ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #39 : ตอน ความรู้สึก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.44K
      12
      13 มี.ค. 54

     ตอน ความรู้สึก 













    กินข้าวเสร็จแล้ว ดีใจมั้ย ดีใจมากเลยเนอะ ฮ่า ฮ่า กินข้าวเสร็จก็ดูหนังไง ตามฟอร์ม ไปดูหนัง หนังเรื่องอะไรดี ดูเรื่องอะไรดีนะ

    ทำหน้าให้ร่าเริงเข้าไว้

    ทำใจซะ ทำใจ ไม่มีอะไรเลย ดูหนังกินข้าว ปกติธรรมดา แค่มากับไอ้อ้อนแค่นั้นเอง นี่ไง ไอ้อ้อน ตัวเล็กเดินลากขาเป๋ ๆ มาด้วยแล้ว

    ทานตะวัน อยากจะหัวเราะให้ดัง ๆ อยากจะหัวเราะให้คนทั้งโลกได้รับรู้ด้วย

    รับรู้ว่าหลังจากเหตุการณ์ในร้านอาหารเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนผ่านไป ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เป็นปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

     
    ทานตะวันยังคงเป็นทานตะวัน

    อ้อนก็ยังคงเป็นอ้อน

    แต่มีบางอย่างที่ต่างออกไปเล็กน้อย

    นั่นคือ ทานตะวันร่าเริงเกินเหตุ พูดมากเกินเหตุ หัวเราะเกินเหตุ เห็นอะไรขำไปหมด ขนาดเลือกหนังผี มองภาพผียังตลก

    ส่วนอ้อน ทำได้แค่ทำหน้าเรียบเฉย และไม่ได้ออกความคิดเห็น แม้จะถูกถามกี่ครั้ง คำตอบก็ยังคือความเงียบเหมือนเดิม

    ไม่นานความอดทนของคนที่มองเห็นอะไรเป็นเรื่องตลกไปหมด ก็มีอันสิ้นสุดลง

    เมื่อสายตาหันมาหาคนที่ยืนหน้าเครียดอยู่ข้าง ๆ

    "ไม่อยากดูแล้ว ไม่มีอะไรน่าดู เกลียดการดูหนัง เกลียดทุกอย่าง เกลียด จะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แล้ว"

    พูดแค่นั้น แล้วใบหน้าที่พยายามจะฝืนยิ้มฝืนหัวเราะมานานครึ่งชั่วโมงก็บูดบึ้งทันที พร้อมกับทีคนตัวโตรีบก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ลงมาที่บันไดเลื่อน โดยมีอ้อนพยายามเดินตามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

    เกิดอะไรขึ้นเมื่อครึ่งชั่วโมงในร้านอาหารงั้นเหรอ

    "รักทานเถอะ...ขอร้องล่ะ"

    เวลาพูด นึกถึงใจคนฟังบ้างมั้ย ว่าจะรู้สึกยังไงคงไม่รู้สึกอะไรเลยสินะ ถึงได้พูดออกมาแบบนี้
    อ้อนนั่งจ้องหน้าของทานตะวันนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น

    ส่วนทานตะวันก็จ้องหน้าของอ้อนจนแทบไม่กระพริบตา

    เงียบ บรรยากาศเงียบซะจนเหมือนโลกนี้มีกันอยู่สองคน ไม่สนใจนรอบข้าง หรือใคร ๆ อีกเลย

    "กูล้อเล่นน่ะ....รักอะร้ายยยยยยยยย มันเป็นวิธีการจีบเล่น ๆ สนุก ๆ แค่นั้นเอง คนเรามันต้องมีเล่ห์เหลี่ยมบ้างสิ จะให้มารักจริงอยู่คนเดียว ชีวิตนี้จะไปหาความสุขได้ยังไง"

    เสียงของคนที่อยู่ที่โต๊ะห่างออกไป ปลุกความคิดของอ้อนให้ตื่นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ

    ไม่ได้ตั้งใจฟัง ไม่ได้อยากฟัง ไม่ได้แอบฟังแต่ก็ได้ยิน และยังได้ยินเสียงหัวเราะตามมาเหมือนอยากจะเยาะเย้ย

    เชื่อความรู้สึกของตัวเองในครั้งแรก หัวใจเต้นระรัว สั่นระทึก

     

