ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหาเวทย์แห่งความหวัง

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 7 ห้องอาหารแสนวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 56




    บทที่ 7 ห้องอาหารแสนวุ่นวาย

     

                เป็นอย่างที่คิดจริงๆตอนนี้มิเกลกับไลล่าต้องยืนคอตกอยู่บนเวทีกับเหล่ารุ่นพี่ทั้งหลายทั้งปวงที่ยิ้มหน้าระรื่นราวกับได้ของเล่นชั้นดี ซึ่งบทลงโทษที่พวกเธอมาสายคือการแสดงความสามารถของพวกเธอว่ามีอะไรบ้าง แน่นอนบทลงโทษนี้ทำให้มิเกลต้องคิดหนัก ไม่ใช่เพราะไม่ถนัดแต่ถนัดหลายอย่างเลยต่างหาก พลางสายตาของเธอเหลือบไปเห็นแกรนด์เปียโนหลังสีขาวสวยตั้งอยู่มุมด้านหนึ่งของห้องอาหารอันกว้างขวางนี้

     

                ฉันรู้แล้วละค่ะว่าจะแสดงอะไรมิเกลโพล่งขึ้นทำเอารุ่นพี่บนเวทีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

     

                จะแสดงอะไรจ้ะ?รุ่นพี่เวลล่าถามพลางยื่นไมค์มาให้เธอ มิเกลเดินลงจากเวทีไปยังแกรนด์เปียโนสีขาวที่ไม่ค่อยมีใครเล่นซักเท่าไหร่ เนื่องจากเสียงของมันเพี้ยนระดับสุดยอดและก็ยังไม่มีใครแก้เพราะต่อให้แก้มันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม มีแต่ท่านผู้ก่อตั้งเท่านั้นที่เล่นได้เพราะเขาเคยมาเล่นครั้งหนึ่งในงานต้อนรับน้องใหม่อย่างเช่นวันนี้

     

                มิเกลเดินมาถึงแกรนด์เปียโนโดยไม่ฟังคำคัดค้านของรุ่นพี่เลยเหมือนเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาเสียอย่างนั้น มือเรียวค่อยๆบรรจงเล่นอย่างเชื่องช้า พลิ้วไหวและแสนไพเราะสะกดทุกคนให้เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงดนตรีอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ท่านผู้ก่อตั้งที่บัดนี้ยืนแอบฟังอยู่หน้าประตูก็ต้องเผยรอยยิ้มเมื่อรู้ว่าผู้เล่นคือใคร รอยยิ้มนั้นไม่ว่าใครก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ นอกจากเจ้าตัวเอง

     

                เป็นยังไงบ้างค่ะมิเกลถามยิ้มๆเมื่อเห็นทุกคนทำท่าจะหลับกันอยู่รอมร่อ เสียงดนตรีที่หยุดลงและตามด้วยเสียงของเอเป็นเหมือนนาฬิกาปลุกชั้นดีที่ทำให้ทุกคนตื่นจากภวังค์และหันมาสนใจหญิงสาวผมสีชมพูที่นั่งอยู่ที่แกรนด์เปียโนแทน ไม่นานเสียงปรบมือก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย ไลล่าเดินมาหามิเกลด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     

                เก่งจังเลยมิเกลไลล่าบอกเธอยกนิ้วให้เพื่อนสาวผมชมพูอย่างชื่นชม ตั้งแต่วันแรกที่พบกันเธอไม่รู้ว่าประทับใจเพื่อนสาวคนนี้ไปกี่ครั้งกี่หนแล้ว คราวหน้าต้องแนะนำให้ท่านพ่อรู้จักสักหน่อย

     

                ขอบใจนะไลล่า แล้วเธอล่ะจะแสดงอะไร?มิเกลขอบคุณและเอ่ยถามในคราวเดียว ไลล่าทำท่าคิดอยู่พักใหญ่ ท่าทางว่าเพื่อนของเธอคนนี้จะชอบคิดอะไรนานเสมอเลยจริงๆ

     

                รู้แล้วล่ะ! ” จู่ๆเธอก็โพล่งขึ้นทำเอาใครหลายคนในห้องอาหารเป็นต้องเกือบสำลักอาหารตายคาที่ ซึ่งคงจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูซักเท่าไหร่แน่นอนหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ

     

                เธอจะแสดงอะไรงั้นหรอ?รุ่นพี่เวลล่าถามอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ไลล่ายิ้มให้อย่างร่าเริงก่อนจะร่างเวทย์ให้ฟรุทสีเงินสวยอันหนึ่งมาอยู่ในมือก่อนจะเริ่มเป่าลมเข้าไปทำให้เพลงอันแสนอ่อนหวานและสดใสร่าเริงถูกบรรเลงออกมา มิเกลพึ่งจะประจักแก่ใจว่าเพื่อนของเธอก็เล่นดนตรีได้เหมือนกันแถมเพราะมากซะด้วย เห็นทีคงต้องให้เพื่อนคนนี้สอนบ้างซะแล้วซิ

     

                “ ว้าว! เพราะมากเลยไลล่ามิเกลชมเด็กสาวจากใจจริง เสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของทุกคนที่อยู่นั่งแต่งแต้มรอยยิ้มแห่งความสุขไว้อย่างชัดเจน พอจบบทลงโทษสองสาวก็ต้องลงมาจากเวทีเพื่อหาอะไรทานแต่การจะหาที่นั่งมันก็ลำบากเหมือนกันนะเนี่ย

