ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอน เตะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.88K
      15
      22 ม.ค. 54

     ตอน เตะ

      






     

    อ้อนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักของชมรม เปิดสมุดพลิกไปพลิกมาแล้วก็นั่งกรอกรายละเอียดลงไปในสมุดรวมรายชื่อของสมาชิกในชมรมฟุตบอลที่ทานตะวันโยนทิ้งไว้ให้ก่อนจะออกไปซ้อมที่สนาม

    วันนี้ไอ้ทานมันใจดี มันพาไปหาหมอ แล้วก็พามาซ้อมที่สนามด้วย ไม่ให้ไปยืนตากแดดถือขวดน้ำกับผ้าขนหนูให้มัน แต่ให้มานั่งรอในห้องพัก แล้วก็ให้แยกรายชื่อคนที่มาคัดตัวให้ด้วย อ้อนก็เลยต้องทำไปเรื่อย ๆ

    ขวดน้ำดื่มวางทิ้งไว้อยู่ข้าง ๆ แล้วอ้อนก็ดึงหลอดขึ้นมาหมุนเล่น ในขณะที่มือก็จดรายชื่อไปด้วย

    มืออีกข้างยังมีผ้าพันแผลพันอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากนัก ถึงมีเลือดซึมออกมานิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากเหมือนวันแรก

    ทำไมถึงได้เป็นคนที่พิกลพิการได้ขนาดนี้วะกู ขาเดี้ยง มือเดี้ยง ชาติไหนจะหายวะเนี่ย เซ็งชิบหาย

    "อ้าว มาด้วยเหรอพี่ ทุกทีเห็นไปยืนรอพี่ทานที่ข้างสนามทุกที แล้ววันนี้ยังไงเนี่ย มานั่งในห้องซ้อมได้ไง เดี๋ยวพี่ทานมันก็ตามมาลากหรอกพี่"

    แคป นักกีฬาว่ายน้ำที่เดินผ่านมาเอ่ยถามรุ่นพี่ที่กำลังนั่งจดอะไรยุกยิก ยุกยิกในสมุด เพราะว่าห้องชมรมฟุตบอลกับห้องชมรมว่ายน้ำติดกันจึงได้เห็นหน้ากันบ่อย ๆ และแคปก็เป็นรุ่นน้องของอ้อนด้วยจึงไม่แปลกที่จะได้พูดคุยกันบ่อย ๆ

    "วันนี้มันปล่อยหนึ่งวัน สงสัยสงสารคนขาเป๋มั้ง"

     

    อ้อนเงยหน้าขึ้นเอ่ยทักทายกับรุ่นน้อง และแคปก็เดินมาวางกระเป๋าใบใหญ่ไว้ข้าง ๆ อ้อน และทิ้งกายลงนั่ง พูดคุยกันอย่างสนิทสนม เมื่อก่อนเคยอยู่หอเดียวกัน แต่ช่วงหลัง ๆ อ้อนย้ายกลับไปอยู่บ้าน เลยไม่ค่อยได้คุยกับแคปบ่อยเหมือนก่อน และหลายครั้งก็ได้พึ่งพาอาศัยกันอยู่ตลอด จึงไม่แปลกที่จะได้สนิทกัน

    "ระวังนะพี่ สงสารมาก ๆ เดี๋ยวกลายเป็นรักแล้วจะยุ่งน๊า" แคปเอ่ยแซวรุ่นพี่ และอมยิ้ม เมื่อนึกถึงใครคนหนึ่งที่ชอบทำหน้าเฉยและชอบพูดจาร้าย ๆ ใส่ตลอด ทั้งที่คน ๆ นั้นทั้งน่ารักน่าสงสารยิ่งกว่าใคร ๆ

    "โห่ ใครมันจะมาสงสารพี่วะน้อง อย่างไอ้ทานนี่สงสารใครไม่เป็นหรอก ใครมันจะไปแสนดีเหมือนเราล่ะใช่มั้ย ไอ้น้องชาย"

    อ้อนหัวเราะออกมาเสียงเบา และวางปากกาลง

    "พี่ก็พูดเกินไป พี่ทานเขาหล่อนะพี่ จิตใจเขาก็ต้องดีบ้างล่ะน่า เสียอย่างเดียวพี่แกเป็นคนเสียงดังไปหน่อย ใช่มั้ยพี่ แล้วแกก็บ้าพลังเกินคนปกติแค่นั้นเอง พูดก็พูดเหอะพี่ ทำไมพี่ทานเขาชอบแกล้งพี่นักหนาไม่รู้นะ เขาแอบชอบพี่หรือเปล่าเนี่ย ขำขำนะพี่ เผื่อเขาขอความรักพี่ พี่จะได้ทำตัวถูกไง"

