คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
“ ที่นี่มันที่ไหนครับ รุ่นที่สิบ!!! ” โกคุเทระเปิดปากถามเมื่อมาถึงห้องอาหาร เพราะสึนะเอาแต่บ่ายเบี่ยงมาตลอด สึนะมองไปทางนางิสะทำให้เธอรู้ว่าเธอต้องอธิบายทั้งหมดแล้ว
“ ที่นี่ ที่พวกนายอยู่ตอนนี้คือยานคัทจูชะ ” นางิสะตอบ และจิ้มมะเขือเทศเข้าปาก
“ แล้วหมายความว่ายังไง? ทำไมในอนาคตมียานด้วยล่ะ ” เคียวโกะถามด้วยความสงสัย
“ นี่คืออวกาศ ญี่ปุ่นถูกทำลาย สิ่งบันเทิงคือสิ่งต้องห้าม ” จิเอริอธิบายแบบรวบรัดที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ทุกคนเข้าใจขึ้นมาได้ซักนิด นางิสะจึงต้องอธิบายใหม่อีกรอบหนึ่งกว่าคนพวกนี้จะเข้าใจ
“ ไม่นะ ฮารุกลัวจังเลย แล้วพวกเธอเป็นใครกัน? ” ฮารุถามอีก นิงสะที่จิบน้ำส้มไปได้นิดหน่อยก็ต้องวางแก้วลงอย่างช่วยไม่ได้
“ พวกเราคือไอดอล แต่ตอนนี้ถูกเรียกว่าผู้ก่อการร้ายก็เท่านั้นเอง ” จิเอริตอบแทนนางิสะที่ดูจะพูดไม่ค่อยไหวหลังจากที่ถูกซักถามจนท่าทางแสบคอไปหมดแล้ว
“ พวกเธอไม่กลัวหรอ? ” เคียวโกะถาม ทั้งๆที่อายุเท่ากันก็น่าจะกลัวมากแท้ๆ
“ ไม่กลัว!... ” นางิสะกับจิเอริตอบพร้อมกันเสียงดังทำเอาทั้งทั้ง 11 คนสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ ทำไมล่ะ! ” โกคุเทระถามพลางมองไปที่จิเอริด้วยความสงสัย
“ ไม่ว่าจะล้มซักกี่ครั้งพวกเราก็จะลุกขึ้นสู้ต่อให้ตาย พวกเราก็ไม่มีวันจะเสียดาย! ” นางิสะตอบทุกคนเหมือนกับที่ตอบสึนะเมื่อคืน เจตนารมของเธอไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!!!
“ อัตจัง จิเอริ ไปกันหรือยัง? ” สึบาสะเดินเข้ามาถามทั้งสองที่กำลังดื่มน้ำหลังจากทานอาหารเสร็จเมื่อกี้
“ ค่า! ไปกันเถอะทุกคน ” นางิสะตอบคุณสึบาสะพร้อมกับหันมาหาทั้ง10ที่นั่งงงกันมานานให้ตื่นจากภวังค์
“ ปะ ไปไหน ” สึนะสงสัย
“ ก็ไปดูงานที่พวกเราทำยังไงล่ะ! ” นางิสะตอบพร้อมกับเดินมาจูงมือสึนะให้เดินไปด้วยกัน โดยที่ไม่รู้สึกถึงสายตาของเคียวโกะที่มองมาทางทั้งสองเลยแม้แต่น้อย ฮารุเห็นเคียวโกะทำหน้าเศร้าจึงรีบจูงมือเคียวโกะออกไปด้วย
“ ดะ เดี๋ยวสิครับ รุ่นที่สิบ!!! ” โกคุเทระโวยวายแล้วรีบวิ่งตามออกไปด้วย
“ แล้วพวกนายจะเอายังไงกัน ” รีบอร์นถาม
