คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #163 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค อารยะ-อิท (ตอน คนขี้อาย )
หายป่วยแล้ว ก็ซ่าได้เหมือนเดิม อารยะนั่งมองคนป่วยสามวัน ที่ไม่เหลือเค้าของคนป่วยเลยในวันนี้
ร่างนั้นเดินว่อนไปว่อนมา และชะโงกหน้าเข้าไปดูลูกสาว ที่นอนอยู่ในเปล ให้ย่าเล็กไกวเปล แล้วก็เห็นว่าโดนเอ็ด ให้ถอยออก เพราะกลัวจะเอาไข้หวัดไปติดแยมเอาได้
เห็นเจ้าตัวเดินบ่น แล้วอีกซักพักก็เดินกลับไปที่เปลอีก แล้วก็โดนไล่ออกมาอีก
เป็นแบบนี้กี่รอบแล้ว ไม่เห็นจะหยุดเดินเลย
แล้วอารยะก็ได้แต่หัวเราะคนเดียวเงียบ ๆ ทุกครั้ง ที่เห็นอิทธิพลเดินบ่นพึมพำคนเดียว
สุดท้าย เลยต้องลุกขึ้นยืนและเดินไปลากแขนคนที่เพิ่งหายป่วย ออกมาให้ห่างจากแยมที่นอนเล่นอยู่ในเปล
"ดึงทำไมวะ กูจะเล่นกับแยม ยุ่งจริงเว้ย แม่ง"
อิทธิพลหันมาเอ็ดคนที่ดึงแขนให้เดินมานั่งที่เก้าอี้ด้วยกัน
"เข้าห้องได้แล้ว นอนได้แล้ว ไปนอนเลย เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้วเนี่ย ทำไมชอบนอนดึก เดี๋ยวไข้กลับอีก ซ่าดีจริง ๆ ไปเร็ว เข้าห้อง ได้แล้ว ไปนอน ไปนอน"
ไอ้ยะ นี่มันเป็นพ่อกูตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ชอบสั่งชิบหายเลย ข้าวมันก็จะป้อน แถมจะเช็ดตัวให้อยู่ได้ กามชิบหายเลยแม่ง เช็ดไม่เช็ดเปล่า มีแตะนั่นแตะนี่ตามใจชอบ นึกว่าไม่รู้หรือไง ว่ามึงอ่ะ แม่งบ้ากาม โห่ เห็นชัดเลย ไอ้สายตาวิบวับ วิบวับของมึงอ่ะ แม่ง มองมาก ๆ มันก็อายนะเว้ย
ก็มัน.........ก็มัน.........อ่อนโยนเกินไป เกินปกติอ่ะ เลยเขิน ทำตัวไม่ถูก ไม่นึกว่ามันจะทำอะไรแบบนี้เป็น ก็เลยทำตัวไม่ถูกขึ้นมา
อิทธิพลเดินตามคนที่จูงมือให้เข้าห้อง กำลังจะนั่งบนเตียง แล้วเตรียมอ้าปากด่า เรื่องนั้นเรื่องนี้ซะหน่อย
ก็พอดี กับที่ไอ้คนจูงมันนั่งก่อน แล้วใช้มือตีขาตัวเอง แปะ แปะ สองที แล้วมันจะตีทำห่าอะไรของมันวะนั่น ตีไม่ตีเปล่า มองหน้าอีก มองแบบยิ้ม ๆ อีก
"นั่งตัก...มาเร็ว"
อารยะเรียกคนที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าให้นั่งลงมา แต่อิทธิพลกลับทำหน้าไม่ถูก เมื่อได้ยินคำชวนของอารยะ ที่นั่งยิ้มกริ่ม
นั่งตัก ห่า นั่งตัก กูเนี่ยนะ นั่งตัก เคยให้แต่สาวนั่งตัก ให้แยมนั่ง แล้วนี่ให้กู นั่งตักมัน นั่งตักไอ้ยะเนี่ยนะ ควายเหอะ ไม่เอาด้วยคนหรอกแม่ง
"เร็ว....นั่งนี่มาเร็ว"
เมื่อเห็นว่าอิทธิพล ยังยืนนิ่ง อารยะก็เลยดึงให้ลงมานั่ง แต่ก็เห็นว่าเจ้าตัวขืนตัวเอาไว้แถมยังส่ายหน้าไม่ยอมมาอีก
