ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #47 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ภาคี-ต้นสน ตอน แล้วเราก็รักกัน (ภาค อัษฎา+ภาคี)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.82K
      12
      14 ก.ค. 53

     ปรัชญาช่างกล ยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ตอนแล้วเราก็รักกัน (ภาค อัษฎา+ภาคี)
























    ต้นสนนั่งมองโทรศัพท์ในมือตั้งแต่เที่ยง ไม่มีสายเรียกเข้ามาหาเลยสักครั้ง จนตอนนี้เวลาเที่ยงคืน ใกล้ได้เวลาที่จะต้องไปทำงานแล้ว แต่ก็ไม่มีแม้แต่วี่แววของคนที่เคยโทรมาทุกวัน

    ต้นสนยังคงมองโทรศัพท์ในมือและครุ่นคิด เขาจะโทรไปดีมั้ย โทรไปหาภาคีบ้างดีหรือเปล่า

     

    รอหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพราะยังไงภาคีก็ต้องมาซื้อบุหรี่ตอนตี 2

    เมื่อเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง มันก็ปาเข้าไปตี 4 แล้ว แต่ไม่ปรากฏแม้แต่เงาของภาคี

    ************************

    ต้นสนมองเก้าอี้หน้าร้านที่ภาคีเคยมานั่งทุกวัน

    แต่วันนี้ภาคีไม่มา

    เขาเดินไปกินข้าวที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่เดิม สั่งผัดบวบมากินหนึ่งจานพร้อมกับผัดปลาหมึก

    ข้าว.....ที่เคยกินทุกวันเริ่มไม่อร่อย

    มือเล็กๆ ล้วงเข้าไปที่กระเป๋าเสื้อ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา.....เขาจะโทรไปดีมั้ย...

    และต้นสนก็ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม ก้มหน้าก้มตากินข้าว พยายามทำใจให้ลืมๆ เรื่องของภาคีไปซะ

    ***************************

    "ต้นสน....กินข้าวหรือยัง..." สายที่เรียกเข้ามาในตอนเย็นของอีกวันคือภาคี

    อัษฎายิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะตอบกลับไปเหมือนเดิมว่า "เออ......" แล้วปลายสายก็กดวางไป

     
    อัษฎาแค่อยากจะถามว่า ภาคีหายไปไหนมา แต่ก็ไม่ได้ถาม ครุ่นคิดติดสินใจอยู่นาน ก่อนจะกดโทรหาภาคี

    "แค่ก...แค่ก..พี่คี...ครับ.." ภาคีลุกขึ้นนั่ง...รับสายที่เรียกเข้ามาเมื่อรับรู้ว่าเป็นใคร ต้นสนนั่นเอง

    โกรธหรือเปล่าที่เมื่อเช้าไม่ไปรับมากินข้าวด้วยกัน เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่พยายามจะเลิกบุหรี่ แต่ร่างกายมันเหมือนคนไม่มีแรง แถมยังอดนอนมาหลายวันทำให้เมื่อเขาล้มตัวลงนอนก็หลับเป็นตาย ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ก็ไม่ยอมตื่น

    "บ้านอยู่ไหน..." ต้นสนเอ่ยถาม ภาคีคงไม่ค่อยสบาย เขาก็ต้องไปเยี่ยมตามมารยาท เดี๋ยวจะถูกหาว่าเป็นคนใจดำ

    "ซอยถัดจากหน้าโรงเรียน....ซอยที่สาม..เข้าซอยมา บ้านหลังคาสีฟ้า.."

    ปลายสายถูกตัดไปแล้ว ร่างสูงล้มตัวลงนอนที่โซฟาชั้นล่างของบ้าน เกือบหนึ่งทุ่มแล้วเหรอเนี่ย เขาต้องรีบนอนแล้วมั้ง

    ฝ่ามือแกร่งเอื้อมหยิบเสื้อชอร์ปที่ปักป้ายสีฟ้าบ่งบอกแผนกสารพัดช่าง บนกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายปักชื่อว่า อัษฎา และป้ายนามสกุลถูกเลาะออก แต่ปักด้วยตัวอักษรสีเดียวกันต่อท้ายว่า ภาคี เขาหยิบมาคลุมหน้าตัวเอง แล้วล้มตัวลงนอนที่โซฟาหน้าโทรทัศน์

    *****************************

    เสียงรัวกริ่งที่หน้าประตูบ้านทำให้ภาคีต้องตื่นขึ้น และออกไปเปิดประตู ให้คนที่กดกริ่งเข้ามา

    "ต้นสน......" แค่ได้เห็นหน้าของคนตรงหน้า ภาคีก็ดีใจ ต้นสนมาได้ยังไงกัน และร่างโปร่งบางก็ยื่นมือส่งถุงพลาสติกที่มีนมบรรจุใส่กล่องครึ่งโหลให้กับร่างสูง ก่อนจะเดินผละจาก

    แต่......

    ฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นรั้งเอาไว้ ดวงตาคมสบกับตากลมโตนิ่ง

    ภาคีดึงแขนให้ต้นสนตามเข้ามาในบ้าน ......
    และรินน้ำเย็นใส่แก้วส่งให้.....

