คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1st Memories
1st Memories
เสียงจั๊กจั่นร้องหาคู่ดังระงมบ่งบอกถึงฤดูร้อนอันร้อนระอุ ซึ่งในฤดูนี้เป็นช่วงที่เหล่าเด็กน้อยมักออกมาวิ่งเล่นกับกลุ่มเพื่อน ทว่าสำหรับมิโดริยะ อิซึคุกลับไม่ใช่อย่างงั้น
ในตอนที่เขากำลังไปที่สนามเด็กเล่นเพื่อไปเล่นกับพวกคัตจัง ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างและด้วยความสงสัยใคร่รู้ เขาจึงเดินตามเสียงไปจนสุดขอบกำแพงก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดูก็พบกับภาพที่ไม่คาดคิด
กำปั้นเล็กของหัวโจกง้างขึ้นสูงก่อนจะทุบลงบนร่างกายเด็กที่นอนสะบักสะบอมอย่างเต็มแรง เสียงกำปั้นซัดกับเนื้อดังจนกลบเสียงจั๊กจั่นแทบมิด เด็กชายผมสาหร่ายมองดูเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากหลังกำแพงด้วยความหลาดกลัว
กลัวว่าถ้าหากตนเข้าไปยุ่ง รายต่อไปของการทารุณจะเป็นเขาผู้อ่อนแอและไร้อัตลักษณ์
...
..
.
เด็กชายไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่เสียงนั่นยังคงดังและยิ่งดังขึ้นไปเรื่อยๆ
'...ช-ช่วย...ด้วย.....'
เสียงร้องของความช่วยเหลือที่ดูอ่อนแรงทำให้เขาไม่อาจทนอยู่เฉยได้อีก ร่างเล็กวิ่งเข้าไปบังเด็กผู้เคราะห์ร้ายจากกลุ่มเด็กอันตพาร
'น-นายทำเกินไปแล้วนะ คัตจัง! เห็นมั้ย นายทำเขาร้องไห้แล้วนะ!'
เด็กชายปราบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นครืด
'ถ-ถ้าขืนคัตจังทำมากกว่านี้ล่ะก็ผมน่ะ...จะไม่ยอมจริงๆ ด้วย!'
ตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวพร้อมตั้งท่าเตรียมต่อสู้แม้ร่างกายจะสั่นกลัวราวกับลูกนกตัวน้อยอยู่ก็ตาม
'เหอะ! ทั้งที่แกไม่มีอัตลักษณ์แท้ๆ...'
เด็กชายผมฟางผู้เป็นหัวโจกพูดพร้อมกับมุมปากยกขึ้นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหี้ยม เด็กอีกสองคนที่เปรียบเสมือนลูกน้องก็เริ่มใช้อัตลักษณ์จนรูปลักษณ์ภายนอกต่างไปจากเดิม
'ยังสะเออะทำตัวเป็นฮีโร่อีกเหรอ เดกุ!'
'!!!?'
สิ้นสุดคำพูดทั้งสามพุ่งตรงเข้ามาโจมตีเขาทันทีโดยไม่ให้เขาตั้งตัว แขนเล็กยกขึ้นเตรียมรับแรงกระแทก
'อึก! ฮึกー'
เด็กชายกัดฟันทนกำปั้นและอีกสาระพัดอย่างที่เกิดจากการใช้อัตลักษณ์
ถึงแม้จะฝืนทนรับแรงกระแทกเหล่านั้นไว้ได้แต่ก็ต้านได้ไม่นาน สุดท้ายก็ล้มลงไปนอนกับพื้น ร่างเล็กคดตัวปกป้องส่วนสำคัญของร่างกายจากการทุบตี
...
..
.
ใช้เวลาอยู่นานกว่าเสียงทุบตีจะเงียบ
'เหอะ! อ่อนแอสมชื่อเดกุจริงๆ ไปกัน!'
