ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #28 : ตอน วิธีการอ้อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.04K
      21
      12 ก.พ. 54

    ตอน วิธีการอ้อน











    "กินยาเดี๋ยวนี้"

    "ไม่เอาโว้ยยยยยยยยยย แค่ก แค่ก ไอ้อาวไอ้อ้อนน อ่อยอู แอ่ก"

    แปลได้ใจความว่าไม่เอา ไอ้อ้อน ปล่อยกู

    มึงกล้าเหรอ มึงกล้าพูดอย่างนี้กับกูใช่มั้ยไอ้อ้อน

    ช่วยด้วย ไม่เอา ไม่กินยา ไม่อยากกินยา

    มันขมโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    ทานตะวันที่เคยแข็งแรง นอนแอ้งแม้งและอยากจะร้องไห้ เมื่อถูกจับกรอกยาเม็ดขม ๆ หลายเม็ด คายทิ้งก็แล้ว ดิ้นกระดุ๊กกระดิ๊กหนี ไม่ยอมกินก็แล้ว แถมยังกัดนิ้วของอ้อนเข้าอีก จนคนที่พยายามจะกรอกยา เกิดอาการโมโหขึ้นมาบ้าง

    ดี มันป่วยแบบนี้แหละดี เอาคืน ตอนนี้ไม่มีคำว่าคนใช้กับเจ้านายหรอก มีแต่คำว่าคนป่วย กับคนดูแลคนป่วย แล้วถ้าไอ้คนป่วยนี่มันไม่ยอมกินยา จะจัดการฆ่าหมกศพมันซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว หนี้สินก็ไม่ต้องจ่ายมันแล้ว กัดมาได้นิ้วแทบขาด โมโหเป็นเหมือนกันนะโว้ย ไม่มีแรงแบบนี้แหละดี นาน ๆ ทีจะได้เอาคืนไอ้ทานบ้าง จะจับหักคอซะให้เข็ดเลยมึง ถ้าไม่ยอมกินยาวันนี้ ก็ให้มันรู้ไปสิวะ

    อ้อนโมโหคนป่วย

    แต่ทานโมโหคนดูแลคนป่วย

    ก็เพราะอย่างนี้ไงล่ะ ถึงไม่อยากให้ใครมาดูแลตอนป่วย

    พวกนั้นชอบบังคับขู่เข็ญให้กินยา แม้จะปวดหัวแทบตาย แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมกินยาเด็ดขาด

    ขมปาก กินอะไรก็ขมไปหมด

    แล้วยาเม็ดขม ๆ ที่ปกติมันเคยขมยังไงก็ขมเพิ่มขึ้นสิบเท่า แบบนี้ไม่ว่าใครก็กินไม่ลงหรอก

    "ไอ้ทานกินเดี๋ยวนี้ กินสิวะ" อ้อนขึ้นไปนั่งทับอยู่บนตัวคนป่วยและจัดการง้างปากของทานตะวันด้วยช้อน กัดเหรอ กัดนักใช่มั้ย เอาสิวะ กัดช้อนไปก็แล้วกัน อยากกัดก็กัดเลย

    "อ่อก แอ่ก ไอ้อ้อน อื้อออออออออ งื่อ" ทานตะวันรวบรวมพละกำลังเฮือกสุดท้าย ที่จะขัดขืน แต่ว่าพละกำลังที่เคยมากมายมหาศาลกลับเหลือเพียงเล็กน้อย แรงจะสะบัดหน้าหนีมือที่บีบปากยังไม่มี แล้วแบบนี้จะทำอะไรได้

    น้ำถูกกรอกตามลงมา จนทานตะวันสำลัก น้ำหูน้ำตาเล็ด สุดท้ายเม็ดยาขม ๆ ก็หลุดลงไปในลำคอ

    "น้ำ น้ำ น้ำอยู่ไหน" อ้อนปล่อยให้ทานตะวันเป็นอิสระแล้ว และฝ่ายนั้นก็เรียกหาน้ำมาดื่มเป็นการใหญ่ น้ำในเหยือกน้ำใบใหญ่ถูกเทลงคออึก ๆ เพียงไม่นานน้ำก็หมดเหยือก

