คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #104 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ปัง-ปอนด์ (ตอน เรื่องที่คุยครั้งแรก)
“แม่...แล้วแม่จะให้ปังกลับไปเจออะไรเหมือนเดิมอีกเหรอ...ปังไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับมันแล้ว..แค่นี้แหละ”
ไอ้ปังกดวางสายหลังจากได้คุยกับแม่เรียบร้อยแล้ว
แม่ยังจะให้เขากลับไปเจอไอ้ห่านั่นอีก แค่เขาไม่แทงมันตายก็น่าจะพอแล้ว
นี่จะให้เขากลับไปเจอไอ้สารเลวนั่นอีกหรือไงกัน ยังไงก็ไม่กลับไปเด็ดขาด
หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่มีทางกลับไป
ไอ้ปังถอนหายใจเฮือกใหญ่ เงยหน้าขึ้น ให้น้ำตามันไหลกลับคืนไปให้หมด
เสียเวลาเปล่าน่ะไอ้ปัง มึงเกิดมาทำไมบนโลกนี้วะเนี่ย
เกิดมาเป็นแต่ภาระ ตาย ๆ ไปไม่ดีกว่าเหรอวะ
อยู่ไปก็เท่านั้น แม่งเอ้ย เดินให้รถเหยียบตายไปเลยดีมั้ยเนี่ย
ไอ้ปังยืนเหม่อมองรถที่แล่นไปมา และบอกตัวเองไว้
ไม่เจ็บหรอกปัง
แค่วิ่งไปแล้วก็หลับตาแค่นั้นแหละ
แล้วทุกอย่างมันก็จะจบลงแล้ว
หยุดเรื่องบ้า ๆ หยุดทำตัวเป็นภาระกับคนรอบข้างทันที
น้ำตามันทำท่าจะไหลออกมาอีกแล้ว
ช่างหัวแม่งเหอะ ตายไปแล้ว
อย่างมากมูลนิธิก็มาเก็บศพ แล้วตอนนั้นก็คงไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
ขากำลังจะก้าวเข้าไปให้รถชน แต่ก็ช้ากว่าใครอีกคน
ที่เร่งปั่นจักรยานมาให้เร็วที่สุด และแทบไม่ต้องจอด
ไอ้ปอนด์ปล่อยจักรยานล้มคว่ำแล้วรีบวิ่งเข้าไปกระชากตัวของคนตัวเล็กกว่าออกจากริมถนนทันที
“มึงจะทำอะไรวะ.......จะฆ่าตัวตายหรือไงวะ”
ร่างสูงหนาล็อคตัวคนตัวเล็กกว่าที่ดิ้นรนขัดขืน
ให้ออกห่างจากริมถนนให้ได้
ท่ามกลางไทยมุงที่ยืนมุงกันใหญ่
“ปล่อย....ปล่อย....ปล่อยสิวะ....ตาย ตายแม่งเลยดีกว่า...อยู่ไปก็มีแต่ภาระ..ให้ตายเถอะ..ปล่อยให้ตายไม่ได้หรือไงวะ แม้แต่ชีวิตตัวเอง ยังไม่ให้ตายอีกหรือไงวะ...ฮือออออออออออ”
คนตัวเล็กในชุดชอร์ปปกเสื้อบ่งบอกว่าเป็นของแผนกช่างยนต์ดิ้นรน และร้องไห้หนักขึ้น
“อายชาวบ้านเขามั่งดิ ... มึงจะดิ้นทำไมห๊า...อายเขามั่งสิวะ” ไอ้ปังตะคอกเสียงดัง จนคนตัวเล็กกว่า
ยอมหยุดดิ้นรนแล้ว เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็พบกับคนที่พากันมองและซุบซิบนินทา
“มึงจะกินอะไรหรือเปล่า....”
