คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #216 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ถิง - เน่ (ตอน ขอแค่ผัน.....ให้ฉันรักเธอ 13 )
เราเป็นบ้าอะไรที่วิ่งไล่ตามหาคนที่เพิ่งเจอเมื่อวาน
นี่เรากำลังจะเป็นบ้าหรือเปล่านะ
ทั้งที่ไม่ได้เห็นหน้าเขาแค่ไม่กี่ชั่วโมง
แค่เพียงลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาเช้า ยังคิดถึงได้มากมายขนาดนี้
เราคงกลายเป็นคนบ้าแล้วแน่ ๆ เลย
นายขนมโดเน่ลดความเร็วของการวิ่งลงแล้ว
จนเหลือเป็นการเดินอย่างช้า ๆ
และเอ่ยทักทายกับเพื่อน ๆ ที่เดินผ่านมา
ส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับทุกคนเหมือนเช่นทุกวัน
มีการแซวเล่นกันบ้าง
เช่น.........บางคนแซวเล่น.หาว่าเขาจะไปตามควายที่ไหน
หรือว่า หนีตำรวจมาหรือไง
และนายขนมโดเน่ผู้แสนร่าเริงแจ่มใสทุกวัน ก็หัวเราะกลับไป
เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ที่คงอยู่ในระยะไม่ห่างมากนัก
คงไม่ห่างกันมากจนส่งไปถึงทำให้นาย ถอ อิ งอ ถิง ได้
ร่างนั้นกำลังขะมักเขม้นกับการลองหาปริมาตรของต้นไม้ข้างโรงอาหาร
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง
และพยายามมองหาว่าเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ นั้นมันมาจากทิศไหนกันแน่
แปลกที่เมื่อคืนไม่ได้ฝันถึงคนในฝัน
แต่กลับตื่นขึ้นมาได้ในเวลาปกติ
และไม่ได้รู้สึกเศร้าหรืออยากจะตามหาคนในฝันอีกเหมือนทุกวัน
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าหัวใจเต็มตื้น อบอุ่นไปหมด
ความรู้สึกที่ได้รับจากคนที่ไปนั่งวัดนั่งหาปริมาตรตั้งแต่เมื่อวาน
ก็คือการที่นั่งรถกลับบ้านไปแล้วหัวใจมันเต้นระรัวไม่หยุด
ใบหน้าก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
กำลังคิดว่ามันเป็นปรากฏการณ์อะไรกันแน่
แต่ไม่ทันหาคำตอบพอล้มตัวลงนอนก็เผลอหลับไปอย่างง่ายดาย
เป็นการหลับที่สบายที่สุดในรอบ 2 ปีมานี้
และเมื่อตื่นขึ้นมาก็มีแต่ความกังวลว่า
ถ้าเจอหน้าคนที่ชื่อเน่ อีกในวันนี้จะพูดอะไรดี
ขอโทษเรื่องเมื่อวานดีมั้ย....
บางทีไอ้หมอนั่นมันอาจจะโกรธก็ได้
ที่เขาขอให้มันทำอย่างนั้น ขอให้คนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน
จูบกอด และที่แย่กว่านั้นเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงอีกต่างหาก
แต่แปลกใจว่าทั้งที่มันเป็นอย่างนั้นทำไมถึงได้รู้สึกดีมาก
รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก
และที่สำคัญ สิ่งที่ทำไปนั้น ไอ้ถิงรู้สึกคุ้นเคย และเหมือนเคยทำอย่างนั้นเป็นประจำ
จนไม่ได้รู้สึกเขินอายเลยสักนิด
คิดอะไรไปเรื่อย ๆ มือเขียน สมองคิด ตาก็กวาดมองหาที่มาของเสียง
และเมื่อก้มลงสนใจกับกระดาษที่กำลังคำนวณตัวเลขไว้
ก็พบว่ามีใครคนหนึ่งมานั่งเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า
และกำลังส่งยิ้มให้
"กินข้าวเช้าหรือยัง...พอดีแวะมาที่โรงอาหารเห็นนายนั่งอยู่เราก็เลยอยากมากินข้าวพร้อมนาย...เอ่อ..