ดวงตาทับทิมจ้องมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยามก่อนจะเดินจากไปทั้งอย่างงั้น ทิ้งเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยบาดแผลไว้อย่างไร้เยื่อใย
เด็กที่ถูกช่วยขยับกายเข้ามาดูอาการหลังจากที่คนพวกนั้นเดินลับสายตาไป มือเล็กเขย่าร่างที่สะบักสะบอมนั่นเบาๆ เพื่อเรียกสติ
'น-นายเป็นอะไรไหม นี่…'
เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะเจ็บจนพูดไม่ออก
ดวงตามรกตหม่นแสงเหม่อมองท้องฟ้าสีครามที่เริ่มมีเมฆหนาเข้าบดบัง
ฝน...กำลังจะตก
และนั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้ก่อนที่สติจะดับวูบไป
ติ้ด ติ้ด ติ้ー
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำหน้าที่ปลุกคนที่อยู่ในห้วงนิทราให้ตื่น
เด็กหนุ่มผมสาหร่ายตื่นจากฝันในวัยเยาว์ที่แสนเจ็บปวดนั้นอย่างช้าๆ เขานึกขอบคุณนาฬิกาปลุกในใจก่อนลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วไปจัดการธุระส่วนตัวและแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน
เมื่อออกจากห้องก็พบกับหญิงวัยกลางคนผู้มีศักดิ์เป็นมารดายืนรออยู่พร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวเช้าที่เรียกน้ำย่อย
"อรุณสวัสดิ์ครับแม่!"
เขาเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจึงเดินมานั่งทานข้าวที่โต๊ะ ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ทานเสร็จ
อิซึคุเคาะรองเท้าสองสามทีก่อนเตรียมออกจากบ้าน และก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะกล่าวลาผู้ใหญ่ในบ้าน
"ไปก่อนนะครับ!"
"ไปดีมาดีจ๊ะ"
เขารับคำขานด้วยรอยยิ้มกว้าง มือกระชับสายกระเป๋าเป้ไว้แน่นก่อนจะออกเดินทางไปโรงเรียน
ณ สถานีรถไฟฟ้า
“โฮกกกกก!!!”
วิลเลินตัวใหญ่คำรามเสียงดังสนั่น ทำให้ประชาชนแถวนั้นตื่นตกใจซึ่งรวมไปถึงตัวอิซึคุด้วยเช่นกัน
“เหวอ!? วิลเลิน!!?”
สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนบ่นด่าในใจอย่างอารมณ์เสีย แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้เดินไปไหนแต่กลับยืนดูเหตุการณ์นี้เงียบๆ
และไม่นานหลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มหันมาให้ความสนใจวิลเลินตนนั้น
“โฮกกก!”
เมื่อมันเห็นว่าเริ่มมีคนมามุงดูเยอะขึ้น มันก็ยิ่งหัวเสียทำลายข้าวของรอบข้างไปทั่วจนเศษซากคอนกรีตร่วงลงมาในจุดที่มีคนยืนมุงกันอยู่
เดี๋ยวฮีโร่สักคนคงมาจัดการนั่นแหละ
อิซึคุคิดในใจขณะมองเศษซากที่ร่วงลงมาอย่างรวดเร็วโดยไร้ความตื่นตระหนก
เร็วเท่าความคิดฮีโร่ในชุดแหวกอกได้วิ่งออกมามารับเศษซากที่ร่วงลงมาด้วยกล้ามแขนอันใหญ่โตพร้อมกับโชว์พลังของตน
“นั่นมันเดธอาร์มนี่นา!”
“เพราะมีพละกำลังมหาศาลก็เลยยกของที่หนักมากได้อย่างสบายๆ สินะ สมแล้วที่เป็นฮีโร่สายบู๊!"
การแสดงโชว์ยังคงดำเนินต่อโดยมีสายน้ำที่เกิดจากอัตลักษณ์มารวมกันเป็นเส้นแล้วคลึงเป็นเชือกกั้นไม่ให้คนแถวนั้นเข้าใกล้ที่เกิดเหตุ
“เอ้าๆ ตรงนี้มันอันตรายนะครับ ถอยออกไปหน่อยๆ”
“เจ้าหน้าที่กู้ภัยพิเศษแบ็คดราฟต์ก็มาด้วยงั้นเหรอ!?”
“กรี๊ดดด พยายามเข้าคามุุย!”
โอ๊ะ? ฮีโร่ที่กำลังเป็นที่นิยมก็มาด้วยแฮะ
ดวงตามรกตเกิดประกายความสนใจขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากได้ยินชื่อ ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าสนใจกว่าการที่ต้องมาดูการเปิดตัวอันแสนธรรมดาของสองฮีโร่ที่มาช่วยกันญี่ปุ่นมุงให้ออกห่างจากสถานที่เกิดเหตุ
แต่เหตุผลที่แท้จริงคงเป็นการเตรียมเวทีให้กับฮีโร่ตัวจริงที่จะมาจัดการวิลเลินยักษ์
อิซึคุแทรกตัวเข้าไปในฝูงชนแล้วเดินลัดเราะนิดหน่อยก่อนจะโผล่ออกมาที่แถวหน้าสุดเพื่อดูเหตุการณ์ใกล้ๆ โดยไม่ลืมจดบันทึกความสามารถของฮีโร่แต่ละคนไว้
เอาล่ะ ทีนี้จะจัดการยังไงกัน
เลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้นขณะเดียวกันก็จับตาดูวายร้ายที่กำลังสติแตกยามต้องเผชิญหน้ากับฮีโร่
“กรร! อย่าเข้ามานะโว้ยยยยย!!!”