ไอ้ปอนด์พยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นการปลอบโยนมากที่สุด
ไม่อยากจะปลอบเล้ย โมโหมันจะตาย ไม่รู้จักรักชีวิตตัวเอง
ทำอะไรงี่เง่าอย่างนี้ เห็นอีกครั้งจะตบหัวให้ โทษฐานที่ไม่รู้จักรักตัวเอง
มันไม่เคยคุยกับไอ้ปังแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่คือครั้งแรกที่ได้คุยกัน แล้วไอ้ปัง ก็เสือกทำอะไรโง่ ๆ อีก
ร่างเล็กก้มหน้านิ่ง ส่ายหน้าไปมา เก็บซ่อนหยาดน้ำตาเอาไว้ ไม่มิด เมื่อมันค่อย ๆ ไหลลงอย่างช้า ๆ
ยังเอามือขยี้ตา น้ำตามันก็ยิ่งไหลไม่หยุด
“กูรู้แล้วว่าต้องซื้ออะไร......” คนตัวสูงลากแขนให้ปังให้เข้าไปในร้านสะดวกซื้อด้วยกัน
และซื้อกระดาษทิชชู่ม้วนเล็ก ๆ หนึ่งม้วน ขนมขบเคี้ยวสองสามห่อ และเบียร์กระป๋องแช่เย็น ครึ่งโหล
ดึงแขนไอ้หนมปังให้เดินตาม
“อันนี้กินมั้ย.....” ร่างสูงหันหน้ามาถามคนที่โดนลากไปลากมา หยิบขนมหลายอย่าง
ไม่รอฟังคำตอบก็หยิบ ๆ ใส่กระเช้า แล้วก็เอาไปคิดเงิน
ก่อนจะหิ้วถุงใบใหญ่ไปใส่กระเช้าจักรยานและยกโทรศัพท์โทรไปหาตั้มเพื่อนรักทันที
“เอ้ยเพื่อนตั้ม....ไอ้เตี้ยมันอยู่กับกูนะตั้ม....บอกผัวมึงด้วยแล้วกัน...เดี๋ยวเย็น ๆ กูจะพามันกลับ
มีเรื่องนิดหน่อยแต่ไม่มีอะไรมากไม่ต้องห่วง....เออ...กูไม่เอามันไปหมกป่าหรอก
บอกผัวมึงด้วย....ถ้ากูรู้ว่ามันทำอะไรมึง...กูจะกลับไปกระทืบมัน...ไม่ต้องกลัวมันนะตั้ม
มีกูอยู่ทั้งคน เออ...เออ .... แค่นี้แหละ....”
ร่างสูงกดวางโทรศัพท์ไปแล้ว และหันมองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ป่ะ....” ไอ้ปอนด์เรียกให้คนตัวเล็กกว่าซ้อนท้ายจักรยาน และไอ้ปังก็ขึ้นซ้อนอย่างงง ๆ
“ไปไหน....ไม่กลับห้องเหรอ....” ไอ้ปังเกาะเอวคนปั่นจักรยานแน่น เพราะกลัวตก
คน ๆ นี้กำลังโกรธ แต่โกรธอะไรอยู่เขาก็ไม่เข้าใจ
ทำไมกันล่ะ แค่จะตายแค่นี้ ก็ไม่มีสิทธิ์ใช่มั้ย น้ำตามันไหลออกมาอีกแล้ว
ทำไมกูถึงเป็นคนขี้แยอย่างนี้นะ
อายชาวบ้านจะแย่แล้ว
แล้วยังต้องมาทำให้คนที่รังเกียจตัวเองต้องมารำคาญใจอีก
“เดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละ...” ร่างสูงตอบ
ไอ้ปอนด์ปั่นจักรยานเข้ามาที่สวนสาธารณะที่ไม่มีคนเข้ามาใช้มากนักในตอนเกือบบ่าย จอดจักรยานไว้
และลากให้ไอ้หนมปังลงมานั่งที่สนามหญ้าใต้ต้นไม้ด้วยกัน
พร้อมทั้งหิ้วถุงใบใหญ่บรรจุของกินนั้นมาด้วย
“ถอดชอร์ปออกดีกว่ามั้ย....เดี๋ยวคนเขาหาว่าเด็กสถาบันเราแดกเหล้าแดกเบียร์ตอนเที่ยงวัน”
ไอ้ปอนด์เอ่ยบอกกับคนที่นั่งตาแดงอยู่ข้าง ๆ