    ทานตะวันปล่อยเหยือกน้ำลงแล้ว แต่ทั้งผ้าปูเตียงและฟูกนอนก็เละเทะและเนืองนองไปด้วยน้ำ แต่คนป่วยก็ยังพยายามจะนอนลงจนได้

    "ลุก ลุกไหวมั้ย ไปนอนบนโซฟาก่อน จะเปลี่ยนที่นอนให้ เร็ว ไอ้ทานลุกขึ้นก่อน เร็ว"

    กลายเป็นอ้อนที่ส่งเสียงเอะอะและเอ็ดตะโรคนป่วย ที่ไม่ยอมลุกขึ้น นอนหันหลังให้นิ่ง ๆ และขบริมฝีปากตัวเองแน่น

    ห้องทั้งห้องหมุนได้ และตามมาด้วยอาการอยากอาเจียน

    กินข้าวไม่ได้

    แต่ไอ้อ้อนมันบังคับให้กินยาได้

    ก็เพราะอย่างนี้เกลียดที่สุดก็ตอนที่ป่วย เพราะตัวเองจะกลายเป็นคนอ่อนแอไม่สามารถทำอะไรได้ กลายเป็นทานตะวันที่แม้แต่แรงยืนยังไม่มี

    แถมยังต้องเป็นแบบนี้ต่อหน้าไอ้ขาเป๋นี่อีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้รู้สึกสมเพชตัวเองได้ยังไง

    คนป่วยมักจะน้อยใจในยามที่ปกติไม่เคยเป็น ไม่เว้นแม้กระทั่งทานตะวันตัวโตที่มีแรงแหกปากโวยวายด่าคน แต่เวลานี้ได้แต่นอนนิ่ง ๆ และกลายเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ถูกอ้อนรังแกให้ทำตามคำสั่ง

    ทานตะวันเพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่ควรให้ใครมาเห็นตอนที่ไม่สบายก็เวลานี้นี่เอง

    "ลุก" ไม่ต้องรอให้คนตัวโตลุกขึ้นเอง แต่เป็นอ้อนที่คว้าแขนของทานตะวันมาพาดไว้ที่ลำคอ และจัดการทั้งลากทั้งพยุงคนที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งให้มานอนลงบนโซฟา ส่วนทานตะวันได้แต่เบะหน้า ถึงไม่อยากทำตาม แต่ก็ต้องจำใจทำตามมาทิ้งกายลงนอน แล้วก็ได้แต่มองตามคนที่จัดการเก็บกวาดทำความสะอาดเตียง

    ไอ้อ้อน มันเปิดประตูเข้ามาได้ยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่ามันคอยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อป้อนข้าวแล้วก็บังคับให้กินยา

     

    ไม่อยากยอมรับหรอกว่าตอนนี้ไม่มีแรงทำอะไรเลย

    แต่ก็ทำได้แค่ทำเป็นปากดี ไม่ยอมรับความช่วยเหลือ สุดท้ายก็กลับกลายเป็นว่ามาเป็นภาระให้ไอ้อ้อนจนได้

    มันคงไม่อยากมาดูแลหรอก มันคงเห็นว่าใกล้ตายแล้ว ถึงได้ดูแลแบบจำใจ ก็ดูเอาสิ กินข้าวไม่ได้ มันก็ยังจะยัดเยียดให้กิน

    ไม่อยากกินยามันก็ยังฝืนบังคับ ไม่ยอมมันก็จับกรอก

    แล้วแบบนี้มันน่าทุเรศขนาดไหน

    จำเอาไว้เลยนะไอ้อ้อน ถ้ากูหายนะ ถ้ากูหายกูจะเอาคืนมึงเป็นสิบเท่าเลย

    ทานตะวันนึกอาฆาตแค้นอยู่ในใจ โดยที่ไม่ทันคิดเลยว่าเพราะตัวเองทำตัวงี่เง่าแบบนี้ ถึงต้องเจอไม้แข็งจากคนดูแลบ้าง