อะไร คนเป็นแฟนกัน ไม่เห็นแปลกเลย นั่นไง ว่าแล้ว เขิน เขินนี่หว่า หน้าแดงแล้วนั่น เออคนเรานี่แปลกดีนะ ทีทำอะไรทะลึ่ง ๆ ไม่เขิน พอจะกอดจะหอมหน่อย แทบจะถีบให้ติดฝา ไม่ยอมให้ทำ ไอ้อิทนี่มันเป็นคนยังไงกันวะเนี่ย
"นั่งตักมึงเหรอ ไอ้บ้า กูไม่บ้ากับมึงหรอก กูนอนดีกว่า"
นี่แหละวิธีหนีของเขาเลย ไอ้คุณ
"นะ นั่ง นั่ง เร้ว น้องอิท"
เมื่อเห็นว่า อิทธิพลเอาแต่ปฏิเสธ อารยะก็เลยต้องเรียกด้วยการพยักหน้า แล้วเรียกชื่อเล่นที่แม่ของอารยะใช้เรียกชื่อของอิทธิพล
แล้วก็ได้เห็นว่า นอกจากไม่นั่งแล้ว ไอ้อิทมันยังด่าเข้าให้อีก
"ไม่นั่งโว้ย กูจะนอนแล้ว กูง่วงนอน"
คนที่เคยออดอ้อน น่ารัก เมื่อสามวันก่อน หายไปแล้ว เหลือแต่อิทธิพล ที่โรแมนติกไม่เป็น หวานไม่เป็น คนเดิม ที่กลับมา
ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ ของคนชวนให้นั่งตัก เลยขมวดคิ้วมุ่น แล้วก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ น้ำเสียงที่ร่าเริง กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
เคร่งขรึมเหมือนเดิม
"อือ นอนก็นอน งั้นเดี๋ยวกลับบ้านแล้วแหละ อย่านอนดึกมากนักก็แล้วกัน เดี๋ยวไข้กลับ"
อารยะที่ทำท่าจะลุกขึ้นยืน ใบหน้าเคร่งขรึม นั้นทำให้อิทธิพลใจเสีย
อ้าว ทำไมง่ายอย่างนี้ล่ะ กลับจริงเหรอ เพิ่งมาแป๊บเดียวเอง จะไปแล้วเหรอ
"กลับแล้วจริงเหรอ ไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอ...." ไม่เคยง้อใคร แต่ง้อไอ้ยะ กูต้องบ้าแน่ ๆ เลย จะกลับก็กลับสิวะ ทำไมกูต้องไปรั้งมันด้วยเนี่ย
"อือ กลับแล้ว ไปนะ" อารยะเอ่ยบอกและทำท่าว่าจะกลับจริง ๆ นั่นแหละ คนดื้อ ๆ หวานไม่เป็นก็เลยหน้างอ
"ไม่อยากนั่งตักหรอก ตัวหนักขนาดนี้ กูกลัวมึงเมื่อยขา ไม่ได้ตัวเบา ๆ เหมือนสาว ๆ นี่"
น้ำเสียงที่งอแง งอแง ตัดพ้อ เหมือนเด็ก ๆ อิทมันรู้บ้างมั้ย ว่าทำแบบนี้ มันทำให้ไอ้ยะคนนี้ยิ้มได้
อ๋อ เพราะกลัวว่าจะบ่นว่าตัวหนักนี่เอง ถึงได้งอแง เอ้อ แบบนี้ นี่เขาเรียกว่าน่ารักแล้วแหละ อิทเอ้ย
"ก็ไม่นั่งแล้วจะรู้เหรอ ว่าบ่นหรือไม่บ่นว่าหนัก แล้วนั่งมั้ยล่ะ ดิ เร้ว เดี๋ยวกลับแล้วน๊า มาให้ชื่นใจหน่อยเร็ว น้องอิท"
ก็เพราะล้อแบบนี้ไง กูถึงไม่อยากจะเข้าใกล้มึง เรียกมาได้น้องอิท น้องอิท อยู่ด้วยกันทีไร แม่งเรียกงี้ทุกที ทุเรศชิบหาย อิทธิพลเดินปึงปัง มาล้มตัวลงนั่งที่หน้าขาของอารยะ แบบเซ็ง ๆ แถมยังทำหน้าบึ้ง นั่นยิ่งทำให้อารยะหัวเราะชอบใจ
หน้างอหงิก แต่แก้มแดง แถมหันหน้าไปอีกทาง จะมองเห็นเหรอแบบนั้น