“ ฮะฮะ น่าสนุกแฮะ เห้! ฉันไปด้วย!!! ” ยามาโมโตะหัวเราะก่อนจะวิ่งตามออกไปเช่นกัน
“ สุดขั้วไปเลย!!! ” เรียวเฮกำลังจะเดินไปแต่ก็ต้องหันมาหาฮิบาริกับมุคุโร่ที่ยืนจ้องตากันราวกับจะฆ่าแกงกันให้ได้ ส่วนโคลมก็เอาแต่มองอย่างเลิกลั่กไม่รู้ว่าจะเข้าไปช่วยยังไง
“ แล้วพวกนายล่ะ ฮิบาริ มุคุโร่ โคลม จะไปมั้ย? ” เรียวเฮหันมาถาม
“ ผมไม่ชอบการสุมหัว ” ฮิบาริตอบพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น
“ ผมแล้วแต่โคลมครับ ” มุคุโร่โยนให้โคลม
“ เอ่อ ฉะ ฉันอยากไปค่ะ ท่านมุคุโร่ ” โคลมตอบ มุคุโร่ยิ้มก่อนจะจูงมือโคลมให้เดินไปด้วย ส่วนเรียวเฮก็จัดการลากฮิบาริออกมาด้วยกำลัง และมีรีบอร์นเดินถือปืนตามหลัง (กะจะไม่ให้หนีงั้นสิ?)
ภายในงานที่จัดอยู่ในฮอลกว้างขวางเท่ากับสนามเบสบอลหนึ่งสนาม มีซุ้มประตูทั้งหมด 6 ด้วยกัน โดยทั้ง 6 ซุ้มนี้จะให้เมมเบอร์ 17 อันดับอยู่ซุ้มละ 3 คนด้วยกัน โดยแบ่งตามลำดับดังนี้
ซุ้มที่ 1 โอริเนะ ยูกะ มาโคโตะ ซุ้มที่ 2 ซุซุโกะ คานาตะ โซนาตะ ซุ้มที่ 3 ซายากะ เซย์ มาริโกะ ซุ้มที่ 4 ทาคามินะ โทโมะจิน ฮารุนะ ซุ้มที่ 5 ยูกิริน มายุยู จิเอริ ซุ้มที่ 6 ยูโกะ อัตจัง
ทั้ง11คนเข้ามาในสถาณที่จัดก็ต้องทึ้งเมื่อมันทั้งกว้างใหญ่แถมยังมีคนที่น่าจะเป็นไอดอลอยู่ตั้งมากมาย สึนะที่อยู่กับเพื่อนๆก็มองหานางิสะที่ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้วอย่างสงสัย
“ ทุกคน! ” นางิสะเดินมาพร้อมกับจิเอริในชุดใหม่ ชุดของนางิสะนั้นเป็นเสื้อสีชมพูประดับด้วยลูกไม้บางเบาเสื้อนอกสีครีมดูเข้ากันกับชุดและสีผม กระโปรงสีครีม ใส่รองเท้าส้นสูงสีครีมออกชมพู ข้อมือประดับด้วยกำไลไข่มุกดูสวยงามและเป็นตัวเองสุดๆ จิเอริในชุดเสื้อสีฟ้ากับกระโปรงสีดำคาดแทบฟ้าทะเลดูสมเป็นตัวเองและสวยสมวัย
สึนะมองนางิสะด้วยใบหน้าที่เริ่มมีสีแดงขึ้นมาทีละนิดกับหัวใจที่เต้นรัว เคียวโกะมองไม่วางตาเธอรู้สึกเจ็บหัวใจแปลกๆ
“ พวกเราเป็นยังไงบ้าง? ” จิเอริถาม
“ สะ สวย ” สึนะตอบยิ้มๆ นางิสะยิ้มรับแต่เมื่อเสียงของสึบาสะดังขึ้นพวกเธอก็รีบวิ่งไปแต่ละซุ้มทันที
“ พวกเธอมาทำงานอะไรงั้นหรอ? ” รีบอร์นถามสึบาสะที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ
“ ก็งานจับมือกับแฟนๆไง ” สึบาสะบอกพร้อมกับขยับแว่นไปด้วย เธอมองไปยังทางเดินเข้าซุ้มต่างๆที่เหล่าแฟนคลับต่างทยอยเข้าไปโดยที่มากที่สุดเห็นจะเป็นซุ้ม 6 ที่มี อัตจัง กับ ยูโกะประจำอยู่
“ ขอบคุณที่มานะค่ะ ” นางิสะยิ้มให้แฟนๆทุกคนและจับมือพวกเขาไปด้วย เป็นอยู่อย่างนั้นคนแล้วคนเล่าเธอก็ไม่มีทีท่าว่างจะเหนื่อยเลย แต่กลับเปล่งประกายมากขึ้นไปอีก จนกระทั่ง
“ เอ่อ คือ ” สึนะที่เดินมาถึงก็พูดตะกุกตะกัก นางิสะยิ้มมากกว่าเดิมและเอื้อมมือไปจับมือเขา
“ ขอบคุณที่มานะ สึนะคุง ” นางิสะยิ้มให้ สึนะเดินเข้าไปในงานและมองมือของตัวเองอยู่อย่างนั้น
“ อ้าว! เคียวโกะจัง ฮารุจัง ขอบคุณที่มานะ ” นางิสะจับมือกับฮารุและเคียวโกะ เคียวโกะที่รู้สึกไม่ค่อยชอบนางิสะก็ยิ้มขึ้นมาเสียอย่างนั้นเมื่อได้รับความอบอุ่นจากเด็กสาวตรงหน้า มันรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกถึงความห่วงใยที่ส่งผ่านมาให้ ความรู้สึกไม่ค่อยชอบค่อยๆหายไปเหลือเพียงมิตรภาพที่ก่อเกิดในหัวใจของเคียวโกะ เธอยิ้มรับนางิสะและเดินเข้าไปในงานพร้อมกับฮารุ เธอมองมือของเธออยู่นาน
ทางด้านโกคุเทระที่เดินไปทางซุ้มของจิเอริก็ทำตัวแทบไม่ถูก ได้แต่มองไปทางอื่นเพราะไม่กล้าสบตากับเธอ
“ ขอบคุณที่มานะ โกคุเทระคุง ” จิเอริยิ้มให้โกคุเทระ รอยยิ้มที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนจนมาเจอผู้ชายคนนี้ ทั้งที่พึ่งจะพบหน้าแต่เธอกลับรู้สึกหัวใจเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้เขาทุกครั้ง
“ อืม ” โกคุเทระยิ้มรับ และเดินเข้าไปในงาน ในมองก็คิดถึงแต่เธอที่ยิ้มให้เขาเมื่อไม่นานมานี้เท่านั้น โกคุเทระเดินเข้าไปรวมกับทุกคนบริเวณที่ที่จะเห็นชัดที่สุด
แสงสีเริ่มทำงาน เสียงเพลงก็ดังขึ้น แฟนๆต่างโห่ร้องและส่งเสียงเชียร์คนที่ตนชื่นชอบอย่างสุดใจขาดดิ้น ไม่นานควันสีขาวก็พวยพุ่งขึ้นฟ้า พลุสีสวยถูกจุดขึ้นและแตกเป็นรูปหัวใจสีรุ้ง แสงเริ่มหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ร่างของเด็กสาวทั้ง 9 ค่อยเดินขึ้นมาบนเวที
“ ฉันยืนอยู่บนเวทีมานาน
ท่ามกลางเสียงเชียร์ เสียงปรบมือและแรงศรัทธา
กับบทเรียนที่เข้มงวด ฉันก้าวไปไกลกว่าขีดจำกัดของตัวเอง
วันนี้ฉันได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิก เมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนแปลงผลิหน่อออกมาแล้ว