    อ้อนจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเรียบร้อยแล้ว และเดินลากขาไปเปลี่ยนผ้าขนหนูชุบน้ำบิดพอหมาด ๆ แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง วางกะละมังใบเล็กลงและเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าของทานตะวันที่ยังนอนตาลอย อยู่บนโซฟา

    "เปลี่ยนเสื้อหน่อย เหงื่อเต็มเลย มีแต่กลิ่นยา" โดยไม่รอช้าอ้อนจัดการปลดกระดุมเสื้อของทานตะวันที่นอนนิ่ง ๆ ทันที

    ไอร้อนที่เคยแผ่ซ่านลดลงแล้ว และดูเหมือนว่าอาการป่วยของทานตะวันทุเลาลงบ้าง คนที่ไม่เคยเจ็บไม่เคยป่วย แข็งแรงมาก ๆ เวลาป่วยจะเป็นหนักกว่าคนอื่น ๆ แต่ก็ดีที่หายเร็ว คงเป็นเพราะการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ถึงได้ทำให้สุขภาพดี

    "ยาก็ฝืน ๆ กินไปเถอะ กินแล้วเดี๋ยวก็หาย เพิ่งรู้ว่าไอ้ทานตะวันคนนี้เกลียดการกินยาที่สุด ทำไม กลัวเหรอกะอีแค่ยาเม็ดเล็ก ๆ ไม่กี่เม็ด กิน ๆ เข้าไปเถอะน่ะ ถามจริงๆ เถอะ แฟนก็ไม่เห็นมีเลย แล้วเมื่อก่อนเวลาไม่สบายใครดูแลวะ อย่าบอกนะว่าปล่อยให้หายเอง เชื่อก็โง่แล้ว"

    อ้อนใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับไปตามผิวเนื้อของคนป่วย

    ไม่เคยดูแลใคร ก็ทำได้แค่นี้ ไม่ขัดไม่ถูอย่างรุนแรง แต่ก็ดูงก ๆ เงิ่น ๆ เต็มที จนแม้แต่คนป่วยยังรู้สึกว่า อ้อนเองก็คงไม่เคยดูแลใครเหมือนกัน

    คำถามเรียบ ๆ คำถามเรื่อย ๆ ของอ้อนที่ถามออกไป ไม่ได้หวังได้คำตอบอะไรเลยสักนิด แต่เป็นคำถามที่ไปทำให้หัวใจของคนฟังกระตุกอย่างแรง

    เมื่อก่อนเวลาไม่สบายทำยังไงเหรอ ก็นอนนิ่ง ๆ นอนเฉย ๆ เดี๋ยวทนไม่ไหวมันก็ตายไปเองแหละ หรือถ้าเกิดทนไหว เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาเดินได้วิ่งได้เอง

    แค่ไม่สบายเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ถึงกับทำให้ตายได้หรอกน่ะ

    จะไปหวังให้ใครดูแลล่ะ ไม่เคยคิดหวังอยู่แล้ว ขนาดไม่สบายหนัก ๆ พ่อกับแม่ยังไม่ยอมกลับมาเลย โทรบอกให้หมอมารักษาถึงบ้านก็แค่นั้นเอง

    ใบหน้าคมซีดเผือดหมองเศร้าลง และหรุบสายตาลงต่ำ

    แกล้งทำเป็นหลับตาแต่ในใจหม่นหมอง

    อย่าถือว่าดูแลกูนะ คิดล่ะสิ พอถามนั่นถามนี่กูก็คงจะตอบหมด

    ไม่มีทางหรอก

    "เวลาไม่สบายนะ กูอยากให้มีคนเอาใจที่สุดเลยว่ะ แต่มึงคงไม่อยากให้ใครมาเอาใจหรอก เพราะอย่างมึงคงมีคนเอาใจมากแล้วแหละ ใช่มั้ยล่ะ"

