ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #32 : ตอน มาเล่นกันเถอะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.66K
      20
      19 ก.พ. 54

     ตอน มาเล่นกันเถอะ 













    ทานตะวันไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรดี หลังจากขับรถมาเรื่อย ๆ ได้แต่นิ่งเงียบแล้วก็นิ่ง แล้วก็เงียบ นิ่ง ๆ เงียบ ๆ อยู่อย่างนั้นเป็นนาน


    ในที่สุดหลังจากแอบลอบมองใบหน้าด้านข้างของคนที่นั่งมาบนรถด้วยหลายรอบ ก็ตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกมา

    "วันนี้ไม่กลับบ้าน กูจะนอนบ้านมึง"

    อ้าว ไหงงั้นวะ

    อ้อนที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ รีบหันกลับไปมองคนที่พูดคำพูดนี้ทันที


    เป็นอะไร เกิดบ้าอะไรนอนที่ดี ๆ ไม่ชอบ ชอบไปนอนเตียงแคบ ๆ บ่นว่าอึดอัด แล้วก็ไล่กูมานอนพื้นอีกงั้นสิ
    หายดีแล้ว ออกฤทธิ์ทันทีเลยนะมึงไอ้ทาน

    อ้อนเพียงแค่หันไปมองหน้าด้านข้างของทานตะวันที่กำลังขมวดคิ้วมุ่น แล้วก็รีบหันกลับมาโดยเร็ว
    คนอย่างไอ้ทานดีได้สองสามวัน มันก็กลับมานิสัยเดิมจะแก้หายได้ยังไง นี่คงคิดแล้วสินะ ว่าจะไล่ให้ไปนอนพื้น
    ห้องส่วนตัวของกูแท้ ๆ มันก็ยังอุตส่าห์จะตามไปให้หนักใจเล่น นี่คิดอะไรไว้อีกล่ะ

    เดี๋ยวกูจะซื้อของไปฝากแม่มึงนะ พูดจาน่ารัก แต่ทำตัว ........... เออ ช่างหัวแม่งเหอะ อย่างน้อยมันก็ยังบอกให้รู้ตัวว่ามันจะไปนอนที่บ้าน

    ไม่เห็นจะมีข้อดีตรงไหน แต่ก็นั่นแหละ ก็ยังมีโอกาสเตรียมตัว แบบห้านาทีก่อนเข้าบ้านก็ยังดี

    อ้อนนิ่งคิด แล้วก็ทำหน้าเซ็ง ได้แต่เงียบไปตลอดทาง ไม่ทันสังเกตท่าทีที่นิ่งเงียบไปของคนขับรถที่มีท่าทางกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด

    ทำไมวะ แค่บอกว่าจะไปค้างด้วย ทำไมมันทำท่าเหมือนไม่สนใจกันแบบนี้ล่ะ
    จะตอบสักคำสองคำให้ชื่นใจว่า ...........ได้ หรือไม่ได้ ก็ไม่มี แต่นี่ไอ้อ้อนมันกลับไม่พูด แล้วนี่ตกลงอยากให้ไปมั้ยล่ะ หรือว่าไม่อยากให้ไป

    "งั้นไม่ไปดีกว่า" คนตัวโตที่กำลังคิดกังวลกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เอ่ยบอกอีกครั้ง และรีบหันหน้าไปบอกคนที่ยังนิ่งเงียบ แล้วก็ไม่เห็นว่าท่าทางของอ้อนจะเปลี่ยนไปสักนิด ยังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม คราวนี้ ทานตะวันเลยไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่กระสับกระส่ายไปตลอดทางระหว่างที่ขับรถตามองถนนจริง แต่จิตใจมัวพะวงอยู่กับคนที่ทำท่าไม่ยินดียินร้ายอยู่ข้าง ๆ

    ไม่สนใจที่พูดเลยนี่หว่า ทำไมล่ะ ไม่ให้ไปก็บอก หรือจะให้ไปก็บอก ไม่ใช่เอาแต่เงียบ แล้วแบบนี้ใครเขาจะไปรู้ว่าตัวเองคิดยังไง


