ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #58 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ปู- ฝน (ตอน ทางออกสุดท้าย )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.82K
      14
      27 ก.ค. 53

     ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ปู- ฝน 

    ตอน ทางออกสุดท้าย










    "ผิดห้องแล้วแหละ...ฉันอยู่ห้องนี้มา 5 ปีแล้ว..ไม่รู้หรอกว่าเจ้าของเดิมเขาย้ายไปไหนน่ะ"

    คำตอบของเจ้าของห้อง ทำให้น้ำฝน ต้องเดินหิ้วถุงกับข้าวที่ซื้อมากลับบ้าน

    มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ทำไมจะต้องซื้อข้าวและกับข้าวมาให้คุณปูด้วย
    คนเราถ้ามีเงินมากมายขนาดเอาไปเล่นการพนัน และทำเรื่องไม่ดีได้บ่อย ๆ
    แล้วกะอีแค่ของแค่นี้ ทำไมจะไม่มีทางซื้อมาได้กันล่ะ

    หนุ่มร่างสูงใหญ่ เดินหิ้วถุงกับข้าว จากไปแล้ว พร้อมกับหัวเราะเสียงเบา
    เป็นอะไรกันนะ อย่างคุณปู มีหรือจะร้องไห้

    นั่นมันเล่ห์เหลี่ยมของคุณ
    ปูไม่ใช่เหรอ ฝนตกขนาดนั้น ใครจะรู้ว่าร้องไห้หรือไม่ร้องไห้

    กะอีแค่ซองมาม่าซองเดียว มิหนำซ้ำ เจ้าตัวเองก็ยัง ไถเงิน เป็นว่าเล่นอีกไม่ใช่เหรอ

    คิดถึงเหตุและผลแล้วก็นึกแปลกใจตัวเอง ทำไมถึงเป็นคนที่ช่างสงสารเขาไปทั่วอย่างนี้
    แบบนี้คงไม่ดีแน่ เพราะสักวัน คงจะโดนหลอกไปเรื่อย ๆ

    ภาพใบหน้าและรอยยิ้มของคุณปูยังติดอยู่ในความทรงจำ

    แปลกนะ คุณปูเวลายิ้มแบบนั้นแล้วน่ารักดีออก

    ไม่เหมือนคุณ
    ปู นิสัยอันธพาล เกะกะระรานใคร ๆ เขาไปทั่ว

    น้ำฝนเงยหน้ามองท้องฟ้า ที่ยังมืดครึ้มอยู่

    แต่ฝนหยุดตกแล้ว

    กับข้าวที่ซื้อมา เอากลับไปกินก็ได้ ปกติก็กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตลอด
    เพราะว่า ตอนนี้ พ่อแม่ให้ออกมาอยู่คนเดียวได้

    หนุ่มโสดล่ะนะ อยากมีชีวิตอิสระ


    ติดเกมส์ออนไลน์ซะจนไม่มีเวลาหาแฟน...คิดแล้วก็ตลกตัวเอง

    กลางวันเรียน

    แล้วก็ซ้อมเทควันโด้ จนถึงเย็น กลับมากินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
    และนั่งเขียนโปรแกรมเป็นค่าขนม บางครั้งก็นั่งเล่นเกมส์จนดึกดื่น

    ชีวิตช่างหาสาระไม่ได้เลยจริง ๆ

    แต่วันนี้คงต้องขอบใจคุณปูแล้วล่ะ ที่ทำให้ซื้อกับข้าวมามากมาย
    นาน ๆ ทีกินข้าวบ้างมันก็ดี การไม่ใช่คนเรื่องมากพิถีพิถันในเรื่องอาหาร
    มันก็ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพสักเท่าไหร่

    ตู้เย็นมีแต่น้ำดื่ม ในครัวมีแต่ซองมาม่ากับปลากระป๋อง

    ทำไมชีวิตถึงได้ไร้สาระอย่างนี้นะ

    น้ำฝน หัวเราะด้วยความขำ กับความไร้สาระของตัวเอง จุดมุ่งหมายก็ไม่มีสักอย่าง
    เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องไปทำงานบริษัทของพ่ออยู่แล้ว น่าเบื่อจังเลย
    ชีวิตของเขาช่างน่าเบื่อ....

    แต่ชีวิตของคุณปูคงไร้สาระกว่าเป็นไหน ๆ

    ตีสนุ๊ก

    เกเร

    เป็นอันธพาล

    รีดไถชาวบ้าน

    ดีนะที่เขาไม่เป็นคนแบบคุณปู ไม่อย่างนั้นแล้วพ่อแม่คงกลุ้มใจ น้ำฝนหนุ่มร่างสูงใหญ่
    เดินหัวเราะไปตามทาง ที่น้ำเจิ่งนอง ก้มมองเสื้อผ้าของตัวเองที่เปียกมอมแมม

    ฝีมือของคุณปูทั้งนั้น

    ขนาดถูกคุณปูแกล้งแบบนี้แล้ว ก็ยังไปนึกสงสารขึ้นมาอีก ตลกตัวเองชะมัด

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเลิกนิสัย สงสารเห็นใจ คนนั้นคนนี้เขาไปทั่ว โดยไม่มีสาเหตุสักที