    ใช่กะผีน่ะสิ ไม่เห็นว่าจะมีเลยสักคน ไม่มีหรอกคนที่จะมาเอาใจเวลาไม่สบายน่ะ จะให้กูอ้อนมึงเหรอ ฝันไปเถอะ ไม่มีทางหรอก มึงมันเป็นแค่คนใช้นี่ ทำหน้าที่ดูแลกูก็ถูกแล้ว

    อ้อนซับผ้าไปตามร่างกายของคนที่นอนหลับตานิ่ง ๆ และลอบมองใบหน้าซีดขาวของทานตะวันหลายครั้ง

    ทำเป็นหลับนะมึง ฟังตลอดแหละวะ แต่ทำเป็นหลับ

    ให้มันจริงนะ ไม่อยากอ้อน แต่พอจะเดินออกนอกห้องหน่อย

    เรียกไม่ยอมให้ไปเลยนะ แล้วทำเป็นปากดีว่าอยู่คนเดียวได้ ไหนล่ะอยู่คนเดียวแค่ห่างไปแค่ไม่ถึงห้านาที กลับมาอีกที หน้าบูดหน้าบึ้ง ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ แล้วแบบนี้จะให้คิดยังไง

    อ้อนอมยิ้มกับท่าทางของคนที่งอแงเป็นเด็ก ๆ แต่ยังวางมาดไม่เลิก

    นี่ขนาดมันป่วยนะ มันยังฟอร์มจัดขนาดนี้ เวลาดี ๆ อย่าไปหวังเล้ย ว่ามันจะเป็นผู้เป็นคนกับเขาน่ะ ไม่มีทางหรอก แต่ก็ดี แบบนี้แหละจะได้แกล้งมันเยอะ ๆ เอาคืนมันบ้าง ไอ้ทานนะไอ้ทาน ทีใครทีมันโว้ย

    "วันนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วนี่หว่า งั้นกูกลับบ้านได้แล้วมั้ง ไม่ได้กลับบ้านเกือบอาทิตย์แล้ว แผลก็หายดีแล้ว กลับไปให้แม่เห็นหน้าหน่อย เขาจะได้ไม่ต้องโทรตามเช้าเย็น ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงแย่แล้ว"

    อ้อนเอ่ยบอกออกมา เสียงพูดเรียบเรื่อย แต่ทำให้คนแกล้งหลับ ลืมตาขึ้นทันที แล้วก็เหมือนเดิม ทานตะวันพลิกกายหันหน้าหนีไปอีกทาง แล้วไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย

    งอน แล้วยังงอแง งี่เง่า

    ก็แค่บอกว่าไม่ให้ไป พูดไม่ได้เอง ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ

    "หันหลังแบบนั้น แล้วจะใส่เสื้อได้ยังไงวะ หันมานี่เลยไอ้ทาน"

    แต่จนแล้วจนรอด ทานตะวันก็ยังไม่ยอมหันมา จนอ้อนต้องรั้งให้ไหล่หนาหันมาหา เพียงเท่านั้นก็ได้เห็นนัยน์ตาเศร้า ๆ แดงก่ำ

    แต่ไอ้คนที่ไม่ยอมลดฟอร์มลง ก็ยังคงทำเป็นเฉยอยู่ไม่ยอมเอ่ยปากรั้งอ้อนเอาไว้

     

    เออ กูไม่สบายนี่ ตัวร้อนด้วย

    ไอก็ไอ เจ็บคอก็เจ็บคอ

    แถมยังกินยายาก ลำบากล่ะสิ อยู่ด้วยแล้วก็คงโมโหไม่อยากทำอะไรให้หรอกใช่มั้ยล่ะ งั้นก็รีบ ๆ ไปเลย ปล่อยให้ตายไปเลยสิโว้ย ไม่ต้องมาทำเป็นเห็นใจหรอก กูมันไม่มีแรงทำอะไรเองแล้วนี่ จำไว้เลย กูจะจำไว้เลยว่ามึงใจดำ

