ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BNHA]Memories at that time

    ลำดับตอนที่ #2 : 1st Memories

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 67


    1st Memories


    เสียงจั๊กจั่นร้องหาคู่ดังระงมบ่งบอกถึงฤดูร้อนอันร้อนระอุ ซึ่งในฤดูนี้เป็นช่วงที่เหล่าเด็กน้อยมักออกมาวิ่งเล่นกับกลุ่มเพื่อน ทว่าสำหรับมิโดริยะ อิซึคุกลับไม่ใช่อย่างงั้น

    ในตอนที่เขากำลังไปที่สนามเด็กเล่นเพื่อไปเล่นกับพวกคัตจัง ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างและด้วยความสงสัยใคร่รู้ เขาจึงเดินตามเสียงไปจนสุดขอบกำแพงก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดูก็พบกับภาพที่ไม่คาดคิด

    กำปั้นเล็กของหัวโจกง้างขึ้นสูงก่อนจะทุบลงบนร่างกายเด็กที่นอนสะบักสะบอมอย่างเต็มแรง เสียงกำปั้นซัดกับเนื้อดังจนกลบเสียงจั๊กจั่นแทบมิด เด็กชายผมสาหร่ายมองดูเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจากหลังกำแพงด้วยความหลาดกลัว

    กลัวว่าถ้าหากตนเข้าไปยุ่ง รายต่อไปของการทารุณจะเป็นเขาผู้อ่อนแอและไร้อัตลักษณ์


    ...


    ..


    .


    เด็กชายไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่เสียงนั่นยังคงดังและยิ่งดังขึ้นไปเรื่อยๆ

    '...ช-ช่วย...ด้วย.....'

    เสียงร้องของความช่วยเหลือที่ดูอ่อนแรงทำให้เขาไม่อาจทนอยู่เฉยได้อีก ร่างเล็กวิ่งเข้าไปบังเด็กผู้เคราะห์ร้ายจากกลุ่มเด็กอันตพาร

    'น-นายทำเกินไปแล้วนะ คัตจัง! เห็นมั้ย นายทำเขาร้องไห้แล้วนะ!'

    เด็กชายปราบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นครืด

    'ถ-ถ้าขืนคัตจังทำมากกว่านี้ล่ะก็ผมน่ะ...จะไม่ยอมจริงๆ ด้วย!'

    ตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวพร้อมตั้งท่าเตรียมต่อสู้แม้ร่างกายจะสั่นกลัวราวกับลูกนกตัวน้อยอยู่ก็ตาม

    'เหอะ! ทั้งที่แกไม่มีอัตลักษณ์แท้ๆ...'

    เด็กชายผมฟางผู้เป็นหัวโจกพูดพร้อมกับมุมปากยกขึ้นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเหี้ยม เด็กอีกสองคนที่เปรียบเสมือนลูกน้องก็เริ่มใช้อัตลักษณ์จนรูปลักษณ์ภายนอกต่างไปจากเดิม

    'ยังสะเออะทำตัวเป็นฮีโร่อีกเหรอ เดกุ!'

    '!!!?'

    สิ้นสุดคำพูดทั้งสามพุ่งตรงเข้ามาโจมตีเขาทันทีโดยไม่ให้เขาตั้งตัว แขนเล็กยกขึ้นเตรียมรับแรงกระแทก

    'อึก! ฮึกー'

    เด็กชายกัดฟันทนกำปั้นและอีกสาระพัดอย่างที่เกิดจากการใช้อัตลักษณ์

    ถึงแม้จะฝืนทนรับแรงกระแทกเหล่านั้นไว้ได้แต่ก็ต้านได้ไม่นาน สุดท้ายก็ล้มลงไปนอนกับพื้น ร่างเล็กคดตัวปกป้องส่วนสำคัญของร่างกายจากการทุบตี


    ...


    ..


    .


    ใช้เวลาอยู่นานกว่าเสียงทุบตีจะเงียบ

    'เหอะ! อ่อนแอสมชื่อเดกุจริงๆ ไปกัน!'

