ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #216 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ถิง - เน่ (ตอน ขอแค่ผัน.....ให้ฉันรักเธอ 13 )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.26K
      7
      5 ก.พ. 54

     ขอแค่ฝัน…..ให้ฉันรักเธอ 13 









    เราเป็นบ้าอะไรที่วิ่งไล่ตามหาคนที่เพิ่งเจอเมื่อวาน
    นี่เรากำลังจะเป็นบ้าหรือเปล่านะ
    ทั้งที่ไม่ได้เห็นหน้าเขาแค่ไม่กี่ชั่วโมง
    แค่เพียงลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาเช้า ยังคิดถึงได้มากมายขนาดนี้

    เราคงกลายเป็นคนบ้าแล้วแน่ ๆ เลย

    นายขนมโดเน่ลดความเร็วของการวิ่งลงแล้ว
    จนเหลือเป็นการเดินอย่างช้า ๆ
    และเอ่ยทักทายกับเพื่อน ๆ ที่เดินผ่านมา

    ส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับทุกคนเหมือนเช่นทุกวัน
    มีการแซวเล่นกันบ้าง

    เช่น.........บางคนแซวเล่น.หาว่าเขาจะไปตามควายที่ไหน
    หรือว่า หนีตำรวจมาหรือไง

    และนายขนมโดเน่ผู้แสนร่าเริงแจ่มใสทุกวัน ก็หัวเราะกลับไป

    เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ที่คงอยู่ในระยะไม่ห่างมากนัก
    คงไม่ห่างกันมากจนส่งไปถึงทำให้นาย ถอ อิ งอ ถิง ได้

    ร่างนั้นกำลังขะมักเขม้นกับการลองหาปริมาตรของต้นไม้ข้างโรงอาหาร
    เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง
    และพยายามมองหาว่าเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ นั้นมันมาจากทิศไหนกันแน่

    แปลกที่เมื่อคืนไม่ได้ฝันถึงคนในฝัน
    แต่กลับตื่นขึ้นมาได้ในเวลาปกติ
    และไม่ได้รู้สึกเศร้าหรืออยากจะตามหาคนในฝันอีกเหมือนทุกวัน

    ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าหัวใจเต็มตื้น อบอุ่นไปหมด

    ความรู้สึกที่ได้รับจากคนที่ไปนั่งวัดนั่งหาปริมาตรตั้งแต่เมื่อวาน
    ก็คือการที่นั่งรถกลับบ้านไปแล้วหัวใจมันเต้นระรัวไม่หยุด

    ใบหน้าก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
    กำลังคิดว่ามันเป็นปรากฏการณ์อะไรกันแน่

    แต่ไม่ทันหาคำตอบพอล้มตัวลงนอนก็เผลอหลับไปอย่างง่ายดาย
    เป็นการหลับที่สบายที่สุดในรอบ 2 ปีมานี้

    และเมื่อตื่นขึ้นมาก็มีแต่ความกังวลว่า
    ถ้าเจอหน้าคนที่ชื่อเน่ อีกในวันนี้จะพูดอะไรดี

    ขอโทษเรื่องเมื่อวานดีมั้ย....
    บางทีไอ้หมอนั่นมันอาจจะโกรธก็ได้
    ที่เขาขอให้มันทำอย่างนั้น ขอให้คนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน
    จูบกอด และที่แย่กว่านั้นเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงอีกต่างหาก

    แต่แปลกใจว่าทั้งที่มันเป็นอย่างนั้นทำไมถึงได้รู้สึกดีมาก

    รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก

    และที่สำคัญ สิ่งที่ทำไปนั้น ไอ้ถิงรู้สึกคุ้นเคย และเหมือนเคยทำอย่างนั้นเป็นประจำ
    จนไม่ได้รู้สึกเขินอายเลยสักนิด

    คิดอะไรไปเรื่อย ๆ มือเขียน สมองคิด ตาก็กวาดมองหาที่มาของเสียง
    และเมื่อก้มลงสนใจกับกระดาษที่กำลังคำนวณตัวเลขไว้

    ก็พบว่ามีใครคนหนึ่งมานั่งเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้า
    และกำลังส่งยิ้มให้

    "กินข้าวเช้าหรือยัง...พอดีแวะมาที่โรงอาหารเห็นนายนั่งอยู่เราก็เลยอยากมากินข้าวพร้อมนาย...เอ่อ..
    คือว่าเราหมายถึงว่า...เราพอดีหิวข้าว..เห็นนายก็เลยมาทักน่ะ..อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปนะ..เอ่อ..แล้ว
    แล้วกินข้าวเช้าหรือยังล่ะ...."

