ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #33 : ตอน ตกลงเราเป็นอะไรกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.74K
      18
      20 ก.พ. 54

     ตอน ตกลงเราเป็นอะไรกัน












    "ไอ้ทาน อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เวรเอ้ย"

    อ้อนตะโกนใส่หน้าคนที่ลากขึ้นมาบนห้อง และร่างนั้นก็ชะงักนิ่งไม่ได้แสดงท่าทางหยอกล้อให้ใจเต้นเหมือนคราวแรก


    ใบหน้าที่เจือไปด้วยรอยยิ้ม หมองลงอย่างเห็นได้ชัด คนตัวโตไม่ได้ใช้กำลังบังคับดึงดันอีก แต่ยอมปล่อยตัวอ้อนง่าย ๆ แล้วเดินไปทิ้งกายลงนั่งบนเตียง

    นัยน์ตาที่ฉายแววสดใสแปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง และท่าทีที่แปลกออกไป ทำให้อ้อนที่หายใจหายคอได้แค่เพียงเสี้ยวนาที ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดตามอีกฝ่าย เมื่อได้เห็นท่าทางของทานตะวันที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างรวดเร็ว

    อะไรอีกวะเมื่อกี้ยังหัวเราะร่าอยู่เลย แล้วก็ทำท่าสนุกเหลือเกินที่ได้แกล้ง แล้วนี่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนท่าทีไปอีกแล้ว

    "มองอะไร ไม่เคยเห็นคนเหรอ"

    เคย แต่ไม่เคยเห็นคนอารมณ์แปรปรวนง่ายยิ่งกว่าสภาพดินฟ้าอากาศ คนกลัวแทบตายว่าจะทำอะไรเพี้ยน ๆ บ้า ๆ แต่แล้วมันก็ยอมปล่อยง่าย ๆ แล้วดูมันทำ ไปนั่งหน้าเฉย อีกแล้ว จะเอายังไงกันแน่ ตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ

    "เมื่อกี้โทรมาหา ทำไมไม่รับ โทรมาเป็นสิบ ๆ สายแล้ว บอกว่าจะไปซื้อขนม เดี๋ยวมาแล้วลงไปเปิดประตูบ้านให้หน่อย แล้วทำไมถึงไม่ยอมรับสาย"

    เฮ้ย โทรมาจริงอ่ะ ตอนไหนวะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ก็ใครจะไปทราบว่าท่านทานเกิดนึกถึงกระผมขึ้นมาอย่างกะทันหันรีบร้อนโทรตามจิกหัวไม่ให้เว้นว่างกันบ้างเลย

    "อย่ามาทำเป็นมองนะ ถามไม่ได้ยินหรือไง ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไม่อยากรับ หรือว่าทำอะไรอยู่ ตอบมาเดี๋ยวนี้นะอย่าให้โมโห"

    เฮ้ย ไอ้บ้าเมื่อกี้มันไม่ใช่แบบนี้นะ มันออกจะอารมณ์ดี แล้วนี่แค่ไม่ให้จูบเนี่ย มันบ้าได้เลยเหรอ ไม่จริงใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย

    "อาบน้ำอยู่" ตอบไปแล้ว และอ้อนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่พูดออกมาได้ แล้วนี่จะไปเครียดตามไอ้ทานมันทำไมวะ

    "เออ งั้นเอาโทรศัพท์ไป เดี๋ยวจะโทรไปหาอีก เดินไปหน้าห้องเลย ล็อคประตูด้วย จะโทรไปหาเดี๋ยวนี้แหละ"

    เอ่อ .............
    มึง...............
    เป็นบ้า...........
    ใช่มั้ย..............

    จะบ้าเหรอ อยู่ดี ๆ จะโทรหาทำไม ก็เนี่ย อยู่นี่แล้ว มีอะไรก็พูดมาสิวะ จะโทรให้เปลืองค่าโทรศัพท์ทำไม ประสาทแล้วมึงไอ้ทาน ใครจะบ้าเล่นกับมึงวะ ไอ้บ้า

    "เร็วสิ ไม่ได้ยินเหรอ เอาโทรศัพท์ไป เดี๋ยวจะโทรไปหาเดี๋ยวนี้แหละ ไปหน้าห้องเลย ล็อคประตูด้วย"