    แต่ในนาทีต่อมา แค่เพียงข้อความสะกิดใจ กลับทำให้ความเชื่อมั่น ถูกขยำทิ้งและขว้างลงพื้น
    เหมือนกำลังถูกเหยียบย่ำเยาะเย้ยด้วยเสียงหัวเราะของใครคนหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกัน

    ทานตะวันลุกพรวดพราดขึ้น หันไปมองไอ้ตัวต้นเหตุให้เต็มตา แล้วก็ตะโกนด่าออกไปเสียงดังลั่น

    "มึงอยากมีเรื่องนักใช่มั้ยวะ"

    เพียงแค่นั้น ทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัย ทั้งคนทั้งร้าน แทบลุกขึ้นหนี เพราะหวุดหวิดจะมีการวางมวย
    โชคดีที่เพื่อนของคู่กรณีลากเพื่อนปากหมาออกไปได้

    พอ ๆ กับที่เมื่อทานตะวันหันมามองคนที่วิ่งตามและเรียกชื่อให้หยุด ให้พอ ถึงได้สติ

    ไม่ใช่กลัวตัวเองจะเป็นอะไร

    แต่กลัวคนที่มาห้ามจะเป็นอะไรไปด้วย

    เดินออกมาจากร้านด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ไม่มีคำตอบ ไม่มีกล้าทวงคำตอบ ไม่รู้ว่าจะถามย้ำอีกครั้งดีมั้ย หรือต้องทำยังไง


    ในเมื่อคนที่เดินลากขาตามมาเรื่อย ๆ คนนี้ ไม่ยอมพูดอะไรให้รับรู้เลยแม้แต่อย่างเดียว

    จะพูดให้โลกถล่มทลายไปเลยก็ได้

    หรือจะทำให้โลกทั้งใบเป็นสีชมพู

    แต่อ้อนก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมโวยวาย ไม่ถาม และไม่พูดถึง เรื่องที่ทานตะวันขอร้อง

    แล้วใครจะทนไหว อดทนแล้ว ทั้งที่เป็นคนไม่มีความอดทนกับสิ่งใดเลย ทนมาได้ถึงนาทีนี้ทั้งที่แทบอยากจะกระชากคอมาถามว่า

    "ตกลงจะเอายังไงวะ....จะรักหรือไม่รัก"

    แต่ก็ไม่กล้าทำ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงไม่กล้าแม้แต่จะสัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายแม้แต่ปลายนิ้ว

    กลัว...

    กลัวไปหมด

    ปลอบใจตัวเองให้หัวเราะ ให้ยิ้ม แต่ทำไม่ได้ เหมือนกับว่าตอนนี้ไม่ใช่คนเดิม

    คนที่ไม่เคยกลัวอะไรเลยอย่างทานตะวัน กลับมีสิ่งที่กลัวที่สุดที่ไม่มีใครเคยรู้
    กลัวที่สุด คือการถูกปฏิเสธความรัก....ถ้าไม่ถูกรัก...แล้วจะทำยังไง

    จะยืนอยู่ได้ยังไง จะให้ทำยังไง ทำอะไรไม่ได้ แล้วถ้าเกิดแสดงความรู้สึกเสียใจออกมา ใคร ๆ จะเข้าใจหรือเปล่า

    อ้อนเปิดประตูรถตามเข้ามาแล้ว โดยมีทานตะวันเป็นคนขับ

    ที่เดิม แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

    รถเคลื่อนออกจากลานจอดรถอย่างช้า ๆ พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างกำลังจะหล่นหาย

    ไม่รู้ว่าร้องไห้ได้ยังไง แต่ก็ร้องออกไปแล้ว

    หยดน้ำที่กลั้นเอาไว้ ความรู้สึกที่ไม่เคยอยากยอมรับ กำลังถล่มทลายลงอย่างช้า ๆ

    อ้อนนิ่งมองค้างอยู่อย่างนั้น เมื่อหันมามองใบหน้าของคนที่ยังนิ่งเฉย แต่กลับได้ยินเสียงสะอื้นไห้เบา ๆ ที่เจ้าตัวคงพยายามเก็บกักเอาไว้

    ไอ้ทานมันเป็นอะไร

    ร้องไห้เหรอ

    ร้องทำไม

    ทำไมถึงร้อง

    เสียใจอะไร มีเรื่องเสียใจอะไร ทั้งที่ไม่น่าจะมีเรื่องเสียใจ ทำไมถึงได้ร้องไห้

    แม้ไม่เห็นชัดนัก แต่ในความเงียบงัน และความมืด อ้อนกลับมองเห็นได้ชัดถึงหยดน้ำใส ๆ ที่หลั่งรินออกมาจากดวงตาของคนที่ยังคงมองออกไปนอกถนน