    เพราะกลัวอีกคนจะหาว่าบ้า หรือมีใจคิดอกุศล นายขนมโดเน่จึงพูดอะไรปนเปกันไปหมด
    และไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี เมื่อคนที่มันคิดถึงมองมา

    กระพริบตาปริบ ๆ ทำเหมือนไม่เข้าใจที่เขาพูดซะอย่างนั้น
    จนไม่รู้จะทำยังไงได้แต่นั่งยิ้มให้แบบเก้อ ๆ

    และไอ้คนบ้าวัดปริมาตรก็ถึงค่อยยิ้มตอบกลับมา.....นั่นทำให้ไอ้เน่ เผลอมองนิ่งอีกครั้ง
    เคยเห็นรอยยิ้มนี้ เคยเห็นแน่ ๆ แต่ไม่รู้ว่าเคยเห็นที่ไหน

    ทำไมถึงรู้สึกคุ้นชิน...และชอบรอยยิ้มนี้มากมายนักหนานะ
    "ยะ..ยะ...ยะ..ยังไม่ได้กิน..คือ..คือ..คำนวณต้นไม้อยู่"

     

    อีกครั้งที่กลัวคนอื่นรำคาญ อีกครั้งที่สมองสั่งแล้ว แต่ปากพูดไม่ทันที่สมองคิด
    เลยกลายเป็นคนติดอ่างไปซะอย่างนั้น ไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อยนัก
    แต่จะเป็นก็ต่อเมื่อ ตื่นเต้น และสมองสั่งการแบบเฉียบพลัน
    บางครั้งก็กลายเป็นคนพูดติดอ่างไปได้
    สิ่งที่ไอ้ถิงอาย และไม่อยากมีเพื่อน ไม่อยากเสวนากับใครก็เป็นเพราะเรื่องนี้

    กลัวว่าจะโดนล้อ กลัวจะโดนรังเกียจ และเมื่อเห็นร่างสูงส่งยิ้มกลับมาให้
    เหมือนกับตั้งใจฟังนักหนา ก็ค่อยรู้สึกโล่งใจ

    "เหรอ..แล้วอยากกินอะไร...เช้า ๆ กินข้าวต้มทะเลดีกว่านะ...เดี๋ยวสั่งให้
    กินน้ำเปล่าแล้วกันนะ..."

    ไอ้คนชวนกินข้าวก็พูดรัวจนฟังแทบไม่ทัน ไอ้คนนั่งมองก็มองแบบงง ๆ
    และสุดท้าย หนังสือสองสามเล่มของไอ้เน่ ก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ
    และร่างนั้นก็พาตัวเองไปยังร้านขายข้าวในโรงอาหาร
    ยืนต่อคิวเพื่อสั่งข้าวต้มทะเล 2 ถ้วย ถ้วยหนึ่งของตัวเอง
    อีกถ้วยก็ของคนบ้าคำนวณปริมาตร

    ยืนรอจนถึงคิวตัวเองและเดินถือถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ ที่มีจานวางรองไว้
    มาถึงโต๊ะของคนที่นั่งเหม่ออยู่ และวางถ้วยข้าวลง
    ก่อนจะวิ่งไปสั่งน้ำและเดินถือกลับมาให้

    "ข้าวต้มกำลังอุ่นนะ...กินสิ...อ่ะ..อันนี้น้ำ.."

    แก้วน้ำถูกนำมาวางไว้ให้ และพร้อมกับที่ไอ้เน่ นั่งตักข้าวต้มเป่าเบา ๆ ให้หายร้อน
    และส่งเข้าปากตัวเอง

    ตายังคงจับจ้องมองคนที่หยิบช้อนคนข้าวต้มไปมา
    และตักข้าวต้มใส่ปากตาม

    "เฮ้ยยยยยยย ร้อน ร้อน ร้อน ..."