    ดวงตาทับทิมจ้องมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยามก่อนจะเดินจากไปทั้งอย่างงั้น ทิ้งเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยบาดแผลไว้อย่างไร้เยื่อใย

    เด็กที่ถูกช่วยขยับกายเข้ามาดูอาการหลังจากที่คนพวกนั้นเดินลับสายตาไป มือเล็กเขย่าร่างที่สะบักสะบอมนั่นเบาๆ เพื่อเรียกสติ

    'น-นายเป็นอะไรไหม นี่…'

    เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะเจ็บจนพูดไม่ออก

    ดวงตามรกตหม่นแสงเหม่อมองท้องฟ้าสีครามที่เริ่มมีเมฆหนาเข้าบดบัง

    ฝน...กำลังจะตก

    และนั่นคือสิ่งที่เขาคิดได้ก่อนที่สติจะดับวูบไป



    ติ้ด ติ้ด ติ้ー

    เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำหน้าที่ปลุกคนที่อยู่ในห้วงนิทราให้ตื่น

    เด็กหนุ่มผมสาหร่ายตื่นจากฝันในวัยเยาว์ที่แสนเจ็บปวดนั้นอย่างช้าๆ เขานึกขอบคุณนาฬิกาปลุกในใจก่อนลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วไปจัดการธุระส่วนตัวและแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน

    เมื่อออกจากห้องก็พบกับหญิงวัยกลางคนผู้มีศักดิ์เป็นมารดายืนรออยู่พร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวเช้าที่เรียกน้ำย่อย

    "อรุณสวัสดิ์ครับแม่!"

    เขาเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจึงเดินมานั่งทานข้าวที่โต๊ะ ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ทานเสร็จ

    อิซึคุเคาะรองเท้าสองสามทีก่อนเตรียมออกจากบ้าน และก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะกล่าวลาผู้ใหญ่ในบ้าน

    "ไปก่อนนะครับ!"

    "ไปดีมาดีจ๊ะ"

    เขารับคำขานด้วยรอยยิ้มกว้าง มือกระชับสายกระเป๋าเป้ไว้แน่นก่อนจะออกเดินทางไปโรงเรียน



    ณ สถานีรถไฟฟ้า

    “โฮกกกกก!!!”

    วิลเลินตัวใหญ่คำรามเสียงดังสนั่น ทำให้ประชาชนแถวนั้นตื่นตกใจซึ่งรวมไปถึงตัวอิซึคุด้วยเช่นกัน

    “เหวอ!? วิลเลิน!!?”

    สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนบ่นด่าในใจอย่างอารมณ์เสีย แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้เดินไปไหนแต่กลับยืนดูเหตุการณ์นี้เงียบๆ

    และไม่นานหลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มหันมาให้ความสนใจวิลเลินตนนั้น

    “โฮกกก!”

    เมื่อมันเห็นว่าเริ่มมีคนมามุงดูเยอะขึ้น มันก็ยิ่งหัวเสียทำลายข้าวของรอบข้างไปทั่วจนเศษซากคอนกรีตร่วงลงมาในจุดที่มีคนยืนมุงกันอยู่

    เดี๋ยวฮีโร่สักคนคงมาจัดการนั่นแหละ

    อิซึคุคิดในใจขณะมองเศษซากที่ร่วงลงมาอย่างรวดเร็วโดยไร้ความตื่นตระหนก

    เร็วเท่าความคิดฮีโร่ในชุดแหวกอกได้วิ่งออกมามารับเศษซากที่ร่วงลงมาด้วยกล้ามแขนอันใหญ่โตพร้อมกับโชว์พลังของตน

    “นั่นมันเดธอาร์มนี่นา!”

    “เพราะมีพละกำลังมหาศาลก็เลยยกของที่หนักมากได้อย่างสบายๆ สินะ สมแล้วที่เป็นฮีโร่สายบู๊!"

    การแสดงโชว์ยังคงดำเนินต่อโดยมีสายน้ำที่เกิดจากอัตลักษณ์มารวมกันเป็นเส้นแล้วคลึงเป็นเชือกกั้นไม่ให้คนแถวนั้นเข้าใกล้ที่เกิดเหตุ

    “เอ้าๆ ตรงนี้มันอันตรายนะครับ ถอยออกไปหน่อยๆ”

    “เจ้าหน้าที่กู้ภัยพิเศษแบ็คดราฟต์ก็มาด้วยงั้นเหรอ!?”

    “กรี๊ดดด พยายามเข้าคามุุย!”

    โอ๊ะ? ฮีโร่ที่กำลังเป็นที่นิยมก็มาด้วยแฮะ

    ดวงตามรกตเกิดประกายความสนใจขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากได้ยินชื่อ ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าสนใจกว่าการที่ต้องมาดูการเปิดตัวอันแสนธรรมดาของสองฮีโร่ที่มาช่วยกันญี่ปุ่นมุงให้ออกห่างจากสถานที่เกิดเหตุ

    แต่เหตุผลที่แท้จริงคงเป็นการเตรียมเวทีให้กับฮีโร่ตัวจริงที่จะมาจัดการวิลเลินยักษ์

    อิซึคุแทรกตัวเข้าไปในฝูงชนแล้วเดินลัดเราะนิดหน่อยก่อนจะโผล่ออกมาที่แถวหน้าสุดเพื่อดูเหตุการณ์ใกล้ๆ โดยไม่ลืมจดบันทึกความสามารถของฮีโร่แต่ละคนไว้

    เอาล่ะ ทีนี้จะจัดการยังไงกัน

    เลียริมฝีปากด้วยความตื่นเต้นขณะเดียวกันก็จับตาดูวายร้ายที่กำลังสติแตกยามต้องเผชิญหน้ากับฮีโร่

    “กรร! อย่าเข้ามานะโว้ยยยยย!!!”

