คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #49 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ภาคี-ต้นสน ตอน แล้วเราก็รักกัน (กอด)
แล้วไงต่อดี ในเมื่อต้นสนก็โอเคแล้ว จะรุกเร้าเลยดีมั้ย หรือจะยังไงดี
ภาคียังคงกอดต้นสนอยู่อย่างนั้นโดยไม่กล้าลงมือทำอะไรบุ่มบ่าม ก็ครั้งที่แล้วนั่นมันเลวสุดขั้ว ชั่วสุดขีด ทำให้ต้นสนต้องร้องไห้ คราวนี้ก็เลยรู้สึกเกร็งๆ กลัวๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก ก็เลยได้แต่กอดต้นสนนิ่งอยู่อย่างนั้น ครั้นจะให้ต้นสนลงมือเองก็คงไม่ไหว เพราะต้นสนก็เพิ่งเคยมีอะไรกับเขาคนเดียว แล้วครั้งนั้นก็เป็นครั้งแรกอีกต่างหาก แล้วจะทำยังไงดี
ภาคีค่อยโอบแตะสัมผัสมือเข้าไปภายในเสื้อนอน และก็พบว่าต้นสนของเขาถึงกับสะดุ้งเมื่อฝ่ามืออุ่นร้อนสัมผัสลูบไล้เข้าสัมผัสร่างกายเรียบลื่นนั้น
ทั่วทั้งห้องเงียบสงัดจนแทบได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ร่างโปร่งบางยังคงเอนซบอยู่กับร่างสูงอยู่ นี่เป็นครั้งที่สองที่ต้นสนกำลังจะทำอะไรแบบนี้ โดยที่แม้แต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าที่ทำลงไปจะดีหรือเปล่า
ฝ่ามืออุ่นร้อนเอาแต่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนนั้นอยู่นาน ไม่กล้าจะแตะต้องต้นสนสักที น่าแปลก สำหรับภาคีแล้ว เขาก็เป็นคนๆ หนึ่งที่เรียกได้ว่ามีคนมาพัวพันด้วยบ่อยๆ จะด้วยอะไรเจ้าตัวเองก็ไม่ค่อยรู้นัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เคยมีอะไรกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วนเหมือนกัน และต้นสนก็เป็นผู้ชายคนแรกที่ภาคีแตะต้อง แค่อยากลองอะไรแปลกๆ เพราะความคิดเลวๆ ของเขาตอนนั้น จากนั้นมาเขาก็ไม่มีตาจะไปมองใครได้อีกเลย ฟ้าคงส่งต้นสนมาปราบภาคีคนนี้ล่ะมั้ง
ภาคีถอนหายใจหนักๆ ทั้งที่กำลังกอดต้นสนอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ได้แต่ลูบไล้แผ่นหลังเนียนบางคนร่างเล็กกว่าไปมาอยู่อย่างนั้นไม่ได้ลงมือทำอะไรสักที
***********************
ยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นเป็นนาน แล้วภาคีก็เอาแต่ลูบหลังลูบไหล่ร่างบางอยู่อย่างนั้นจนต้นสนแปลกใจ ไม่ใช่ว่าจะกล้าหาญชาญชัยอะไรหรอก แต่เริ่มเข้าใจความรู้สึกของภาคีหลังจากที่อยู่ด้วยกัน เจอกันบ่อยๆ ก็พอจะอ่านความรู้สึกของร่างสูงนั้นได้บ้าง
ไม่ใช่เฉพาะต้นสนหรอกที่กลัว แต่ร่างสูงที่โอบกระชับร่างบางไว้แนบอกนี้ก็คงกลัวเหมือนกัน แม้จะไม่พูดแต่ต้นสนก็พอจะเข้าใจ แล้วถ้าต้นสนไม่พูดอะไรออกไป ภาคีก็คงไม่กล้าจะทำอะไรไปมากกว่ายืนกอดอยู่อย่างนี้แน่ ๆ
“ถ้าจะต้องฝืนกินผัดกระเพราเพราะพยายามจะชอบ...ก็อย่ากินเลยดีกว่า...ผัดกระเพราปลาหมึกจานนี้อาจจะไม่ถูกใจก็ได้” ต้นสนแกล้งพูดทีเล่นทีจริง มันไม่ต่างอะไรกับคำพูดยั่วยวนให้อีกฝ่ายกระทำตามที่ใจต้องการเลยสักนิด
แค่ได้ยินคำพูดของร่างในอ้อมแขน ภาคีก็ค่อยโล่งใจขึ้น เขากลัวแล้วก็กังวลจนเกินไป ในขณะที่ต้นสน...ยอมเทใจโอนอ่อนให้เขาจนหมดแล้ว แล้วอย่างนี้เขาจะปล่อยช่วงเวลานี้ให้ผ่านไปทำไงกันล่ะ
*************************
ภาคีจูงมือร่างโปร่งบางมานั่งลงบนเตียงแล้วก็คุกเข่าอยู่ตรงหน้า จับมือเล็กๆ นั้นเอาไว้และเงยหน้ามองร่างบาง
“ต้นสน...ถ้าเจ็บก็ต้องบอกว่าไม่เจ็บนะ” ภาคีเอ่ยบอกกับร่างบาง แล้วต้นสนก็พยักหน้าอย่างอายๆ ก็ดีเหมือนกัน
ไหนๆ ก็จะเลยเถิดกันขนาดนี้แล้ว ตกลงคุยกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แม้จะเขินๆ อายๆ ไปบ้างแต่ถ้าคุยกันอย่างนี้ก็คงดี โชคดีที่เป็นผู้ชายเหมือนกันเลยคุยกันได้ง่ายหน่อย
“พี่พอจะมีของช่วยลดความเจ็บปวดได้บ้าง...ใช้นะ..” ภาคีขออนุญาตร่างโปร่งบางที่นั่งหน้าแดงอยู่ เขากังวลใจมาก ยังไงถ้าจะทำอะไรอย่างนี้ก็น่าจะให้อีกฝ่ายไม่ต้องบาดเจ็บแล้วก็รู้สึกดีไปพร้อมๆ กัน ไม่อยากให้เหมือนข่มขืนต้นสนเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว ไม่อยากเห็นต้นสนร้องไห้อีก
“ถ้า...ถ้าต้นสนไม่ชอบอะไร...ไม่พอใจอะไรต้องบอกพี่ทันทีนะ..พี่จะไม่ฝืนต้นสนเด็ดขาด...แล้วต้นสนก็อย่าฝืนรู้มั้ย” ภาคีนั่งคุยกับต้นสนอยู่อย่างนั้น
จากไม่เคยพูด กลายเป็นว่าทั้งหลักการ ทฤษฎีต่างๆ ภาคีขุดยกมาจนหมด และร่างโปร่งบางก็พยักหน้ารับอีกครั้ง
อย่างเขินอาย
ภาคีค่อยยิ้มได้ ภาคทฤษฎีคงจะหมดเพียงแค่นี้แล้ว
ตอนนี้ก็คงเหลือแต่ภาคปฏิบัติเท่านั้นเอง
............................................................
ตอนหน้าได้กินกระเพราปลาหมึกแน่ๆ อิอิ
ความคิดเห็น