คือว่าเราหมายถึงว่า...เราพอดีหิวข้าว..เห็นนายก็เลยมาทักน่ะ..อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปนะ..เอ่อ..แล้ว
แล้วกินข้าวเช้าหรือยังล่ะ...."
เพราะกลัวอีกคนจะหาว่าบ้า หรือมีใจคิดอกุศล นายขนมโดเน่จึงพูดอะไรปนเปกันไปหมด
และไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี เมื่อคนที่มันคิดถึงมองมา
กระพริบตาปริบ ๆ ทำเหมือนไม่เข้าใจที่เขาพูดซะอย่างนั้น
จนไม่รู้จะทำยังไงได้แต่นั่งยิ้มให้แบบเก้อ ๆ
และไอ้คนบ้าวัดปริมาตรก็ถึงค่อยยิ้มตอบกลับมา.....นั่นทำให้ไอ้เน่ เผลอมองนิ่งอีกครั้ง
เคยเห็นรอยยิ้มนี้ เคยเห็นแน่ ๆ แต่ไม่รู้ว่าเคยเห็นที่ไหน
ทำไมถึงรู้สึกคุ้นชิน...และชอบรอยยิ้มนี้มากมายนักหนานะ
"ยะ..ยะ...ยะ..ยังไม่ได้กิน..คือ..คือ..คำนวณต้นไม้อยู่"
อีกครั้งที่กลัวคนอื่นรำคาญ อีกครั้งที่สมองสั่งแล้ว แต่ปากพูดไม่ทันที่สมองคิด
เลยกลายเป็นคนติดอ่างไปซะอย่างนั้น ไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อยนัก
แต่จะเป็นก็ต่อเมื่อ ตื่นเต้น และสมองสั่งการแบบเฉียบพลัน
บางครั้งก็กลายเป็นคนพูดติดอ่างไปได้
สิ่งที่ไอ้ถิงอาย และไม่อยากมีเพื่อน ไม่อยากเสวนากับใครก็เป็นเพราะเรื่องนี้
กลัวว่าจะโดนล้อ กลัวจะโดนรังเกียจ และเมื่อเห็นร่างสูงส่งยิ้มกลับมาให้
เหมือนกับตั้งใจฟังนักหนา ก็ค่อยรู้สึกโล่งใจ
"เหรอ..แล้วอยากกินอะไร...เช้า ๆ กินข้าวต้มทะเลดีกว่านะ...เดี๋ยวสั่งให้
กินน้ำเปล่าแล้วกันนะ..."
ไอ้คนชวนกินข้าวก็พูดรัวจนฟังแทบไม่ทัน ไอ้คนนั่งมองก็มองแบบงง ๆ
และสุดท้าย หนังสือสองสามเล่มของไอ้เน่ ก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ
และร่างนั้นก็พาตัวเองไปยังร้านขายข้าวในโรงอาหาร
ยืนต่อคิวเพื่อสั่งข้าวต้มทะเล 2 ถ้วย ถ้วยหนึ่งของตัวเอง
อีกถ้วยก็ของคนบ้าคำนวณปริมาตร
ยืนรอจนถึงคิวตัวเองและเดินถือถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ ที่มีจานวางรองไว้
มาถึงโต๊ะของคนที่นั่งเหม่ออยู่ และวางถ้วยข้าวลง
ก่อนจะวิ่งไปสั่งน้ำและเดินถือกลับมาให้
"ข้าวต้มกำลังอุ่นนะ...กินสิ...อ่ะ..อันนี้น้ำ.."
แก้วน้ำถูกนำมาวางไว้ให้ และพร้อมกับที่ไอ้เน่ นั่งตักข้าวต้มเป่าเบา ๆ ให้หายร้อน
และส่งเข้าปากตัวเอง
ตายังคงจับจ้องมองคนที่หยิบช้อนคนข้าวต้มไปมา
และตักข้าวต้มใส่ปากตาม
"เฮ้ยยยยยยย ร้อน ร้อน ร้อน ..."