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    "พี่ปู...คุณครูบอกให้ผลัดได้ถึงวันศุกร์เอง...." เสียงเล็ก ๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังนวดขาให้กับพี่ชายเอ่ยบอก พร้อมกับที่ไอ้ปู ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก

    "เดี๋ยวพี่จัดการเอง ... พอได้แล้วไป๊..ไปอ่านหนังสือเถอะ..พรุ่งนี้สอบใช่มั้ยล่ะไอ้กุ้ง"

    ฝ่ามืออุ่น ๆ เอื้อมลูบไล้เส้นผมน้องสาวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ และส่งยิ้มบาง ๆ อย่างอ่อนโยนให้

    เด็กหญิงตัวน้อย ดึงหนังสือเรียนออกมานั่งอ่าน และเหลือบมองใบหน้าของพี่ชายอยู่หลายครั้ง

    ร่างสูงนั้น เหม่อมองมองเพดานห้อง ที่อยู่สูงขึ้นไป

    ฝนตก ทำให้ฝ่าเพดานเป็นรอยน้ำ....

    ดวงตาคมเหม่อลอย เหม่อมองนิ่งอยู่อย่างนั้น คิดหาหนทาง ที่จะนำเงินมาเป็นค่าเทอมของน้องสาวให้ได้

    ก่อนจะถอนใจยาว เมื่อคิดจนหัวแทบแตกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี

    "ฮัดชิ่ว"

    อาการคัดจมูกตามรังควานเป็นระยะ และเริ่มรู้สึกว่าอุณหภูมิภายในห้อง เริ่มเย็นจัด

    "พี่ปู...พี่ไม่สบายเหรอ" น้องสาวหันมาถามและขยับเข้ามาใกล้พี่ชาย
    มือเล็ก ของเด็กหญิงสัมผัสที่หน้าผากของร่างที่นอนเหยียดยาวอยู่

    "พี่ปูตัวร้อนเหรอ...เดี๋ยวหนูจะไปเอาผ้าชุบน้ำมาให้นะ"

    เด็กหญิงทำท่าจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกสั่งห้ามเอาไว้

    "พี่ไม่เป็นอะไรน่ะ...อาการมันร้อนแค่นั้นแหละ...อ่านหนังสือไปเลยไอ้กุ้ง...แล้วอย่าเข้ามาใกล้พี่อีก เดี๋ยวเอ็งเป็นหวัด..."

    เสียงเอ็ดทำให้เด็กหญิงต้องจำใจ หันกลับไปอ่านหนังสืออีกครั้ง

    ไอ้ปูนอนมองน้องสาวที่ตั้งใจอ่านหนังสือ และอมยิ้มอย่างแสนภูมิใจ

    ท้องอิ่มมันก็ดีอย่างนี้

    ดูไอ้กุ้งมันไม่ทำหน้ามุ่ย และบ่นว่าหิวข้าวอีก แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ดีแล้วล่ะที่พรุ่งนี้เวลามันทำข้อสอบ
    มันก็ยังมีอาหารเย็นที่ตุนเอาไว้เหลืออยู่บ้าง

    พักกลางวันมันก็ยังมีข้าวกลางวันกินฟรี จากทุนอาหารกลางวันฟรีที่ทางโรงเรียนจัดให้กับเด็กนักเรียนยากไร้

    ใบหน้าของพี่ชาย หันกลับไปนอนเหม่อมองเพดานอีกครั้ง ก่อนจะปรือตาหลับลงอย่างช้า ๆ

    ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินจากที่ไหน

    ถ้าไม่มีทางเลือก คงต้องใช้วิธีนั้นจริง ๆ ล่ะมั้ง

    แค่คิดก็สมเพชตัวเองแล้ว.....คนเราไร้ศักดิ์ศรีได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ

    แต่ถ้ามันจำเป็นก็คงต้องทำ

    ว่าแต่...

    หน้าตาอย่างกูเนี่ย...จะมีใครเอามั้ยวะ
    ถ้าไปขายตัวจริง ๆ ... มันจะพอมีคนซื้อหรือเปล่า

    ขนาดอีเจ๊กระเทย ที่เป็นเจ้าของร้านที่ไปเสริฟ มันยังอยากเอาทำผัวเลย มันก็คงต้องมีคนหลงผิดบ้างล่ะว๊า

    ยิ่งคิดก็ยิ่งขำ

    ยิ่งขำก็ยิ่ง อยากร้องไห้

    ไม่นึกว่าตัวเองจะไร้ศักดิ์ศรีได้ขนาดนี้

    ถ้าไอ้กุ้งมันรู้ว่าพี่มันกำลังจะทำตัวเลว ๆ ทั้งที่สอนให้มันเป็นคนดีอยู่ทุกวี่ทุกวัน

    มันคงจะเสียใจน่าดู ที่มีพี่เฮงซวยอย่างกู

    .................................

    ดราม่าให้สะใจกันไปข้างนึงเลย TT__TT







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×