มือที่วางอยู่ของอิทธิพลถูกอารยะจับให้มาโอบรัดที่รอบคอของตัวเอง แล้วอิทธิพลก็เลยต้องจำใจทำตาม แต่ในใจกลับเต้นระทึก
เขินว่ะ ให้ทำเหี้ยอะไรของมันวะเนี่ย กอดเกิดห่าอะไรวะเนี่ย อายว่ะ
"ไหนหนัก ไม่เห็นหนักเลย"
คำพูดเรียบเรื่อย พร้อมกับที่อารยะเงยหน้าขึ้นมอง คนหน้างอ แล้วก็เลยโอบรัดรอบเอวของร่างนั้นเอาไว้แน่น
แล้วก็เลยนิ่งกันไปทั้งสองคน
นั่งกันเงียบ ๆ นิ่ง ๆ ไม่ได้คุยอะไรกันอยู่อย่างนั้นเป็นนาน
เรียวแขนที่โอบรอบคอของอารยะจึงค่อยกระชับแน่นขึ้น พร้อมกับที่ร่างที่นั่งนิ่ง ๆ อยู่ด้านบนค่อยแตะปลายจมูกเข้าที่แก้มของคนให้นั่งตัก
และผละออกอย่างช้า ๆ
อารยะยังนิ่งเงียบอยู่เหมือนเดิม แต่ภายในใ หัวใจกำลังเต้นรัว แทบไม่เป็นจังหวะ
ไอ้อิท อยู่ดี ๆ มาหอมแก้มเฉยเลย คิดอะไรของมันกันล่ะเนี่ย บทจะน่ารักขึ้นมา มันน่ารักขาดใจเลย
ใบหน้าที่เคร่งขรึม เงยหน้าขึ้นมองคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แถมมองไปทางอี่น เหมือนไม่รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น นั่นยิ่งทำให้อยากหัวเราะแทบตาย
อิทหนออิท ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี ให้ตายเถอะวะ
"นี่ถ้าไม่ติดว่า สัญญาคือวันอาทิตย์นะ จะซัดซะวันนี้เลย แต่ต้องกลับบ้านแล้ว ไหนมาหอมทีดิ คืนนี้จะได้นอนหลับ ไม่งั้นเดี๋ยวคิดถึงตายเลย"
แม้จะพูดออกไปอย่างนั้น แต่อิทธิพลก็ยังแกล้งลอยหน้าลอยตาทำเหมือนไม่ได้ยิน จนอารยะต้องเงยหน้าไปแตะปลายจมูกเข้าที่แก้ม และผละออก
เจ้าของแก้มหอม ๆ ก็ยังทำเหมือนไม่สนใจกันอีก แต่หน้ายิ่งแดงไปกันใหญ่
เฮ่อ คนเรา ฟอร์มมันเยอะจริง ๆ น่าจะป่วยนาน ๆ เวลาป่วย น่าร้าก น่ารัก อ้อนอ้อนแบบนั้น น่ารักดีจะตาย แต่พอหายแล้ว ฟอร์มจัดจริง ๆ
อิทธิพลลุกขึ้นยืนแล้วอย่างเสียดายเล็ก ๆ
จริง ๆ แบบนี้ก็ชอบ แต่มันเขิน ไม่รู้เป็นอะไร พอทำอะไรแบบนี้แล้ว มันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะพูดอะไร แล้วก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงด้วย
มันแปลก ๆ อาศัย ทำเป็นนิ่ง ๆ เข้าไว้ คงพอกลบเกลื่อนความอายไปได้บ้าง นิด ๆ หน่อย ๆ
"นอนดีกว่า ดึกแล้ว เอ้า มาเร็ว เดี๋ยวห่มผ้าให้"
อารยะวางมือลงบนหมอน และเรียกให้อิทธิพล มานอนบนเตียง ร่างนั้นทิ้งกายลงนอนอย่างว่าง่าย และจ้องมองคนที่ส่งเข้านอนตลอดสามวันที่ผ่านมา
ใจหายพิกล จะกลับแล้วนี่หว่า มาหาแป๊บเดียวเอง แล้วก็กลับ เหงา ๆ ยังไงไม่รู้ว่ะ กูเป็นบ้าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