    คำสั่ง ยังคงเป็นคำสั่ง อ้อนทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองและเดินไปยืนอยู่หน้าห้อง เสียงล็อคประตูทำให้รู้ว่าห้องตัวเองถูกทานตะวันยึดไปแล้ว


    พร้อมกับที่ โทรศัพท์ในมือดังขึ้น ไม่ใช่ใครโทรมา ก็ไอ้บ้าในห้องนั่นแหละ เล่นอะไรของมันวะ เพี้ยนไม่หยุด สงสัยสนุกมั้ง ที่ได้แกล้งให้ได้ ไม่รู้ว่าอีกนาทีถัดมามันจะเป็นอะไรอีก ตามไม่ทันจริง ๆ เลยโว้ย

    "ฮาโหล ทำไมต้องให้มารับโทรศัพท์หน้าห้องด้วยเล่นอะไรวะ"

    เสียงของอ้อนที่เอ่ยถาม ทำให้ทานตะวันนิ่งเงียบ และถอนหายใจยาว เดินไปนั่งข้างเตียง และยังคงนิ่งเงียบฟังเสียงของอ้อนต่อไป

    "พูดไป อยากพูดอะไรก็พูดไปเรื่อย ๆ เลยห้ามหยุดพูด กูจะฟัง"

    ไอ้บ้า บอกมาได้ให้กูพูด แล้วจะฟัง ประสาทกลับหรือยังไงวะ แล้วจะพูดอะไรล่ะ ไม่มีอะไรจะพูดหรอกนะโว้ย

    "อะไร จะพูดอะไร ไม่รู้จะพูดอะไรหรอกนะ"

    อ้อนตอบออกไป แล้วก็มองหาที่นั่ง ยืนก็เมื่อย นั่งมันหน้าประตูนี่แหละวะ ไม่รู้ว่ามันจะสั่งอะไรกูอีก

    "เกลียดกูมากมั้ยอ้อน ถ้ากูยกหนี้ให้มึงไปเลย ยังจะอยู่ข้าง ๆ กูมั้ย"

    อะไรของมันวะ เกลียดมั้ย ก็.........แล้วจะให้ตอบยังไง บอกว่าเกลียดหรือไม่เกลียดงั้นเหรอ พูดได้เหรอ เรื่องแบบนั้น

    เกลียดมั้ยเหรอ

    เกลียดมั้ย

    ถ้าเมื่อก่อนจะตอบได้โดยไม่ต้องคิด
    แต่ตอนนี้ จะให้บอกว่าเกลียดเหรอ แล้วเกลียดหรือเปล่าวะ เกลียดมั้ย งั้นเหรอ
    บางทีก็ตอบไม่ได้ว่าเกลียดหรือเปล่า บางทีก็เกลียดมาก ที่มันทำอะไรแบบแปลก ๆ แต่ว่า.........

     

    "ถามทำไม" อ้อนเอ่ยถามออกไป แล้วตัวเองก็ยังขมวดคิ้วมุ่น ใจยังจดจ่ออยู่กับคำว่าเกลียด หรือไม่เกลียด

    ตอบตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกที่ได้รับ มันเป็นยังไงกันแน่

    "อยาก........เป็นอิสระเร็ว ๆ หรือเปล่า เบื่อมั้ยที่ต้องคอยตามใจคนแบบนี้"

    อะไรของมัน อยู่ดี ๆ ถามอะไรแบบนั้น
    ใช่......ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะยอมรับว่าอยากเป็นอิสระเร็ว ๆ ไม่อยากให้ใครมาแกล้งแบบนี้ แต่แล้วทำไมตอนนี้ ถึงได้ตอบคำถามของไอ้ทานไม่ได้ล่ะ


    อ้อนนิ่งเงียบ ไม่ได้ตอบคำถามของทานตะวัน ขมวดคิ้วมุ่น กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ไม่รู้ว่าทำไมรู้สึกแปลก ๆ กับคำถาม

    "เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันใช่มั้ยวะ เราเป็นลูกหนี้กับเจ้าหนี้แค่นั้นจริง ๆ เหรออ้อน แล้วทำไม ตอนที่มึงเดินเข้าบ้าน กูถึงต้องรู้สึกว่าเหงามาก ๆ ด้วย


    แล้วก็ไม่อยากกลับบ้านไปอยู่คนเดียว พอรู้ว่าต้องกลับไปอยู่คนเดียวอีก ทำไมมันถึงได้รู้สึกจะทนไม่ไหวขึ้นมาก็ไม่รู้ แล้วกูก็เลยต้องมา......หา.....ไม่มีเหตุผลมาอ้างเลย

