ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจซ่อนรัก (Hide heart love)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 54



     

    ตอนที่ 1

                    รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สายลมพัดโชยเบาๆ นกตัวน้อยเกาะสายไฟส่งเสียงร้อยเจื้อยแจ่ว ขับขานบทเพลงอันไพเราะ อยู่หน้าบ้านจัดสรรค์หลังใหญ่โตของผู้มีอันจะกิน สาวใช้ในบ้านเปิดประตูบานเล็กเอาขยะออกไปทิ้ง เป็นกิจวัตรประจำวันของเธอ

                    ในขณะที่เธอกำลังเอาขยะที่ถือมาใส่ลงไปในถังขยะ เธอก็ได้ยินเสียงร้องจ้าของเด็กทารกดังออกมาจากบริเวณ ข้างๆถังขยะที่เธอยืนอยู่ เธอมองออกไปตามหาที่มาของเสียงที่ได้ยิน แล้วเธอก็ถึงกับตกใจกับสิ่งที่เห็น

                    เด็กทารกตัวน้อยหน้าตาหน้าเกลียดหน้าชัง ผิวขาวเนียน ผมดำขลับ ปากสีแดงๆกำลังงับนิ้วน้อยๆพลางส่งเสียงร้องเมื่อไม่มีน้ำนมไหลออกมาให้ประทังความหิว สาวใช้ถึงกับตะลึงงั้นไม่รู้จะทำอย่างไร เธอพยายามตั้งสติแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปตามคนในบ้าน

                    ป้านวย!ป้านวย!” ป้านวยคนเก่าคนแก่ของบ้านที่กำลังสาระวนกับการเตรียมอาหารเช้าให้กับเจ้านายหันมาตามเสียงเรียกของหญิงสาว แล้วเอ็ดคนที่วิ่งหน้าตาตื่นมา

                    อะไรของเองวะ นังน้อย เสียงดังลั่นบ้านเชียว เดี๋ยวคุณท่านก็ตื่นกันพอดี มาอยู่บ้านผู้ดีก็ทำตัวให้มีมารยาทซะบ้างซิ บอกสอนอะไรไม่เคยจำเลยนะแกป้านวยบ่นยาว แต่สาวใช้นามว่า น้อย ก็ใช่ว่าจะสนใจ

                    ป้านวย ฉันเห็น น้อยพูดติดอ่างเหมือนเห็นผี

                    เห็นอะไรก็พูดมาสิโว้ย ข้าก็กำลังฟังอยู่

                    ป้านวย ฉันเห็นน้อยยังพูดไม่ออกเหมือนเดิม

                    เออวะ... อีนี่ ติดอ่างอยู่ได้จะพูดหรือไม่พูด ไม่พูดใช่ไหมข้าจะได้ไม่ฟัง ข้าไปทำงานต่อดีกว่า ป้านวยทำท่าจะเดินหนี

                    พูด...พูดแล้วจ่ะป้า พูดแล้วป้าฟังฉันก่อน ฉันเห็นเด็กทารกอยู่หน้าบ้านนะป้าไม่รู้ว่าใครเอาเด็กมาทิ้งไว้ร้องลั่นเลยป้า หน้าตาหน้าเกลียดเชียวป้า ไม่รู้ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ฉันไม่กล้าดูคนเดียว ไปดูกับฉันหน่อยสิ

                    ไหน...ไหนวะเอ็งพาข้าไปดูหน่อยสิเด็กที่ไหนพ่อแม่เดี๋ยวนี้ก็ช่างกะไรมีปัญญาทำให้เกิดแต่ไม่มีปัญญาเลี้ยงรักเที่ยวรักสนุกกันไปวันๆพอมีปัญหาไม่มีทางออกก็เอาเด็กตาดำๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยมาทิ้งให้เป็นภาระของสังคม โอ๊ยเด็กสมัยนี้ไม่ไหวเลยจริงๆ ป้านวยพูดไปบ่นไป แล้ววิ่งตามน้อยออกไปยังหน้าบ้าน พลางส่ายหัวให้กับความเสื่อมโทรมของสังคมในสมัยนี้ ที่รักสนุก รักเที่ยว ปล่อยเนื้อปล่อยตัว จนสุดท้ายก็พลาดพลั้งตั้งท้องขึ้นมา ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร บ้างก็ทำแท้ง บ้างก็คลอดแล้วนำไปทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆทำสารพัดเพื่อให้พ้นภาระพ้นตัว เพราะความกลัวสารพัดที่พึ่งจะนีกได้เอาเมื่อสาย กลัวทางบ้านจะรู้ กลัวพ่อแม่จะว่า กลัวพ่อแม่จะอายชาวบ้าน กรรมเวรก็เลยมาตกอยู่ที่เด็กน้อยตาดำๆ ทั้งโดนทิ้ง ทั้งทำแท้งเพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เหมือนข่าวที่มีให้เห็นกันอยู่มากมายในปัจจุบัน