ช่วงเวลาที่เต้นไม่เต็มที่ เป็นวันที่ต้องร้องไห้บนถนนระหว่างทางกลับบ้าน
ช่วงเวลาที่ร้องเพลงโดยไม่ได้คิดอะไร เป็นวันที่สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง
คู่แข่งของฉันดูราวกับเปล่งประกายออกมา
ความฝันคือหยาดเหงื่อที่ไหลริน
ดอกไม้ที่บานเร็วย่อมมาจากความอุตสาหะพยายามที่ไม่มีวันร่วงหล่นลง
ความฝันคือหยาดเหงื่อที่ไหลรินจะรอวันที่โดดเด่นเป็นประกาย
ต้องมีสักวันที่ความฝันของฉันเป็นจริง
สปอตไลต์ที่ส่องแสงจนตาลาย
เปรียบดั่งยามราตรีที่เลือนหายด้วยแสงอาทิตย์ยามเช้า
ฉันไม่ต้องการสูญเสียรุ่นพี่เพราะเราต้องการสร้างโชว์ของเราด้วยมือเราเอง
วันต้องไปพบเจอภัยอันตรายวันแห่งความเจ็บปวดจะทำให้ฉันร้องไห้
เช่นเดียวกับวันที่ฉันสูญเสียโรงเรียนและบทเรียนไป
แต่เสียงอังกอร์จะยังคงได้ยินเสมอไม่ว่าอยู่ที่ใด
ความฝันคือสิ่งที่อยู่เหนือน้ำตา ดอกไม้ย่อมยิ้มได้หลังจากหยุดร้องไห้ไปแล้ว
ตาต้นไม้จะแตกกิ่งก้านเป็นช่อดอกต่อไปความฝันคือสิ่งที่อยู่เหนือน้ำตา
ฉันเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดสูญหายหลังสายฝนเทกระหน่ำ
จนกว่าคำอธิษฐานของฉันจะไปถึงท้องฟ้าอันสดใส
มาเต้นกัน จนกว่าจะตาย!
ร้องเพลงด้วยกัน จนกว่าจะตาย!
โดยที่ไม่ลืมความฝันแรกเริ่ม
เราจะให้ทุกอย่างที่เรามีความฝันคือหยาดเหงื่อที่ไหลริน
ดอกไม้ที่บานเร็วย่อมมาจากความอุตสาหะพยายามที่ไม่มีวันร่วงหล่นลง
ความฝันคือหยาดเหงื่อที่ไหลริน จะรอวันที่โดดเด่นเป็นประกาย
ต้องมีสักวันที่ความฝันของฉันเป็นจริง ” เสียงของเด็กสาวทั้ง 9 ร้องและเต้น ความเปล่งประกายที่มาจากพวกเธอราวกับดวงดาวที่ส่องประกาย
และหลังจากที่เพลงนี้จบลงก็มีเด็กสาวอีก 12 คนก็ก้าวขึ้นมาแทนที่หนึ่งในนั้นคือนางิสะที่เปลี่ยนชุดจากเพลงที่แล้วเสร็จแล้วขึ้นมาบนเวทีด้วย เพลงได้บรรเลงขึ้นเธอก็เต้นไปตามจังหวะเพลง ร้องเพลงมอบให้ทุกคนด้วยรอยยิ้มสวยและดวงตาที่อบอุ่นมอบให้ทุกคนที่เธอรักจากหัวใจ เธอดูเปล่งประกายมากกว่าใครคนไหน สึนะและเคียวโกะมองด้วยความตกตะลึงกับภาพที่เห็น ไม่มีใครมีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
“ ในมุมหนึ่งของโลกราวกับความฝัน
วันหนึ่งสนามแห่งความฝันของเราถือกำเนิดขึ้นแล้ว
เปลี่ยนมาสวมเสื้อถักรัดรูปแล้วเริ่มต้นบทเรียน