    ชักเริ่มหงุดหงิดอีกแล้วนะ

    "เฮ้ย ตกลงมึงจะเอายังไง จะให้กูไปมั้ยเนี่ย ไม่เห็นพูดอะไรเลย แล้วจะรู้มั้ยว่าจะเอายังไงกันแน่"
    ทานตะวันทำเสียงฮึดฮัดโมโห โดยที่ไม่รู้เลยว่า ท่าทางแบบนั้นของตัวเองทำให้อ้อนขมวดคิ้วและนิ่งเงียบยิ่งกว่าเดิม

    อะไรของมันวะไอ้ทาน ก็แล้วจะรายงานกูทำไมเนี่ย อยากไปก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ไป ทุกทีอยากทำอะไรก็ไม่เคยเห็นต้องมารายงานเลย

    แล้วนี่เกิดเป็นอะไรขึ้นมา อยากได้ความเห็นอะไรอีกล่ะ เพี้ยนไปแล้วหรือยังไง ไม่ให้กูพูด ให้กูฟังอย่างเดียว คำสั่งของมึงคือประกาศิต แล้วไงล่ะ จะมาบอกกูทำไม

    ไปไม่ไป ก็ตัดสินใจเอาเองสิวะ

    "ถึงห้าม ถ้าจะไป ก็ไปอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง มีใครห้ามได้ด้วยเหรอ" อ้อนตอบกลับไปแล้ว และยิ่งแปลกใจมากขึ้น เมื่อทานตะวันชะงักกับพูดนั้นของตัวเอง แล้วเจ้าตัวคนถามก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย

    อ้าว แล้วเป็นบ้าอะไรของมันอีก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเงียบ เดี๋ยวก็พูดมาก แล้วไม่พอใจอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ทำท่าแบบนี้ ก็เห็นไม่พอใจทุกที เดาอารมณ์ไม่ถูกจริงๆ พ่อเจ้าประคุณ

    "ถึงแล้ว รีบ ๆ เข้าบ้านมึงไปเลยไป เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด นี่ไงถึงบ้านแล้ว ไปสิ รีบ ๆ ลงไปเลย ไป๊"

    ไล่

    ทำไมแค่นี้ต้องไล่ด้วย

    เป็นอะไรอีกล่ะ ไม่พอใจอะไรก็ไม่พูด ขับรถมาส่ง แล้วก็ไล่ เบื่อมากเลยสินะ ไม่อยากเห็นหน้ากันก็บอกกันตรง ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องไล่กันเลย นึกว่าอยากอยู่ด้วยตายเลย

    อ้อนแอบเหลือบสายตามองหน้าของคนที่รีบ ๆ ไล่ตัวเองลงจากรถ แล้วก็เลยรีบเปิดประตูรถ เดินกระโผลกกระเผลกเข้าบ้าน ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรกับทานตะวันอีกเลย

    ไม่เข้าใจว่าความหงุดหงิดลึก ๆ ในใจนี่มันอะไรกันแน่ ก่อนหน้านี้ แสนดีใจที่ทานตะวันไล่ให้ไปไกล ๆ เพราะนั่นหมายความว่าจะได้เป็นอิสระได้คิดอะไรเองสักพัก

    แต่นี่...........พอถูกไล่ให้เข้าบ้านเร็ว ๆ เพราะทานตะวันบอกว่าไม่อยากเห็นหน้า กลับรู้สึกโมโหขึ้นมา และแอบน้อยใจเล็ก ๆ โดยไม่รู้ตัว

    กุญแจประตูรั้วบ้านถูกไข และอ้อนก็เดินกระโผลกกระเผลกลากขาเดินเข้าบ้านไปแล้ว

    ส่วนคนที่ขับรถมาส่ง ได้แต่มองตามจนร่างของอ้อนที่เดินเข้าสู่ตัวบ้าน แล้วก็ใช้ฝ่ามือที่กำแน่น กระแทกลงที่พวงมาลัยรถ ด้วยความโมโห

    "โธ่โว้ย ไอ้อ้อน ไม่อยากให้อยู่ด้วยขนาดนั้นเลยหรือไง ทำเหมือนรังเกียจกันแบบนั้น เออไปเลย ไม่ได้อยากสนใจนักหรอก จะหันกลับมาขอบคุณที่ขับรถมาส่งสักคำก็ไม่มี ที่ไม่ให้มันต้องโหนรถเมล์ด้วยความลำบากกลับบ้านเอง ขอบคุณสักคำมีมั้ย ไม่มีเลย ไม่มีเลยนะ ไอ้อ้อนนะไอ้อ้อน แม่งเอ้ย"