                    ป้านวยนี้ไงป้านวยเดินเข้าไปดูไกลๆและก้มลงอุ้มเด็กทารกน้อยที่ส่งเสียง

                    จะทำอย่างไรดีละน้อยเอ๋ยไม่รู้ว่าลูกเต้าของใคร ผู้หญิงซะด้วย หน้าตาน่าเกลียดน่าชัง น่าสงสารจริงๆ

                    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันจะป้าว่าลูกของใคร            

                    ข้าว่าเอาไปในบ้านก่อนดีกว่าดูสิ คงหิวร้องลั่นเลยป้านวยและน้อยอุ้มเด็กทารกเดินเข้าไปในบ้านหลังงามของตระกูล อิรวัชร์

                    ที่โต๊ะอาหารของบ้านอิรวัชร์ประมุกของบ้านพงศกร อิรวัชร์ และพราวรุ้ง อิรวัชร์ สามีภรรยาหนุ่มสาวกำลังทานอาหารเช้ากันอย่างมีความสุขพร้อมเด็กหญิงตัวน้อยวัยสี่ขวบนามว่า พลอยสวย อิรวัชร์

                    วันนี้จะกลับค่ำหรือเปล่าคะ มีประชุมที่ไหนหรือเปล่าคะคุณพี่พราวรุ้งภรรยาแสนสวยของพงศกรเอ่ยถามสามีที่กำลังนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่

                    ไม่หรอกจ๊ะวันนี้กลับเร็วเพราะมีนัดพิเศษ

                    มีนัด นัดอะไรกันคะ กับใคร พราวไม่เห็นรู้เรื่องเลยพรางรุ้งสงสัยในคำพูดของสามี

                    นัดกับพงศกรหันหน้าไปมองเด็กหญิงพลอยสวย

                    กับสาวน้อยของพ่อไงใช่ไหมลูก

                    ใช่ค่ะ คุณพ่อบอกพลอยสวยว่าจะรีบกลับบ้านจะมาสอนพลอยสวยว่ายน้ำ แล้วก็จะได้มาเล่นเป็นเพื่อนหนูไงคะคุณแม่เด็กหญิงพลอยสวยช่วยคุณพ่อของเธอตอบ

                    นี่ถ้าพลอยสวยมีน้องสักคนก็คงดีนะคะแกจะได้ไม่เหงาแต่ก็คงเป็นไปไม่ได้พราวรุ้งพูดและรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่คิดว่าตัวเองมีลูกอีกไม่ได้ทั้งๆที่อยากจะมีใจแทบขาดเพราะด้วยฐานะความเป็นอยู่แล้วจะมีสักสิบคนก็เลี้ยงได้สบาย แต่เพราะเมื่อสองปีก่อนพราวรุ้งประสบอุบัติเหตุจนต้องผ่าตัดมดลูกทิ้งจนทำให้ไม่สามารถมีลูกได้อีก

                    ไม่เป็นไรนี้พราวรุ้งถึงเราจะไม่มีน้องให้พลอยสวยได้อีก แต่เราก็สามารถที่จะดูแลแกได้ ไม่ทำให้แกเหงาเราเป็นเพื่อนลูกได้นี่จ๊ะ ใช่ไหม แบ่งเวลาให้แกเยอะๆหน่อยเท่านี้เราก็เติมเต็มชีวิตครอบครัวของเราให้มีความสุขได้ไม่ใช่หรือ พงศกรบอกพร้อมมองหน้าภรรยาอย่างเห็นใจ และปลอบใจด้วยคำพูดที่ให้กำลังใจซึ่งกันละกัน

                    ค่ะเราจะเป็นทั้งพ่อและแม่เป็นทั้งเพื่อนให้ลูก พราวจะไม่คิดแบบนี้แล้วค่ะเรามีพลอยสวยคนเดียวก็พอคะ

