คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #98 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ตั้ม-ทัต (ตอน ละครตอนจบ) จบ
“ป้อนหน่อยดิ...หิ้วถุงแกงอ่ะ....”
ไอ้ตั้มและไอ้ทัตในสภาพหวานแหววกันสุดขีด เดินขึ้นอพาร์ทเม้นหยอกล้อกันมาตลอดทาง
หลังจากปั่นจักรยานไปซื้อกับข้าวที่ตลาดสดและซื้อกับข้าวซื้อขนมใส่มาเต็มกระเช้าและกำลังเดินขึ้นห้อง
และไอ้ตั้มมันก็เดินกินกล้วยทอดของมันไปเรื่อย คุยกันหัวเราะคิกคักตลอดเวลา บรรยากาศผัวเมียที่แสนจะโรแมนติกกันเหลือเกิน
และหลังจากวันที่มันตีกันจะเป็นจะตายและทะลึ่งเข้าไปอาบน้ำด้วยกันแล้ว มันก็ฟัดกันแทบทุกวัน แต่อยู่โรงเรียนน่ะเหรอ ด่ากันจะเป็นจะตาย ..... แทบจะกระโดดชกกันตายห่า แต่ก็ต้องพยายามห่างๆ กันไว้ ไม่ให้เจอกัน ไม่อยากเล่นบททะเลาะกัน กลัวต้องต่อยกันจริงๆ อีกแล้วเดี๋ยวไม่มีใครห้าม
“อ่ะ.....” ไอ้ตั้มทำท่าจะป้อนกล้วยทอดใส่ปากให้ทัตแล้วก็เปลี่ยนเอาเข้าปากตัวเองแทน ก่อนจะหัวเราะอย่างสนุกสนาน
แหม มึงช่างจีบกันได้โดยไม่เกรงอกเกรงใจชาวบ้านเลยจริง ๆ
“โหยยยยยยยย ไรอ่ะตั้ม.....ถึงห้องกินข้าวแล้วจะกินตั้มด้วย...คอยดูสิ..”
ได้บรรยากาศมั้ย ได้บรรยากาศหรือเปล่า
รู้สึกว่า โลกของไอ้สองคนนี้มันจะสีชมพูเกินไปแล้ว
ดูท่าทางที่มันออดอ้อนกันซิ
น่ารักชิบหายวายป่วง อีกคนเดินกินกล้วยทอดสบายใจเฉิบ
อีกคนเดินหิ้วถุงกับข้าวเดินขึ้นมาบนทางเดินอพาร์ทเม้น
หยอกล้อกันไปมา
อืมมมมมมมมมมมมมมม น่ารักตายเลยมึง
“ตั้ม...ไม่อยากปิดแล้วอ่ะ..เจอตั้มที่ไร...ต้องหาเรื่องที่โรงเรียนทุกทีเลย..” ไอ้ทัตหน้าเหงาหงอย ไม่มีใครรู้หรือระแคะระคายเรื่องที่เด็กแผนกก่อสร้างสุดซ่าแอบมากิ๊กกันเองกับเด็กเฮี้ยวแผนกเครื่องกลเลย ช่างมีความสามารถในการแสดงจดจำบทละคร และมีความสามารถในการแสดงดีจริง ๆ ไอ้สองคนนี้ เอาตุ๊กตาทองไปเลย
“เบื่อเหมือนกันแหละ .... อยากบอกๆ ให้รู้แล้วรู้รอดเหมือนกัน ... แต่เอาไว้บอกแม่งวันเรียนจบดีกว่าเนอะ” ไอ้ตั้มหัวเราะออกมา และส่งกล้วยทอดชิ้นที่กัดเหลือไว้ ให้ไอ้ทัตกินต่อ
ก็เป็นแบบนี้แหละ เป็นแบบนี้ทุกวัน เลี่ยงๆ ที่จะเจอกัน เพราะไม่อยากทำท่าจะโดดต่อยกัน อยู่ก็อยู่ด้วยกันแล้ว หลังจากที่เคยแยกกันอยู่ ก็มาอยู่ด้วยกันเลยหมดเรื่องหมดราว ทั้งที่ตีกันจะเป็นจะตาย แต่อยู่บ้านกลับสวีทกันหวานแหววดีกันจริงเล้ย