    นอกจากคำว่าการเอาแต่ใจตัวเอง........อยากทำอะไรก็ทำ.....ทำไมแค่ได้มองหน้ามึง กูก็ไม่อยากไปไหน แค่ได้จับมือมึงบ้าง กูก็อยากอยู่ใกล้ ๆ มึงไปนาน ๆ แต่ถ้ามากกว่านั้น

    ทำไม่ได้ใช่มั้ยวะ ....... แปลกใช่มั้ย ที่กูอยากทำอะไรมึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ...... แบบนี้มึงก็เลยเกลียดถ้ากูจะจูบ หรือถ้าเกิดทำอะไรเลยเถิดมากกว่านี้ มึงก็คงรับไม่ได้....ใช่มั้ย"

    ทานตะวันพูดความคิดของตัวเองไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และเอนศีรษะลงซบบนฟูกนอน รอฟังความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่อ้อนก็ไม่ได้ตอบกลับมา

    "ฟังอยู่หรือเปล่า"

    เสียงที่เอ่ยถาม ทำให้คนที่นั่งอยู่หน้าประตูห้อง ถึงกับสะดุ้งสุดตัว และยกปลายนิ้วขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง ในใจหวนคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่กลางสระน้ำ


    ทั้ง ๆ ที่คิดว่าลืมไปแล้วแท้ ๆ แต่ตอนนี้ พอได้ฟังสิ่งที่คนที่อยู่ในห้องพูด ใบหน้ากลับร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ภายในใจเต้นระทึกไม่เป็นส่ำ

    อะไรที่ไอ้ทานมันพูดถึง

    ทำไมต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมาด้วย

    จะให้เข้าหน้ากันไม่ติดงั้นเหรอ หรือว่าอยากจะแกล้ง หรืออยากให้อาย หรือมันต้องการอะไร ....แล้วอะไรที่มันต้องการกันแน่ ไอ้ทานมันจะถามแบบนี้ทำไมกัน

    "ทำไมเงียบล่ะ ฟังอยู่มั้ย"

    เสียงที่เอ่ยถามย้ำ ทำให้อ้อน ต้องรีบตอบรับ

    "อะ อือ ฟังอยู่....แล้วยังไงต่อล่ะ"

    ยังไงต่อ ไอ้อ้อนมันฟังอยู่จริง ๆ หรือเปล่า ทำไมไม่มีท่าทีอะไรเลย มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรือไง ทั้ง ๆ ที่ถามความรู้สึกมันออกไปมากขนาดนี้แล้ว มันยังทำเป็นเฉยอีก

    จะเอายังไงกันแน่วะ คนอุตส่าห์ถาม ชักโมโหแล้วนะโว้ย

    "อะไรที่ว่าอือล่ะ มึงไม่ได้ฟังเลยไม่ใช่เหรอไอ้อ้อน ที่กูพูด ๆ ไปน่ะ เออ ไม่ฟังก็ไม่ฟัง กูแค่อยากรู้ ว่ามึงไม่ชอบใช่มั้ยที่โดนกูจูบน่ะ หรือว่ามึงไม่เคยรู้สึกอะไรเลย

    แต่กูไม่ลืมนะ ว่าเราทำอะไรกันบ้าง อย่ามาทำเป็นลืมนะไอ้อ้อน เล่นกลอะไรวะ มึงทำยังไง กูถึงขาดมึงไม่ได้แบบนี้ คงวางแผนไว้แล้วล่ะสิ ว่าจะทำให้กูทุรนทุรายเวลาที่มึงไม่อยู่ให้เห็นหน้าน่ะ"

    ตอนนี้ไอ้ทานมันทำหน้าแบบไหนเวลาที่มันพูดคำนี้ออกมานะ มันคงกำลังหงุดหงิด หรือไม่ก็คงเตรียมอาละวาดอีกแล้ว หรือว่า ........