                    ว่างัยคะคนเก่ง อิ่มหรือยังค่ะเราจะได้ไปส่งคุณพ่อขึ้นรถไปทำงานแล้วก็ไปส่งคุณลูกไปโรงเรียนงัยค่ะ

                    อิ่มแล้วค่ะแต่วันนี้คุณแม่ต้องไปส่งหนูนะคะ

                    ได้สิคะคนเก่งแต่ต้องสัญญาว่าจะไม่งอแง OK นะคะ 

                    “OK คะ เด็กหญิงพลอยสวยยกนิ้วให้สัญญากับคุณแม่

                    ขณะที่ทุกคนจะลุกออกจากห้องอาหารเพื่อไปทำงาน ไปโรงเรียนก็ได้ยินเสียงร้องจ้าของเด็กน้อย ทุกคนหยุดแล้วมองหน้ากัน

                    เสียงเด็กที่ไหนกันพงศกรถาม

                    นั้นสิคะเสียงเด็กที่ไหนกัน พราวรุ้งเอ่ยขึ้นมาอีกคน

                    น้อยตอบมาสิ พงศกรถามน้อยอย่างจับพิรุธ

                    เอ่อ เอ่อ น้อย เอ่อ เอ่อ

                    เอ่อ อยู่นั้นแหละแล้วเมื่อไหร่จะตอบเสียทีละน้อย พราวรุ้งพูด

                    คือเมื่อเช้าน้อยเอาขยะไปทิ้งที่หน้าบ้าน น้อยเห็นเด็กถูกเอามาทิ้งไว้หน้าบ้านน้อยก็เลย เข้ามาตามป้านวยไปดู พอป้านวยไปดูน้อยกับป้านวยไม่รู้จะทำอย่างไร ป้านวยก็เลยอุ้มเด็กเข้ามาในบ้านค่ะ ครั้นจะไม่เอามาก็สงสารค่ะ น้อยสารภาพหน้าสลดกลัวความผิดฐานนำเด็กเข้ามาในบ้านโดยไม่บอกกล่าวกับเจ้าของบ้านก่อน

                    ไหนไปตามป้านวยมาทีสิ พงศกรพูดสั่งน้อย น้อยรีบวิ่งไปหาป้านวยซึ่งกำลังสาระวนกับเด็กน้อยที่ร้องจ๊ากดังลั่นไปทั่วบ้าน

                    ป้านวย ป้านวยคุณผู้ชายเรียกให้ไปหาป้าอุ้มเด็กไปด้วย คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงรู้หมดแล้วว่าป้าเอาเด็กเข้ามาในบ้าน ป้านวยทำหน้าสงสัย

                    คุณผู้ชายคุณผู้หญิงรู้ได้อย่างไรวะ เองปากโป้งบอกละสิอีน้อย ป้านวยว่าน้อย

                    โธ่! ป้าก็ร้องสะดังลั่นบ้านสะขนาดเนี้ยนะไม่ได้ยินก็แปลกแล้ว

                    เอ่อ ก็จริงของเอง

                    ไปเถอะป้าเดี๋ยวท่านจะคอยนาน ป้านวยและน้อยอุ้มเด็กทารกน้อยเดินไปหาเจ้าของบ้าน

     

                    ไหนอุ้มมาดูใกล้ๆสิป้านวย พราวรุ้งดูจะตื่นเต้นเมื่อได้เห็นทารกน้อยหน้าตาหน้าเกลียดหน้าชัง ที่ป้านวยส่งให้เธอมาอุ้ม

                    แล้วนี่จะทำอย่างไรลูกใครก็ไม่รู้ พงศกรพูดขึ้น

                    บอกตำรวจไหมคะคุณผู้ชาย น้อยเอ่ยขึ้นแสดงความคิด

                    ก็ดีเหมือนกันเพราะเราไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ถูกขโมยมาหรือเปล่า หรือพ่อแม่ตั้งใจนำมาทิ้ง พงศกรเห็นดีด้วย

                    แต่คุณพี่คะพราวว่าอย่าแจ้งตำรวจเลยนะคะ พราวว่าเด็กคนนี้หน้าตาหน้าเกลียดอย่างนี้ พราวอยากจะเลี้ยงแกเอง พราวขอได้ไหมคะ เป็นเด็กผู้หญิงด้วยไหนๆเราก็ต้องการที่จะมีน้องให้พลอยสวยไม่ใช่หรือคะ ในเมื่อพราวมีไม่ได้ พราวขอเด็กคนนี้ได้ไหมคะคุณพี่พราวรุ้งร้องขอต่อสามี เพราะรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้เหลือเกิน

