ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหาเวทย์แห่งความหวัง

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 6 ปราสาทราฟาเอล

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 56


     

    บทที่ 6 ปราสาทราฟาเอล

     

     

     

                หลังจากที่ทดสอบพลังกันเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวเรือนผมสีแดงเพลิงก็หันมายิ้มให้พวก

    เธอเล็กน้อยและเริ่มอธิบาย

     

    สวัสดีน้องที่น่ารักทุกคน พี่ชื่อ เวลล่า ลาโคลลี่ เป็นผู้พิทักษ์ประจำปราสาทราฟาเอล ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างๆพี่คือ...หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มอีกคนก็โพล่งขึ้นมาก่อน

     

    พี่ชื่อ มาคัส คัวรี่ นะ เป็นผู้พิทักษ์เช่นกันเขาพูดแบบอารมณ์ดี แม้ตอนนี้สายตาจะเชือดเฉือนอยู่กับหญิงสาวผมแดงก็ตาม เหล่าคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ถึงกับหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่ แต่ก็ต้องหุบยิ้มแทบจะทันทีเมื่อเจอสายตาพิฆาตมารจากชายหนุ่มเรือนผมทองแซมดำคนนั้น...

     

                นี่พวกเธอจะกัดกันให้น้องๆเขาดูกันใช่มั้ย?  ” หญิงสาวผมสีทองอร่ามที่โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้เดินเข้ามาหาทั้งสองที่ทะเลาะกันอยู่และสีหน้าที่บ่งบอกว่าระอาเต็มที่ทำให้ทั้งสองหยุดชะงัก

     

                สวัสดี พี่ชื่อ มาเอล่า สวอนต์ เรียกว่า รุ่นพี่มาเอลก็ได้นะ พี่สาวผมสีทองบอกอย่างเริงร่าแสนจะอารมณ์ดีสุดๆ

     

                เอาล่ะ เราก่อนที่พวกพี่จะพาไปที่ห้องพัก เราต้องมาแนะนำตัวกันซักหน่อยนะรุ่นพี่มาเอลเอ่ยอย่างอารมณ์ดี และหันรีหันขวางเพื่อหาคนที่จะแนะนำตัวคนแรก และสายตานั้นก็มาหยุดลงที่เธอซะงั้น

     

                งั้นน้องสาวผมชมพูก่อนเลยจ้าเวรกรรม! มิเกลต้องส่ายหน้าพลางโทษโชคชะตาของตัวเองอยู่ในใจ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความกล้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มแย้ม

     

                ฉันชื่อ มิเกล แฟนเทเซีย ค่ะเธอแนะนำตัว เสียงซุบซิบไม่พึงประสงค์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง มิเกลส่ายหน้าเธออยากเปลี่ยนนามสกุลให้รู้แล้วรู้รอด

     

                ฉัน ไลล่า ฟรอนิไทล์ ค่า! ” ไลล่าแนะนำเสียงเริงร่า จนทุกคนพลอยยิ้มตามไปด้วย เธอช่างเป็นคนที่เปลี่ยนบรรยากาศได้เก่งจริงๆเลย คนแนะนำตัวต่อมาคือคนที่ยืนอยู่ข้างๆไลล่าเป็นเด็กหนุ่มอายุน่าจะเท่ากับพวกเธอ เขามีผมสีดำซอยระต้นคอและดวงตาสีแดงเพลิงที่ดูจะเป็นคนอารมณ์ร้อนชนิดหาตัวจับได้ยาก

               

                “ ผมชื่อ มาคัส ยูซันเวียร์  ” เขาตอบยิ้มๆท่าทางจะเป็นคนร่าเริงแถมยังมองไลล่าแบบไม่คลาดสายตากันเลยทีเดียว

     

                ผมชื่อ สเตฟาน ดิ อิมเฟลเชียร์ถัดมาคือเด็กชายผมสีเงินที่ดูเด่นสะดุดตายิ่งกว่าใครนอกจากสีผมของเธอแล้วยังมีคนที่เด่นพอๆกับด้วยแฮะ

     

                หลังจากนั้นพวกรุ่นพี่ก็พาทุกคนไปยังหอพักซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว คือฝั่งหญิงและฝั่งชาย ห้องหนึ่งก็อยู่กันสองคนซึ่งสองสาวก็จัดการจับคู่กันไว้แล้วโดยไม่ต้องให้รุ่นพี่ช่วยเลยแม้แต่น้อย