“อื้อ....สงสัยแม่งชักดิ้นชักงอกันตายเลย...ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” ไอ้ทัตหัวเราะดังลั่น เดินเคี้ยวกล้วยทอดไปเรื่อย ๆ จนถึงห้อง
คนที่เดินตัวปลิว รีบไขกุญแจห้องด้วยความรีบเร่ง เพราะละครกำลังจะมา
“เฮ้ย....ตั้มมาแล้วเนี่ย..เร็ว ๆ “ คนตัวสูงกว่าแกล้ง เร่งความเร็วให้อีกคนรีบไขประตูเข้าไป
และเมื่อห้องเปิดออกจุดหมายไม่ใกล้ไม่ไกล
เสียบปลั๊ก และเปิดโทรทัศน์เลือกช่องรายการที่จะดู
และก็เริ่ม เข้าสู่พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
นั่งกินข้าวกันไป
ดูละครน้ำเน่ากันไป
และไม่นานมันก็จะเริ่มเข้าสู่สเต็ปเดิม
เมื่อละครจบไอ้สองคนนี้ไม่ยอมจบพร้อมละครอยู่แล้ว
มันต้องมีภาคพระเอกนางเอก บอกรักกันก่อนนอนต่อ
เป็นเรื่องปกติประจำวัน
แล้วพรุ่งนี้น่ะเหรอ
เจอหน้ากันที่โรงเรียน ก็หาเรื่องตีกันต่อปายยยยยยยยยยยยย
สวัสดี
End
จบบริบูรณ์
แล้วอะไรอีกล่ะ ที่คนเขาใช้กัน
เวลาละครจบ
ก็นั่นแหละ เขียนเรื่องก่อนหน้าที่ไอ้สองคนนี้จะมารักกันจบแล้วจ่ะ
ขี้เกียจคิดมุกเขียนต่อแล้ว
**********************
(End)
จบได้สวยงาม แต่ชีวิตจริงของคนโพสตอนนี้ กลับพบว่าโลกใบนี้ ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด
เสียเพื่อน เสียเงิน เสียงาน เสียความรู้สึก เพิ่งมาค้นพบว่า เงินมันซื้อเพื่อนได้จริงๆ เสียเงินไม่เท่าไหร่ เสียความรู้สึกสิ มันแย่มาก คนที่เราไว้ใจ ไม่คิดว่าจะทิ้งตอนเราลำบากได้หน้าด้านๆ แถมยังด่าเราเสียๆหายๆ ให้อีกคนฟัง จนคนที่ได้ยินมาบอกขอให้เลิกคบกับเพื่อนคนนี้เถอะ ไม่ต้องบอกก็ต้องเลิกจริงๆแล้วล่ะ รับไม่ได้จริงๆ เห็นแก่ตัวสุดๆ ทำไมตอนเค้าลำบาก เราช่วยได้ เราก็ช่วย ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ต่างจากเค้าสักเท่าไหร่หรอก ไม่ได้ว่าตัวเองดีนะ แต่คิดว่ากว่าเราจะเปิดใจรับเค้าไว้ใจเค้าจนเรียกได้ว่าเพื่อนสนิท มันยากนะ เวลาเค้าเดือดร้อนเลยอยากจะช่วย เพิ่งมารู้ว่า ตัวเองไม่น่าสงสารเค้าเลย เกลียดตัวเองจริงๆ ทำไมต้องไปเห็นใจเค้าด้วย เหมือนผู้หญิงคนนี้ กำลังหมดแรง
ความคิดเห็น