    แค่ไม่ได้รับคำขอบคุณ กลับทำให้โมโหได้มากขนาดนี้ แต่จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นความน้อยใจมากกว่า ที่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่สนใจกันเลย


    ทานตะวันออกรถ และขับออกจากบริเวณหน้าบ้านของอ้อนแล้ว โดยที่ไม่รู้ ว่าอ้อนแอบเปิดม่านลอบมองรถที่แล่นผ่านไปแล้วก็ถอนใจยาว

    "รีบขนาดนั้นเลย ไม่อยากเห็นหน้ากันขนาดนั้นเลยไอ้บ้าทาน รีบ ๆ ไปเลยไป๊" คำพูดของทานตะวันกลายมาเป็นคำพูดของอ้อนที่ยืนบ่นงึมงำ ก่อนจะชะงักนิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแม่ของตัวเอง ที่รีบลงมาหาลูกชายทันทีที่ได้ยินเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน

     

    "ทานมาส่งเหรอลูก กินอะไรมาหรือยัง แม่ทำกับข้าวไว้เผื่ออ้อนด้วย หิวหรือเปล่าลูก"

    แค่เห็นหน้าแม่ แค่ได้ยินประโยคทักทาย อ้อนอยากจะร้องไห้ และบอกว่าคิดถึงแม่ แค่ไม่เจอหน้าแม่ไม่กี่วัน ยังคิดถึงได้มากขนาดนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไง

    ไม่เอ่ยทักทายแม่แถมซ้ำยังรีบก้าวขาเดินขึ้นบ้านไปทันที

    แม่ของอ้อนได้แต่มองตามลูกชายที่นิ่งเงียบ ไม่ยอมทักทาย และเดินหนีไปแล้ว
    ลูกกลับมาให้เห็นหน้าบ้าง ได้รู้ว่าลูกสบายดี คนเป็นแม่ก็ดีใจ แม้ลูกชายที่เคยหัวเราะร่าเริงสดใส จะกลับกลายเป็นคนละคน ไม่ยอมพูดไม่ยอมจาอีกเลย แต่ก็ยังรู้ว่าลูกอยู่ด้วย ยังเห็นว่าลูกสุขสบายดี แค่นี้ ก็พอใจแล้ว

    "อ้อน....แล้วไม่หิวเหรอลูก ไม่กินข้าวหรือยังไง" แม่ตะโกนถามคนที่เดินขึ้นบ้านไปแล้ว และได้รับเสียงตะโกนตอบรับกลับมา

    "เดี๋ยวลงไปกิน ขออาบน้ำก่อน"

    ทุกครั้ง คำตอบที่ได้รับ คืออย่ามายุ่งกับผมได้มั้ย หรือไม่....ก็ได้รับแต่ความเงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่ครั้งนี้ คำตอบที่ได้รับ ทำให้แม่ของอ้อนยิ้มออกมา

    เดี๋ยวลงมากินงั้นเหรอ
    แม่รีบเดินเข้าไปในครัวและรีบอุ่นกับข้าวที่เตรียมไว้ตั้งแต่บ่าย ด้วยรอยยิ้ม
    แค่ลูกบอกว่าจะลงมากินข้าว แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้ว แม่ของอ้อนรีบลงมืออุ่นกับข้าวอย่างขะมักเขม้นอยู่ในครัว
    ขณะที่อ้อนกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ

    "เดี๋ยวลงไปกินงั้นเหรอ..........." ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกล้าพูด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ แม้จะเอ่ยปากทักทายแม่เวลาที่กลับมาถึงบ้าน ยังไม่กล้าพูด แต่ทำไมวันนี้ถึงกล้าพูดออกมา

    เรื่องส่วนตัวที่ทานตะวันเล่าให้ฟังถูกลำดับเข้ามาในสมอง แล้วก็บอกตัวเองว่าจะรวบรวมความกล้ากลับมาพูดคุยกับแม่ให้ได้อีกครั้ง


    โดยที่ไม่ทันรู้ตัว วันนี้ก็พูดคำพูดที่ท่องมาเป็นสิบ ๆ รอบก็ได้พูดออกไปแล้ว รอยยิ้มสดใสปรากฏที่ใบหน้าของอ้อน และยิ่งอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อนึกถึงคนที่บอกให้พูดกับแม่