    อ้อนนึกภาพของทานตะวันไปต่าง ๆ นานา คิดว่าคงกำลังโมโห หรือกำลังหงุดหงิด แต่ผิดถนัด ตอนนี้คนที่ทำเสียงฮึดฮัดโมโห กำลังทำหน้าเศร้า และแทบอยากจะร้องไห้ เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของอ้อน

    ป่านนี้ไอ้เป๋มันก็คง กำลังทำหน้านิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่รู้สึกรู้สาอะไร กับคำพูดที่พูดออกไปสินะ แล้วก็คงคิดในใจ ว่าไอ้ทานมันเป็นอะไรของมัน เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกแน่ ๆ

    "แล้ว....มึงอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ ตอบไปก็ไม่พอใจทุกคำตอบไม่ใช่เหรอ...กำลังโมโหอยู่ล่ะสิ แล้วถ้ากูตอบแบบทำให้มึงไม่พอใจ มึงก็คงเดินออกมาลากกูเข้าห้อง แล้วก็ลงไปบอกแม่ว่า ตอนนี้ กูติดหนี้มึงเป็นแสน ๆ ที่มึงแกล้งมาทำดีที่บ้านกูก็เพราะว่า ...มึงน่ะอยากจะ..."

    "หยุดพูดเรื่องที่กูไม่ได้คิดซะทีเถอะ ที่อยากรู้ คือตอนนี้เราเป็นอะไรกันแค่นั้นแหละ....รีบ ๆ พูดมาซะที ว่าเราเป็นอะไรกัน เป็นลูกหนี้เป็นเจ้าหนี้ เป็นคนใช้ หรือมึงเป็นอะไรกับกูกันแน่นะอ้อน ทำไม....กูไม่รู้ว่ามึงเป็นอะไรของกูกันแน่ แล้วมึงคิดว่ากูเป็นอะไรของมึง....เป็นเจ้าหนี้เหรอ หรือว่า เป็นอะไร"

    อ้อนอยากจะบอกออกไปว่า เห็นเป็นคนงี่เง่าไงล่ะ แต่ก็ไม่ได้ตอบออกไป ได้แต่นั่งเงียบ ๆ และถามความความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง


    แต่ไม่ทันได้พูดอะไรออกไปเสียงของแม่จากข้างล่าง ก็ทำให้รีบเคาะประตูห้องเพื่อให้ทานตะวันเปิดประตูให้

    "อ้อน บ่นอะไรอยู่หน้าห้องน่ะลูก หาเสื้อให้ทานเปลี่ยนหรือยัง แม่เก็บผ้าขนหนูไว้ให้ในตู้แล้วไง หาไม่เจอเหรอ"

    ประตูห้องถูกเปิดออกแล้ว และอ้อนก็ต้องรีบเดินเข้าห้องอย่างรวดเร็ว มาเผชิญหน้าอยู่กับคนที่ยังถือโทรศัพท์ไว้ในมือ

    ทานตะวันนิ่งมองใบหน้าของอ้อนที่ยังคงเรียบเฉย แล้วค่อยกดวางสาย เมื่ออ้อนเดินไปค้นหาผ้าขนหนูมาเพื่อมายื่นส่งให้

    "อาบน้ำก่อนดีกว่ามั้ง เดี๋ยวอยากเล่นอะไรแปลก ๆ อีกค่อยเล่น"

    น้ำเสียงที่แผ่วเบาและใบหน้าที่ก้มนิ่งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตา ทำให้ทานตะวัน จำใจรับผ้าขนหนูมาถือเอาไว้ และยืนนิ่งเงียบ


    อ้อนเงียบ ทานตะวันเงียบ ไม่รู้ว่าความรู้สึกอึดอัดใจที่อบอวลไปทั้งห้อง จนไม่กล้าขยับ และต้องรอดูปฏิกิริยากันแบบนี้ ทำเพื่ออะไรกันแน่

    "อย่ามาทำเป็นเฉยนะ....คิดยังไงกันแน่...กูเป็นอะไรกับมึงกันแน่ สำหรับมึงแล้วกูเป็นอะไร"

    อะไรวะ จะคาดคั้นเอาคำตอบอะไร ถ้าตอบได้ก็ตอบไปแล้ว แต่นี่ไม่รู้จะตอบว่าเป็นอะไรถึงได้เงียบแบบนี้ยังไงล่ะ ไม่เข้าใจกันบ้างเลยหรือไง

    คนตัวโตหน้านิ่วคิ้วขมวด หันไปเหวี่ยงผ้าขนหนูทิ้งลงบนเตียง และรั้งร่างของอ้อนมากอดเอาไว้แน่น โดยที่ไม่รอให้อีกฝ่ายตั้งตัว