                    พราวคิดแบบนั้นหรือ พงศกรถามภรรยาเพื่อความแน่ใจ

                    ค่ะ พราวแน่ใจเราจะเลี้ยงแกให้เหมือนแกเป็นลูกแท้ๆของเรา เลี้ยงเค้าให้ดี ส่งแกเรียนหนังสือ ให้แกเป็นน้องของพลอยสวย เราจะรักแก จะให้ความอบอุ่นเหมือนที่เราให้กับพลอยสวยนะคะ

                    ถ้าพราวต้องการแบบนั้นพี่ก็คงไม่ขัดแต่เราก็ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย คงต้องรีบไปแจ้งเกิดเด็กคนนี้ให้เป็นลูกของเราก็แล้วกัน พงศกรบอกกับภรรยา

                    ค่ะคุณพี่

                    งัยคะหนูมีน้องแล้วนะลูก พราวรุ้งพูดกับลูก

                    น้องน่ารักจังค่ะคุณแม่ คุณแม่คะน้องจะชื่ออะไรดีค่ะ

                    นั้นสิคะน้องจะชื่ออะไรดีน้า ชื่ออะไรดีค่ะคุณพี่ พราวรุ้งหันไปถามความคิดเห็นจากสามี

                    แม่ชื่อพราวรุ้ง พี่สาวชื่อพลอยสวย น้องสาวชื่ออะไรดีนะ พงศกรทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง

                    ชื่อฟ้าใสเป็นอย่างไงเพราะดีพี่ว่า

                    ค่ะเพราะดีงั้นเอาชื่อนี้นะคะ ฟ้าใส หนูชื่อฟ้าใสนะคะลูก ฟ้าใสเป็นน้องสาวของพี่พลอยสวยนะค่ะ

                    พลอยสวยมีน้องแล้วต้องรักน้องให้มากๆนะคะรู้มั้ยลูก พราวรุ้งบอกพลอยสวยให้รักน้อง

                    ค่ะ คุณแม่ น้องพลอยจะรักน้องฟ้าใสให้มากๆเลยค่ะ จะไม่ให้ใครมารังแกน้องเด็ดขาด

                    ขนาดนั้นเลยหรือคะ พราวรุ้งถามลูกสาวด้วยความเอ็นดู

                    น้อยกับป้านวยรู้แล้วนะว่าต่อไปนี้ บ้านนี้จะมีคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกคน ฉันฝากป้านวยบอกกับทุกๆคนด้วยก็แล้วกันนะ พงศกรเอ่ยสั่งขึ้น

                    ค่ะคุณผู้ชายป้านวยและน้อยเอ่ยรับทราบ 

     

                    18 ปีผ่านอย่างรวดเร็ว เช้าวันนี้เป็นวันที่สดใสและเป็นวันที่ทุกๆคนในบ้านรอคอย เป็นวันที่ทุกคนตื่นเต้นดีใจแต่ดูเหมือนคนที่ตื่นเต้นและดีใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นพลอยสวย ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งก็ว่าได้ วันนี้พลอยสวยแต่งตัวใส่ชุดนักศึกษาเต็มยศเรียบร้อยของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งสวมทับด้วยชุดครุยประจำคณะ ที่พลอยสวยตั้งใจเล่าเรียนและจบมาจนมีวันนี้ได้

                    เรียบร้อยกันหรือยังจ๊ะสาวสวยผู้เป็นประมุกของบ้านเอ่ยถามลูกสาวและภรรยา

                    เสร็จแล้วค่ะคุณพ่อพลอยสวยตอบพร้อมส่งยิ้มให้พ่อและแม่

                    งั้นก็ไปกันเลยเดี๋ยวจะสาย กว่าจะถึงอีกวันนี้รถคงติดน่าดู เพื่อเวลาไว้หน่อยก็ดีพงศกรเอ่ยพร้อมเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง

                    แต่คงไม่ต้องรีบเท่าไรมั้งคะคุณพ่อเพราะพลอยรับรอบบ่าย

                    แต่แม่ว่าเพื่อเวลาหน่อยก็ดีนะคะถึงก่อนเวลาดีกว่า

                    ค่ะแม่รถยี่ห้อดังคันหรูเคลื่อนออกจากหน้าบ้านมุ่งหน้าไปยัง มหามาวิยาลัยชื่อดังซึ่งมีผู้คนมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความสุขของผู้ที่ได้รับใบประกาศปริญญาบัตรและความสุขของพ่อแม่ญาติพี่น้องที่มาร่วมแสดงความยินดี ต่างถ่ายรูปกับบัณฑิตใหม่เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกพลอยสวยเองก็เช่นกันแต่ก็ไม่วายบ่นกับพ่อและแม่ว่าทำไมน้องสาวคนเก่งถึงยังไม่มาถึงสักทีทั้งๆที่วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดของพี่สาวสุดที่รัก

                    ด้านฟ้าใส่สาวน้อยน่ารักสมชื่อในวัย 18 ปี กำลังเดินทางจากวิทยาลัยพยาบาลเพื่อมาให้ทันร่วมแสดงความยินดีกับพี่สาวคนสวย ฟ้าใสเคยชินกับการขึ้นรถประจำทางเสียแล้ว ฟ้าใสปฏิเสธการที่ต้องมีคนรถมาคอยรับคอยส่ง ฟ้าใสเห็นว่าขึ้นรถประจำทางสะดวกกว่าเป็นไหนๆ แต่วันนี้ดูรถจะติดเป็นพิเศษ ไม่ใช่วันนี้สิแต่เป็นมาหลายวันแล้วตั้งแต่มหาวิทยาลัยจัดพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรให้กับบัณฑิตที่จบการศึกษาใหม่

                    โอ๊ย...อะไรกันนักนะทำมัยรถถึงได้ติดอย่างนี้ นี่ถ้าไม่ติดว่ามีเรียนนะเราไม่ต้องมานั่งอยู่บนรถแบบนี้แน่นอนอย่างน้อยเราก็ต้องได้ไปพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่และก็พี่พลอยแน่นอน ป่านนี้พี่พลอยคงบ่นแย่แล้วแน่เลยฟ้าใสบ่นกับตัวเองในใจทันใดเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นฟ้าใสไม่แปลกใจเลยเพราะคนที่โทรมาคือคนที่เธอกำลังนึกถึง

                    ถึงไหนแล้วจ๊ะ พี่รออยู่นะเดี๋ยวก็มาไม่ทันกันพอดี

                    ขอโทษค่ะพี่พลอยรถติดมากเลย

                    ใกล้จะถึงหรือยังจ๊ะ

                    ใกล้แล้วจ๊ะพี่พลอย ฟ้าว่าจะลงป้ายหน้าแล้วเดินไปค่ะคิดว่าน่าจะเร็วกว่านี้

                    แล้วแต่จ๊ะ แต่เร็วๆ หน่อยนะพี่รออยู่

                    ค่ะพี่พลอย

                    ว่างัยลูก น้องว่ายังไงบ้างใกล้ถึงหรือยัง พราวรุ้ง ถามบุตรสาวที่หน้างอเพราะงอนน้องสาวที่มาช้า

                    ใกล้จะถึงแล้วมั้งคะเห็นบอกว่าจะลงป้ายข้างหน้าแล้วเดินมาหา ฟ้านะ ฟ้าทำมัยถึงไม่เผื่อเวลาบ้างก็ไม่รู้ ปล่อยให้เราคอยตั้งนานคอยดูนะมาถึงเมื่อไรพลอยจะงอนยัยฟ้าให้ดู

                    อะไรกันจ๊ะก็น้องเค้าติดเรียนนี่จ๊ะ จะขาดไม่ได้มาช้ายังดีกว่าไม่มาจริงมัยคะคุณ

                    ใช่ พ่อว่าจริงอย่างที่แม่เค้าพูดนะ

                    มาแล้วค่ะ มาแล้ว มาแล้ว วิ่งเหนื่อยแทบตาย นี่ค่ะพี่พลอย ฟ้าขอแสดงความยินดีด้วยค่ะพูดพร้อมยื่นกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่นักให้พี่สาว ทั้งๆที่ตัวเอง ยังกระหืดกระหอบไม่หายเพราะความรีบ เหงื่อเม็ดโต พุดขึ้นเต็มใบหน้าที่บัดนี้แก้มทั้งสองข้างเปลี่ยนจากสีชมพูเรื่อเป็นสีแดงเพราะอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดของเมืองไทย

                    อย่าโกรธฟ้านะคะ อย่างอนฟ้านะค่ะ พี่สาวคนสวย นะคะฟ้ารีบมาแทบตายแต่รถมันติด จริงๆนะคะ คุณพ่อ คุณแม่ รู้ว่าฟ้ารีบแล้วแท้ๆแต่กลับติดอยู่ได้พูดไปมองหน้าพ่อกับแม่เพื่อขอความเห็นใจผู้ใหญ่ทั้งสองมองอย่างเอ็นดู

                    จ้า คนเก่งไม่มีใครงอนฟ้าหรอกจ๊ะ จริงไหมพลอยพราวรุ้งถามพลอยสวยพร้อมขอความเห็นใจให้

                    ค่ะไม่งอนก็ได้พร้อมยื่นมือไปรับกล่องของขวัญของน้องสาวที่มอบให้

                    แต่พี่ว่ากล่องเล็กไปหน่อยนะ อะไรหรือบอกได้ไหมพลอยสวยพูดหยอกน้องสาว

                    ไม่บอกค่ะถ้าอยากรู้ต้องเปิดดูเอง ก็ฟ้ามีเงินแค่นี้ ก็เลยซื้อได้กล่องแค่นี้ มันอาจจะไม่มากด้วยราคา แต่มากค่าที่ความจริงใจและเต็มใจจะมอบให้พี่พลอยเลยนะคะ

                    จ้า แม่คนเก่งเอาเป็นว่าพี่ยังไม่แกะดีกว่า ว่าแต่ตอนนี้มาถ่ายรูปกับพี่ก่อน เร็วเดี๋ยวพี่ต้องเข้าห้องประชุมแล้วแล้วทุกคนก็ได้ถ่ายภาพร่วมกันทั้งครอบครัว คู่พี่น้องบ้าง ครอบครัวบ้าง กับเพื่อนบ้าง รวมๆกันไป

     

                    หลังจากที่พลอยสวยเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็พากันขึ้นรถกลับบ้าน ด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ก็มีความสุข พงศกรที่นั่งมาเงียบๆด้วยความเหนื่อย พึ่งจะนึกบางอย่างออกจึงเอ่ยถามลูกสาวคนเล็กออกไป

                    อีกสองวันว่างหรือเปล่าลูกมีเรียนมัย

                    ทำไมคะคุณพ่อฟ้าใสถามแปลกใจ

                    อีกสองวันจะมีนิตยสารธุรกิจจะมาขอสัมภาษณ์ครอบครัวของเราพ่ออยากให้ลูกๆอยู่กันให้ครบ แล้วอีกอย่างเค้าบอกว่าจะขอถ่ายภาพครอบครัวเราด้วย

                    อีกสองวันไม่มีเรียนพอดีค่ะฟ้าว่างค่ะ

                    งั้นก็เป็นอันว่าว่างกันทุกคนเพราะว่าพี่พลอยก็ว่าง แม่ก็ว่าง ฟ้าก็ว่าง อยู่กันครบพ่อจะได้โทรบอกเค้า พงศกรสรุป แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรในทันที

     

                    สองวันต่อมาทีมงานนิตยสารธุรกิจก็มาจริงๆมาขอสัมภาษณ์พร้อมขอถ่ายภาพทุกคน วันนี้ฟ้าใส พลอยสวย ลูกสาวทั้งสองคนแต่งตัวสวยเป็นพิเศษพร้อมให้ช่างภาพถ่ายภาพ

                    ท่านวางแผนชีวิตการงานและอนาคฅไว้ไห้ลูกสาวทั้งสองคนอย่างไรบ้างคะทีมงานสัมภาษณ์พงศกรเป็นคำถามสุดท้าย

                    ผมไม่เคยงานแผนอนาคตอะไรไว้ให้เค้า เพราะผมรู้ว่าเค้ามีความคิด ความอ่าน ผมไม่จำเป็นต้องวางอนาคตของเค้าว่าต้องเป็นอย่างไร ขอเพียงเค้าคิดดี ทำดีเค้าก็จะก้าวต่อไปในวันข้างหน้าได้อย่างสง่างาม เราเป็นพ่อเป็นแม่ก็คอยดูอยู่ห่างๆ คอยพยุงเวลาที่เค้าล้ม คอยให้คำปรึกษาเวลาที่เค้าหาทางออกไม่เจอ เท่านี้ก็พอครับเป็นคำถามสุดท้ายที่พงศกรตอบได้ดีและประทับใจ

                    เอ่อ คุณพงศกรคะขอถ่ายภาพครอบครัวหน่อยนะคะ

                    ยินดีครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×