    บ้า.....อย่างไอ้ทานเหรอจะเป็นแรงบันดาลใจให้ ไม่มีซะล่ะ ไม่ใช่เพราะมึงเล่าเรื่องตัวเองหรอกนะ กูถึงทำแบบนี้ แต่เป็นเพราะกูทำเพราะกูอยากทำต่างหากล่ะ


    อ้อนเดินมานั่งลงบนเตียงภายในห้องของตัวเองที่ไม่ได้กลับมาหลายวัน เหลียวมองไปรอบ ๆ ห้อง และก็เห็นว่าไม่มีฝุ่นเลยสักนิด นี่แม่คงเข้ามาทำความสะอาดให้ตลอดเลยสินะ

    เมื่อล้มตัวลงนอน และลองใช้จมูกสูดดมกลิ่นแดดบนที่นอน แล้วก็ได้แต่นอนอมยิ้ม แม่คงลากที่นอนไปตากให้ล่ะมั้ง ถึงได้อุ่นขนาดนี้

    อ้อนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงของตัวเอง และหลับตาลงอย่างมีความสุข ก่อนจะรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และเดินไปหยิบผ้าขนหนู รีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อค้นหาเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงใส่นอนแบบสบาย ๆ มาโยนไว้บนเตียง และเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างมีความสุข


    ไม่ได้กลับมาหลายวัน คิดถึงห้องของตัวเองจัง ไม่มีที่ไหนที่นอนหลับได้สบายเหมือนนอนที่บ้านของตัวเองอีกแล้ว

    เฮ่อ ป่านนี้ไอ้ทานมันคงกลับบ้านแล้วมั้ง

    กลับถึงบ้านแล้วเหรอ แล้วมันก็...........

    อยู่คนเดียว.........

    เวลาอยู่คนเดียวมัน....จะเหงาหรือเปล่านะ

    บ้า....อย่างไอ้ทานปากมันก็คงบอกว่าเหงา แต่มันก็อยู่มาได้ตลอด จะมาเหงาอะไรกัน ออกไปกินไปเที่ยวกับเพื่อนมันก็ได้นี่

    ทำไมมันจะต้องมานั่งจับเจ่าอยู่ที่บ้านคนเดียวด้วย ไม่มีทางหรอก อย่างมันเหรอจะปล่อยให้ตัวเองเหงา ปากมันก็พูด แต่มันรีบไล่ให้เข้าบ้านแบบนี้จะให้คิดยังไง

    อ้อนรีบสะบัดหัวไล่ความคิดของตัวเอง และลงมือเปิดฝักบัวอาบน้ำ พยามยามไม่คิดถึงเรื่องของคนที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งอีกเลย

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    "ทานมาน่ะลูก แม่ก็นึกว่าทะเลาะกันไม่เห็นทานเข้าบ้าน อ้อนมากินข้าวเร็ว แม่อุ่นกับข้าวไว้แล้ว"

     

    อ้อนชะงักเท้า รีบหันไปหาคนที่แม่พูดถึง แล้วก็ยังเกิดอาการงงไม่หาย เมื่อเดินลงมาจากบนบ้านแล้วพบว่ามีแขกที่ได้รับเชิญจากแม่กำลังช่วยแม่ยกจานยกช้อน ออกมาวางบนโต๊ะอาหาร

    ตอนที่อาบน้ำได้ยินเหมือนใครมากดกริ่งที่หน้าบ้าน แต่ไม่ได้สนใจ พออาบน้ำเสร็จ เดินลงมาก็ได้เจอกับคนที่พยายามไม่คิดถึง แต่ตอนนี้คน ๆ นั้นมายืนปั้นหน้ากึ่งบึ้งกึ่งยิ้มช่วยแม่จัดข้าวของอยู่ในครัว

    มาไงล่ะมึง

    ไหนไล่ให้กลับบ้าน แล้วยังไงถึงได้มาอยู่ในครัวบ้านกูได้ล่ะเนี่ย

    "เปล่า ไม่ได้ทะเลาะกันครับแม่ พอดีทานลืมกล่องขนมไว้ที่ร้านทานเลยต้องรีบขับรถย้อนไปเอา เลยบอกให้อ้อนเข้าบ้านก่อนน่ะครับ"

    ตอแหลได้โล่ห์ บอกตอนไหนว่าจะไปเอาขนมที่ลืมไว้ แล้วไปซื้อขนมตอนไหน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย
    อ้อนเงยหน้าขึ้นมองคนที่หันมาส่งยิ้มเก้อ ๆ ให้ แล้วก็แสยะยิ้มตอบกลับไปด้วยความหมั่นไส้