    วิลเลินยักษ์แผดเสียงเกรี้ยวกราดแล้วเริ่มทำลายข้าวของอีกครั้งราวกับคนเสียสติ

    “ชินริน คามุย...เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์แถมยังเป็นที่นิยมอยู่ช่วงนี้สินะ...”

    อดีตผู้เคยคลั่งไคล้ฮีโร่พึมพำโดยที่ดวงตายังคงจับจ้องการเคลื่อนไหวของฮีโร่ไม้อย่างไม่ละสายตา

    “ถามเองตอบเองเสร็จสรรพเลยนะ เธอคงจะเป็น...โอตาคุสินะ!” ลุงที่ยืนอยู่ข้างๆ ทัก

    “อ่า แหะๆ...” เขาหัวเราะกลบเกลื่อนแทนการตอบคำถาม

    “แกมีความผิดฐานใช้พลังในชั่วโมงเร่งด่วนอีกทั้งยังลักทรัพย์และทำร้ายร่างกาย เป็นร่างอวตารแห่งความชั่วร้ายโดยแท้เลยนะ”

    ฮีโร่คามุยพูดก่อนจะเริ่มใช้อัตลักษณ์

    “โอ้ โชว์สุดอลังการของมนุษย์ไม้มาแล้ว!” ลุงคนเดิมพูดอย่างตื่นเต้น

    “นั่นมันท่าพันธนาการควบคุมนี่...” อิซึคุพึมพำ

    “จงถูกลงทัณฑ์ซะ! คุกโซ่ไม้โอ๊ค!

    ในขณะที่ฮีโร่ไม้ที่กำลังโชว์การใช้อัตลักษณ์ในการจับกุมวิลเลินอยู่นั้น จู่ๆ พื้นที่ยืนอยู่ก็เกิดสั่นไหวราวกับแผ่นดินไหวขนาดย่อม

    "พื้นสั่น? เกิดอะไรขึ้ー"

    "แคนยอน แคนนอน!!!"

    ไม่ทันพูดจบตัวต้นเหตุที่ว่าก็พุ่งมาพร้อมกระโดดถีบขาคู่ใส่วิลเลินจนกระเด็นไปนอนสลบบนพื้นถนน

    "...เอ๋?"

    ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อใครจากไหนไม่รู้โผล่มาตัดหน้าฮีโร่ไม้

    แชะ! แชะ! แชะ!

    เสียงชัตเตอร์ดังเรียกสติอิซึคุกลับมา เขาพินิจคนมาใหม่ก่อนจะเตรียมจดชื่อฮีโร่คนนั้นลงสมุด

    คนที่ตัวใหญ่ราวกับยักษ์ แต่นี่คือฮีโร่สาว

    “ฉันเพิ่งเริ่มงานวันนี้เรียกฉันว่าเมาท์เลดี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ!”

    เมาท์เลดี้แนะนำตัวพร้อมขยิบตาใส่กล้อง จากนั้นก็นำตัววิลเลินไปส่งให้กับตำรวจโดยไม่ลืมหันมาโบกมือให้กับกล้องที่จับจ้องมา

    อ่า รู้สึกสงสารคามุยจังแฮะ... อิซึคุไม่ได้กล่าว

    เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์คลี่คลายแล้วเขาจึงแยกตัวออกจากฝูงชนมาด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

    เสียดายที่ไม่ได้ข้อมูลฮีโร่ไม้เพิ่มเติมแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เขาเดินสำรวจร่องรอยการต่อสู้ที่นิวบี้ฮีโร่ทำไว้ก่อนจดลงสมุด

    “เกี่ยวกับการขยายร่างสินะ...ก็เป็นอัตลักษณ์ที่สุดยอดอยู่หรอก แต่ว่าดูจากความเสียหายแล้วคงปฏิบัติงานได้เฉพาะพื้นที่จำกัดสินะ ไม่สิ ถ้าหากขยายขนาดเฉพาะส่วนได้มันก็อีกเรื่อง...”

    มือจดข้อมูลพลางพึมพำวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการใช้อัตลักษณ์ต่างๆ นาๆ

    “โอ๊ะ จดโน๊ตอย่างงั้นเรอะ! คิดจะเป็นฮีโร่งั้นสินะ เยี่ยมมาก! พยายามเข้าล่ะ!”

    ลุงที่ยืนอยู่ด้วยกันเมื่อกี้กล่าวชมพร้อมยกนิ้วโป้งให้

    “อะ เอ่อ จะพยายามครับ!”

    เสียงเรียกดึงสติที่ตกอยู่ในภวังค์ให้กลับมา เขาหันไปตอบคุณลุงคนนั้นพร้อมยิ้มฝืดแล้วรีบเขียนต่อให้เสร็จ

    ฮีโร่งั้นหรอ...

    สะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะออกเดินทางอีกครั้งโดยมีโรงเรียนเป็นจุดหมายปลายทาง



    "แฮ่ก...แฮ่ก..."

    อิซึคุที่รีบวิ่งมาเพื่อให้ทันเวลาโฮมรูมกำลังยืนหอบหายใจอยู่หน้าห้อง พยายามสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดพลางยกแขนขึ้นปาดเหงื่อไปด้วย ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็เริ่มกลับมาหายใจปกติ

    เขาตรวจเช็คสภาพตัวเองพร้อมสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบจิตใจ เมื่อพร้อมแล้วจึงเปิดประตูห้องเรียนแล้วตรงดิ่งไปโต๊ะของตน

    ทั้งห้องหันมองคนมาใหม่อยู่ครู่นึงก่อนจะหันกลับไปพูดคุยกันดังเดิม

    ไม่นานหลังจากนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับชายพุงยืดที่เดินเข้ามา

    “สวัสดีเหล่านักเรียนที่น่ารักของฉัน" อาจารย์ประจำชั้นกล่าวทักทาย

    "เอาล่ะ ตอนนี้พวกเธอก็อยู่ม.3กันแล้ว มันถึงเวลาคิดเรื่องอนาคตอย่างจริงจังได้แล้วละนะ”

    พูดพร้อมวางเอกสารที่นำมาด้วยบนโต๊ะ

    “เดี๋ยวอาจารย์จะแจกแบบสอบถามเส้นทางเรียนต่อให้ แต่ว่าพวกเธอน่ะ...ยังไงก็ไปเรียนต่อแผนกฮีโร่กันอยู่แล้วนี่นะ~”

    พูดจบก็โปรยเอกสารที่ว่านั่นทิ้งทันที

    “เย่!!!” นักเรียนทั้งห้องต่างส่งเสียงเฮด้วยความดีใจก่อนจะโชว์อัตลักษณ์กันทั้งห้อง

    “อืมๆ ทุกคนมีอัตลัษณ์ที่เยี่ยมยอดมาก แต่ว่าอย่าเอามาใช้ในโรงเรียนกันล่ะ”

    กล่าวตักเตือนนักเรียนนิดหน่อยพอเป็นพิธี

    “อาจารย์ อย่าเอาฉันไปเหมารวมกับคนอื่นแบบนี้สิ” เด็กหนุ่มผมฟางพูดขึ้น

    อ่า เอาอีกแล้วแฮะ...

    อิซึคุเหลือบมองคนผมหนามนิ่ง

    “ฉันไม่คิดจะเป็นเพื่อนกับพวกที่มีอัตลักษณ์กระจอกๆ แบบนี้หรอกนะ”

    คนที่พูดจาไม่น่าฟังคนนั้นคือบาคุโกว คัตสึกิหรือคัตจัง อดีตเพื่อนสมัยเด็กของเขาเองแหละ

    “คัตสึกิ!!!” “พูดอะไรแมวๆ ฟ่ะ!”

    “พวกแกนี่น่าหนวกหูชะมัด สมกับพวกตัวประกอบ!!”

    “ว่าไงนะ!”

    ทั้งห้องต่างโวยวายด้วยความไม่พอใจเมื่อถูกคัตจังพูดยั่วยุ

    “อ่า จริงสิ บาคุโกวจะเข้าเรียนที่โรงเรียนยูเอย์สินะ” อาจารย์พูดแทรกพลางอ่านเอกสารในมือ

    แย่แล้วสิ...ฮ่า แย่ยังน้อยไปต้องพูดว่าชิ*หายแล้วถึงจะถูก

    อิซึคุค่อยๆ ก้มหน้าลงนอนบนโต๊ะแสร้งทำเป็นหลับ

    “ยูเอย์? โรงเรียนรัฐนั่นน่ะนะ?”

    “เฮ้ยย! นั้นมันโรงเรียนระดับประเทศเลยนะ! ที่นั่นสอบเข้ายากมากเลยนี่!”

