
“ เชิญคะ ”
“ ผมเอาเอกสารมาให้ครับคุณหนู ” มิเกลต้องแปลกใจอีกครั้ง
“ เอกสารอะไรคะ ” เธอถาม
“ เอกสารสำหรับสมัครสอบเข้าโรงเรียนใหม่ครับ ” อีริคบอก เธอเดินไปหยิบเอกสารออกมาดูและนั่งอ่านบนโต๊ะหนังสือ ชาย
หนุ่มเดินออกจากห้องไปเตรียมของต่อ...
“ อืม โรงเรียนคาโรเทเรียงั้นหรอ ” เธอนั่งอ่านเอกสารอย่างขมักเขม่น ในเมื่อมาอยู่ในโลกที่มีเวทย์มนต์ทั้งที ต้องลองให้มัน
ครบซะหน่อย เดี๋ยวมาไม่ถึง...เธอคิดในใจอย่างนึกสนุก แต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่แน่ใจว่าจะมีเหมือนคนอื่น
“ เวทย์มนต์งั้นหรอ ” เธอเอนตัวพิงกับเก้าอี้นุ่มและเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง และหลับตาลงช้าๆนึกถึงเรื่องในวันเก่าๆก่อนที่
เธอจะมาอยู่ที่นี่ได้เพียงไม่นาน
“ ตอนนี้เชียน่าจะเป็นยังไงบ้างนะ ” เธอพึมพำออกมาเบาๆ และมองไปยังดวงดาวที่ทอแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า เธอตบ
หน้าตัวเองเบาๆและหันไปอ่านเอกสารต่อ
“ รู้สึกว่าจะไม่มีสอบข้อเขียนนะเนี่ย ดีจังแฮะ แต่เสียอย่างเดียวรับแต่พวกที่มีพลังสูงๆ ถ้าเราพลังน้อยมาหรือไม่มีจะทำไงดีละ
เนี่ย ” เธอถึงหัวตัวเองเหมือนคนบ้าที่ไม่ชอบหวีผม แต่สิ่งที่ทำให้เธอยิ้มได้ก็มาถึง
“ คุณหนูครับ ได้เวลาอาหารเย็นแล้วนะครับ ” เธอรีบเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำอย่างรวดเร็วและหยิบชุดกระโปรงคลุมเข่าสีขาว
ที่แขนพองเป็นตุ๊กตาออกมาใส่ และเดินลงไปทานอาหารเย็น
ชุดกระโปรงสีขาวพลิ้วไหวตามจังหวะการก้าวเดิน ผมสีชมพูสวยถูกรวบไว้ด้านหลัง ดวงหน้างามพิสุทธิ์ที่แย้มรอยยิ้ม
เมื่อเห็นเขา ใบหน้าที่ทุกคนในปราสาทต้องพูดถึงกันไม่ขาดปาก มิเกลเดินเข้าไปในห้องอาหารที่กว้างมาก อีริคพาเธอเดินไป
นั่งที่หัวโต๊ะ ไม่นานอาหารน่าทานมากมายก็ถูกนำมาจัดวางบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว มิเกลไม่รอช้าเธอรีบกินอย่างเอร็ดอร่อย และ
แน่นอนของตบท้ายที่เธอชอบหลังจากทานอาหารก็คือ ชามะลิหอมๆนั่นเอง
“ นี่คุณอีริค ” เธอเอ่ยถามพ่อบ้านข้างตัว
“ ครับ ”
“ คุณว่าฉันจะมีเวทย์มนต์เหมือนคนอื่นเขารึเปล่า ” เธอถาม ใบหน้าฉายแววแห่งความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ มีสิครับ เพียงแค่นึกถึงมันเท่านั้น พลังในตัวของคุณหนูก็จะปรากฏขึ้นมาเอง เพราะว่ามันคือ...พลังของท่านเอง ” แม้จะ
สงสัยในประโยคท้าย แต่เมื่อรู้ว่าเธอก็มีพลังกับเขาเหมือนกัน ทำให้รอยยิ้มคืนกลับมาสู่ใบหน้าสวยนั้นอีกครั้ง...
กลางดึกมิเกลที่กำลังจะเข้านอน เธอเอามือไปแตะสร้อยทองที่คอพบว่ามันอบอุ่นอย่างน่าประหลาด และทำให้เธอ
หลับไปอย่างรวดเร็ว
พรุ่งนี้คงจะ...สนุกแน่นอน
_______________________________________________________________________-
เย่ ตอนที่ 2 แล้วนะคะ ชอบไม่ชอบยังไง ติชมกันด้วยนะคะ ^ o ^ b
ความคิดเห็น