    ทานอย่างนั้นทานอย่างนี้ ครับแม่ ครับผม ทีกับกูจิกหัวเรียกตลอด ช่างปรับตัวได้ดีจริง ๆ เลยนะมึงไอ้ทาน

    "เดี๋ยวกินข้าวเสร็จค่อยกินขนม แม่เห็นทานซื้อแต่ขนมที่อ้อนชอบกินมาเยอะเลย นั่งเร็วอ้อน กินข้าวได้แล้วลูก ทานก็ไปนั่งที่โต๊ะ กินข้าวเยอะ ๆ ไม่อิ่มเติมข้าวได้ แม่หุงไว้เผื่อเยอะเลย"

    แม่ทำท่าดีใจ ที่มีผู้มาร่วมโต๊ะอาหารด้วย แต่อ้อนแอบลอบมองคนที่มาร่วมโต๊ะอาหาร ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ

    ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้จะระแวงเล็ก ๆ แต่วันนี้รู้สึกเฉย ๆ และออกจะดีใจอยู่ลึก ๆ ที่ลงมาแล้วเห็นหน้าคนที่กลัวว่าจะต้องกลับไปเหงาอยู่ที่บ้านเพียงลำพังมาอยู่ในห้องครัว

    ข้าวถูกตักใส่จาน และการรับประทานอาหารและคุยกันไปเรื่อยเปื่อยก็เกิดขึ้น แม่ดูมีความสุขเมื่อคุยกับทานตะวัน และอ้อนก็แอบหัวเราะเล็กน้อย เมื่อไอ้คนบ้านั่นพูดอะไรเพี้ยน ๆ

    แต่ก็ยังคงนั่งกินข้าวไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

    "แล้วรายงานเสร็จแล้วเหรอลูก ทานไม่สบายหลายวันหายดีแล้วเหรอ"

    "หายดีแล้วครับแม่ อ้อนก็ดูแลทานตลอด ยังคิดอยู่เลยครับว่าจะเอาหวัดมาฝากอ้อนหน่อย จะได้หายเร็ว ๆ แต่ก็เห็นว่าอ้อนแข็งแรงดีไม่ยอมป่วย แบบนี้เลยเสียใจครับ ไม่ได้ดูแลกลับคืน"

    อยากดูแลตายแหละ ทำเป็นพูด สร้างภาพน่ะสิไม่ว่า ถ้ากูไม่สบายมึงคงเพิ่มความสามารถในการแกล้งกูให้เพิ่มขึ้นล่ะสิ อย่างมึงเชื่อไม่ได้หรอกไอ้ทาน เพราะมึงตอแหลเก่ง

    "ป่วยยากลูกคนนี้ แต่เป็นอะไรทีก็หนัก แม่ก็ห่วง แม่ฝากทานดูด้วยนะ ดีที่มีทาน ไม่งั้นแม่ก็ไม่รู้จะไปฝากใคร"

    ฝากผิดคนแล้วแม่ ฝากไว้กับไอ้ทาน ผิดคนแล้วแม่ ผมอ่วมจนเละทุกวัน แม่ไม่รู้หรอกว่าฝีมือใคร ไอ้คนที่บอกว่าจะดูแลผมอย่างดีนั่นแหละ

    "ไม่เป็นไรครับ ทานจะดูแลให้อย่างดีเลย"

    ดีมาก ดูแลดีมากกกกกกกกกกกกกก จนกูเป็นอย่างที่เห็นไง ไอ้ทาน ไม่ต้องมาทำเป็นหัวเราะเลย แน่ะ มองหน้าแล้วยังไม่สำนึกยังจะมายักคิ้วหลิ่วตาให้อีก

    ไม่กินแล้วอิ่ม แล้วนี่แม่เติมข้าวให้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย เผลอแป๊บเดียวกินข้าวไปกี่จานแล้ววะเนี่ย

    "โอ้ยยยยยยยย อิ่มจังเลยครับ กับข้าวที่แม่ทำอร้อย อร่อย ทานกินจนพุงจะแตกแล้ว ยังอยากเติมอีก แต่สงสัยกินเข้าไปไม่ไหวแล้ว"

