คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 12 วิชาว่าด้วยการรักษา
บทที่ 12 วิชาว่าด้วยการรักษา
และแล้วเพื่อนๆในห้องทุกคนก็กลับมากันจนครบแม้ว่าบางคนจะกลับมาในสภาพที่ดูจะไม่ค่อยพร้อมสำหรับการเรียนซักเท่าใดนักก็ตามที
“ เอาล่ะนักเรียน ฉันชื่อศาสตราจารย์เอลเมอร์ เซฟกาล สอนวิชาว่าด้วยการรักษา แต่ก่อนที่ฉันจะเริ่มสอน ฉันจะมอบลูกแก้วไพลินให้พวกเธอก่อน ”
เปาะ!
ศาสตราจารย์เอลเมอร์ดีดนิ้วเสียงดังกังวานฉันพลันลูกแก้วสีมรกตสวยขนาดเท่าก้อนหินก้อนเล็กมาวางอยู่บนโต๊ะของทุกคน เมื่อนักเรียนทำหน้าสงสัยศาสตราจารย์จึงเริ่มอธิบายสรรพคุณของหินที่ให้มา
“ นี่คือลูกแก้วไพลินที่จะช่วยให้พวกเธอรอดจากการโดนเขมือบลงไปอยู่ในท้องของสมุนไพรนานาชนิดที่อยู่ในป่านี้ได้ เอาไว้ใช้เวลามาเรียนที่นี่ละกันนะ ” เมื่อศาสตราจารย์อธิบายจบเหล่านักเรียนที่น่ารักก็มีใบหน้าอยากฆ่าศาสตราจารย์ขึ้นมาเสียไม่ได้ ความคิดบางอย่างก็โผล่ขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน...
ทำไมไม่ให้เร็วกว่านี้ฟระ!!!...
“ เอาล่ะ วันนี้ฉันจะสอนให้พวกเธอรู้จักกับสมุนไพรทุกตัวเสียก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดการผิดพลาดขึ้นได้ สมุนไพรตัวแรกคือ ฟลาวเวอร์รีเฟอร์เดธ หรือพูดง่ายๆ ดอกไม้กินคน...ที่บางคนอาจจะเคยลงไปนอนเล่นในท้องของมันมาแล้ว! ” ไม่อธิบายเปล่าศาสตราจารย์ก็หยิบซากของดอกไม้กินคนที่ตายแล้วขึ้นมาให้นักเรียนดูพอให้เสียวไส้กันเล่นๆ ส่วนคนที่เคยลงไปนอนแช่ในท้องของมันถึงกับพะอืดพะอมอยากจะอ้วกขึ้นมาเสียให้ได้
“ ส่วนนี่คือ สมุนไพรที่อันตรายที่สุดหากไม่รู้จักวิธีการใช้มัน อิมเพอร์เรียลนาดี หรือก็คือ หญ้าต้องสาป... ” ศาสตราจารย์ร่ายมาจนถึงสมุนไพรที่แสนจะอันตรายที่สุดแต่ชื่อกลับดูสูงค่ามากมาย หญ้าสีดำที่มีไอสีทมิฬลอยวนอยู่รอบๆ ขนาดจะจับต้องใช้ถุงมือธาตุแสงสว่างจับแล้วถ้าโดนเข้าจังๆจะไม่ต้องลงไปนอนโลงกันให้ว่อนเลยหรือไง!
มิเกลที่นั่งจดอยู่ถึงกับขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อมองเห็นไอทมิฬที่ลอยอยู่รอบๆหญ้าต้องสาป แต่มันก็หายไปเมื่อภูตสีทองของเธอเอามือมาแตะที่หน้าผาก
“ ไม่เป็นอะไรนะคะ ” ฟรอนเทียร์มองนายสาวอย่างเป็นห่วง
“ ขอบใจนะ ฟรอนเทียร์ ” มีเกลยิ้มให้ภูตของตนก่อนที่จะหันไปสนใจกับสมุนไพรตัวอื่นๆต่อ ซึ่งไอ้สมุนไพรที่ว่าก็มีหลายตัวเสียจนมิเกลคิดว่าเธออาจจะจำไม่ได้หมดก็ได้ แถมแต่ละอย่างก็ดูสยองๆยังไงก็ไม่รู้เสียด้วย
“ หลังจากที่เรารู้สรรพคุณและชื่อของสมุนไพรทุกตัวกันแล้ว ฉันจะให้พวกเธอลองรักษาแผลให้ฉันว่าใครจะสามารถทำได้ดีกว่ากัน ฉันจะได้ประเมินพลังของพวกเธอได้ถูกต้องและครบถ้วน ” ศาสตราจารย์เอลเมอร์ที่ทุกคนพร้อมกันตั้งฉายาให้ว่าศาสตราจารย์ป่วยทางจิต เพราะเล่นเอามีดมาเฉือนแขนตัวเองเล่น แล้วให้นักเรียนรักษาแบบไม่กลัวเจ็บแถมกรีดแขนแต่ละทีก็ทำหน้านิ่งเสียจนใครๆก็ต้องคิดว่าเขาป่วยทางจิตเป็นแน่!