"อย่าจ้องสิ หลับตาได้แล้ว อิทหลับแล้วเดี๋ยวค่อยกลับก็ได้"
อารยะนั่งอยู่ที่ข้างเตียง และจับมือของอิทธิพลเอาไว้ เป็นแบบนี้มาตลอดสามวัน จนเหมือนเป็นเรื่องปกติ แล้วก็มีเรื่องนี้เรื่องเดียวจริง ๆ ที่อิทมันไม่งอแง
ถ้าจับมือก่อนนอน มันจะไม่ว่าอะไร แต่จะยอมให้จับดี ๆ
สิ่งที่อารยะไม่ทันได้คิด แล้วก็เพิ่งได้รู้ก็คือ ไม่นึกว่าตัวเองจะเป็นคนแบบนี้ไปได้
คนที่ทำอะไรเลี่ยน ๆ หวาน ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ นี่เป็นตัวของตัวเองหรือเปล่า แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ
รู้แต่ว่าอยากทำ ทำแบบนี้แล้วมีความสุข แล้วก็ชอบมากด้วย
แต่คนที่ไม่เข้าใจตัวเองมากกว่า ก็คืออิทธิพล
ถูกกอด ก็เขิน
ถูกหอมแก้ม ก็เขิน
ถูกทำนั่นทำนี่ มันเขิน ๆ อาย ๆ แปลก ๆ แต่มีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ
แปลกดี คนรักกัน เขาเป็นแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่า
แต่ที่รู้แน่ ๆ ก็คือ ตอนนี้มีความสุข มีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ แทบไม่น่าเป็นไปได้เลย คนที่แทบจะฆ่ากันตายเพราะความแค้นใจเมื่อหลายเดือนก่อน
จะรักกันได้มากขนาดนี้ ตลกนะเนี่ย คนเรานี่ก็แปลก ทั้งที่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้ได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว
อารยะผุดลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ เมื่อรับรู้ได้ว่า คนบนเตียง ผล็อยหลับไปแล้ว จึงได้ก้าวเดินไปปิดไฟให้
ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่นอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียง และส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนไปให้
"ฝันถึงกันบ้างนะอิท" อารยะเดินจากไปแล้ว
ห้องทั้งห้องมืดมิดลง แต่ดวงตาของอิทธิพล กลับค่อย ๆ ปรือขึ้น และหันไปมองคนที่เดินออกจากห้อง
จ้องมองแผ่นหลังที่จากไป แล้วเอ่ยบอกเสียงเบา
"ไอ้ยะ....น้องอิทรักมึงวะ...เหี้ยแม่ง..กูไม่ชอบเลย น้องอิท น้องเอิท ห่าอะไรวะ ทุเรศชิบหาย"
เสียงบ่นงึมงำกับตัวเองในความมืด พร้อมกับที่ใบหน้าคมอมยิ้ม เพราะอายตัวเอง และรีบดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเอาไว้ พร้อมกับขบริมฝีปากแน่น
แม่ง ไอ้อิท ไอ้อิทททททททททททท มึงพูดเหี้ยอะไรของมึงไปวะเนี่ย ไอ้ห่าอิทเอ้ย อายมั้ยล่ะเนี่ย อายโว้ยยยยยยยยย พูดเหี้ยอะไรไปวะเนี่ยกู
บอกแล้ว ว่าภาคนี้มันน่ารักสุดใจขาดดิ้น
ความคิดเห็น