เอาอีกแล้วไอ้ถิง...ทำอะไรงี่เง่าบ้าบออีกแล้ว
เห็นอยู่ว่าข้าวต้มมันร้อน...แต่ยังตักซัดเข้าไปทั้งอย่างนั้นอีก
ปากพองแล้วแน่เลย ทำไงดีเนี่ย
ทั้งร้อนรนทั้งไม่รู้จะทำยังไง มือก็พันกันวุ่นปัดไปโดนแก้วน้ำหกรดกระจาย
และเมื่อปล่อยช้อนร่วงลงจากมือ
ข้าวต้มร้อน ๆ ก็กระเด็นมาใส่เสื้อจนเปื้อนอีก
พยายามจะควานหาอะไรมาเช็ด
สมุดหนังสือดินสอปากกาก็หล่นลงกระจัดกระจายทั่วพื้นไปซะอีก
จนไอ้ถิงแทบอยากจะร้องไห้ด้วยความอับอาย
และเมื่อมือของคนตรงข้ามเอื้อมมากุมมือไว้ทั้งหมด
จับยึดให้อยู่นิ่ง ๆ ไอ้ถิงถึงได้หยุดอาการลนลานนั้นได้
"อยู่เฉย ๆ ก่อนนะ..ใจเย็น ๆ "
ดวงตาคมเปล่งประกายอ่อนโยนไม่ได้ตำหนิในความทุเรศทุรังของคนที่ลน
จนทำอะไรตีกันมั่วไปหมด ทอดมองมาสงบนิ่ง และอมยิ้มน้อย ๆ
พอให้ใบหน้าซีดเผือดจนอยากร้องไห้นั้น ค่อยมีสีเลือดขึ้น ก่อนที่มืออบอุ่นนั้นจะส่งแก้วน้ำของตัวเอง
ที่มีหลอดสำหรับดูดน้ำให้กับไอ้ถิง
และก้มเก็บสมุดหนังสือดินสอที่กระจัดการจายมารวมเข้าที่วางไว้ให้บนโต๊ะ
เอื้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋า มาเช็ดที่เสื้อของคนตรงหน้าให้รอยเปื้อนเจือจาง
ก่อนจะเก็บแก้วที่หล่นลงกับพื้นขึ้นและเดินเอาไปไว้ที่อ่างล้างจานของโรงเรียน
ก่อนจะกลับมาในสภาพที่ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนเดิม พร้อมกับถือแก้วน้ำใบใหม่มาด้วย
นั่งลงตรงข้ามกับไอ้ถิงที่หน้าซีดแล้วซีดอีก ไม่กล้าจะสบตาของร่างนั้น
และนายขนมโดเน่ ก็ยกช้อนตักข้าวต้มใส่ปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พร้อมกับที่ดึงมือที่กำแน่นของไอ้ถิงให้จับที่ช้อนและให้เป่าไอร้อนเหมือนกับที่เขาทำ
และตักเข้าปากเหมือนกับว่าเหตุการณ์บ้า ๆ เมื่อไม่กี่นาทีก่อนไม่ได้เกิดขึ้น
หัวใจที่เย็นยะเยือกของไอ้ถิงค่อยมีความอบอุ่นแทรกเข้ามาทีละน้อย
จนเริ่มอุ่น เหลือบสายตามองคนตรงข้ามและคน ๆ นั้นก็ยิ้มให้
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว...ที่เหมือนกับรอคอยใครสักคน
คนที่ไม่เห็นว่าไอ้ถิงไม่ได้เป็นตัวประหลาด
คนที่ไม่หัวเราะเยาะกับพฤติกรรมแปลก ๆ เพี้ยน ๆ
และคน ๆ นี้ ก็มาอยู่ตรงหน้า
มาทำให้คนที่ไม่รู้จักความรักต้องพลอยรู้สึกอบอุ่น..หัวใจเริ่มสั่นไหว
อัตราการเต้นของหัวใจดูเหมือนจะเพิ่มเป็น 102 ครั้งต่อนาทีซะแล้วสิ ตอนนี้
*********************************
ความคิดเห็น