    โห ไอ้ห่าแคปมันแซวซะใจหายวูบเลย อย่างไอ้ทานนี่นึกสภาพมันไม่ออกจริง ๆ ขอความรักบ้าอะไร มันไม่ขอกระทืบก็บุญแล้ว เรื่องขอความรักนี่มันสุดตีนเลย


    ไอ้แคปนี่มันก็หาเรื่องพูดให้อยากอ้วกขึ้นมาได้ เก่งจริง ๆ เล้ย

    "โห ถ้ามันขอความรักนี่ คงไม่ไหวมั้ง รักไม่ลงว่ะ กลัวตายคาตีนก่อนที่จะได้รักกับมันเด่ะ จริง ๆ อย่างมันรักใครไม่เป็นหรอกแคปเอ้ย"

    อ้อนหัวเราะออกมากับมุกตลกของรุ่นน้อง แล้วเริ่มจดชื่อนักกีฬาต่อ โดยมีแคปนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ

    "เกลียด มาก ๆ ระวังหลงรักแบบไม่รู้ตัวนะพี่ คงได้ฮากันจริง ๆ จัง ๆ แน่" เป็นคำพูดของรุ่นน้องที่ทำให้อ้อน หัวเราะด้วยความขำ

    แต่ก่อนที่จะได้พูดคุยอะไรกันมากกว่านั้น

    ลูกฟุตบอลที่ไม่มีที่มาที่ไปก็ลอยละลิ่วกระแทกที่ประตูตู้สำหรับใส่อุปกรณ์เสียงดัง

    "ปึง"

    เสียงกระแทกมาพร้อมกับที่ขวดน้ำลอยละลิ่วเฉียดหัวอ้อนไปนิดเดียว ตามมาด้วยผ้าขนหนูที่เปียกชื้นโยนมาคลุมหัวของอ้อนอย่างรวดเร็ว

    ไม่ใช่ใคร แทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนที่ทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้เป็นใคร

    "หรือว่ามันสบายไปใช่มั้ยไอ้เป๋ นั่งหัวเราะใหญ่เลยนะมึง สงสัยกูจะใจดีกับมึงมากไปนะ เลยเอาใหญ่เลยล่ะสิ"

    เสียงตะโกนดังลั่นตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ที่เปียกซ่กไปด้วยน้ำ และปนไปด้วยเหงื่อมายืนหน้าถมึงทึงอยู่ตรงหน้า และสายตาเชือดเฉือนก็ลามไปถึงแคปด้วย

    แคปถึงกับสะดุ้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากับรุ่นพี่ ท่าทางแบบนี้ขืนอยู่ต่อ คงไม่ได้ตายดีแน่ ๆ ก่อนที่ลางร้ายจะมาเยือน แคปรีบยกมือไหว้รุ่นพี่ และขอลาในทันที

    "ผมรีบนะพี่ เดี๋ยวยังไงค่อยคุยกัน" แคปรีบชิ่งจากไปด้วยความเร็วเร่งด่วน ส่วนอ้อนดึงผ้าขนหนูเน่า ๆ ออกจากศีรษะของตัวเองโยนทิ้งไว้ข้างตัว และเงยหน้าขึ้นมองหมาบ้าที่เพิ่งกลับออกมาจากสนามด้วยความเบื่อหน่าย

    เป็นห่าอะไรของมันอีกวะ จะเป็นคนดีได้เกินห้านาทีเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาบ้างได้มั้ยวะเนี่ย กูอยากจะบ้าจริง ๆ เลย ไอ้ทานนะไอ้ทาน จะเป็นเจ้าชีวิตกูหรือไง

    "ปล่อยทิ้งไว้ไม่ถึงชั่วโมง มีความสุขจริงนะมึง ระริกระรี้เหลือเกิน ปล่อยมึงมากไปใช่มั้ย เลยไปเที่ยวหัวเราะน่าชื่นตาบานกับไอ้เวรนั่นน่ะ สงสัยพรุ่งนี้คงต้องให้กลับไปยืนข้างสนามอีกแล้วใช่มั้ยมึงถึงจะชอบ ดีด้วยหน่อย เหลิงใหญ่เลยนะ ทำไมมองหน้าทำไม อย่าให้กูโมโหนะ กูเล่นไม่เลี้ยงแน่"

    อ่อ มองหน้าไม่ได้ งั้นก้มหน้าก็ได้วะ ยังไงก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่แล้วนี่

    "ทำเป็นหลบตา พูดแค่นี้ทำเป็นหลบสายตา ทำไมหน้ากูนี่ไม่น่ามองเหมือนไอ้หน้าขาวรุ่นน้องมึงหรือไง ถึงได้ระริกระรี้ยิ้มร่ากับมันนักหนา ไหนพูดซิ หุบปากเงียบทำไมวะ"