วิลเลินยักษ์แผดเสียงเกรี้ยวกราดแล้วเริ่มทำลายข้าวของอีกครั้งราวกับคนเสียสติ
“ชินริน คามุย...เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์แถมยังเป็นที่นิยมอยู่ช่วงนี้สินะ...”
อดีตผู้เคยคลั่งไคล้ฮีโร่พึมพำโดยที่ดวงตายังคงจับจ้องการเคลื่อนไหวของฮีโร่ไม้อย่างไม่ละสายตา
“ถามเองตอบเองเสร็จสรรพเลยนะ เธอคงจะเป็น...โอตาคุสินะ!” ลุงที่ยืนอยู่ข้างๆ ทัก
“อ่า แหะๆ...” เขาหัวเราะกลบเกลื่อนแทนการตอบคำถาม
“แกมีความผิดฐานใช้พลังในชั่วโมงเร่งด่วนอีกทั้งยังลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย เป็นร่างอวตารแห่งความชั่วร้ายโดยแท้เลยนะ”
ฮีโร่คามุยพูดก่อนจะเริ่มใช้อัตลักษณ์
“โอ้ โชว์สุดอลังการของมนุษย์ไม้มาแล้ว!” ลุงคนเดิมพูดอย่างตื่นเต้น
“นั่นมันท่าพันธนาการควบคุมนี่...” อิซึคุพึมพำ
“จงถูกลงทัณฑ์ซะ! คุกโซ่ไม้โอ๊ค!”
ในขณะที่ฮีโร่ไม้ที่กำลังโชว์การใช้อัตลักษณ์ในการจับกุมวิลเลินอยู่นั้น จู่ๆ พื้นที่ยืนอยู่ก็เกิดสั่นไหวราวกับแผ่นดินไหวขนาดย่อม
"พื้นสั่น? เกิดอะไรขึ้ー"
"แคนยอน แคนนอน!!!"
ไม่ทันพูดจบตัวต้นเหตุที่ว่าก็พุ่งมาพร้อมกระโดดถีบขาคู่ใส่วิลเลินจนกระเด็นไปนอนสลบบนพื้นถนน
"...เอ๋?"
ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อใครจากไหนไม่รู้โผล่มาตัดหน้าฮีโร่ไม้
แชะ! แชะ! แชะ!
เสียงชัตเตอร์ดังเรียกสติอิซึคุกลับมา เขาพินิจคนมาใหม่ก่อนจะเตรียมจดชื่อฮีโร่คนนั้นลงสมุด
คนที่ตัวใหญ่ราวกับยักษ์ แต่นี่คือฮีโร่สาว
“ฉันเพิ่งเริ่มงานวันนี้เรียกฉันว่าเมาท์เลดี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ!”
เมาท์เลดี้แนะนำตัวพร้อมขยิบตาใส่กล้อง จากนั้นก็นำตัววิลเลินไปส่งให้กับตำรวจโดยไม่ลืมหันมาโบกมือให้กับกล้องที่จับจ้องมา
อ่า รู้สึกสงสารคามุยจังแฮะ... อิซึคุไม่ได้กล่าว
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์คลี่คลายแล้วเขาจึงแยกตัวออกจากฝูงชนมาด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เสียดายที่ไม่ได้ข้อมูลฮีโร่ไม้เพิ่มเติมแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เขาเดินสำรวจร่องรอยการต่อสู้ที่นิวบี้ฮีโร่ทำไว้ก่อนจดลงสมุด
“เกี่ยวกับการขยายร่างสินะ...ก็เป็นอัตลักษณ์ที่สุดยอดอยู่หรอก แต่ว่าดูจากความเสียหายแล้วคงปฏิบัติงานได้เฉพาะพื้นที่จำกัดสินะ ไม่สิ ถ้าหากขยายขนาดเฉพาะส่วนได้มันก็อีกเรื่อง...”
มือจดข้อมูลพลางพึมพำวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการใช้อัตลักษณ์ต่างๆ นาๆ
“โอ๊ะ จดโน๊ตอย่างงั้นเรอะ! คิดจะเป็นฮีโร่งั้นสินะ เยี่ยมมาก! พยายามเข้าล่ะ!”