    เอาอีกแล้วไอ้ถิง...ทำอะไรงี่เง่าบ้าบออีกแล้ว
    เห็นอยู่ว่าข้าวต้มมันร้อน...แต่ยังตักซัดเข้าไปทั้งอย่างนั้นอีก

    ปากพองแล้วแน่เลย ทำไงดีเนี่ย

    ทั้งร้อนรนทั้งไม่รู้จะทำยังไง มือก็พันกันวุ่นปัดไปโดนแก้วน้ำหกรดกระจาย
    และเมื่อปล่อยช้อนร่วงลงจากมือ

    ข้าวต้มร้อน ๆ ก็กระเด็นมาใส่เสื้อจนเปื้อนอีก
    พยายามจะควานหาอะไรมาเช็ด
    สมุดหนังสือดินสอปากกาก็หล่นลงกระจัดกระจายทั่วพื้นไปซะอีก
    จนไอ้ถิงแทบอยากจะร้องไห้ด้วยความอับอาย

    และเมื่อมือของคนตรงข้ามเอื้อมมากุมมือไว้ทั้งหมด
    จับยึดให้อยู่นิ่ง ๆ ไอ้ถิงถึงได้หยุดอาการลนลานนั้นได้

    "อยู่เฉย ๆ ก่อนนะ..ใจเย็น ๆ "

    ดวงตาคมเปล่งประกายอ่อนโยนไม่ได้ตำหนิในความทุเรศทุรังของคนที่ลน
    จนทำอะไรตีกันมั่วไปหมด ทอดมองมาสงบนิ่ง และอมยิ้มน้อย ๆ

    พอให้ใบหน้าซีดเผือดจนอยากร้องไห้นั้น ค่อยมีสีเลือดขึ้น ก่อนที่มืออบอุ่นนั้นจะส่งแก้วน้ำของตัวเอง
    ที่มีหลอดสำหรับดูดน้ำให้กับไอ้ถิง

    และก้มเก็บสมุดหนังสือดินสอที่กระจัดการจายมารวมเข้าที่วางไว้ให้บนโต๊ะ
    เอื้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋า มาเช็ดที่เสื้อของคนตรงหน้าให้รอยเปื้อนเจือจาง

    ก่อนจะเก็บแก้วที่หล่นลงกับพื้นขึ้นและเดินเอาไปไว้ที่อ่างล้างจานของโรงเรียน

    ก่อนจะกลับมาในสภาพที่ทุกอย่างเป็นปกติเหมือนเดิม พร้อมกับถือแก้วน้ำใบใหม่มาด้วย

    นั่งลงตรงข้ามกับไอ้ถิงที่หน้าซีดแล้วซีดอีก ไม่กล้าจะสบตาของร่างนั้น
    และนายขนมโดเน่ ก็ยกช้อนตักข้าวต้มใส่ปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    พร้อมกับที่ดึงมือที่กำแน่นของไอ้ถิงให้จับที่ช้อนและให้เป่าไอร้อนเหมือนกับที่เขาทำ
    และตักเข้าปากเหมือนกับว่าเหตุการณ์บ้า ๆ เมื่อไม่กี่นาทีก่อนไม่ได้เกิดขึ้น

    หัวใจที่เย็นยะเยือกของไอ้ถิงค่อยมีความอบอุ่นแทรกเข้ามาทีละน้อย
    จนเริ่มอุ่น   เหลือบสายตามองคนตรงข้ามและคน ๆ นั้นก็ยิ้มให้

    ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว...ที่เหมือนกับรอคอยใครสักคน
    คนที่ไม่เห็นว่าไอ้ถิงไม่ได้เป็นตัวประหลาด
    คนที่ไม่หัวเราะเยาะกับพฤติกรรมแปลก ๆ เพี้ยน ๆ

    และคน ๆ นี้ ก็มาอยู่ตรงหน้า

    มาทำให้คนที่ไม่รู้จักความรักต้องพลอยรู้สึกอบอุ่น..หัวใจเริ่มสั่นไหว

    อัตราการเต้นของหัวใจดูเหมือนจะเพิ่มเป็น 102 ครั้งต่อนาทีซะแล้วสิ ตอนนี้

    *********************************

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×