    “โฮ สุดยอดไปเลยบาคุโกว!”

    ทุกคนอึ้งไปพักนึงก่อนจะเริ่มมีท่าทีแตกตื่นพร้อมแสดงความสนอกสนใจในสิ่งที่ได้ยิน

    “เพราะพวกแกมัวแต่ทำตัวแบบนี้ ฉันถึงเรียกพวกแกว่าตัวประกอบ”

    พูดจบคัตจังก็กระโดดขึ้นไปยืนบนโต๊ะ

    "ผลพรีเทสต์ฉันได้A ในโรงเรียนนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ายูเอย์ ฉันจะก้าวข้ามออลไมท์แล้ว..."

    ประกาศความยิ่งใหญ่อีกแล้ว...

    แต่มันไม่น่าแปลกใจหรอกว่าทำไมหมอนั่นถึงเป็นแบบนี้ นั่นก็เพราะอัตลักษณ์ของคัตสึกิแข็งแกร่งและรวมไปถึงตัวหมอนั่นเองก็เก่งมากเช่นกัน

    "อ่า จะว่าไปแล้วมิโดริยะเองก็จะเข้ายูเอย์ด้วยเหมือนกันนี่นา"

    "!!?" อิซึคุสะดุ้งโยงทันทีที่ถูกพูดถึง

    ทั้งห้องหันขวับมองเขาทันทีที่อาจารย์พูดจบ

    อาจารย์จะพูดทำไมครับเนี่ยยย!

    อิซึคุที่ฟุบหลับแอบด่าครูที่น่าเคารพรักอยู่ในใจ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงกระแสสายตาที่มองมาจากรอบข้างจนอดไม่ได้ที่จะถอดถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย

    เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมารับกรรมแต่เมื่อได้สบเข้ากับสายตาที่มองมามีทั้งฉงนสงสัย แปลกใจ ชื่นชม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่อิซึคุเพิ่งเคยได้รับเป็นครั้งแรกในชีวิตมัธยมต้น

    “โอ้ว อย่างสุด!”

    “เอาจริงดิ? จะไปรอดเหรอ?”

    “ใจกล้ามาก! ฉันเอาใจช่วยนะพวก!”

    เสียงพูดให้กำลังใจและฉงนสงสัยดังขึ้นเรียกสติที่มึนงงกลับมา ทว่าไม่นานคนขี้หงุดหงิดที่มองเขาด้วยความตะลึงก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

    "ไอ้เดกุ!"

    บึ้มมม!!

    "เหวอ!"

    พร้อมกับระเบิดโต๊ะด้วยอัตลักษณ์จนเละ จนเจ้าของโต๊ะอย่างอิซึคุตกใจจนหงายหลังตกเก้าอี้

    “อัตลักษณ์กระจอกอย่างแกยังกล้าเสนอหน้าจะไปที่นั่นอีกเรอะ! แล้วทำไมแกถึงได้เข้ามาในสนามเดียวกับฉัน ห๊ะ!” คัตสึกิพูดด้วยความเดือดดาล

    "ไม่ใช่อย่างนั้น...ผมไม่ได้อยากจะแข่งกับนายสักหน่อย!"

    อิซึคุปฎิเสธทุกคำที่กล่าวพลางขยับตัวถอยห่างจากอีกฝ่ายจนหลังชิดกำแพง

    “หา ไม่ได้อยากแข่งกับฉัน แล้วแกจะไปลงสอบที่นั่นทำไม!”

    “มันก็แค่เป้าหมายของผมตั้งแต่เด็ก แล้วที่สำคัญมันไม่ได้มีกฎห้ามไว้สักหน่อย ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้นี่”

    ไม่ลองไม่รู้อะไรของแก! จะไปสอบเป็นที่ระลึกรึไง!!"

    “...”

    “แล้วแกทำอะไรได้บ้างมิทราบ? ไอ้อัตลักษณ์กระจอก!”

    อิซึคุได้แต่ก้มหน้ารับคำด่าทอของคนที่เคยเป็นเพื่อนสนิทอย่างจนใจ ทั้งห้องมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วยความสงสารปนหน่ายใจแต่ก็ไม่ได้ยื่นมือช่วยหยุดหมาบ้าตัวนี้

    "เอาล่ะๆ กลับไปนั่งที่ได้แล้วคัตสึกิ" อาจารย์เอ่ยปรามอย่างขอไปที

    "ชิ!" คัตสึกิจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสีย นัยน์ตาทับทิมวาวโรจน์จ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดตัวเดินตึงตังกลับไปนั่งที่ตัวเอง

    "ใกล้เวลาเรียนวิชาแรกของวันนี้แล้ว วันนี้ก็ตั้งใจเรียนกันด้วยล่ะ"



    ทั้งวันอิซึคุถูกรบกวนด้วยสายตาจากเจ้าผมหนามจนแทบไม่มีสมาธิเรียนหนังสือ แม้ตอนนี้จะเลิกเรียนแล้วแต่หมอนั่นก็ยังไม่เลิกจ้องจนเขาอดสงสัยไม่ได้ว่ามีอะไรติดหน้าอยู่รึเปล่า

    “ไปคาราโอเกะกัน!”