    ทานตะวันขบริมฝีปากตัวเองแน่น ไม่ยอมเงยหน้ามองคนที่กลัดกระดุมเสื้อให้ ไม่ยอมพูด ไม่ยอมห้าม ไม่ยอมรั้ง นอนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ จนอ้อนนึกสงสาร

    เออ กูล้อเล่น ทำเป็นหน้าบูดหน้าบึ้ง เข้าใจแล้ว ไอ้ทาน เข้าใจแล้ว ว่ามึงนี่มันเด็กจริง ๆ

    "ไปแล้วนะ" อ้อนแกล้งลุกขึ้น ตั้งใจจะเอาน้ำในกะละมังไปเปลี่ยน แต่กลับถูกรั้งข้อมือเอาไว้ พร้อมกับที่คนป่วย เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จนอ้อนต้องหันกลับมามองใบหน้าของคนพูดให้เต็มตา

    "ไปเลย แล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ ยกหนี้ให้หมดเลย แต่อย่ามาให้เห็นหน้าอีกก็แล้วกัน ไม่งั้นมึงโดนกูอัดเละแน่ ๆ ไอ้อ้อน"

    โห

    นี่ขนาดไม่สบาย โดนกรอกยายังสู้ไม่ได้เลย แล้วยังจะขู่อีกนะมึงไอ้ทาน

    พูดให้มันดี ๆ ไม่เป็นหรือไงวะ

    อ้อนแอบลอบยิ้มเล็กน้อย และเตรียมจะเดินหนี แต่ก็ยังคงถูกรั้งแขนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

    "ไปแล้ว ไม่ต้องกลับมาด้วย จำเอาไว้เลยนะมึง ไอ้อ้อน ไอ้เป๋ ไอ้คนขาเป๋"

    ไอ้ทาน มึงนะมึง นี่ขนาดป่วยนะ นี่ขนาดป่วย ยังด่าได้อีกนะ เออ เดี๋ยวกูก็ไม่มาจริง ๆ หรอก

    "เออ รู้แล้ว รับรองไม่มาให้เห็นหน้าหรอก" พูดออกไปด้วยความนึกสนุกของตัวเอง แต่จิตใจของคนฟังสั่นไหวอย่างรุนแรง

    "ไม่ต้องมาให้เจอหน้าอีกนะ ไม่ต้องมาให้เห็นอีก กูจะเป็นจะตายยังไงก็ปล่อยกูตายไปเลย ยังไงกูก็แกล้งมึงตลอดเวลาอยู่แล้ว นี่แหละโอกาสดี ทิ้งกูให้ตายไปเลย แล้วแต่ใจมึงเถอะ"

    ถึงจะพูดถึงจะเป็นคำพูดที่ไม่ดีนัก แต่น้ำเสียงที่สั่นเครือน้อย ๆ และใบหน้าที่หมองเศร้าก็ทำให้อ้อนแกล้งต่อไปไม่ลง

    เออ รู้แล้วแหละ เข้าใจที่พูดทุกอย่างเลย ไอ้ทานเอ้ย มึงนี่มันเด็กจริงๆ เลยว่ะ นี่ไล่ให้ไปนะ ไล่ขนาดนี้ แต่มือนี่ไม่ยอมปล่อยเลยนะ

    อ้อนแกะมือของทานตะวันออก

    และฝ่ามือร้อน ๆ ก็ยอมปล่อยออกอย่างช้า ๆ

    ในตาคมหรุบต่ำลง และค่อย ๆ หรี่ตาลงในสุด

    มันคงไปจริง ๆ นั่นแหละ โอกาสดี ๆ แบบนี้หาได้ที่ไหนกัน งั้นก็ไปเลย

    อยากจะไปไหนก็ไปเลย ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ไม่ว่ามันหรอก

    ทานตะวันคิดอย่างนั้น

    บอกตัวเองอย่างนั้น

    แต่ความรู้สึกหมองเศร้าก็ถาโถมเข้าหาตัวอย่างรุนแรง

    หูคอยเงี่ยฟังเสียงปิดประตู แต่ก็ไม่มีเสียงปิดประตูของคนที่ทานตะวันคิดว่าเดินจากไปเลยสักนิด