     

    "อะไรวะ กูเป็นอะไรของมึงกันแน่ กูคิดไม่ออกแล้วนะไอ้อ้อน โทรมาเป็นสิบ ๆ สายทำไมไม่ยอมรับ แล้วพอมาหาก็ทำเป็นเฉย อะไรของมึงวะ กูไม่รู้จะทำยังไงหรอกนะ

    จะให้กลับบ้านไปคนเดียวใช่มัย ไม่สงสารกันบ้างเลย ทั้งที่มึงก็รู้ว่ากูอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วแท้ ๆ แล้วทำไมยังไม่ยอมรั้งกูไว้อีก ให้กูเสียศักดิ์ศรี วิ่งไล่ตามมาหามึงถึงที่แบบนี้

    ต้องการอะไรกันแน่วะ....."

    อะไรเล่า ไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่มีอะไรที่ต้องการเลยสักอย่าง....แล้วใครจะไปรู้ว่ามึงจะอยู่คนเดียวไม่ได้ล่ะ ใครจะไปรู้ ว่าถ้าเกิดไม่รั้งเอาไว้ มึงจะเศร้ามากขนาดนี้

    ถ้ารู้ว่าการเงียบแล้วทำให้มึง งอแงงี่เง่าได้มากขนาดนี้ ใครจะไปทำล่ะ ไอ้ทานนะไอ้ทาน นึกว่าไม่ห่วงหรือไง ที่ปล่อยมึงกลับบ้านคนเดียวน่ะ

    เรียวแขนของคนที่ถูกกอดยกขึ้นกอดตอบ คนที่ยืนตัวสั่น กอดร่างของอ้อนเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย

    ก็เห็นแกล้งได้แกล้งดี เห็นทำเหมือนสนุกซะขนาดนั้น จะไปรู้ได้ยังไง ว่าที่จริงแล้วเหงา แล้วก็ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านคนเดียว ก็แค่บอกมาคำเดียวแท้ ๆ อยากพูดไม่เป็นเอง

    "จะนอนค้างที่นี่ ไม่กลับบ้านหรอก ไม่ให้ไปไหนด้วย อย่าคิดว่าจะกลับมานอนที่บ้านตัวเองอย่างสงบสุขนะ จะตามมาอย่างนี้แหละ ให้มึงบ้าไปเลย เอาให้มึงไม่รู้จะทำยังไงเลยคอยดูเถอะ คอยดูก็แล้วกันไอ้อ้อน อยากทำให้กูเหงาเอง"

    สิ่งที่ทานตะวันพร่ำพูด ทำให้อ้อน ลูบไล้แผ่นหลังกว้างที่สั่นสะท้านอย่างแผ่วเบา กลัวแทบตายว่ามันจะบ้าบอมากกว่านี้


    แต่ที่ไหนได้ ที่ตามมาก็แค่เหงา ไม่อยากกลับบ้านไปอยู่คนเดียว เลยมาคอยตามแกล้งกันแบบนี้เนี่ยเหรอ ทำไมมันถึงได้เป็นเด็กขยันเรียกร้องความสนใจได้มากขนาดนี้วะ

    แค่บอกว่าเหงาคำเดียวเอง.........

    "เหงาเหรอวะ แค่เนี้ยต้องเหงาด้วยเหรอ" อ้อนเอ่ยถามออกมาเบา ๆ และทานตะวันก็ยังคงกอดร่างของอ้อนเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

    "ถ้าเหงาก็บอกว่าเหงาสิ ทำไมต้องหาเรื่องกันด้วยล่ะ"

    อ้อนยังคงยืนนิ่ง ๆให้ทานตะวันกอด แล้วก็ได้รับคำตอบเป็นการ ที่คน ๆ นั้นปล่อยร่างของอ้อนให้เป็นอิสระ แล้วมายืนเผชิญหน้าด้วย คราวนี้จะทำอะไรของมันอีกล่ะ

    "เมื่อกี้ที่ขอจูบ กูขอจริง ๆ นะ เลือกมาเลย มึงจะให้กูจูบตรงไหน ไม่งั้นกูจะแกล้งมึงทั้งวันเลยคอยดูสิ"

    ทานตะวันทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วเอ่ยถามคำถามที่ทำให้อ้อน ถึงกับหน้าแดงก่ำ รีบแกะมือของคนตัวโตออก แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อย