    “นี่ๆ ไปร้านขนมที่พึ่งเปิดใหม่กันไหม”

    “อืม! ก็ดีเหมือนกัน”

    “กลับบ้านกันเพื่อน!”

    เสียงจอแจหลังเลิกเรียนบ่งบอกว่าถึงช่วงเวลาอิสระ

    อิซึคุมองดูบรรยายกาศในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยที่ฟังดูสนุกสนานอย่างเหม่อลอย ก่อนจะหันกลับมาสนใจเก็บของของตนลงกระเป๋า

    ทว่าก็มีมือปริศนามาแย่งสมุดของเขาไปจากมือ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองตัวต้นเรื่องก่อนที่ดวงตามรกตจะสบเข้ากับดวงตาสีทับทิมที่มองลงมาด้วยความไม่พอใจ

    “เฮ้ย เรายังคุยกันไม่จบเลยนะ เดกุ”

    “โฮ้ย คัตสึกิ นั่นอะไรน่ะ?”

    เหล่าลูกสมุนของคัตสึกิตะโกนถามก่อนที่คนตรงหน้าจะหันปกสมุดให้พวกนั้นดู

    "วิเคราะห์ฮีโร่สำหรับอนาคต? เอาจริงดิ! พรืดด! ฮ่าๆ!"

    "มิโดริยะ นายนี่จริงๆ เลยนะ ฮ่าๆ"

    ลูกสมุนทั้งสองต่างหัวเราะเยาะเมื่อเห็นว่าอิซึคุพกสมุดอะไรแบบนี้

    “...มันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกนาย เอาคืนมา”

    เขาแบมือขอสมุดคืน อีกฝ่ายทำท่าเหมือนจะคืนให้

    บึ้มมม!!!

    ก่อนระเบิดสมุดทิ้งแล้วโยนออกไปนอกหน้าต่าง

    “หึ!”

    ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งราวกับรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้

    “ฮีโร่ส่วนใหญ่เขาทำเรื่องเจ๋งๆ กันตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนกันทั้งนั้น เพราะงั้นฉันจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่สอบเข้ายูเอย์จากโรงเรียนประจำเมืองต๊อกต๋อยนี่ เพราะฉันคือคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด และจะคนที่ถูกพูดถึงว่าได้เรียนต่อที่ยูเอย์อย่างมีเกียรติ

    บางทีเขาก็แอบสงสัยนะ ว่าการที่ต้องพูดอะไรยาวๆ เหมือนกะจะแร็ปให้ฟังนี่มันไม่เหนื่อยบ้างรึไง อิซึคุมองพวกเขาด้วยสายตาเอื้อมระอา

    “เพราะงั้นเลยอยากจะบอกอะไรสักหน่อย...”

    คัตสึกิวางฝ่ามือชื้นเหงื่อลงบนไหล่ของเขาพร้อมเหยียดยิ้มจนเหงื่อที่เป็นส่วนประกอบของอัตลักษณ์ทำให้เสื้อเริ่มส่งกลิ่นไหม้

    “อย่าไปสอบเข้ายูเอย์ล่ะ พ่อเนิร์ดเอ๋ย!”

    อิซึคุสะบัดตัวออกจากการควบคุมก่อนจะจัดการดับควันบนไหล่

    “ให้ตายสิ อย่างน้อยก็น่าจะโต้ตอบกลับมาหน่อยสิ”

    “ก็รู้ๆ กันอยู่ น่าสมเพชชะมัด โตขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมเผชิญหน้ากับความจริงอีก"

    เพื่อนทั้งสองพูดเยาะเย้ยพร้อมหัวเราะเยาะอย่างสมเพช คัตสึกิหันกลับมามองเขาด้วยแววตาที่ยิ้มเยาะแล้วร้อง'เหอะ'

    "นี่ มันยังมีวิธีที่ทำให้แกเป็นฮีโร่ได้อยู่นะ ลองไปโดดลงมาจากดาดฟ้าพร้อมกับอธิษฐานสิ หวังว่าแกได้มีอัตลักษณ์ที่ดีกว่านี้ในโลกหน้า!"

