คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ภาคี-ต้นสน ตอน แล้วเราก็รักกัน (ภาค อัษฎา+ภาคี)
ต้นสนนั่งมองโทรศัพท์ในมือตั้งแต่เที่ยง ไม่มีสายเรียกเข้ามาหาเลยสักครั้ง จนตอนนี้เวลาเที่ยงคืน ใกล้ได้เวลาที่จะต้องไปทำงานแล้ว แต่ก็ไม่มีแม้แต่วี่แววของคนที่เคยโทรมาทุกวัน
ต้นสนยังคงมองโทรศัพท์ในมือและครุ่นคิด เขาจะโทรไปดีมั้ย โทรไปหาภาคีบ้างดีหรือเปล่า
รอหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพราะยังไงภาคีก็ต้องมาซื้อบุหรี่ตอนตี 2
เมื่อเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง มันก็ปาเข้าไปตี 4 แล้ว แต่ไม่ปรากฏแม้แต่เงาของภาคี
************************
ต้นสนมองเก้าอี้หน้าร้านที่ภาคีเคยมานั่งทุกวัน
แต่วันนี้ภาคีไม่มา
เขาเดินไปกินข้าวที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่เดิม สั่งผัดบวบมากินหนึ่งจานพร้อมกับผัดปลาหมึก
ข้าว.....ที่เคยกินทุกวันเริ่มไม่อร่อย
มือเล็กๆ ล้วงเข้าไปที่กระเป๋าเสื้อ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา.....เขาจะโทรไปดีมั้ย...
และต้นสนก็ตัดสินใจเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม ก้มหน้าก้มตากินข้าว พยายามทำใจให้ลืมๆ เรื่องของภาคีไปซะ
***************************
"ต้นสน....กินข้าวหรือยัง..." สายที่เรียกเข้ามาในตอนเย็นของอีกวันคือภาคี
อัษฎายิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะตอบกลับไปเหมือนเดิมว่า "เออ......" แล้วปลายสายก็กดวางไป
อัษฎาแค่อยากจะถามว่า ภาคีหายไปไหนมา แต่ก็ไม่ได้ถาม ครุ่นคิดติดสินใจอยู่นาน ก่อนจะกดโทรหาภาคี
"แค่ก...แค่ก..พี่คี...ครับ.." ภาคีลุกขึ้นนั่ง...รับสายที่เรียกเข้ามาเมื่อรับรู้ว่าเป็นใคร ต้นสนนั่นเอง
โกรธหรือเปล่าที่เมื่อเช้าไม่ไปรับมากินข้าวด้วยกัน เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่พยายามจะเลิกบุหรี่ แต่ร่างกายมันเหมือนคนไม่มีแรง แถมยังอดนอนมาหลายวันทำให้เมื่อเขาล้มตัวลงนอนก็หลับเป็นตาย ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ก็ไม่ยอมตื่น
"บ้านอยู่ไหน..." ต้นสนเอ่ยถาม ภาคีคงไม่ค่อยสบาย เขาก็ต้องไปเยี่ยมตามมารยาท เดี๋ยวจะถูกหาว่าเป็นคนใจดำ
"ซอยถัดจากหน้าโรงเรียน....ซอยที่สาม..เข้าซอยมา บ้านหลังคาสีฟ้า.."
ปลายสายถูกตัดไปแล้ว ร่างสูงล้มตัวลงนอนที่โซฟาชั้นล่างของบ้าน เกือบหนึ่งทุ่มแล้วเหรอเนี่ย เขาต้องรีบนอนแล้วมั้ง
ฝ่ามือแกร่งเอื้อมหยิบเสื้อชอร์ปที่ปักป้ายสีฟ้าบ่งบอกแผนกสารพัดช่าง บนกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายปักชื่อว่า อัษฎา และป้ายนามสกุลถูกเลาะออก แต่ปักด้วยตัวอักษรสีเดียวกันต่อท้ายว่า ภาคี เขาหยิบมาคลุมหน้าตัวเอง แล้วล้มตัวลงนอนที่โซฟาหน้าโทรทัศน์
*****************************
เสียงรัวกริ่งที่หน้าประตูบ้านทำให้ภาคีต้องตื่นขึ้น และออกไปเปิดประตู ให้คนที่กดกริ่งเข้ามา
"ต้นสน......" แค่ได้เห็นหน้าของคนตรงหน้า ภาคีก็ดีใจ ต้นสนมาได้ยังไงกัน และร่างโปร่งบางก็ยื่นมือส่งถุงพลาสติกที่มีนมบรรจุใส่กล่องครึ่งโหลให้กับร่างสูง ก่อนจะเดินผละจาก
แต่......
ฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นรั้งเอาไว้ ดวงตาคมสบกับตากลมโตนิ่ง
ภาคีดึงแขนให้ต้นสนตามเข้ามาในบ้าน ......
และรินน้ำเย็นใส่แก้วส่งให้.....