    ต้นสนรับมาถือไว้...และดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมจะกลับบ้าน โดยมีภาคีเดินนำไปส่ง แต่ร่างโปร่งบางก็เหลือบไปเห็นของบางสิ่ง

    เสื้อ.....ของใคร...ชอร์ปของใคร....ทำไมคุ้นตานัก
    อัษฎา....นามสกุล...ภาคี

    มีที่ไหนกัน เขาไม่ได้นามสกุลภาคีนะ

    มือเล็กๆ เอื้อมลงไปหยิบเสื้อชอร์ปตัวดังกล่าวขึ้นมาดู และภาคี .... ที่กำลังจะเดินออกไปส่งก็เหลือบเห็นพอดี

    "เฮ้ยยยยยยยย " ร่างสูงรีบคว้าเสื้อตัวดังกล่าวเอาไว้ ก่อนจะเอาไปแอบไว้ด้านหลัง

    ".......เอามา.." ร่างโปร่งบางพยายามยื้อยุด ดึงเสื้อตัวดังกล่าวมาดูให้ได้

    "กะ...ก็...เสื้อ...ชอร์ปธรรมดาไม่มีอะไรหรอก..สนอย่าใส่ใจเลย...กลับบ้าน..เอ่อ..กะ..กลับบ้านนอนดีกว่านะ..." ภาคีไม่ยอมให้ต้นสนดูเสื้อตัวนั้น เสื้อชอร์ปที่เขาเปลี่ยนกันกับต้นสน ในโรงเก็บอุปกรณ์ ของที่เป็นความทรงจำระหว่างเขาและต้นสน

    "เหรอ..." ต้นสนเดินออกไปในทันทีเมื่อภาคีไม่ยอมให้ดูเสื้อตัวดังกล่าว

    ภาคีรู้ว่าต้นสนไม่พอใจมาก....เขาเดินตามออกมา ทันได้ลัดหน้าคนตัวเล็กกว่าไว้
    ก่อนจะยอม...ยื่นเสื้อในมือส่งให้

    อัษฎา......ภาคี
    แผนกสารพัดช่าง.....
    เสื้อของต้นสนนั่นเอง

    แล้วไปเลาะนามสกุลออกทำไม.....ไอ้ภาคี...ไอ้บ้า.....มันทำเหมือน..
    ป้ายวันแต่งงาน ที่ชื่อคนแต่งจะถูกเขียนด้วยกัน

    มือเล็กๆ ยื่นเสื้อคืนให้กับภาคีแล้ว ก้มหน้าก้มตาเดินออกจากบ้าน และก็เผลอยิ้มออกมา
    พอกับที่ภาคีเมื่อปิดประตูเดินเข้าบ้านแล้ว ก็เดินตาลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความอาย....ต้นสนจะว่าเขาต๊องมั้ย...ที่ทำแบบนี้

    ภาคีเดินมาล้มตัวลงนอนที่โซฟา คลุมหน้าด้วยเสื้อชอร์ปตัวนั้น

    ตีห้าครึ่ง เขาต้องไปรับต้นสนมากินข้าวเช้า ตอนนี้เขาคงต้องนอนหลับ.....ให้ลง ต้องข่มหน้าให้หุบยิ้มให้ได้

    แต่ยังไง ๆ คืนนั้นทั้งคืน
    ภาคีก็เลิกหุบยิ้มไม่ได้เสียที

    .................................

    น่ารักอ่า   ช่วยด้วย หุบยิ้มไม่ได้  อ๊ายยย

    มีคนถามว่า ทำไมไม่ลงวันล่ะหลายๆตอนไปเลย ในความรู้สึกคิดว่าลงแบบนั้น  มันจะไม่สนุกสักเท่าไหร่ เพราะเราจะไม่รู้จักการรอ  บางทีรอซะบ้าง จะทำให้อ่านสนุกขึ้นนะค่ะ แล้วก็ไม่ได้ปล่อยให้รอนานนี่ค่ะ ลงให้อ่านทุกวันอยู่แล้ว

     

    to  I'm the Vagabond    อีกเรื่องนี่ หมายถึงอีกเรื่องที่คนโพสแต่งเองใช่ป่ะค่ะ   ถ้าใช่  อยากจะบอกว่า  เพิ่งได้กลับไปอ่าน แล้วเกิดความรู้สึกอยากอ่านต่อ  ใครก็ได้ มาแต่งให้อ่านที  55555+  รอก่อนนะค่ะ  ตอนนี้ยังไม่มีเวลามานั่งคิดคำพูดที่เป็นภาษาอีสานมันยากตรงนี้แหละค่ะ  เคยคิดว่าจะกดปิดไปดีไหม แต่ยังมีคนถามถึง มาทวงก็ดีใจ  แต่ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายมากมาย  มันเกิดอาการเบื่อหน่ายกับทุกอย่างรอบๆตัว ไม่อยากพบ ไม่อยากเจอ ไม่อยากวุ่นวายกับใครสักเท่าไหร่ อยากอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องคิดอะไร ทำอะไร  รอให้องค์ลงก่อนนะค่ะ เด๋วกลับไปแต่งแน่นอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×