    อร่อยเป็นพิเศษเลยสิ ก็มึงเล่นกินไปนินทากูแบบซึ่ง ๆ หน้าไปด้วยนี่ กับข้าวชั้นดีเลย กินล้างกินผลาญ หันกลับมาอีกที ตักอะไรใส่จานกูเต็มจานเลยวะ แล้วเผลอกินไปจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    "อ้าว ยังไม่อิ่มอีกเหรอ ตัวแค่นี้ กินไปตั้งสามจาน แม่ดูสิครับ อ้อนมันเริ่มเขี่ยข้าวอีกแล้ว อยู่บ้านทานก็แบบนี้แหละครับ กินอิ่มแล้วก็ไม่บอกชอบเขี่ยข้าวเล่น"

    เคยทำแบบนั้นด้วยเหรอ นอกจากแม่แล้วไม่เห็นมีใครมาสังเกตว่ากูเขี่ยข้าวหรือไม่เขี่ย

    "อิ่มแล้วเหรอลูก วันนี้อ้อนกินได้เยอะเลย เอาข้าวเพิ่มมั้ย เดี๋ยวแม่ตักให้"

    อ้อนส่ายหน้า และรวบช้อนไว้ด้วยกัน ก่อนจะช่วยทานตะวันยกจานข้าวและจานกับข้าวที่กินหมดแล้วไปวางไว้ในอ่างล้างจาน

    "เดี๋ยวทานล้างจานเองครับแม่ ทานล้างจานเก่งนะครับเห็นแบบนี้ทานทำได้นะ"

    เหรอ ไม่เห็นเคยทำสักที ใช้กูตลอด ไม่ก็เห็นแม่บ้านทำให้ตลอด ล้างเป็นตอนไหน อย่ามาทำเป็นปากดีหน่อยเลย

    แม่อมยิ้มกับสิ่งที่เพื่อนลูกชายพูด และหันไปมองลูกชายที่เห็นอมยิ้มเล็ก ๆ และเดินนำหน้าทานตะวันไปที่อ่างล้างจาน

    ลูกดูมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อน จากไม่เคยพูดก็เห็นพูดจาได้มากขึ้น เคยนิ่งเฉย ก็มีท่าทางอ่อนโยนลงไม่แข็งกร้าวเหมือนเมื่อก่อน

    "ถ้าแม่มีลูกสาวแม่ยกให้ทานไปแล้ว พ่อบ้านพ่อเรือนแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากได้นะ"

    ทานตะวันที่กำลังลงมือล้างจานโดยมีอ้อนยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ้มกว้าง และรีบเหลือบสายตาไปมองคนที่กำลังเขี่ยเศษอาหารและนำมาลงในอ่างล้างจาน

    "ลูกชายก็ยกให้ได้ครับแม่ ลูกชายก็เอา"

    ทานตะวันก้มลงมากระซิบบอกกับอ้อนเสียงเบา และก็เห็นว่าคนที่ทำหน้าเฉย ๆ รีบเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าทานตะวันและรีบก้มกลับลงไปทันที

    หัวใจกำลังเต้นโครมครามอย่างไม่มีสาเหตุ อ้อนก้มหน้าก้มตาหยิบจานใส่ในอ่างล้างจานที่มีฟองอยู่เต็ม แต่กลับถูกดึงมือเอาไว้ แถมซ้ำไอ้คนจับมือมันยังทำหน้าทะเล้นใส่อีก

    "แม่กูอยู่นะมึง ทำเหี้ยอะไรของมึงวะ"

    อ้อนรีบหันไปมองแม่ แล้วรีบหันกลับมาดึงมือตัวเองออก แต่ทานตะวันก็ไม่ยอมปล่อย ยังดึงฝ่ามืออ้อนไม่ให้ยกขึ้นจากอ่างล้างจานที่มีฟองอยู่เต็มอ่าง

    "อะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย กลัวอะไร แค่จับมือ หรืออยากหอมแก้มกูตอนนี้"

    เอาแล้ว โดนไอ้ทานมันเล่นแล้วไง

    ใบหน้าของอ้อน เริ่มมีริ้วรอยแห่งความกังวลอย่างเห็นได้ชัด พยายามดึงมือของตัวเองออก แต่ก็ไม่ได้ผล จนต้องเงยหน้าขึ้นมองว่าสิ่งที่คนบ้าบอพูดเป็นความจริงหรือไม่

     