    "เร็ว จะให้จูบตรงไหน เลือกเลย อุตส่าห์ให้โอกาสนะ หรือว่าจะให้เลือกเอง ไม่เลือกกูจะเลือกเดี๋ยวนี้แหละไอ้อ้อน"

    รู้แน่ว่าทานตะวันเอาจริง แล้วถ้าไม่ได้ก็ต้องได้ อยากได้อะไรก็เห็นจะเอาให้ได้ทุกที อ้อนไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้างในสมองรีบประมวลความคิด และส่งมือให้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่อีกฝ่ายจะตัดสินใจให้

    "เออ เออ ก็ได้ ตรงนี้เลย อ่ะ อยากจูบเหรอ เอาเลย ให้พอใจเลย ตรงนี้แหละ"

    ฝ่ามือที่ยื่นมาให้ตรงหน้า ท่าทางที่เหมือนหวาดหวั่น ทำให้ใบหน้าคมที่ขมวดคิ้วมุ่น เริ่มยิ้มออกมาได้

    เลือกแล้วเหรอ ก็แค่เนี้ย ทานตะวันรีบคว้ามือของอ้อนและจ้องมองนิ่งอยู่อย่างนั้น รอยยิ้มจาง ๆ และแววตาพราวระยับทำให้อ้อนใจเต้นไม่เป็นส่ำ


    กะอีแค่มือ มันจะมองอะไรขนาดนั้นวะ โธ่โว้ย

    ปลายจมูกที่ประทับลงมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับริมฝีปากร้อน ๆ ที่นาบลงตรงกลางฝ่ามือ เหมือนมีกระแสไฟอ่อน ๆ วิ่งพล่านจากมือขึ้นมาที่แขนอย่างรวดเร็ว และลามเข้าไปถึงหัวใจทำให้ใจเต้นระทึกรัวเร็ว จนหายใจติดขัด ใบหน้าเนียนขาวแดงเรื่อ เมื่อเจ้าของริมฝีปากอุ่น ๆ แหงนเงยใบหน้าขึ้นมอง และแตะริมฝีปากซ้ำที่ข้อมือบาง จนทำให้สัมผัสได้ถึง จุดชีพจรที่เต้นระรัว

    "พอใจแล้ว.....วันนี้จะไม่แกล้งอีก"

    อีกหนึ่งอารมณ์ของท่านทานตะวัน หลังจากเป็นที่พอใจ ก็ยิ้มร่า เมื่อได้เห็นท่าทางเขินอายของอ้อนก็ยิ่งพอใจเป็นที่สุด


    จะอยู่ดูหน้าให้ชัด ๆ อีกสักนิดก็ได้ แต่สงสารหนูน้อยแก้มแดงที่กำลังทำหน้าไม่ถูก อยากจะแกล้งต่ออีกนิด แต่ก็สงสาร แค่นี้ไอ้อ้อนมันก็อายแย่แล้ว แต่ก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ แค่นี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวมันจะยิ่งไม่ชอบหน้าขึ้นมาอีก
    ทานตะวันตัดสินใจเดินไปคว้าผ้าขนหนูที่อยู่บนเตียง ก่อนจะเดินผิวปากมีความสุขเดินเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้อ้อนยืนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกอยู่กลางห้อง

    เสียงน้ำจากฝักบัว เสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดี ช่างน่าหมั่นไส้ แต่ไม่รู้จะทำอะไรได้

    อ้อนทิ้งกายลงนั่งที่พื้นกลางห้อง อยากจะกลิ้งลงไปนอนตายซะตรงนั้น หรือไม่ก็เอาหน้ามุดพื้นหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้

    สุดท้ายได้แต่นั่งนิ่ง ๆ และจ้องมองไปที่ข้อมือของตัวเองทำได้เพียงแค่บ่นเงึมงำเสียงเบา

    "ไหนว่าไม่แกล้งอีกไง แบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ เล่นมาแตะข้อมือแบบนี้ก็รู้หมดสิว่าตื่นเต้น ไอ้ทานนะไอ้ทาน เกลียดมึงโว้ยยยยยยยยย ขอถอนคำพูด ตอนนี้กูเกลียดมึง ไอ้บ้า ไอ้ทานบ้า เกลียดมึงโว้ยยยยย"

     

    ******************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×