     
    น้ำตาที่ไหลอย่างช้า ๆ

    ไม่มีการปาดทิ้ง แต่หลั่งรินอยู่อย่างนั้น

    ท่ามกลางความรู้สึกอึดอัดใจ อ้อนกลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่าง

    อะไรบางอย่างที่กำลังแผ่กระจายอย่างรุนแรง

    ความเหงา

    ที่เผื่อแผ่ความรู้สึกมาให้จากคน ๆ นี้ คนที่อยู่ใกล้กันแค่นี้

     

    "ทาน.....เรา.."

    อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เหมือนมีบางอย่างตีตื้นขึ้นมา จนทำให้พูดไม่ออก

    "เรา..."

    อ้อนพยายามแล้วที่จะพูด พยายามแล้วที่จะปลอบใจ แต่กลับไม่แน่ใจอะไรเลย ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็น กับคำพูดของคน ๆ นี้มันคืออะไรกันแน่

    หมายความว่ายังไง ที่พูดออกมา แล้วบางอย่างที่แสดงออกมา ตกลงจะเอายังไง

    "ไอ้บ้าทาน คนที่อยากจะร้องไห้มันคือกูนะโว้ยยยยยยยยย ฮืออออออออ แม่ง บ้าเอ้ย เกลียดแล้ว ไอ้ทาน ไอ้บ้ากูเกลียดมึงโว้ยยยยย"

    เสียงโวยวายลั่น ตามมาด้วยการที่อ้อน ใช้กำปั้นชกมาที่ไหล่ของคนขับรถอย่างรุนแรง และปล่อยโฮออกมา อย่างไม่คิดจะสะกดกลั้นเอาไว้อีก

    แล้วใครกันที่จะต้องเกิดอาการ งง....

    รถถูกเลี้ยวเข้าข้างทาง พร้อมกับที่ทานตะวันต้องรับมือกับอาการแปลก ๆ ของอ้อนอีกครั้ง กำปั้นที่รัวทุบลงมาอย่างแรง ทำได้แค่ใช้ฝ่ามือรับเอาไว้ และพยายามยื้อยุดให้อ้อนหยุดการอาละวาดนี้ให้เร็วที่สุด

    แล้วก็ไม่นาน เพียงไม่นานจริง ๆ ที่ร่างในอ้อมแขนหอบหายใจหนัก และหยุดโวยวาย แต่ยังมีเสียงสะอื้นในลำคอให้ได้ยินเป็นพัก ๆ

    "เกลียด ไอ้เลว เจ้าหนี้อะไรวะ ทวงหนี้เช้าเย็น ทำไมถึงทำอย่างนี้ เกลียดมึงโว้ยยยยยย"

    ใช่มันเป็นเสียงพูดไปร้องไห้ของอ้อน ที่ทานตะวันไม่เข้าใจ แต่ก็คว้าร่างนั้นเข้ามากอดรัดเอาไว้แน่น

    ศึกระหว่างทานตะวันกับอ้อนจบลงแล้ว

    เหลือเพียงความเงียบงัน กับลมหายใจที่ถ่ายทอดให้กันอีกครั้ง

    ไม่รู้ว่า...ใกล้ชิดกันมากแค่ไหน

    แต่ใกล้กันจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวไม่เป็นส่ำ

    ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาอีก นอกจากสัมผัสอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กันเงียบ ๆ
    อ้อนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

    ค่อย ๆ เคลื่อนร่างกายเข้าหาคนที่ที่กอดรัดเอาไว้แน่น และแตะปลายจมูกที่ข้างแก้มของทานตะวันอย่างช้า ๆ

    แค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ความรู้สึกบางอย่างกำลังถูกเปิดออก

    โดยที่ไม่ทันคาดคิด โดยที่ไม่ทันรู้ตัว สิ่งที่ทำลงไป มาจากหัวใจและความรู้สึกภายในทั้งหมด

    "ทำให้เรารับรู้ว่าทานรักเราบ้างเถอะ....ขอร้องละได้มั้ยทาน..ทำให้เรารู้สึกบ้างว่าทานรักเรา"

     

    ********************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×