    "อย่านะโว้ย มึงอย่าแกล้งกูนะ"

    อ้อนรีบบอกเสียงสั่น และหันไปมองแม่ที่กำลังเช็ดโต๊ะอาหารหลายครั้ง กลัวว่าแม่จะหันกลับมาเห็น

    "ก็ให้จับมือดี ๆ แบบไม่สะบัดมือแค่นิดเดียวแหละ แล้วเดี๋ยวปล่อย ทำได้มั้ยล่ะ แค่นี้เอง"

    ไม่รู้ว่าทำไมถึงเชื่อสิ่งที่คนตัวโตพูด แต่อ้อนที่กำลังใจเต้นไม่เป็นส่ำ ก็ยอมที่จะหยุดมือไว้นิ่ง ๆ

    ภายใต้ฟองสบู่ในอ่างล้างจาน มือของทานตะวันยังคงเกาะกุมมือของอ้อนเอาไว้แน่น นิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นเป็นนาน และต่างคนต่างก็ไม่ได้พูดคุยกันอีก

    ทานตะวันหันไปมองหาแม่ของอ้อนอีกครั้ง และยอมปล่อยมือของอ้อนอย่างแสนเสียดาย

    "ก็แค่เนี้ย ไม่ได้อยากทำอะไรซะหน่อย แค่จับมือนิดเดียวเอง"

    ใบหน้าที่ก้มลงมาหา และเสียงบอกเบา ๆ ทำให้อ้อน รีบร้อนลนลาน ทำหน้าไม่ถูก ทำตัวไม่ถูก รู้แต่ว่าเหมือนมีไฟกำลังนาบอยู่บนใบหน้า จนร้อนผ่าว

    ในขณะที่อ้อนกำลังเกิดอาการลนลาน ทานตะวันกลับสงบนิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ดวงตาคม ๆ เหลือบมองข้างแก้มของอ้อนแล้วยิ่งคิดอยากจะเข้าใกล้ให้มากขึ้น รีบหันไปมองแม่ของอ้อนอีกครั้ง และก้มลงหอมแก้มคนที่กำลังวางจานใส่อ่างทันที

    "เฮ้ยยยยยยย ทำอะไรวะ"

    อ้อนรีบยกมือขึ้นแตะที่ข้างแก้มของตัวเอง ฟองสบู่ลอยคว้างในอากาศ และเปียกเลอะใบหน้า

    "อะไรกันเรา เล่นอะไรกันอีกล่ะ ฟองเต็มเลย แม่บอกว่าแม่ล้างเองก็ไม่เชื่อ" แม่หันมาบอก และเตรียมเดินเข้ามาช่วย แต่อ้อนรีบห้ามเอาไว้

    "ไม่ ไม่ ไม่ ต้อง เดี๋ยวล้างเองแม่ เดี๋ยวล้างเอง แค่เล่นกันเฉย ๆ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริง ๆ " เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่อ้อนพูดกับแม่ได้อย่างปกติ แม่ที่กำลังเดินเข้ามายิ้มกว้าง และหันไปสนใจกับการจัดเก็บโต๊ะอาหารอีกครั้ง

    "งั้นก็ตามใจ อ้อนอุตส่าห์ช่วยแม่ล้างจาน แม่ล่ะดีใจ๊ดีใจ แบบนี้น่าชวนทานมากินข้าวที่บ้านบ่อย ๆ ทานมาทีไร อ้อนร่าเริงทุกทีเลย"

    ร่าเริง เริงร่าตายเลย กำลังจะตายแล้วจริง ๆ เนี่ย แม่ ตายแหง ๆ งานนี้

    "เป็นอะไรหนูน้อยแก้มแดง หน้าแดงแล้วเป็นอะไร หรืออยากให้หอมอีกที"

    ใครจะไปอยาก ไม่เอาด้วยหรอก ทำบ้าอะไรของมันวะ นิสัยประหลาด ไอ้บ้าทาน กูเกลียดมึง

    "เดี๋ยววันนี้จะค้างที่นี่ จะนอนด้วย จะให้นวดขา จะให้ช่วยอาบน้ำ ทำหน้าที่ด้วย วันนี้ทานตะวันคัมแบ็ค แต่ไม่มีเสื้อเอาเสื้อมาให้เปลี่ยนด้วยล่ะ เอาตัวเดิมที่ใส่คราวก่อน ตัวนั้นใส่สบาย แล้วก็เอากางเกงตัวนั้นด้วย ที่เอามาทิ้งไว้วันก่อนโน้นแหละ เอาตัวนั้น เข้าใจนะ"