ลุงที่ยืนอยู่ด้วยกันเมื่อกี้กล่าวชมพร้อมยกนิ้วโป้งให้
“อะ เอ่อ จะพยายามครับ!”
เสียงเรียกดึงสติที่ตกอยู่ในภวังค์ให้กลับมา เขาหันไปตอบคุณลุงคนนั้นพร้อมยิ้มฝืดแล้วรีบเขียนต่อให้เสร็จ
ฮีโร่งั้นหรอ...
สะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะออกเดินทางอีกครั้งโดยมีโรงเรียนเป็นจุดหมายปลายทาง
"แฮ่ก...แฮ่ก..."
อิซึคุที่รีบวิ่งมาเพื่อให้ทันเวลาโฮมรูมกำลังยืนหอบหายใจอยู่หน้าห้อง พยายามสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดพลางยกแขนขึ้นปาดเหงื่อไปด้วย ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็เริ่มกลับมาหายใจปกติ
เขาตรวจเช็คสภาพตัวเองพร้อมสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบจิตใจ เมื่อพร้อมแล้วจึงเปิดประตูห้องเรียนแล้วตรงดิ่งไปโต๊ะของตน
ทั้งห้องหันมองคนมาใหม่อยู่ครู่นึงก่อนจะหันกลับไปพูดคุยกันดังเดิม
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับชายพุงยืดที่เดินเข้ามา
“สวัสดีเหล่านักเรียนที่น่ารักของฉัน" อาจารย์ประจำชั้นกล่าวทักทาย
"เอาล่ะ ตอนนี้พวกเธอก็อยู่ม.3กันแล้ว มันถึงเวลาคิดเรื่องอนาคตอย่างจริงจังได้แล้วละนะ”
พูดพร้อมวางเอกสารที่นำมาด้วยบนโต๊ะ
“เดี๋ยวอาจารย์จะแจกแบบสอบถามเส้นทางเรียนต่อให้ แต่ว่าพวกเธอน่ะ...ยังไงก็ไปเรียนต่อแผนกฮีโร่กันอยู่แล้วนี่นะ~”
พูดจบก็โปรยเอกสารที่ว่านั่นทิ้งทันที
“เย่!!!” นักเรียนทั้งห้องต่างส่งเสียงเฮด้วยความดีใจก่อนจะโชว์อัตลักษณ์กันทั้งห้อง
“อืมๆ ทุกคนมีอัตลัษณ์ที่เยี่ยมยอดมาก แต่ว่าอย่าเอามาใช้ในโรงเรียนกันล่ะ”
กล่าวตักเตือนนักเรียนนิดหน่อยพอเป็นพิธี
“อาจารย์ อย่าเอาฉันไปเหมารวมกับคนอื่นแบบนี้สิ” เด็กหนุ่มผมฟางพูดขึ้น
อ่า เอาอีกแล้วแฮะ...
อิซึคุเหลือบมองคนผมหนามนิ่ง
“ฉันไม่คิดจะเป็นเพื่อนกับพวกที่มีอัตลักษณ์กระจอกๆ แบบนี้หรอกนะ”
คนที่พูดจาไม่น่าฟังคนนั้นคือบาคุโกว คัตสึกิหรือคัตจัง อดีตเพื่อนสมัยเด็กของเขาเองแหละ
“คัตสึกิ!!!” “พูดอะไรแมวๆ ฟ่ะ!”
“พวกแกนี่น่าหนวกหูชะมัด สมกับพวกตัวประกอบ!!”
“ว่าไงนะ!”
ทั้งห้องต่างโวยวายด้วยความไม่พอใจเมื่อถูกคัตจังพูดยั่วยุ
“อ่า จริงสิ บาคุโกวจะเข้าเรียนที่โรงเรียนยูเอย์สินะ” อาจารย์พูดแทรกพลางอ่านเอกสารในมือ
แย่แล้วสิ...ฮ่า แย่ยังน้อยไปต้องพูดว่าชิ*หายแล้วถึงจะถูก
อิซึคุค่อยๆ ก้มหน้าลงนอนบนโต๊ะแสร้งทำเป็นหลับ
“ยูเอย์? โรงเรียนรัฐนั่นน่ะนะ?”
“เฮ้ยย! นั้นมันโรงเรียนระดับประเทศเลยนะ! ที่นั่นสอบเข้ายากมากเลยนี่!”
“โฮ สุดยอดไปเลยบาคุโกว!”