คราวนี้ก็ถึงตามิเกลบ้าง ศาสตราจารย์ก็เอามีดมาปาดแขนตัวเองอีกครั้งและคราวนี้ก็ลึกกว่าเดิมด้วย มิเกลมองแผลอย่างชั่งใจก่อนจะเอามือทาบมาบนแขนของศาสตราจารย์ ริมฝีปากบางก็เอ่ยร่ายเวทย์อย่างไม่ติดขัดอะไรแต่จะใจเย็นเสียมากกว่า เพียงไม่นานแผลของศาสตราจารย์ก็สมานกันราวกับไม่เคยมีแผลมาก่อน มิเกลมองแผลอย่างพอใจที่ทุกอย่างลงเอยด้วยดี
“ เธอเก่งมากเลยนะนี่ แป๊บเดียวรักษาให้หายได้ ทั้งที่แผลเมื่อกี้ฉันตัดเล้นประสาทไปด้วย ” ศาสตราจารย์เอลเมอร์พูดแบบไม่ทุกข์ร้อนใจอะไรทั้งๆที่เหล่านักเรียนฟังแล้วก็ต้องเอาแขนของตัวเองไปไขว้หลังแทบจะทันทีเพราะความเสียว
ไม่เคยเจ็บบ้างเลยหรอฟระ!...
ศาสตราจารย์นั่งเขียนภาษอะไรบางอย่างใส่กระดาษก่อนจะยื่นให้นักเรียนทุกคนโดยที่ตัวอักษรมันโยกโย้ยังไงชอบกล
“ นี่อะไรครับศาสตราจารย์? ” มาคัสเอ่ยถามเพราะตนไม่เข้าใจไอ้อักษรที่เขียนได้เหมือนกับยันต์ปีศาจพวกนี้เลย
“ นี่คือภาษาราเซส เป็นภาษาเก่าแก่ของประเทศแฟนทาสติก ขอให้ทุกคนเอาไว้กับตัวมันเขียนว่า... ”
“ ...กำจัดมนหมอกแห่งความกลัว สร้างแสงสว่างแห่งความกล้า... ” มิเกลพึมพัมออกมาเสียงดังฟังชัดอย่างไม่รู้ตัว ทุกคนหันไปมองเธอเป็นตาเดียวด้วยความแปลกใจ ศาสตราจารย์เองก็เช่นกันเขาไม่คิดว่าจะมีใครอ่านออกนอกเสียจากท่านผู้ก่อตั้งและศาสตราจารย์ทุกคนที่อยู่มายาวนานหลายศตวรรษ
“ เธออ่านออกงั้นหรือ? ” ศาสตราจารย์เอ่ยถาม
“ เอ๊ะ! เอ่อ...ค่ะ ” มิเกลตอบตะกุกตะกักด้วยความเขิน ต้อองขอบคุณวิชาเลือกของท่านผู้ก่อตั้งจริงๆที่ทำให้เธออ่านอักษรพวกนี้ออกอย่างง่ายดาย “ คือหนูเรียนวิชาเลือกกับท่านผู้ก่อตั้งน่ะคะ ” ศาสตราจารย์พยักหน้าเข้าใจแต่ก็แปลกใจอยู่ว่าวิชาเลือกของท่านผู้ก่อตั้งนั้นสร้างมาก็หลายปีแล้ว แต่ไม่เคยมีใครอยากจะเข้า มาปีนั้นก็มีเด็กสาวหน้าตาสะสวยเข้าเรียน!...
ในค่ำคืนที่แสนจะเงียบเหงาแม้อากาศจะเย็นสักแค่ไหน แต่หัวใจของเธอกลับเงียบเหงายิ่งกว่า มิเกลหยิบกระดาษอักษรขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
“ ...กำจัดมนหมอกแหงความกลัว สร้างแสงสว่างแห่งความกล้า... ”
ความคิดเห็น