    แล้วจะให้กระผมพูดห่าอะไรล่ะครับท่าน พูดแล้วก็โดนด่า เงียบก็โดนด่า ไม่มองหน้ามึงก็ด่า มองหน้ามึง มึงก็แหกปากใส่แบบนี้ แล้วจะให้กระผมทำยังไงวะ

     

    "เฮ้ย พูดสิวะ เงียบทำไม ไอ้เป๋ พูดเดี๋ยวนี้เลยนะมึง"

    พูดก็โดน ไม่พูดก็โดน กูเลือกไม่พูดแล้วกัน อย่างมากมึงก็แค่ตบหัวกู เอาอย่างนั้นก็ได้ กูแล้วแต่มึงแล้วกันนะไอ้ทาน

    อ้อนนั่งเงียบและก้มหน้าก้มตาลอกลายชื่อใส่ในสมุด ปลง บอกได้คำเดียวว่าปลง ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้อีก นอกจากเงียบ แล้วก็ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา


    ยังไงก็โดน ยังไงก็ต้องโดนด่าหรือไม่ก็ต้องโดนหาเรื่องอยู่ดี สู้ทำเป็นเฉย ๆ ซะดีกว่า เผื่อจะเจ็บตัวน้อยลง

    "หยุดเขียนเลย เอามานี่" สมุดถูกกระชากออกไปจากมือ แล้วโยนทิ้งลงบนพื้น ปากกาในมือถูกดึงออกแล้วโยนตามไปด้วย แล้วทานตะวันคนบ้าบอ ก็รั้งไหล่ของอ้อนให้หันหน้ามามองกันชัด ๆ

    จ้องหน้าของอ้อนนิ่ง ๆ นัยน์ตาคมวาวโรจน์ จ้องตรงไปที่ดวงตากลมโตที่พยายามจะเบี่ยงหน้าหลบสายตาอยู่ตลอดเวลา


    เป็นอย่างนั้นอยู่นาน อ้อนได้ยินเหมือนเสียงถอนหายใจยาวเหยียดของคนตรงหน้า เมื่อเหลือบสายตาขึ้นมองเพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร

    แก้มขาว ๆ ของตัวเองกลับถูกปลายนิ้วแข็งแกร่งหยิกเข้าให้ จนต้องเบะหน้าด้วยความเจ็บ พร้อมกับที่คนผีเข้าผีออกลุกพรวดพราดขึ้นยืน และพูดสิ่งที่ทำให้อ้อนเกิดอาการอึ้ง เพราะไม่เข้าใจ

    "ไปอาบน้ำก่อนนะ รอแป๊บนึง"

    ทานตะวันลุกเอ่ยบอก แล้ววิ่งไปเก็บลูกฟุตบอลมาวางไว้บนตักของอ้อน ส่วนเจ้าตัววิ่งลิ่วไปที่ห้องอาบน้ำ ก่อนจะวิ่งกลับมาอีกครั้ง เพื่อค้นหาผ้าขนหนูในกระเป๋าใบใหญ่

    "เมื่อเช้าเห็นหรือเปล่าว่าหยิบผ้าขนหนูมาด้วย จำได้ว่าหยิบมานะ ใช่มั้ย" เป็นคำถามที่อ้อนถึงกับมึนงง และอ้าปากค้าง ก่อนที่จะอึ้งไปมากกว่านี้


    คนที่ยิ้มจนตาหยีก็เงยหน้าขึ้นและผลักไหล่ของอ้อนเล่นแล้วเอ่ยบอกสิ่งที่ทำให้คนฟังยิ่งไม่เข้าใจยิ่งขึ้น

    "เดี๋ยวไปกินข้าวกัน อยากได้ของเล่นชุดแฮปปี้มิลด์ ไปมั้ย"

    ห๊า ไปมั้ย ไป ไปไหนวะ อะไรของมันอีกวะเนี่ย กูตามอารมณ์มึงไม่ทันแล้วนะ

    "ไปไหนนะ ตัวร้อนเหรอวะ" อ้อนยกมือขึ้นแตะที่หน้าผากของตัวเอง แล้วก็ยกมาแตะที่หน้าผากของทานตะวันด้วย ตัวก็ไม่ร้อน ทำไมมันเพี้ยนไปได้ขนาดนี้วะ

    มือถูกดึงออกและทานตะวันก็จับมือของอ้อนเอาไว้ ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจว่าอ้อนจะทำหน้าแบบนี้ทำไม ก็แค่ชวนไปกินข้าวด้วยกัน จะงงทำไม แปลกคนจริง ๆ