     

                ส่วนมิเกลอยู่กับ... ” รุ่นพี่มาเอลยังพูดไม่ทันจบไลล่าก็ยกมือขึ้นพร้อมกับตะโกนก้อง

     

                ฉันเองค่า! ” ไลล่าตะโกนอย่างร่าเริงทำให้มิเกลถึงกับขำกับเด็กสาวที่ทำตัวร่าเริงได้ตลอดเวลา ทั้งสองขนข้าวของไปเก็บที่ห้องโดยเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตะลึงกับความสวยงามของห้องที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ตามความต้องการของคนอยู่  ทั้งโต๊ะเขียนหนังสือสองโต๊ะ ตู้หนังสือสองตู้ เตียงนอนสองเตียง ตู้เสื้อผ้าสองตู้ และของจุกจิกอีกมากมายและทุกอย่างล้วนมีสีขาวที่จะให้ผู้อยู่ใช้เวทย์ตกแต่งได้อย่างตามความชอบ

     

                ว้าว! สวยจังไลล่าพูดขึ้นมาอย่างลืมตัว เด็กสาววางกระเป๋าใบโตลงกับพื้นพลางสำรวจทุกซอกทุกมุมอย่างตื่นตาตื่นใจหรือเรียกสั้นๆง่ายๆได้ใจความคือ...ตื่นเต้น!

     

                จริงด้วย ว่าแต่เธอจะเอาอะไรสีไหนมิเกลถามระหว่างจัดของ ไลล่าทำท่าคิดอยู่นานสองนานกว่าจะตอบซึ่งทำเอามิเกลถึงกับเกือบหลับคาเตียงอยู่รอมร่อ

     

                อ้อ! ฉันอยากได้สีส้มน่ะไลล่าบอก มิเกลยิ้มน้อยๆเธอสะบัดมือครั้งเดียวห้องก็กลายเป็นโทนสีหวานสวย ของสีขมพูกับสีส้มอ่อนๆ ไลล่าถึงกับตาลุกวาวด้วยความที่งจัด เพราะพริบตาเดียวห้องก็กลายเป็นโทนที่เธอชอบอย่างไม่น่าเชื่อ ในระหว่างจัดห้องที่ไม่น่าจะเรียบร้อยซักเท่าไหร่เพราะไลล่าเอาแต่ขว้างหมอนใสเธอจนไม่เป็นอันจัดอะไรเลย กว่าจะจัดเสร็จก็ปาเข้าไปพระอาทิตย์กำลังจะลับของฟ้าไปแล้ว

     

                เฮ้อ! เสร็จซักทีมิเกลบ่น ทั้งๆที่ของก็มีน้อยชิ้นแต่ทำไมเวลาจัดมันถึงนานขนาดนี้กันนะ

     

                โทษทีนะ มิเกลไลล่าขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ มิเกลส่ายหน้าอย่างไม่ถือสาในตัวของไลล่าซักเท่าไหร่ แต่จู่จู่ๆเสียงท้องของใครซักคนก็ร้องขัดเวลาขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

                ไปกินข้าวกันดีกว่านะไลล่าเกาหัวอย่างเขินๆเพราะเสียงท้องเมื่อกี้เป็นของเธอเอง ทั้งสองละจากการจัดห้องลงไปทานอาหารที่ห้องอาหารรวมของปราสาทที่ทั้งสองลืมถามทางจนหลงอยู่นานกว่าจะได้ทานอาหารก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่า

     

                ปึก!

     

                ทั้งห้องอาหารมองพวกเธอสองคนเป็นตาเดียวส่วนบนเวทีก็มองเช่นกัน ทั้งสองสาวชักเริ่มล่วงรู้อนาคตของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่ต้องพึ่งหมอดูหมอเดาเลยแม้แต่น้อย

     

                ฉันว่าเรามาผิดเวลาแล้วล่ะมิเกลพึมพัมกับไลล่าเบาๆด้วยใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด แต่พอจะชักเท้ากลับเสียงบนเวทีก็ขัดขึ้นเสียก่อน

     

                อ้าว! เรามีคนมาสายซะแล้ว ไหนใครเอ่ยเสียงอันแสนทะเล้นของรุ่นพี่มาคัสก็ขัดกระบวนการทุกอย่างของสองสาวที่มาผิดเวลาเสียแล้ว

     

                อย่างที่คิด!....

     

                มิเกลคิดในใจอย่างปลงๆ

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×