ทุกคนอึ้งไปพักนึงก่อนจะเริ่มมีท่าทีแตกตื่นพร้อมแสดงความสนอกสนใจในสิ่งที่ได้ยิน
“เพราะพวกแกมัวแต่ทำตัวแบบนี้ ฉันถึงเรียกพวกแกว่าตัวประกอบ”
พูดจบคัตจังก็กระโดดขึ้นไปยืนบนโต๊ะ
"ผลพรีเทสต์ฉันได้A ในโรงเรียนนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ายูเอย์ ฉันจะก้าวข้ามออลไมท์แล้ว..."
ประกาศความยิ่งใหญ่อีกแล้ว...
แต่มันไม่น่าแปลกใจหรอกว่าทำไมหมอนั่นถึงเป็นแบบนี้ นั่นก็เพราะอัตลักษณ์ของคัตสึกิแข็งแกร่งและรวมไปถึงตัวหมอนั่นเองก็เก่งมากเช่นกัน
"อ่า จะว่าไปแล้วมิโดริยะเองก็จะเข้ายูเอย์ด้วยเหมือนกันนี่นา"
"!!?" อิซึคุสะดุ้งโยงทันทีที่ถูกพูดถึง
ทั้งห้องหันขวับมองเขาทันทีที่อาจารย์พูดจบ
อาจารย์จะพูดทำไมครับเนี่ยยย!
อิซึคุที่ฟุบหลับแอบด่าครูที่น่าเคารพรักอยู่ในใจ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงกระแสสายตาที่มองมาจากรอบข้างจนอดไม่ได้ที่จะถอดถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมารับกรรมแต่เมื่อได้สบเข้ากับสายตาที่มองมามีทั้งฉงนสงสัย แปลกใจ ชื่นชม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่อิซึคุเพิ่งเคยได้รับเป็นครั้งแรกในชีวิตมัธยมต้น
“โอ้ว อย่างสุด!”
“เอาจริงดิ? จะไปรอดเหรอ?”
“ใจกล้ามาก! ฉันเอาใจช่วยนะพวก!”
เสียงพูดให้กำลังใจและฉงนสงสัยดังขึ้นเรียกสติที่มึนงงกลับมา ทว่าไม่นานคนขี้หงุดหงิดที่มองเขาด้วยความตะลึงก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
"ไอ้เดกุ!"
บึ้มมม!!
"เหวอ!"
พร้อมกับระเบิดโต๊ะด้วยอัตลักษณ์จนเละ จนเจ้าของโต๊ะอย่างอิซึคุตกใจจนหงายหลังตกเก้าอี้
“อัตลักษณ์กระจอกอย่างแกยังกล้าเสนอหน้าจะไปที่นั่นอีกเรอะ! แล้วทำไมแกถึงได้เข้ามาในสนามเดียวกับฉัน ห๊ะ!” คัตสึกิพูดด้วยความเดือดดาล
"ไม่ใช่อย่างนั้น...ผมไม่ได้อยากจะแข่งกับนายสักหน่อย!"
อิซึคุปฎิเสธทุกคำที่กล่าวพลางขยับตัวถอยห่างจากอีกฝ่ายจนหลังชิดกำแพง
“หา ไม่ได้อยากแข่งกับฉัน แล้วแกจะไปลงสอบที่นั่นทำไม!”
“มันก็แค่เป้าหมายของผมตั้งแต่เด็ก แล้วที่สำคัญมันไม่ได้มีกฎห้ามไว้สักหน่อย ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้นี่”
ไม่ลองไม่รู้อะไรของแก! จะไปสอบเป็นที่ระลึกรึไง!!"
“...”
“แล้วแกทำอะไรได้บ้างมิทราบ? ไอ้อัตลักษณ์กระจอก!”
อิซึคุได้แต่ก้มหน้ารับคำด่าทอของคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทอย่างจนใจ ทั้งห้องมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วยความสงสารปนหน่ายใจแต่ก็ไม่ได้ยื่นมือช่วยหยุดหมาบ้าตัวนี้
"เอาล่ะๆ กลับไปนั่งที่ได้แล้วคัตสึกิ" อาจารย์เอ่ยปรามอย่างขอไปที
"ชิ!" คัตสึกิจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสีย นัยน์ตาทับทิมวาวโรจน์จ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดตัวเดินตึงตังกลับไปนั่งที่ตัวเอง
"ใกล้เวลาเรียนวิชาแรกของวันนี้แล้ว วันนี้ก็ตั้งใจเรียนกันด้วยล่ะ"
ทั้งวันอิซึคุถูกรบกวนด้วยสายตาจากเจ้าผมหนามจนแทบไม่มีสมาธิเรียนหนังสือ แม้ตอนนี้จะเลิกเรียนแล้วแต่หมอนั่นก็ยังไม่เลิกจ้องจนเขาอดสงสัยไม่ได้ว่ามีอะไรติดหน้าอยู่รึเปล่า
“ไปคาราโอเกะกัน!”