และไอ้หนมปังก็ถอดชอร์ปออกเหลือเพียงเสื้อยืดตัวหลวมที่สวมไว้ภายใน
มือแกร่งเปิดกระป๋องเบียร์ส่งให้กับคนที่นั่งข้าง ๆ
บังคับขู่เข็ญให้มันกินเข้าไป
กระป๋องที่ 1
กระป๋องที่ 2
กระป๋องที่ 3
และยังแกะขนมยัดเข้าปากไอ้หนมปังไปจนหมด
โดยที่ตัวเองไม่ยอมแตะเบียร์ แตะขนมเลย
จนไอ้ปังเริ่มมึน.....ผิวขาว ๆ แดงเรื่อ ดูน่ารักไปอีกแบบ จากไม่ยอมพูดก็เริ่มพูดจาอะไรไปเรื่อย
เหมือนบ่นงึมงำอะไรสักอย่าง จับใจความได้ว่าเป็นเรื่องที่บ้าน
เป็นเรื่องพ่อเลี้ยง เรื่องครอบครัว
และอะไรอีกหลายอย่าง ที่ไอ้ปังมันเก็บไว้ในใจมานาน
มันก็พูดไปเรื่อย ๆ พูดไม่ยอมหยุด
“เกิดมาก็ซวย ซวยไปจนตาย.....อยากตายก็ไม่ได้ตาย....ทำไมมันซวยอย่างนี้”
ไอ้ปังดึงเบียร์กระป๋องที่ 4 และ 5 ออกมานั่งมอง ก่อนจะกรอกมันลงคอไปอีก
อย่างไม่กลัวเมา
และมันก็เมาแล้วจริง ๆ มองอะไรก็เบลอไปหมด
กรอกเบียร์เข้าปากไปอีก ดีเหมือนกัน เมาไปเลย เมาให้ตาย ๆ ไปเลยก็ดี
จะได้จบเรื่องจบราว
ร่างสูงนั่งมองคนที่กรอกเบียร์เข้าปากไม่ยั้ง นัยย์ตากลมโต แดงก่ำ หรี่ปรือ
และเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ในขณะที่ปากก็กรอกเบียร์เข้าปาก
แต่มืออีกข้างก็ยกขึ้นปาดน้ำตา
จนไอ้ปอนด์อดใจไม่อยู่ ต้องดึงม้วนกระดาษทิชชู่มาส่งให้ ไอ้ปังเช็ดน้ำตา
และมันก็สาวม้วนกระดาษทิชชู่เล่น หันมาหัวเราะ ทำเหมือนเรื่องสาวกระดาษทิชชู่เป็นเรื่องสนุก
แล้วมันก็ร้องไห้ พูดจาไม่รู้เรื่องอีก
ไอ้ปอนด์นั่งมองพฤติกรรมของคนตรงหน้านี้ไปเรื่อย ไอ้ปังมันพูดอยู่คนเดียว ไม่สนใจเขาเลย
ว่ากำลังนั่งมองมันแล้วก็ขำ อยากขำก็อยาก สงสารก็สงสาร จนดูท่าไอ้หนมปังมันคงจะไม่ไหวแล้วนั่นแหละ
เขาถึงดึงให้มันนอนหนุนตัก โดยเอาเสื้อชอร์ปของมันรองหัวไว้
ไอ้ปังเวลาเมา มันก็ว่าง่ายดีจริง ๆ บอกให้นอนมันก็นอน
ฝ่ามืออุ่น ๆ แตะที่ใบหน้าร้อนผ่าว เพราะแอลกอฮอล์ ของคนเมาที่คุยอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว
และหัวเราะเสียงเบา
“กลุ้มก็เมามั่งเหอะวะ....กูจะอยู่เป็นเพื่อนเอง” ไอ้ปอนด์ นั่งมองหน้าคนที่หนุนตักอยู่
คนตัวเล็กกว่ายังนอนร้องไห้บ่นงึมงำ
และร่างสูงก็เอนหลังพิงร่างกับต้นไม้ และหลับตาลงนอนพักผ่อนในยามบ่ายคล้อยนั้น
โดยมีไอ้ปังนอนร้องไห้บ่นงึมงำหนุนตักอยู่ด้วย
และในไม่ช้ามันก็หลับไปพร้อม ๆ กัน ในเวลาไม่นานนัก
TBC
..
หาเพื่อนไปดูหนัง สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ไม่อยากไปนั่งดูคนเดียว มันเหงา คนไหนว่างบ้างไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ
ความคิดเห็น