    "อ้าวก็ไปกินข้าวไง อยากกินเบอร์เกอร์หมู จะเอาชุดแฮปปี้มิลด์ อยากได้ของเล่น งงอะไรวะ โง่จริง ๆ หน้าตาโง่ ๆ แล้วก็โง่สมหน้าหน้าตาจริง ๆ ด้วย"

    ทานตะวันหยิบผ้าขนหนูในกระเป๋าออกมาแล้ว และถอดถุงเท้ารองเท้าทิ้งไว้ข้าง ๆ อ้อนที่ยังตาค้างไม่หาย

    "เดี๋ยวมานะแป๊บเดียว"

    กระผมไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย คือมัน ไอ้ทานมันพูดอะไรของมัน กูไม่ได้เพี้ยนไปคนเดียวแน่นะ

    อ้อนหันหน้าตามคนที่วิ่งลิ่วไปที่ห้องอาบน้ำ แล้วก็หันกลับมานั่งมองรองเท้าถุงเท้าและขวดน้ำที่ระเนระนาดไปคนละทิศคนละทาง


    ลองยกมือขึ้นแตะที่หน้าผากของตัวเองก็พบว่าตัวไม่ร้อน หรือว่าตาฝาด หรือว่า เอ๊ะ เอ๊ะ หรือว่า ตอนนี้กำลังฝันอยู่ อ้อนลองหยิกที่เนื้อของตัวเอง แล้วก็รับรู้ได้ว่ามันเจ็บจริง ๆ

    ไม่ได้ฝัน ไม่ได้ฝันจริง ๆ ด้วย ตายห่าแล้ว ไอ้ทานมันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลย

    อ้อนหันไปมองคนที่เดินไปอาบน้ำ แล้วทำตาโต เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของคนบ้า

    ไอ้ทานมันบ้าถึงขั้นไหนแล้ววะเนี่ย มันบ้าถึงขั้นไหนแล้ว มันถึงขั้นที่ประเมินอารมณ์ไม่ได้แล้วใช่มั้ยเนี่ย

    ในขณะที่อ้อน นั่งคิดด้วยความเครียด ทานตะวันกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเปิดฝักบัวเตรียมอาบน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำ สมองครุ่นคิดถึงแต่ภาพที่เห็นอ้อนหัวเราะร่าเริงอยู่กับรุ่นน้องคนนั้น


    แล้วก็ยิ่งไม่พอใจอยากจะเตะให้ไอ้รุ่นน้องหน้าใสกระเด็นไปมาเหมือนลูกฟุตบอล แล้วไอ้เป๋ตัวดี ก็ระริกระรี้ดีเหลือเกิน คิดว่าจะตบหัวมันให้หายโมโห ด่าไปแล้ว กำลังจะลงไม้ลงมือแล้วแท้ ๆ

    แต่พอเห็นหน้าของไอ้โง่นั่น ได้เห็นดวงตากลมโตที่มีแววของความไม่พอใจอยู่ลึก ๆ ได้เห็นใบหน้าที่นิ่งสนิทไม่ยอมแสดงอารมณ์ออกมา อยากจะตะบันหน้าไปให้หายโมโห

    แต่เพียงแค่เห็นแววไหวระริกในดวงตา และใบหน้าที่ค่อย ๆ ก้มหรุบต่ำลง ใจมันพาลจะหวั่นไหวขึ้นมา แล้วก็ทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้

    สงสาร

    ไม่อยากให้อ้อนเจ็บ

    ไม่อยากให้ทำหน้าเศร้า

    ไม่อยากทะเลาะกัน

    มันเหมือนหัวใจไหว ๆ เอน ๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก

    หยดน้ำหลั่งรินรดร่างกาย พร้อมกับที่ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมองสายน้ำ ใจคิดไปถึงใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ในห้องชมรม

    แล้วก็ยิ้มออกมา เมื่อนึกถึงแก้มแดง ๆ และดวงตากลมโตที่ชอบทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงแค่นั้นก็ยิ่งทำให้ยิ้มกว้างได้มากขึ้น

    คอยดูเถอะอ้อน คอยดูก็แล้วกัน

    เดี๋ยวจะทำให้ตาโตยิ่งกว่านี้เลยคอยดู ทำตาโตทีไร มันน่ารักทุกที

    "หนูน้อยแก้มแดงเอ้ย เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก่อน แล้วจะไปให้หอมแก้มนะ รับรองวันนี้ไม่เหม็นเหงื่อแล้ว แล้วจะติดใจอยากหอมกูทุกวันเลย"

    ทานตะวันอมยิ้ม และใช้มือลูบไล้ใบหน้า หัวเราะคนเดียวเงียบ ๆอยู่ใต้ฝักบัว

    โดยที่ไม่รู้เลยว่าอาการบ้า ๆ ของตัวเองมันเป็นเพราะอะไร

     

    ********************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×