“นี่ๆ ไปร้านขนมที่พึ่งเปิดใหม่กันไหม”
“อืม! ก็ดีเหมือนกัน”
“กลับบ้านกันเพื่อน!”
เสียงจอแจหลังเลิกเรียนบ่งบอกว่าถึงช่วงเวลาอิสระ
อิซึคุมองดูบรรยายกาศในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยที่ฟังดูสนุกสนานอย่างเหม่อลอย ก่อนจะหันกลับมาสนใจเก็บของของตนลงกระเป๋า
ทว่าก็มีมือปริศนามาแย่งสมุดของเขาไปจากมือ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองตัวต้นเรื่องก่อนที่ดวงตามรกตจะสบเข้ากับดวงตาสีทับทิมที่มองลงมาด้วยความไม่พอใจ
“เฮ้ย เรายังคุยกันไม่จบเลยนะ เดกุ”
“โฮ้ย คัตสึกิ นั่นอะไรน่ะ?”
เหล่าลูกสมุนของคัตสึกิตะโกนถามก่อนที่คนตรงหน้าจะหันปกสมุดให้พวกนั้นดู
"วิเคราะห์ฮีโร่สำหรับอนาคต? เอาจริงดิ! พรืดด! ฮ่าๆ!"
"มิโดริยะ นายนี่จริงๆ เลยนะ ฮ่าๆ"
ลูกสมุนทั้งสองต่างหัวเราะเยาะเมื่อเห็นว่าอิซึคุพกสมุดอะไรแบบนี้
“...มันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกนาย เอาคืนมา”
เขาแบมือขอสมุดคืน อีกฝ่ายทำท่าเหมือนจะคืนให้
บึ้มมม!!!
ก่อนระเบิดสมุดทิ้งแล้วโยนออกไปนอกหน้าต่าง
“หึ!”
ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งราวกับรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้
“ฮีโร่ส่วนใหญ่เขาทำเรื่องเจ๋งๆ กันตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนกันทั้งนั้น เพราะงั้นฉันจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่สอบเข้ายูเอย์จากโรงเรียนประจำเมืองต๊อกต๋อยนี่ เพราะฉันคือคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด และจะคนที่ถูกพูดถึงว่าได้เรียนต่อที่ยูเอย์อย่างมีเกียรติ”
บางทีเขาก็แอบสงสัยนะ ว่าการที่ต้องพูดอะไรยาวๆ เหมือนกะจะแร็ปให้ฟังนี่มันไม่เหนื่อยบ้างรึไง อิซึคุมองพวกเขาด้วยสายตาเอื้อมระอา
“เพราะงั้นเลยอยากจะบอกอะไรสักหน่อย...”
คัตสึกิวางฝ่ามือชื้นเหงื่อลงบนไหล่ของเขาพร้อมเหยียดยิ้มจนเหงื่อที่เป็นส่วนประกอบของอัตลักษณ์ทำให้เสื้อเริ่มส่งกลิ่นไหม้
“อย่าไปสอบเข้ายูเอย์ล่ะ พ่อเนิร์ดเอ๋ย!”
อิซึคุสะบัดตัวออกจากการควบคุมก่อนจะจัดการดับควันบนไหล่
“ให้ตายสิ อย่างน้อยก็น่าจะโต้ตอบกลับมาหน่อยสิ”
“ก็รู้ๆ กันอยู่ น่าสมเพชชะมัด โตขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมเผชิญหน้ากับความจริงอีก"
เพื่อนทั้งสองพูดเยาะเย้ยพร้อมหัวเราะเยาะอย่างสมเพช คัตสึกิหันกลับมามองเขาด้วยแววตาที่ยิ้มเยาะแล้วร้อง'เหอะ'
"นี่ มันยังมีวิธีที่ทำให้แกเป็นฮีโร่ได้อยู่นะ ลองไปโดดลงมาจากดาดฟ้าพร้อมกับอธิษฐานสิ หวังว่าแกได้มีอัตลักษณ์ที่ดีกว่านี้ในโลกหน้า!"