    เขาหันขวับไปมองด้วยความโกรธา

    “มีปัญหารึไง”

    “...”

    "...ชิ" คัตสึกิจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าอิซึคุไม่ตอบโต้ พวกอันธพาลพากันเดินออกจากห้องไปโดยทิ้งให้อิซึคุยืนมองพวกนั้นจากไปจนลับสายตา



    ลองไปโดดลงมาจากดาดฟ้าพร้อมกับอธิษฐานสิ หวังว่าแกได้มีอัตลักษณ์ที่ดีกว่านี้ในโลกหน้า!

    เหอะ พูดมาได้นะ ถ้าเกิดทำขึ้นมาจริงๆ นั่นเท่ากับว่านายยุให้ฉันฆ่าตัวตายเลยนะ เป็นว่าที่ฮีโร่ที่ปากปีจอจริงๆ อิซึคุพร่ำบ่นในใจ

    เขาลงจากอาคารแล้วเดินเลียบข้างตึก พลางกวาดตามองไปรอบๆ ตรงบริเวณที่คาดว่าน่าจะมีสมุดที่ถูกโยนออกนอกหน้าต่าง

    ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ถึงจะเจอสมุดเล่มนั้น เขาก้มมองสมุดที่ว่าลอยน้ำและกำลังถูกปลาแทะราวกับว่ามันคืออาหารอันโอชะ

    ไม่ใช่อาหารปลาสักหน่อย...

    เจ้าของนัยต์ตามรกตไร้ประกายก้มไปหยิบสมุดเล่มนั้นออกมาแล้วเดินทางกลับบ้าน



    เด็กหนุ่มกระเป๋าตุ้งเดินทางกลับบ้านด้วยใจที่เหม่อลอย หางตาก็เหลือบไปเห็นแม่ลูกคู่หนึ่งเดินจูงมือกันอย่างมีความสุขทำให้หวนนึกถึงอดีตครั้งวัยเยาว์


    'แม่! แม่ฮะ! ออลไมท์!'

    เด็กชายชี้ไปที่โทรทัศน์ในร้านขายโทรทัศน์ที่กำลังฉายภาพฮีโร่ในดวงใจอย่างตื่นเต้น

    'ลูกอยากดูเหรอ?'

    'อื้ม!' เด็กชายพยักหน้ารัวๆ

    'งั้นเราคงต้องรีบกลับบ้านกันแล้ว ไม่งั้นไม่ทันออลไมท์นะ'

    'อื้ม! กลับบ้านกานน!'

    แม่กุมมือลูกน้อยที่ดี๊ด๊าอยากกลับไปดูฮีโร่คนโปรด


    'แม่ฮะ! แม่ฮะ! เปิดคอมพิวเตอร์ให้หน่อย!'

    เข้าบ้านได้ไม่ถึงนาทีเด็กน้อยพุ่งตัวไปที่ห้องทันทีพร้อมกับตะโกนเรียกให้แม่ตนตามมาเปิดคอมให้

    'รอก่อนนะลูก แม่ขอเก็บของก่อนนะ'

    'เร็วๆ สิฮะ!' เด็กชายชะโงกหน้ามาเร่งเร้ามารดา เมื่อเห็นมาเธอกำลังเดินมาเขาจึงรีบไปนั่งที่ประจำของตนอย่างตื่นเต้น

    'โธ่...ลูกดูไปหลายครั้งจนยอดคนดูขึ้นหลักแสนแล้วมั้งเนี่ย แม่ล่ะกลัวจนไม่กล้าดูเลย'

    ผู้เป็นมารดาพูดพลางเปิดคลิปวิดีโอที่ลูกของตนนั้นอยากดู เด็กน้อยอดใจรอไม่ไหวจนต้องโยกตัวรอ

    'ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ ดูนะ' เธอพูดพร้อมจับเขานั่งดีๆ

    มันคือคลิปเก่าเมื่อนามมาแล้ว

    ในตอนนั้นได้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้น

    และจากนั้นไม่นานก็ได้มีคลิปการเปิดตัวของฮีโร่คนหนึ่งถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต

    'เห็นไหมครับ! เขาช่วยคนเอาไว้ถึง 100 คนเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น!!!'

    ขณะที่ผู้ประกาศข่าวกำลังรายงานข่าวด้วยสีหน้าตกใจปนอึ้งอยู่นั้น ในตอนนั้นเองเขาคนนั้นก็ได้ปรากฏตัวพร้อมกับแบกร่างผู้ประสบภัยที่สลบมาด้วย

    'อ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!'

    'อ๊ะ! เขาหัวเราะด้วย!!!'