ต้นสนรับมาถือไว้...และดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมจะกลับบ้าน โดยมีภาคีเดินนำไปส่ง แต่ร่างโปร่งบางก็เหลือบไปเห็นของบางสิ่ง
เสื้อ.....ของใคร...ชอร์ปของใคร....ทำไมคุ้นตานัก
อัษฎา....นามสกุล...ภาคี
มีที่ไหนกัน เขาไม่ได้นามสกุลภาคีนะ
มือเล็กๆ เอื้อมลงไปหยิบเสื้อชอร์ปตัวดังกล่าวขึ้นมาดู และภาคี .... ที่กำลังจะเดินออกไปส่งก็เหลือบเห็นพอดี
"เฮ้ยยยยยยยย " ร่างสูงรีบคว้าเสื้อตัวดังกล่าวเอาไว้ ก่อนจะเอาไปแอบไว้ด้านหลัง
".......เอามา.." ร่างโปร่งบางพยายามยื้อยุด ดึงเสื้อตัวดังกล่าวมาดูให้ได้
"กะ...ก็...เสื้อ...ชอร์ปธรรมดาไม่มีอะไรหรอก..สนอย่าใส่ใจเลย...กลับบ้าน..เอ่อ..กะ..กลับบ้านนอนดีกว่านะ..." ภาคีไม่ยอมให้ต้นสนดูเสื้อตัวนั้น เสื้อชอร์ปที่เขาเปลี่ยนกันกับต้นสน ในโรงเก็บอุปกรณ์ ของที่เป็นความทรงจำระหว่างเขาและต้นสน
"เหรอ..." ต้นสนเดินออกไปในทันทีเมื่อภาคีไม่ยอมให้ดูเสื้อตัวดังกล่าว
ภาคีรู้ว่าต้นสนไม่พอใจมาก....เขาเดินตามออกมา ทันได้ลัดหน้าคนตัวเล็กกว่าไว้
ก่อนจะยอม...ยื่นเสื้อในมือส่งให้
อัษฎา......ภาคี
แผนกสารพัดช่าง.....
เสื้อของต้นสนนั่นเอง
แล้วไปเลาะนามสกุลออกทำไม.....ไอ้ภาคี...ไอ้บ้า.....มันทำเหมือน..
ป้ายวันแต่งงาน ที่ชื่อคนแต่งจะถูกเขียนด้วยกัน
มือเล็กๆ ยื่นเสื้อคืนให้กับภาคีแล้ว ก้มหน้าก้มตาเดินออกจากบ้าน และก็เผลอยิ้มออกมา
พอกับที่ภาคีเมื่อปิดประตูเดินเข้าบ้านแล้ว ก็เดินตาลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความอาย....ต้นสนจะว่าเขาต๊องมั้ย...ที่ทำแบบนี้
ภาคีเดินมาล้มตัวลงนอนที่โซฟา คลุมหน้าด้วยเสื้อชอร์ปตัวนั้น
ตีห้าครึ่ง เขาต้องไปรับต้นสนมากินข้าวเช้า ตอนนี้เขาคงต้องนอนหลับ.....ให้ลง ต้องข่มหน้าให้หุบยิ้มให้ได้
แต่ยังไง ๆ คืนนั้นทั้งคืน
ภาคีก็เลิกหุบยิ้มไม่ได้เสียที
................................. น่ารักอ่า ช่วยด้วย หุบยิ้มไม่ได้ อ๊ายยย มีคนถามว่า ทำไมไม่ลงวันล่ะหลายๆตอนไปเลย ในความรู้สึกคิดว่าลงแบบนั้น มันจะไม่สนุกสักเท่าไหร่ เพราะเราจะไม่รู้จักการรอ บางทีรอซะบ้าง จะทำให้อ่านสนุกขึ้นนะค่ะ แล้วก็ไม่ได้ปล่อยให้รอนานนี่ค่ะ ลงให้อ่านทุกวันอยู่แล้ว to I'm the Vagabond อีกเรื่องนี่ หมายถึงอีกเรื่องที่คนโพสแต่งเองใช่ป่ะค่ะ ถ้าใช่ อยากจะบอกว่า เพิ่งได้กลับไปอ่าน แล้วเกิดความรู้สึกอยากอ่านต่อ ใครก็ได้ มาแต่งให้อ่านที 55555+ รอก่อนนะค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีเวลามานั่งคิดคำพูดที่เป็นภาษาอีสานมันยากตรงนี้แหละค่ะ เคยคิดว่าจะกดปิดไปดีไหม แต่ยังมีคนถามถึง มาทวงก็ดีใจ แต่ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายมากมาย มันเกิดอาการเบื่อหน่ายกับทุกอย่างรอบๆตัว ไม่อยากพบ ไม่อยากเจอ ไม่อยากวุ่นวายกับใครสักเท่าไหร่ อยากอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องคิดอะไร ทำอะไร รอให้องค์ลงก่อนนะค่ะ เด๋วกลับไปแต่งแน่นอน
ความคิดเห็น