    เออ เข้าใจ สั่งได้สั่งดี สั่งทั้งปีทั้งชาติ

    "ครับผม เดี๋ยวอ้อนหาเสื้อให้ทานเปลี่ยน พูดสิ พูดเป็นมั้ย ครับผม เดี๋ยวอ้อนหาเสื้อให้ทานเปลี่ยน แค่เนี้ยะ พูดได้เปล่า"

    ไอ้ ไอ้ ไอ้ทาน มึง มัน มัน เออ ก็ได้วะ

    "ครับผมไอ้ทาน เดี๋ยวอ้อนจะหาเสื้อให้มึงปลี่ยนนะคร้าบบบบบบบบ" อ้อนแกล้งลากเสียงยาว ๆ และทำหน้าหมั่นไส้คนที่บังคับให้พูด

    ทานตะวันอมยิ้มและหัวเราะออกมาเมื่อมองท่าทางของอ้อน ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป

    ถ้าเกิดอยู่ที่บ้านไม่มีใครเห็นมึงโดนไปแล้วไอ้อ้อน เอาแบบกลางสระน้ำนั่นอีกสักรอบคงดี จะได้ไม่กล้าพูดอีก

     

    คอยดูเถอะ ขึ้นห้องก่อนเถอะ เจอดีแน่ จะเล่นให้ร้องไม่ออกเลย
    คอยดูก็แล้วกัน ปากดีนักนะเราตัวแค่เนี้ย

    "ขึ้นห้องขอจูบที แล้วจะไม่ขออะไรอีกเลย ได้ป่าว"

    อ้อนชะงักมือที่กำลังล้างจาน แล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนพูดตาโต

    ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่จริง ไม่จริง

    ในขณะที่อ้อนกำลังทำตาโต ทานตะวันกำลังยืนอมยิ้ม

    "นะ ทีเดียว แล้วจะไม่แกล้งอีก นะ"

    ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เอาโว้ยยยยยยยยยยยยย ไอ้บ้า ไม่เอาโว้ยยยยยยยยยยยย

    ในขณะที่อ้อนกำลังร่ำร้องตะโกนบอกอยู่ในใจ ทานตะวันกลับถือเอาความเงียบนั่นเป็นการตอบรับ

    "ล้างจานเสร็จแล้ว ไปเร็ว อยากอาบน้ำ ขึ้นห้องกันเร็ว"

    จานถูกคว่ำจนหมด และทานตะวันก็ดึงแขนอ้อนให้เดินลิ่ว ๆ ตามกันขึ้นมาบนห้อง

    "แม่คร้าบบบบบบบบ ทานไปอาบน้ำก่อนนะครับแม่ เดี๋ยวอ้อนจะพาทานไปอาบน้ำแล้วครับแม่ เดี๋ยวทานจะมาดูรายการโทรทัศน์เป็นเพื่อนแม่นะครับ"

    ใครกันแน่ที่จะพาไปอาบน้ำ มึงลากแขนกูแต่มึงบอกว่ากูจะพาไปอาบน้ำ ไม่เอาโว้ยยยยยยยยย กูไม่ไป ไอ้ทานปล่อยกู

    แม่ช่วยด้วย แม่ ไอ้ทานมันจะเอาลูกแม่ไปเชือดนะแม่

    แม่ แม่ แม่มองอ้อนสิแม่
    ไอ้ทานมันจะเอาลูกแม่ไปเชือดแล้วแม่ไม่เห็นหรือไง แม่รีบรั้งเอาตัวมันไว้สิแม่ เร็ว แม่ช่วยด้วย

    ปากอยากจะพูด แต่ตอนนี้อ้อนก็ถูกดึงแขนให้เดินขึ้นมาอยู่บนห้องเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับที่ทานตะวันหันมาส่งยิ้มให้ อย่างแสนหวานเชื่อมและรั้งร่างของอ้อนเข้าไปหา

    "ว่าไงเรา หนูน้อยแก้มแดง มาให้จูบซะดี ๆ เร็ว เริ่มจากตรงไหนดี เลือกมาซิ ตรงไหนน่าจูบบ้าง ตรงไหนดีน๊า"

     

    *****************************************

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×