    'ไม่ต้องห่วง!! ทำไมน่ะหรอ? เพราะฉันมาแล้วยังไงล่ะ!'

    เขาคนนั้นเอ่ยประโยคประจำตัวพร้อมรอยยิ้มยิงฟัน เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้เด็กน้อยรู้สึกหลงใหลมากในตัวฮีโร่คนนั้นขึ้นไปอีก

    'อื้ม!!! เท่สุดๆไปเลย! ถ้าหากเรามีอัตลักษณ์ล่ะก็ อยากจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน! ฮะ ฮะ ฮ่า!'

    พูดจบเด็กน้อยก็หัวเราะตามโดยไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าอันเศร้าสร้อยของผู้เป็นแม่เลยแม้แต่น้อย

    และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้รู้ความจริงว่าตนนั้นเป็นคนไร้อัตลักษณ์


    ...


    ..


    .



    มุมปากยกขึ้นด้วยความสมเพช พอนึกแล้วก็อดขำตัวเองตอนเด็กไม่ได้

    ความใสซื่อไร้เดียงสาในวัยเยาว์ถูกบดขยี้จนเละด้วยความจริงอันโหดร้ายที่ถูกมอบให้

    ความชื่นชอบในฮีโร่ในตอนนั้นแปนเปลี่ยนเป็นเฉยชาและสะอิดสะเอียนกับความจอมปลอมไปในที่สุด

    ราวกับความชอบแปรผันตรงกับความเกลียด

    ยิ่งชอบมากก็ยิ่งเกลียดมากเช่นกัน

    เด็กหนุ่มผมฟูจมอยู่ในห้วงอดีตก้าวเดินไปตามทางเหมือนอย่างทุกที สองขาก้าวผ่านอุโมงที่ทอดยาวจนเหมือนถ้ำ

    ทว่าในตอนที่กำลังก้าวขาเสียงกุกกักก็ดังขึ้นจากด้านหลังเรียกความสนใจทำให้อิซึคุอดไม่ได้ที่จะหันไปดูก้พบกับร่างโคลนที่ยืนค้ำหัวอยู่

    “เสื้อคลุมล่องหน...ไซส์M!”

    สิ้นสุดคำพูดเจ้าก้อนโคลนนั่นก็พุ่งเข้ามาหมายจับตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย แต่ก่อนหนวดโคลนจะมาถึงตัว มันก็กระแทกชนเข้ากับบางสิ่งที่มองไม่เห็นเข้าจนสะเทือนไปทั้งร่าง

    “ーอะไรกัน!!?”

    มันอุทานด้วยความตกใจแต่ก็ยังไม่วายที่จะโจมตีอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง

    แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เป้าหมายไร้รอยขีดขวดใดๆ ซึ่งตัดภาพไปที่หนวดโคลนตอนนี้สภาพหนวดเหลวหยดลงพื้นชวนขยะแขยง มันสั่นด้วยความโกรธาที่ทำอะไรเด็กตรงหน้าไม่ได้

    อิซึคุมองวิลเลินตรงหน้านิ่งก่อนจะลอบถอนหายใจด้วยความสมเพช

    เป็นถึงวิลเลินแท้ๆ แต่กลับทำลายมันไม่ได้

    เขายืนดูท่าทีของวิลเลินโคลนที่ทำท่าจะพุ่งมาโจมตีอยู่ครู่หนึ่ง แขนที่มีกล้ามเนื้อยกขึ้นชี้ไปที่วายร้ายตรงหน้า ริมฝีปากขยับขมุบขมิบราวกับพูดบางอย่าง

    "แก!!?"

    เมื่อมันเห็นว่าเหยื่อชี้หน้าก็เลือดขึ้นหน้า ร่างกายเสมือนเมือกพุ่งตรงมาหาเขาหมายจะเอาชีวิต แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ทำอะไรก็มีฝาท่อระบายน้ำลอยมาขั้นกลางระหว่างพวกเขา

    "อะไรวะー!?"

    มาแล้วสินะ

    ดวงตามรกตจ้องมองผู้มาใหม่เรียบนิ่ง

    “ไม่ต้องห่วงหนุ่มน้อย!”

    บุคคลที่สามพุ่งตัวออกมาจากท่อน้ำพร้อมกับรอยยิ้มยิงฟันที่คุ้นตา

    ชายที่ผู้คนทั่วโลกต่างชื่นชมและเคารพในฐานะสัญลักษณ์แห่งสันติภาพได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับคำพูดประจำตัวที่เขาฟังจนเอียน


    “เพราะว่าฉันมาแล้วไงล่ะ!”



    ————————————

    มาต่อแล้วค่ะ แฮร่!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×