    ฝ่ามือเย็น ๆ วางแตะที่หน้าผากที่ยังมีไอร้อน

    ทานตะวันปรือตาตื่นขึ้นและยังเห็นใบหน้าของคนที่บอกว่าจะทิ้งกันไป ลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้า

    "ยายังไม่หมดถุงเลย ขืนไปก็ไม่ได้กรอกยามึงน่ะสิ ไหนดูซิ ตัวยังร้อนอยู่เลย เดี๋ยวอีกสองสามวันก็หายแล้ว เดี๋ยวมึงก็ตะโกนด่ากูได้อีกเหมือนเดิมแหละนะ เออช่วยไม่ได้ กูยอมรับชะตากรรมของตัวเองก็ได้ ว่าพอมึงหายแล้วมึงคงเอาคืนหลายสิบเท่าเลยใช่มั้ยล่ะ งั้นก็ถือว่ากูซวยเองแล้วกันนะ"

    อ้อนยังพูดต่อไปเรื่อย ๆ และนั่งลงข้าง ๆ คนที่นอนลืมตามองแถมยังทำตาแป๋วกระพริบตาปริบ ๆ หลายครั้ง

    รอยยิ้มสดใสถูกส่งให้กับคนป่วยที่นอนอยู่บนโซฟา

    ฝ่ามือที่กำลังจะผละจากหน้าผากร้อน ๆ ถูกรั้งเอาไว้ และทานตะวันรั้งมือเย็น ๆ เอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะเอาไปซุกไว้ที่ซอกคอของตัวเองและปรือตาหลับลงอย่างช้า ๆ

    เปล่า...........

    ไม่ได้อยากจับมือไอ้เป๋หรอก ไม่ได้สนใจด้วยถ้ามันจะไปไหน

    แค่มือมันเย็น

    ก็เลยยังไม่อยากปล่อย แค่นั้นเอง

    คนป่วยสิ้นฤทธิ์แล้วคงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่อ้อนกรอกเข้าไป

    อ้อนนั่งมองคนที่ค่อย ๆ หลับลงอย่างช้า ๆแล้วพยายามจะดึงมือของตัวเองออก แต่ทานตะวันก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกครั้งที่ทำอย่างนั้น

    ปลายนิ้วเรียวแตะเล่นที่ปลายจมูกโด่งของคนที่หลับตาพริ้มเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ แล้วก็อมยิ้ม

    ก็อ้อนเป็นนี่หว่า

    เรื่องแค่นี้เอง ก็เห็นทำได้นี่ หัดทำแบบนี้บ้างมันไม่ตายหรอกน่าไอ้ทานเอ้ย

    บอกให้กูไป บอกให้ไป แต่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้

    แล้วแบบนี้ใครมันจะทิ้งได้ลง

    ปากแข็งชะมัด

    คนอะไรวะ ปากบอกให้ไป แต่ไม่ยอมปล่อยมือ แล้วทำหน้าแบบนั้นใครมันจะทิ้งไปได้ลงคอ เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เกิดมาก็ยังไม่เคยดูแลใครเหมือนกัน มึงนี่แหละคนแรกเลยที่กูมานั่งเช็ดตัวให้ ก็ถือซะว่า คืนกำไรแล้วกัน ไหน ๆ ช่วงนี้มึงก็ไม่ได้อาละวาดมาก ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

    เอาเป็นว่า ตอนนี้มึงป่วย

    กูก็ดูแลมึงเต็มที่แล้วกันนะ ไอ้ทาน

    อ้อนนั่งยิ้มและยังพยายามดึงมือของตัวเองกลับอีกหลายครั้ง แต่ไม่ว่ากี่ครั้ง

    ทานตะวันก็ไม่ยอมปล่อยให้จากไปแม้แต่ครั้งเดียว

     

    ***********************************************

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×