เขาหันขวับไปมองด้วยความโกรธา
“มีปัญหารึไง”
“...”
"...ชิ" คัตสึกิจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าอิซึคุไม่ตอบโต้ พวกอันธพาลพากันเดินออกจากห้องไปโดยทิ้งให้อิซึคุยืนมองพวกนั้นจากไปจนลับสายตา
ลองไปโดดลงมาจากดาดฟ้าพร้อมกับอธิษฐานสิ หวังว่าแกได้มีอัตลักษณ์ที่ดีกว่านี้ในโลกหน้า!
เหอะ พูดมาได้นะ ถ้าเกิดทำขึ้นมาจริงๆ นั่นเท่ากับว่านายยุให้ฉันฆ่าตัวตายเลยนะ เป็นว่าที่ฮีโร่ที่ปากปีจอจริงๆ อิซึคุพร่ำบ่นในใจ
เขาลงจากอาคารแล้วเดินเลียบข้างตึก พลางกวาดตามองไปรอบๆ ตรงบริเวณที่คาดว่าน่าจะมีสมุดที่ถูกโยนออกนอกหน้าต่าง
ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ถึงจะเจอสมุดเล่มนั้น เขาก้มมองสมุดที่ว่าลอยน้ำและกำลังถูกปลาแทะราวกับว่ามันคืออาหารอันโอชะ
ไม่ใช่อาหารปลาสักหน่อย...
เจ้าของนัยต์ตามรกตไร้ประกายก้มไปหยิบสมุดเล่มนั้นออกมาแล้วเดินทางกลับบ้าน
เด็กหนุ่มกระเป๋าตุ้งเดินทางกลับบ้านด้วยใจที่เหม่อลอย หางตาก็เหลือบไปเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งเดินจูงมือกันอย่างมีความสุขทำให้หวนนึกถึงอดีตครั้งวัยเยาว์
'แม่! แม่ฮะ! ออลไมท์!'
เด็กชายชี้ไปที่โทรทัศน์ในร้านขายโทรทัศน์ที่กำลังฉายภาพฮีโร่ในดวงใจอย่างตื่นเต้น
'ลูกอยากดูเหรอ?'
'อื้ม!' เด็กชายพยักหน้ารัวๆ
'งั้นเราคงต้องรีบกลับบ้านกันแล้ว ไม่งั้นไม่ทันออลไมท์นะ'
'อื้ม! กลับบ้านกานน!'
แม่กุมมือลูกน้อยที่ดี๊ด๊าอยากกลับไปดูฮีโร่คนโปรด
'แม่ฮะ! แม่ฮะ! เปิดคอมพิวเตอร์ให้หน่อย!'
เข้าบ้านได้ไม่ถึงนาทีเด็กน้อยพุ่งตัวไปที่ห้องทันทีพร้อมกับตะโกนเรียกให้แม่ตนตามมาเปิดคอมให้
'รอก่อนนะลูก แม่ขอเก็บของก่อนนะ'
'เร็วๆ สิฮะ!' เด็กชายชะโงกหน้ามาเร่งเร้ามารดา เมื่อเห็นมาเธอกำลังเดินมาเขาจึงรีบไปนั่งที่ประจำของตนอย่างตื่นเต้น
'โธ่...ลูกดูไปหลายครั้งจนยอดคนดูขึ้นหลักแสนแล้วมั้งเนี่ย แม่ล่ะกลัวจนไม่กล้าดูเลย'
ผู้เป็นมารดาพูดพลางเปิดคลิปวิดีโอที่ลูกของตนนั้นอยากดู เด็กน้อยอดใจรอไม่ไหวจนต้องโยกตัวรอ
'ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ ดูนะ' เธอพูดพร้อมจับเขานั่งดีๆ
มันคือคลิปเก่าเมื่อนามมาแล้ว
ในตอนนั้นได้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้น
และจากนั้นไม่นานก็ได้มีคลิปการเปิดตัวของฮีโร่คนหนึ่งถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต
'เห็นไหมครับ! เขาช่วยคนเอาไว้ถึง 100 คนเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น!!!'
ขณะที่ผู้ประกาศข่าวกำลังรายงานข่าวด้วยสีหน้าตกใจปนอึ้งอยู่นั้น ในตอนนั้นเองเขาคนนั้นก็ได้ปรากฏตัวพร้อมกับแบกร่างผู้ประสบภัยที่สลบมาด้วย
'อ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!'
'อ๊ะ! เขาหัวเราะด้วย!!!'
'ไม่ต้องห่วง!! ทำไมน่ะหรอ? เพราะฉันมาแล้วยังไงล่ะ!'