     

                นั่งตรงนี้สิเสียงของเด็กผู้ชายผมสีดำนัยน์ตาสีแดงพูดขึ้น ถ้ามิเกลดูไม่ผิดเธอเห็นไลล่าทำหน้าเบื่อหน่ายสุดๆตั้งแต่ตอนที่เขาแนะนำตัวแล้ว ทำให้เธอสงสัยความสัมพันธ์ของคู่นี้เป็นพิเศษซึ่งเธอก็เดาไว้ก่อนแล้วว่าต้องเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันอย่างแน่นอน ทั้งสองเดินไปนั่งตามเสียงเรียกก็พบว่ามันเหลือที่นั่งอยู่สองที่พอดีเป๊ะๆ

     

                ขอบคุณนะมิเกลบอก ในขณะที่ไลล่านั้นเองแต่นั่งทานอาหารของตนอย่างเดียวไม่มีทีท่าว่าจะสนใจชายหนุ่มคนนี้เลยแม้แต่น้อย ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่ละความพยายามที่จะชวนคุยเขาเอาแต่ถามโน่นถามนี่จนมิเกลคิดว่าไลล่าต้องกำลังก่อนด่าเขาในใจแน่นอนเลยทีเดียวและอีกไม่นานความอดทนของเธอก็คงจะหมดลง

     

                หยุดพูดซักทีได้มั้ย มาคัส! ” ไลล่าพูดขึ้นทำเอาทั้งโต๊ะหันมามองทั้งสองเป็นตาเดียวเพราะระดับความดังไม่สามารถทำให้ใครนอกจากในกลุ่มมาสนใจพวกเธอได้

     

                ก็เธอเล่นไม่คุยกับฉันเลยนี่นา ไลล่าเขาพูดเชิงน้อยใจ

     

                ก็ได้ จริงๆเลยเชียวไลล่าตอบปัดๆแต่ก็ทำเอาชายหนุ่มหรือที่เธอพึ่งมารู้ว่าชื่อ มาคัส ยิ้มร่าอย่างดีใจ เป็นภาพที่เรียกรอยยิ้มของคนทั้งโต๊ะได้เลยทีเดียว

     

                เธอชื่ออะไรงั้นหรอเขาหันมาถามมิเกลบ้าง

                ฉันชื่อ มิเกล จ้ะมิเกลแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม

     

                ฉันชื่อ มาคัส ผู้หญิงผมสีแดงคนนั้นคือ รีน และผู้ชายผมทองแต่หล่อน้อยกว่าฉันคนนั้นคือ รูซพวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ไลล่าด้วย และเธอที่เป็นเพื่อนกับไลล่าก็จะเป็นเพื่อนของพวกเราด้วยเหมือนกันมาคัสบอก มิเกลยิ้มอย่างดีใจเธอไม่เคยมีเพื่อนมากมายถึงขนาดนี้ เพราะที่โรงเรียนเก่าด้วยฐานะทางบ้าน ตระกูล มันสมอง ทำให้ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับเธอนอกจากเชียน่า พูดถึงเชียน่าแล้วมิเกลก็ทำหน้าอมทุกข์ขึ้นมาจนไลล่าสงสัย

     

                เป็นอะไรงั้นหรอ มิเกลไลล่าถามขึ้น ทำให้มิเกลต้องรีบเปลี่ยนสีหน้าและรีบยิ้มกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้ใครรู้

     

                ไม่มีอะไรหรอกน่าอย่ากังวลเลย ไลล่ามิเกลบอก จู่ๆเด็กสาวผมแดงที่ชื่อ รีน ก็พูดขึ้น

     

                นี่มิเกล เธอถนัดเครื่องดนตรีอะไรบ้างหรือ?มิเกลหลับตาลงเพื่อคอดก่อนจะไล่นิ้วนับไปทีละอย่าง

     

                อืม มี แกรนด์เปียโน ฮาร์ป ไวโอลิน คาริเนท ฟรุท ทรัมเป็ด กลอง และก็ กีตาร์ แค่นี้แหละทุกคนทำหน้าไม่อยากเชื่อไปตามๆกัน เล่นถนัดเกือบทุกอย่างแบบนี้มันก็น่าอยู่หรอกนะที่ใครต่อใครจะอึ้งน่ะ งานเลี้ยงต้อนรับจบลงมิเกลและไลล่าก็เดินกลับห้องพักตัวเอง ระหว่างทางไลล่าก็ลูบท้องเพราะเธอกินไปไม่ใช่น้อยๆเลยสำหรับอาหาร มิเกลกลัวเพื่อนจะปวดท้องจึงต้องคอยดูอยู่ไม่ห่าง แต่เธอคงจะคิดผิดเพราะท่านหญิงแห่งฟรอนิไทล์ผู้นี้สามารถกินต่อได้อย่างสบายๆต่อให้กินเท่าไหร่ก็ท่าทางจะไม่อ้วนซะด้วยสิ

     

                มิเกลนั่งอยู่บนเตียงพลางเหม่อมองท้องฟ้ายามดึกที่ถูกประดับด้วยดวงดาวแสนสวย มือเรียวหยิบล็อกเก็ตสีทองสวยขึ้นมาเมื่อเปิดออกก็พบรูปของเชียน่ายิ้มให้เธออย่างร่าเริง...จะไม่ได้พบกันอีกแล้วหรอ เชียน่า!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×