เริ่มเดินตามทางของตัวเอง เริ่มบ่มเพาะอนาคต
ไม่มีใครคาดหวังเราเพราะเราเป็นเพียง 22 เมล็ดพันธุ์เล็กๆ
จนกระทั่งวันหนึ่งเรากลายเป็นดอกไม้บาน
เราคือทีมเอ ! เราคือผู้บุกเบิก
เดินไปข้างหน้าทีมเอ เราต้องมีศรัทธา
ก้าวออกมา เดิมพันกับตัวเรา
ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
เราคือทีมเอ ! เราคือผู้บุกเบิก
เดินไปข้างหน้าทีมเอ หยาดเหงื่อจงไหลออกมา
ทุกๆอย่างเริ่มต้นขึ้นแล้ว
มาจดจำกันอีกครั้งว่าเราตั้งใจจริงจังแค่ไหน
แม้ทุกคนจะหัวเราะเยาะว่าสิ่งที่เราพูดเป็นไปไม่ได้
แต่ก็มีคนเพียง 7 คนมองมาที่เรา
เราถอนตัวไม่ได้เราไม่มีทางเลือกแต่เราก็ทำ
เราไม่มีเวลาร้องไห้จนกว่าความพยายามจะเป็นผล
เมื่อถูกลมพัดหรือฝนกระหน่ำก็กลายเป็นคนแข็งแกร่ง
เวลาที่ผ่านพ้นหลอมรวมเราเป็นหนึ่งเดียว
เราคือทีมเอ ! ความพยายามครั้งแรก
ไปเลยทีมเอ อย่ายามแพ้
ก้าวออกไป เราต้องทำให้เป็นรูปธรรม เรามีความภาคภูมิใจ
เราคือทีมเอ ! ความพยายามครั้งแรก
ไปเลยทีมเอ ก้าวไปข้างหน้า
สร้างทุกอย่างจากความดึงดันของเรา
และก่อตั้งความสำเร็จที่มีมาแต่เดิมเพื่อชนรุ่นหลัง
เราคือทีมเอ ! เราคือผู้บุกเบิก
เดินไปข้างหน้าทีมเอ เราต้องมีศรัทธา
ก้าวออกมา เดิมพันกับตัวเราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
เราคือทีมเอ ! เราคือผู้บุกเบิก
เดินไปข้างหน้าทีมเอหยาดเหงื่อจงไหลออกมา
ทุกๆอย่างเริ่มต้นขึ้นแล้ว
มาจดจำกันอีกครั้ง
ว่าเราตั้งใจจริงจังแค่ไหน ” นางิสะที่เปล่งประกายราวกับใส่ชุดเรืองแสงเสียงเชียร์ของเธอดังกระฮึ่ม เสียงเชียร์ที่เธอได้ยินแล้วยิ่งเปล่งประกาย แต่สึนะกลับกลัวว่าเธอจะหายไป กลัวว่าเขาจะคว้าเธอไว้ไม่ได้ แสงสว่างที่สว่างจ้าจนแสบตาทำให้ต้องหลบสายตาไปทางอื่น เมื่อลืมตามาอีกครั้งก็เจอนางิสะยืนยิ้มอยู่ท่ามกลางคิราร่าหลายตัวที่ลอยอยู่ข้างๆ
“ ขอบคุณค่า~~~ ” นางิสะบอกพร้อมกับเดินลงไปจากเวที
____________________________________________________________________________
ตัวอย่างตอนที่ 5
หา นักรบในชุดเกราะมาอีกแล้ว!!! ทำยังไงดี! หา ไมค์กลายเป็นดาบได้ด้วย ว๊ากกกกกกก อย่ามาทางนี้!!! ทำไงดี สู้ก็สู้ฟะ!!!
ตอนนี้ขออนุญาตเอาเพลงมาลงด้วยนะคะ เพื่อการนึกภาพตามไปด้วย ถ้ารำคาญก็ขออภัยค่ะ
ความคิดเห็น