เขาคนนั้นเอ่ยประโยคประจำตัวพร้อมรอยยิ้มยิงฟัน เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้เด็กน้อยรู้สึกหลงใหลมากในตัวฮีโร่คนนั้นขึ้นไปอีก
'อื้ม!!! เท่สุดๆไปเลย! ถ้าหากเรามีอัตลักษณ์ล่ะก็ อยากจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน! ฮะ ฮะ ฮ่า!'
พูดจบเด็กน้อยก็หัวเราะตามโดยไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าอันเศร้าสร้อยของผู้เป็นแม่เลยแม้แต่น้อย
และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้รู้ความจริงว่าตนนั้นเป็นคนไร้อัตลักษณ์
...
..
.
มุมปากยกขึ้นด้วยความสมเพช พอนึกแล้วก็อดขำตัวเองตอนเด็กไม่ได้
ความใสซื่อไร้เดียงสาในวัยเยาว์ถูกบดขยี้จนเละด้วยความจริงอันโหดร้ายที่ถูกมอบให้
ความชื่นชอบในฮีโร่ในตอนนั้นแปนเปลี่ยนเป็นเฉยชาและสะอิดสะเอียนกับความจอมปลอมไปในที่สุด
ราวกับความชอบแปรผันตรงกับความเกลียด
ยิ่งชอบมากก็ยิ่งเกลียดมากเช่นกัน
เด็กหนุ่มผมฟูจมอยู่ในห้วงอดีตก้าวเดินไปตามทางเหมือนอย่างทุกที สองขาก้าวผ่านอุโมงที่ทอดยาวจนเหมือนถ้ำ
ทว่าในตอนที่กำลังก้าวขาเสียงกุกกักก็ดังขึ้นจากด้านหลังเรียกความสนใจทำให้อิซึคุอดไม่ได้ที่จะหันไปดูก้พบกับร่างโคลนที่ยืนค้ำหัวอยู่
“เสื้อคลุมล่องหน...ไซส์M!”
สิ้นสุดคำพูดเจ้าก้อนโคลนนั่นก็พุ่งเข้ามาหมายจับตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย แต่ก่อนหนวดโคลนจะมาถึงตัว มันก็กระแทกชนเข้ากับบางสิ่งที่มองไม่เห็นเข้าจนสะเทือนไปทั้งร่าง
“ーอะไรกัน!!?”
มันอุทานด้วยความตกใจแต่ก็ยังไม่วายที่จะโจมตีอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง
แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เป้าหมายไร้รอยขีดขวดใดๆ ซึ่งตัดภาพไปที่หนวดโคลนตอนนี้สภาพหนวดเหลวหยดลงพื้นชวนขยะแขยง มันสั่นด้วยความโกรธาที่ทำอะไรเด็กตรงหน้าไม่ได้
อิซึคุมองวิลเลินตรงหน้านิ่งก่อนจะลอบถอนหายใจด้วยความสมเพช
เป็นถึงวิลเลินแท้ๆ แต่กลับทำลายมันไม่ได้
เขายืนดูท่าทีของวิลเลินโคลนที่ทำท่าจะพุ่งมาโจมตีอยู่ครู่หนึ่ง แขนที่มีกล้ามเนื้อยกขึ้นชี้ไปที่วายร้ายตรงหน้า ริมฝีปากขยับขมุบขมิบราวกับพูดบางอย่าง
"แก!!?"
เมื่อมันเห็นว่าเหยื่อชี้หน้าก็เลือดขึ้นหน้า ร่างกายเสมือนเมือกพุ่งตรงมาหาเขาหมายจะเอาชีวิต แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ทำอะไรก็มีฝาท่อระบายน้ำลอยมาขั้นกลางระหว่างพวกเขา
"อะไรวะー!?"
มาแล้วสินะ
ดวงตามรกตจ้องมองผู้มาใหม่เรียบนิ่ง
“ไม่ต้องห่วงหนุ่มน้อย!”
บุคคลที่สามพุ่งตัวออกมาจากท่อน้ำพร้อมกับรอยยิ้มยิงฟันที่คุ้นตา
ชายที่ผู้คนทั่วโลกต่างชื่นชมและเคารพในฐานะสัญลักษณ์แห่งสันติภาพได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับคำพูดประจำตัวที่เขาฟังจนเอียน
“เพราะว่าฉันมาแล้วไงล่ะ!”
————————————
มาต่อแล้วค่ะ แฮร่!
ความคิดเห็น